บทที่ 385 แฟนฉันจะดูแลเอง
ซือเยี่ยหานชำเลืองมองหญิงสาวที่อ้าสองแขนมาทางตน ท้ายที่สุดก็เดินเข้าไปหา อุ้มเธอขึ้นวางลงบนเตียง
เยี่ยหวันหวั่นเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จอย่างรวดเร็ว เก็บสัมภาระข้าวของ แล้วลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่จากมุมห้องออกมา
ในเวลาเดียวกันนี้ ที่ชั้นล่าง
“นายว่าอะไรนะ? ผู้หญิงคนนั้นจะไปกับเราด้วย?” ได้ฟังคำพูดจากสวี่อี้แล้ว หลิวอิ่งทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ
ไม่นึกว่าผู้หญิงคนนั้นเห็นท่าว่าขัดขวางไม่สำเร็จ ก็เลยจะตามไปต่างประเทศด้วยเสียเลยเพื่อจะได้เกาะแกะนายท่าน ไร้ยางอายสุดขอบโลกจริงๆ!
สวี่อี้กระแอมเบาๆ “อะแฮ่ม ใช่แล้ว เพื่อความสะดวก คาดว่าต้องจัดบอดี้การ์ดผู้หญิงมาสักสองสามคน”
หลิวอิ่งหน้าตาเดือดดาล “นี่มันไร้สาระเกินไปแล้ว! เรื่องสำคัญขนาดนี้ จะพาผู้หญิงเกะกะอย่างเธอไปทำไม?”
สวี่อี้ถอนหายใจ “เฮ้อ นายพูดให้น้อยลงหน่อยเถอะ อยากโดนด่าอีกหรือไง? คุณชายเก้าตัดสินใจแล้ว ต่อให้นายจะไม่ชอบเธอขนาดไหน ยังไงเธอก็เป็นคนที่คุณชายเก้าเลือก…”
“ถ้าไม่ใช่เพราะเธอคือคนที่คุณชายเก้าเลือก นายคิดว่าฉันจะทนได้ถึงทุกวันนี้เหรอ?”
ขณะที่หลิวอิงกำลังโมโหเดือดดาล ก็เห็นเยี่ยหวันหวั่นคล้องแขนนายท่านของตัวเอง เปลี่ยนชุดใหม่เรียบร้อย เดินออกมาจากในห้อง
บอดี้การ์ดข้างกายสองคนช่วยเธอลากกระเป๋าสัมภาระ
กระเป๋าสัมภาระของเยี่ยหวันหวั่นมีกระเป๋าใบเล็กสีชมพูหนึ่งใบ กระเป๋าเป้หนึ่งใบ และยังมีกระเป๋าสัมภาระไซส์ใหญ่สุดสีดำขนาดประมาณสามสิบนิ้วที่เธอนำมาจากคอนโดเมื่อคืนนี้อีกใบ
หลังจากนำกระเป๋าลงจากตึกมาแล้ว ผู้คนต่างอดไม่ได้พากันชำเลืองมองกระเป๋าใบเล็กใบใหญ่ของเยี่ยหวันหวั่น โดยเฉพาะกระเป๋าใบใหญ่จนน่าตกใจใบนั้น
เอาของไปมากมายขนาดนี้ คุณหนูใหญ่ท่านนี้คิดว่าไปเที่ยวเหรอ?
เยี่ยหวันหวั่นไม่สนใจสายตาของคนเหล่านั้น เอ่ยกำชับด้วยสีหน้าดังเดิม “ของในกระเป๋าเป็นเสื้อผ้ากับเครื่องสำอางที่ฉันรักที่สุด ต้องดูแลให้ดี ห้ามทำหายนะ โดยเฉพาะสีดำใบนั้น”
“ครับ คุณหนู!” พวกบอดี้การ์ดรับเสียงเบา
หลิวอิ่งสาวเท้าเร็วมาข้างหน้า มองอย่างร้อนใจไปยังซือเยี่ยหานพลางกล่าว “นายครับ การเดินทางครั้งนี้ค่อนข้างนาน เงื่อนไขระหว่างทางก็ไม่ง่าย ถ้าพาคุณหนูเยี่ยไปด้วย เกรงว่าจะไม่ค่อยสะดวกนะครับ”
คำพูดบอกเป็นนัย ไม่มีอะไรนอกจากบอกว่าเยี่ยหวันหวั่นจะเป็นตัวถ่วง
เยี่ยหวันหวั่นกอดแขนซือเยี่ยหาน เบ้ปากเหล่ตามองไปทางหลิวอิ่งแวบหนึ่ง “ถึงยังไงแฟนฉันก็จะดูแลฉันเอง นายไม่ต้องกังวลมากไปหรอก?”
หลิวอิ่งไม่พอใจ “ครั้งนี้นายท่านไปธุระเรื่องงาน ถ้าคุณเป็นห่วงนายท่านจริงๆ ก็ไม่ควรหาเรื่องยุ่งยากมาให้ในเวลาแบบนี้…”
พูดยังไม่ทันจบ ซือเยี่ยหานก็ใช้แววตาเย็นชามองมาที่ชายหนุ่ม “หลิวอิง”
ได้รับสายตาตักเตือนจากนายท่าน หลิวอิ่งกำหมัดข้างกายแน่น เงียบเสียงลงอย่างไม่พอใจ
เห็นว่าซือเยี่ยหานให้ท้ายตน เหมือนว่าเยี่ยหวันหวั่นกลัวว่าหลิวอิ่งจะยังโมโหไม่มากพอ จึงเชิดหน้าเล็กๆ ขึ้นมาอย่างได้ใจ ทั้งยังหอมแก้มของซือเยี่ยหานไปฟอดหนึ่ง
อย่างไรซะแค่ได้เห็นหลิวอิ่งโมโห เธอก็รู้สึกดีแล้ว
เป็นอย่างที่คิด หลิวอิ่งเห็นท่าทาง ‘หน้าไม่อาย’ ของเธอแล้วยิ่งโมโหขึ้นไปอีก
เยี่ยหวันหวั่นหยักมุมปากเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม พลางมองหลิวอิงแวบหนึ่ง เอ่ยเนิบๆ ว่า “ฉันว่านายเป็นห่วงตัวเองจะดีกว่านะ ฉันว่างไม่มีอะไรทำเลยดูดวงให้นายแล้ว ทำนายว่าวันแรกที่นายไปถึงประเทศ B จะมีเคราะห์ต้องนองเลือด ฮิๆ ระวังตัวหน่อยนะ”
ชาติก่อน เรื่องที่ซือเยี่ยหานเจอครั้งนี้โด่งดังใหญ่โตมาก หลังจากพวกซือเยี่ยหานกลับมาแล้ว เยี่ยหวันหวั่นเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากคำสนทนาของผู้คน กระทั่งรายละเอียดปลีกย่อยก็เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง
ในความทรงจำ เธอจำได้ว่าวันแรกที่หลิวอิ่งไปถึงประเทศ B ก็ไม่รู้เพราะสาเหตุอะไรถึงไปมีเรื่องชกต่อยกับคนอื่นเขา ทั้งยังโดนตีหัวแตกด้วย
“เธอ…” หลิวอิ่งคิดแต่ว่าเยี่ยหวันหวั่นกำลังสาปแช่งตนเอง ยิ่งโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง
……………………………..……
บทที่ 386 อันตรายมากมาย
บ้านใหญ่ตระกูลซือ
หมิงหย่วนสวมคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดของชาแนลนั่งอยู่บนโซฟา ต้มชาเอาอกเอาใจคุณหญิงย่า พูดจาเอาใจมีไหวพริบ “คุณย่าคะ ช่วงนี้พี่เก้าไม่อยู่บ้าน ชิ่นอวี้กลัวคุณย่าอยู่คนเดียวจะเหงา ก็เลยตั้งใจมาอยู่เป็นเพื่อนคุณย่าค่ะ”
คุณหญิงย่าถือสร้อยประคำเส้นหนึ่งในมือ พยักหน้าโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า “อื้อ เธอช่างมีน้ำใจ แต่ว่าย่าไม่ต้องให้พวกเธอมาอยู่เป็นเพื่อนหรอก พวกเธอดูแลตัวเองให้ดีก็พอแล้ว”
หมิงหย่วนรีบเอ่ยเห็นด้วย “คุณย่าพูดถูกต้องแล้วค่ะ อันที่จริงเรื่องมาอยู่เป็นเพื่อนคุณย่า น่าจะไม่มีทางตกมาถึงมือหนูต่างหาก เพียงแต่…”
หมิงหย่วนจงใจหยุดพูด เหลือบมองคุณหญิงย่า จากนั้นจึงเอ่ยต่อไป “ได้ยินว่า…ครั้งนี้คนคนนั้นของพี่เก้าไปกับพี่เก้าด้วย พี่เก้าไม่อยู่ พี่รั่วซีก็ต้องใช้วิชาแยกร่าง วุ่นวายเรื่องที่บริษัทคนเดียวอีกแล้ว หนูถึงได้จุ้นจ้านมาที่นี่ คุณย่าอย่ารังเกียจหนูเลยนะคะ”
คุณหญิงย่าได้ยินดังนั้น มือที่ขยับหมุนสร้อยประคำพลันหยุดชะงัก “เธอพูดว่าหวันหวั่นไปประเทศ B กับเจ้าเก้าอย่างนั้นเหรอ”
“ใช่ค่ะ คุณย่ายังไม่รู้เหรอคะ หนูพูดมากซะแล้ว!” หมิงหย่วนทำท่าทางเหมือนรู้ตัวว่าพูดอะไรผิดไป
“ทำไมหวันหวั่นถึงไปด้วยกันกับเจ้าเก้าได้” คุณหญิงย่าเอ่ยถาม
“เรื่องนี้…” เห็นคุณหญิงย่าซักถาม หมิงหย่วนทำท่าลำบากใจตอบไปว่า “ประมาณว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณหนูเยี่ยกับพี่เก้าดีเกินไป ทำใจปล่อยให้พี่เขาไปไม่ได้มั้งคะ
ได้ยินว่าตอนเช้าอาละวาดอยู่นาน บอกว่าตัวเองรู้สึกไม่สบาย ต่อมาก็บอกว่าฝันร้าย ฝันว่าครั้งนี้พี่เก้าไปแล้วจะมีอันตราย ยังไงก็ไม่ยอมปล่อยให้ไป พี่เก้าจนปัญญา ก็เลยพาเธอไปด้วยเลย!”
คุณหญิงย่าได้ยินคำบอกเล่านี้ สีหน้าที่นิ่งสงบเคร่งขรึมลงหลายส่วนทันที
โดยเฉพาะตอนที่ได้ยินว่า ‘ครั้งนี้พี่เก้าไปแล้วจะมีอันตราย’
เดิมทีเรื่องพวกนี้ก็เป็นเรื่องต้องห้ามของหญิงชราอยู่แล้ว ต่อให้เป็นเพียงการพูดโดยไม่ได้ตั้งใจ อย่างไรก็ยังไม่ชอบใจอยู่ดี
เพียงเพื่อให้เจ้าเก้าอยู่ด้วย ก็พูดเรื่องแบบนี้ออกมาได้ง่ายๆ อย่างนั้นเหรอ?
คุณหญิงย่าหลับตาลง ถอนหายใจยาวอยู่ในใจ
อย่างไรอายุก็ยังน้อย นิสัยยังไม่เป็นผู้ใหญ่…
คนภายนอกรู้เพียงเจ้าเก้าของเธออยู่บนตำแหน่งนั้น เป็นตำแหน่งที่สูงส่งทรงเกียรติ แต่ไม่รู้ว่ากว่าเขาจะเดินมาถึงวันนี้ได้ ต้องลำบากมากขนาดไหน
แม้กระทั่งตอนนี้ ก็มีเพียงเปลือกนอกเท่านั้นที่สงบ
ข้างนอกนั่นกับภายในตระกูลซือ มีอันตรายซ่อนอยู่มากมายขนาดไหน?
มีคนมากมายเพียงใดจับจ้องเขาอยู่?
คนพวกนั้นกำลังรอให้เขาพลาดเพียงเล็กน้อยก็จะกระโจนเข้าไปกัด ให้เขาตายคาที่ เขาไม่อาจประมาทได้แม้แต่วินาทีเดียว…
หลานชายเติบโตมาในสภาพแวดล้อมแบบนี้ตั้งแต่เล็กจนโต แทบจะไม่เคยได้รับความสุขสนุกสนานในวัยของเขา
ไม่ว่าอดีตของหญิงสาวคนนั้นจะเป็นอย่างไร ฐานะและชาติกำเนิดเป็นอย่างไร ขอเพียงทำให้เจ้าเก้าของเธอมีความสุขได้ เธอก็สามารถยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างของผู้หญิงคนนั้น
แต่ว่าวันนี้ เธออดกังวลถึงอนาคตของหลานชายไม่ได้
หากปล่อยให้ผู้หญิงแบบนี้มาเป็นนายหญิงของตระกูล หนทางข้างหน้าของเจ้าเก้าจะยากมากขึ้นหลายเท่า
เธออายุปูนนี้แล้ว จะยังอยู่ข้างกายเจ้าเก้าได้อีกกี่ปีกัน
หากแค่ชาติกำเนิดและฐานะไม่ดี แต่ฉลาดหลักแหลมมีความสามารถ ก็พอที่จะทดแทนกันได้ กลัวเพียงแต่…เฮ้อ…
หลานสะใภ้ที่เธอพึงพอใจที่สุดยังคงเป็นรั่วซี หากมีรั่วซีคอยช่วยเหลืออยู่เคียงข้างเจ้าเก้า หลังจากนี้ร้อยปีเธอถูกฝังลงดิน ก็สามารถวางใจได้แล้ว
จนปัญญาที่เจ้าเก้าไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับรั่วซีเลยสักนิด
บางทีรอเจ้าเก้ากลับมาแล้ว เธอควรจะคุยกับเขาเป็นเรื่องเป็นราวสักหน่อย…
…………………………………………………………