บทที่ 549 โชคดีเกินไปแล้ว
เปรียบเทียบกับคนอื่นๆ ที่คุยกันอย่างออกรสและรอลุ้นผลประกาศรางวัล เยี่ยหวันหวั่นกลับหาวหวอด สีหน้าเผยความเบื่อหน่ายอย่างชัดเจน
ความรู้สึกที่รู้คำตอบล่วงหน้าอยู่แล้วแบบนี้ เหมือนกับตอนดูหนังสืบสวนสอบสวนแล้วรู้ตัวคนร้ายก่อนอย่างไรอย่างนั้น
เฮ้อ ชีวิตคนเรานี่ช่างน่าเบื่อจริงๆ…
เป็นไปตามคาด หลังจากที่พิธีกรพูดยืดยาวเพื่อเพิ่มอรรถรสในการลุ้นผลรางวัล ก็ประกาศชื่อผู้ที่ได้รับรางวัล “ยินดีกับ คุณหลินเจียอวิน ด้วยครับ!”
เมื่อชื่อของนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมถูกประกาศ หานเซี่ยนอวี่และเฉียวเข่อซินต่างนิ่งอึ้ง หันมามองเยี่ยหวันหวั่น
หานเซี่ยนอวี่เลิกคิ้วเล็กน้อย “ทายถูกติดกันสามชื่อแล้ว…”
หลังจากรางวัลเล็กๆ หลากหลายรายการอันเนิ่นนานผ่านไป ในที่สุดก็มาถึงช่วงประกาศรางวัลราชาราชินีภาพยนตร์ที่ทุกคนรอคอย
“ช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นมาถึงแล้ว ชื่อที่จะประกาศต่อไป คือเจ้าของรางวัลราชาภาพยนตร์ในคืนนี้!”
ฟังพิธีกรบนเวทีพูดเร้าอารมณ์ เยี่ยหวันหวั่นกลับแทบจะผล็อยหลับแล้ว
“ง่วงมากเลยเหรอ?” หานเซี่ยนอวี่เห็นดังนั้นจึงเอ่ยถาม
เยี่ยหวันหวั่นยักไหล่เล็กน้อย “รู้คำตอบล่วงหน้าอยู่แล้วนี่นา ต้องเบื่อเป็นธรรมดา”
“นายน่ะนะ…” หานเซี่ยนอวี่คิดเพียงว่าเธอกำลังพูดล้อเล่น จึงส่ายหัวอย่างจนปัญญา
หลังจากนั้น แทบจะในพริบตาที่เยี่ยหวันหวั่นพูดจบ ในที่สุดพิธีกรบนเวทีก็เลิกลีลา ประกาศผู้ที่ได้รางวัลราชาภาพยนตร์ “ค่ำคืนนี้ ผู้ที่ได้รับรางวัลจินหลานรายการนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมคือ…หลี่จงอี้ จากภาพยนตร์เรื่อง ‘แผ่นดินยังอยู่’ !”
เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั้งงาน
หานเซี่ยนอวี่เผลออุทานออกมา “นายโชคดีเกินไปแล้ว ห้ารางวัลใหญ่ ทายถูกไปแล้วตั้งสี่รางวัล!”
ใช่น่ะสิ…
อีกเดี๋ยวยังทายรางวัลที่ห้าถูกด้วย รางวัลใหญ่ที่สุดในงานจินหลานครั้งนี้…
เฉียวเข่อซินหัวเราะ “แม้แต่ฉันเองยังรู้สึกลุ้นขึ้นมาแล้ว ฉันคงไม่ได้เป็นราชินีภาพยนตร์จริงๆ หรอกใช่ไหม?”
ฉีเหม่ยหลินที่นั่งอยู่ด้านหน้าได้ยินบทสนทนาของทั้งสามคนแถวหลัง พึมพำอย่างดูแคลนขึ้นประโยคหนึ่ง “คิก หนังหน้าคนบางคนช่างหน้าจริงๆ! เฉียวเข่อซิน ฉันว่าถ้าเธอจะเชื่อนักต้มตุ๋นนี่ ไม่สู้ไปเชื่อเสียงของเพื่อนๆ บนโลกอินเตอร์เน็ตจะดีกว่า เธอเป็นถึงศิลปินอันดับหนึ่งในวงการบันเทิงที่ไม่มีทางได้รางวัลราชินีภาพยนตร์เชียวนะ!”
ครั้งนี้ฉีเหม่ยหลินถูกเสนอชื่อเข้าชิงด้วยเช่นเดียวกัน อีกทั้งมีสิทธิ์จะได้รับรางวัลเป็นอย่างสูง หนทางการแสดงของเธอกับเฉียวเข่อซินนั้นคล้ายกัน ทั้งยังเป็นคนของบริษัทคู่แข่ง ปกติก็มีเรื่องขัดแย้งกันมาตลอด ครั้งนี้ฉีเหม่ยหลินย่อมฉวยโอกาสเหยียบเฉียวเข่อซินให้แรง
เทียบกับเฉียวเข่อซินที่มีรอยด่างนับไม่ถ้วน ชื่อเสียงของฉีเหม่นหลินนั้นดีกว่ามาก ในวงการเธอมีชื่อเสียงด้านใสซื่อบริสุทธิ์ เป็นเทพธิดาแห่งแรงบันดาลใจ
ทุกครั้งที่ฉีเหม่ยหลินมีผลงานออกมา ล้วนมักจะหยิบยกเฉียวเข่อซินมาเปรียบเทียบ เพื่อเหยียบย่ำเฉียวเข่อซินสักนิดสักหน่อย
ทว่าความเป็นจริงแล้ว คนที่คอยพัฒนาฝีมือการแสดงอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันคือเฉียวเข่อซินคนที่ทุกคนเอาแต่หาความ ส่วนฉีเหม่ยหลินเทพธิดาแรงบันดาลใจในสายตาของทุกคน ชีวิตส่วนตัวกลับ ไม่อาจทนดูต่อไปได้…
เฉียวเข่อซินสวนกลับไปทันที “ฉันจะเชื่อใครเกี่ยวอะไรกับเธอไม่ทราบ!”
“นักต้มตุ๋น…”
เยี่ยหวันหวั่นได้ยินดังนั้น จึงเอ่ยขึ้นอย่างแฝงนัยยะเสียงเบา “นักต้มตุ๋นคนนี้ต้องขอเตือนคุณฉีสักประโยค เดินทางมืดมากเข้า จะต้องเจอผีเข้าสักวัน
บังเอิญว่า ผมเพิ่งจะคำนวณได้ว่า หลังจากพิธีประกาศรางวัลจินหลานคืนนี้จบลง คุณฉีจะมีเคราะห์หนัก บางทีผมอาจจะเสนอวิธีแก้กรรมให้คุณในราคาลด 5% ได้นะ!”
ฉีเหม่ยหลินแค่นหัวเราะ “เฮอะ น่าหัวเราะจริงๆ ฉันเข้าวงการมานานขนาดนี้ เพิ่งจะเคยเจอคนโง่อย่างนายเป็นครั้งแรก เดี๋ยวนี้โกลบอลตกต่ำถึงขั้นแม้แต่คนแบบนี้ก็รับแล้วเหรอ?”
รอให้ฉีเหม่ยหลินพูดจากระทบกระเทียบพอสมควรแล้ว เยี่ยอีอีถึงได้ออกมาทำหน้าที่ผู้ใหญ่ที่ดี “พอได้แล้ว เหม่ยหลิน”
เห็นเยี่ยอีอีเอ่ยปากแล้ว ฉีเหม่ยหลินถึงได้หยุดแล้วหันกลับไป “คุยกับคนอย่างนายนับว่าเป็นการลดตัวของฉันแล้ว!”
………………………………………………………….
บทที่ 550 ระดับปรมาจารย์อย่างฉัน
“นายขู่เธอเหรอ?” หานเซี่ยนอวี่ถาม
เยี่ยหวันหวั่นเลิกคิ้ว “นายคิดว่าไงล่ะ?”
แม้ว่าหานเซี่ยนอวี่จะไม่พูดอะไร แต่ในใจย่อมคิดว่าเยี่ยหวันหวั่นเพียงแค่ขู่เธอให้กลัวเล่นๆ เท่านั้น
หลังจากแทรกกลางด้วยการแสดงเต้นระบำ ก็มาถึงรางวัลสุดท้ายของคืนนี้ รางวัลราชินีภาพยนตร์
โปรเจคเตอร์ฉายภาพภาพยนตร์ที่ถูกเสนอชื่อไปเรื่อยๆ
ฟางหมิ่น จากภาพยนตร์เรื่อง ‘จดหมายจากบาหลี’
ฉีเหม่ยหลิน จากภาพยนตร์เรื่อง ‘แม่ของฉัน’
เสิ่นโหรว จากภาพยนตร์เรื่อง ‘วังต้องห้าม’
เฉียวเข่อซิน จากภาพยนตร์เรื่อง ‘ตำนานจิ้งซู’
…
พิธีกรชายหนึ่งหญิงหนึ่งอยู่ด้านบนพูดรับส่งกันไปมา
พิธีกรชาย “พระเจ้าช่วย! ตื่นเต้นมากๆ เลยนะครับเนี่ย! เจ้าของรางวัลราชินีภาพยนตร์จินหลานในครั้งจะเป็นใครกันแน่นะ?”
พิธีกรหญิง “คุณก็เลิกถ่วงเวลาสักทีสิคะ รีบประกาศเร็วเข้า! ทุกคนลุ้นจนตัวโก่งหมดแล้ว!”
พิธีกรชาย “คุณลองเดาดูสักหน่อยสิว่าจะเป็นใคร?”
พิธีกรหญิง “เดายากเกินไปค่ะ ฉันเดาไม่ออกหรอก คุณใบ้ให้หน่อยได้ไหมคะ?”
พิธีกรทั้งสองคุยกันไปคุยกันมาไม่ยอมพูดเสียทีว่าเป็นใคร ทำเอาคนด้านล่างเวทีร้อนใจชะเง้อมองจนคอยาวหมดแล้ว แต่ว่า นี่เป็นผลลัพธ์ที่ทางผู้จัดงานอยากได้อย่างแน่นอน
หน้าจอใหญ่บนเวทีแบ่งเป็นสี่ช่อง ปฏิกิริยาของผู้ถูกเสนอชื่อทั้งสี่ล้วนถูกฉายชัดอยู่ในกรอบให้ทุกคนได้เห็น
เมื่อลุ้นเหงื่อตกกันพอประมานแล้ว พิธีกรชายถึงได้ถอนหายใจ “เอาละ เห็นแก่คำขอร้องของสาวสวย ผมจะใบ้ให้คุณนิดนึง ชื่อของผู้ได้รับรางวัล…มีสามคำ!”
พิธีกรหญิงอุทานอย่างตื่นเต้นทันที “ว้าว คำใบ้นี้ช่วยได้มากเลยนะคะเนี่ย! หมายความว่า ผู้ได้รับรางวัลคือคนใดคนหนึ่งระหว่างฉีเหม่ยหลินกับเฉียวเข่อซินสินะคะ?”
ตามหลังคำพูดของพิธีกร ผู้คนด้านล่างเวทีก็พากันส่งเสียงฮือฮา ทุกคนมองไปที่เฉียวเข่อซินกับฉีเหม่ยหลิน
คำใบ้นี้ช่วยได้มากอะไรกัน นี่มันประกาศคำตอบออกมาแล้วชัดๆ ไม่ใช่เหรอ?
สีหน้าของเฉียวเข่อซินพลันหม่นลงหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นใคร เธอก็ไม่อยากให้เป็นศัตรูตัวฉกาจอย่างฉีเหม่ยหลิน
แต่ว่าตอนนี้ผลลัพธ์ได้ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว ไม้ต้องคิดก็รู้ว่าเดี๋ยวฉีเหม่ยหลินจะเยาะเย้ยเธอว่ายังไงบ้าง
ส่วนฉีเหม่ยหลิน เยี่ยอีอี กู้เยว่เจ๋อ และศิลปินของหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์ที่อยู่แถวหน้าต่างผุดรอยยิ้มบนใบหน้า ท่าทางของฉีเหม่ยหลินแทบจะข่มความดีใจเอาไว้ไม่ไหวแล้ว
ถึงขนาดที่ว่าด้านข้างเริ่มมีศิลปินคนอื่นแสดงความยินดีกับเธอแล้ว
หลินเจียอินยิ้มพลางเอ่ยแสดงความยินดี “พี่หลิน ยินดีด้วยนะคะ!”
ฉีเหม่ยหลินหันไปมองด้านหลังทีหนึ่งแล้วจงใจเอ่ยว่า “อย่าเพิ่งรีบร้อนแสดงความยินดี ยังไม่ทันประกาศผลเลย ไม่แน่ว่าราชินีภาพยนตร์จะเป็นเข่อซินก็ได้นะ!”
เพราะว่าตอนนี้กล้องกำลังจับภาพ เฉียวเข่อซินทำได้เพียงอดทนไม่หาเรื่องกับเธอกลางงาน เพียงแต่ในใจกลับรู้สึกหนักอึ้งอย่างบอกไม่ถูก
ตั้งแต่เดบิวต์มา ความพยายามทั้งหมดที่เธอทุ่มเทไม่เคยมีใครมองเห็น มีแต่เสียงเยาะเย้ยถากถางเต็มไปหมด จนเธอนึกสงสัย สิ่งที่เธอพยายามทำไปทั้งหมดนี้มันคุ้มกันหรือเปล่า…
สีหน้าหานเซี่ยนอวี่ที่อยู่ด้านข้างก็ดูเสียดายอยู่นิดๆ ยิ้มแห้งเอ่ยว่า “คาดไม่ถึงว่าหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์จะได้ไปทั้งสองรางวัลจริงๆ…”
เยี่ยหวันหวั่นทนไม่ไหว “เฮ้ พวกนายสองคนไม่เชื่อฝีมือระดับปรมาจารย์อย่างฉันสักนิดเลยเหรอ?”
เฉียวเข่อซินรู้ว่าเยี่ยหวันหวั่นอยากจะหยอกให้เธออารมณ์ดี เพียงแต่อารมณ์ของเธอในตอนนี้ยากที่จะดีขึ้นจริงๆ
บางทีเธออาจไม่ควรวิ่งตามความฝันที่เรียกว่าอาชีพและความศรัทธาของนักแสดงมาตั้งแต่แรก น่าจะเป็นแจกันดอกไม้สวยๆ สบายๆ หาเงินของเธอต่อไป…
“เอาล่ะครับๆ ผมจะบอกแล้ว หากยังไม่ยอมบอก พวกคุณคงจะปาไข่ขึ้นมาบนเวทีแล้ว ต่อไป ขอเชิญอดีตราชินีภาพยนตร์ชิวเยวี่ย คุณชิวสุดสวยมาประกาศคำตอบด้วยครับ!”
อันที่จริงคำใบ้เมื่อครู่ของพิธีกรเหมือนกับประกาศคำตอบออกไปแล้ว ทุกคนจึงไม่ร้อนใจอะไรแล้ว
ชิวเยวี่ยยืนอยู่ด้านหน้าไมโครโฟน เปิดซองจดหมายในมือ วินาทีถัดมา เหมือนว่านัยน์ตาจะฉายแววประหลาดใจ ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นพูดว่า “รางวัลจินหลานครั้งที่ 46 ผู้ที่ได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมคือ…”
ระหว่างที่ชิวเยวี่ยกำลังประกาศผลอยู่นั้น ฉีเหม่ยหลินที่แถวหน้ากำลังขอบคุณคำยินดีจากคนรอบกาย พลางสะบัดผมเล็กน้อยแล้วลุกขึ้นช้าๆ
“ผู้ที่ได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมคือ…เฉียวเข่อซิน จากภาพยนตร์เรื่อง ‘ตำนานจิ้งซู’ !”
……………………………………………………………….