บทที่ 163 ผู้หญิงของฉัน
โทรหาเจิ้งปินเสร็จ เยี่ยหวั่นหวันมองไปทางฝูงคน พบว่าคนเริ่มพูดแทนเฉินเมิ่งฉีมากขึ้นแล้ว มีคนไม่น้อยในนั้นเป็นแฟนคลับเฉินเมิ่งฉี
คนพวกนี้เห็นสาวในฝันของตัวเองโดนชายชั่วทำร้ายจนเป็นแบบนี้ ย่อมเสียใจมากแน่นอน ทุกคนต่างเริ่มด่าซ่งจื่อหังและแม่เขาด้วยความโกรธ แม้แต่เจียงเยียนหรานก็โดนด่าด้วย เหมือนว่าเรื่องราวทั้งหมดนี้ เฉินเมิ่งฉีกลายเป็นผู้บริสุทธิ์
เจียงเยียนหรานมองใบหน้าเล็กของเฉินเมิ่งฉีที่ร้องไห้เหมือนดั่งสาวสวยในสายฝนกำลังขอร้องการให้อภัยอยู่ด้วยสายตาเยือกเย็น มองดูใบหน้าดุร้ายของซ่งจื่อหังที่ด่าตัวเองด้วยความโกรธ เธอหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน อยากจะไปจากที่นี่
เยี่ยหวั่นหวันเดินมาอยู่ข้างเจียงเยียนหรานอย่างเงียบๆ พูดเสียงเบา “แค่นี้ก็พอใจแล้วเหรอ? อย่าเพิ่งรีบ ฉากสนุกยังอยู่ข้างหลัง”
เจียงเยียนหรานมองไปทางเยี่ยหวั่นหวันด้วยสีหน้าอึ้งเล็กน้อย
เยี่ยหวั่นหวันยิ้มเบาๆ “ยังจำได้ไหมว่าตอนแรกฉันให้สัญญาอะไรเธอไว้?”
เจียงเยียนหรานนึกย้อนกลับไปถึงคำพูดที่เยี่ยหวั่นหวันพูดกับเธอตอนอยู่ที่ริมทะเลสาบ
เธอบอกว่า คุณหนูเจียง อยากจะให้นายซ่งผู้ชายสารเลวนั่นรักเธอหัวปักหัวปำต้องการแต่เธอคนเดียวไหม? อยากจะให้ทุกคนได้เห็นธาตุแท้ของเฉินเมิ่งฉีและมีชื่อเสียงฉาวโฉ่ไหม? อยากจะให้นายซ่งผู้ชายชั่วนั่นเห็นธาตุแท้ของเฉินเมิ่งฉีและเสียใจที่ไม่ได้เลือกเธอตั้งแต่แรกไหม?
เป็นเพราะคำพูดพวกนั้นของเธอ กลับจุดประกายเธอในเวลาที่เธอสิ้นหวังที่สุด
เธอไม่รู้ว่าเยี่ยหวั่นหวันจะทำอะไร แต่เธอรู้ สิ่งที่เธอสัญญากับตัวเองไว้ ต้องทำได้แน่นอน
เวลานี้ เฉินเมิ่งฉีโดนคุณแม่ซ่งดึงผมด่าอย่างโมโหไม่หยุด ซ่งจื่อหังปกป้องอย่างรักใคร่ สายตาที่จ้องมองเจียงเยียนหรานเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “เจียงเยียนหราน ตอนนี้ผมโดนคุณทำลายจนเสื่อมเสียชื่อเสียงแล้ว คุณดีใจ พอใจแล้วใช่ไหม?”
เฉินเมิ่งฉีร้องไห้สะอึกสะอื้น “เยียนหราน ขอโทษ… ขอโทษจริงๆ …”
“เมิ่งฉี! เธอผิดตรงไหน! ไม่ต้องไปขอโทษผู้หญิงที่ร้ายกาจคนนี้! ผมผิดเอง ที่ผมไม่ได้ปกป้องคุณให้ดี! ผมควรจะดีใจที่ตาสว่างเห็นธาตุแท้ของผู้หญิงคนนี้!”
เยี่ยหวั่นหวันอยู่ข้างๆ มองดูอย่างชื่นชม ในสถานการณ์แบบนี้ เฉินเมิ่งฉียังสามารถใช้คำหลอกลวงและเล่นละครเปลี่ยนเรื่องราวกลับมาให้เธอกลายเป็นผู้บริสุทธิ์ที่โดนหลอกเป็นเครื่องมือได้
โดยเฉพาะซ่งจื่อหัง ที่โดนเธอหลอกใช้มาตั้งแต่ต้นจนจบ ในเวลาสำคัญยังโดนลากมาเป็นแพะรับบาป แล้วยังปกป้องเธอพูดแทนเธอด้วยความเต็มใจอีก
“แม่! แม่ให้ผมไปขอโทษผู้หญิงหลายใจคนนี้ไม่เท่ากับเรียกให้ผมไปตายหรอกหรือ! มีเพียงเฉินเมิ่งฉีคนเดียวเท่านั้นที่ชีวิตนี้ผมรักมากที่สุด!” ซ่งจื่อหังโดนน้ำตาของเฉินเมิ่งฉีกระตุ้นจนจิตใจฮึกเหิมมาก ด้วยศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่สามารถขอโทษเจียงเยียนหรานต่อหน้าผู้หญิงที่เขารักได้
ในขณะที่ซ่งจื่อหังกำลังแสดงออกอย่างชอบธรรมเพื่อปกป้องรักแท้อยู่นั้น ตอนที่ทุกคนเกือบจะซาบซึ้งเพราะเขา จู่ๆ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งโผล่ออกมาจากฝูงชน มือหนึ่งผลักซ่งจื่อหังออกไป อีกมือหนึ่งโอบเฉินเมิ่งฉีไว้ในอ้อมกอด—
“ซ่งจื่อหังนายมันสารเลว! พูดจาเพ้อเจ้อ! เฉินเมิ่งฉีเป็นผู้หญิงของฉัน ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนายสักนิดเลย! นายมันเลวโรคจิตอัปลักษณ์ มาตามตื๊อเฉินเมิ่งฉีไม่ยอมปล่อยอีกหน้าด้าน!”
ซ่งจื่อหังโดนชนจนหมุนไปอีกทาง เห็นเฉินเมิ่งฉีโดนอีกฝ่ายคว้าไว้ในอ้อมกอด ก็โมโหขึ้นมา “ฉันตามตื๊อเฉินเมิ่งฉี? ไอ้เด็กน้อย! นายมันแน่มาจากไหน! รีบปล่อยเธอซะ!”
เจิ้งปินไม่ยอมปล่อยอยู่แล้ว พูดด้วยสีหน้าเย่อหยิ่ง “ฉัน! ฉันต่างหากที่เป็นคนที่เมิ่งฉีชอบ!”
“เจิ้ง… เจิ้งปิน คุณมาได้ยังไง?” สีหน้าเฉินเมิ่งฉีตื่นตระหนกขึ้นมาทันที เห็นท่าไม่ดี อยากจะออกห่างจากเขา “นี่ไม่ใช่เรื่องของคุณ คุณรีบกลับไป!”
…………………………………………………………..
บทที่ 164 ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา
เจิ้งปินเห็นรอยน้ำตาของเฉินเมิ่งฉี ความปรารถนาอยากจะปกป้องก็จุดติดขึ้นมาทันที ไม่ยอมกลับ “ผมไม่กลับ! ถ้าผมไม่มา คุณต้องโดนแกล้งแน่นอน! ผมจะบอกให้ทุกคนได้เห็นธาตุแท้ของไอ้ชายชั่วคนนี้!”
อารมณ์ของทั้งสองคนนั้นฮึกเหิมกันมาก เปรียบเหมือนไก่ตัวผู้ต่อสู้กัน ต่างไม่อ่อนข้อให้ในเรื่องนี้ เฉินเมิ่งฉีห้ามไม่อยู่ ทำได้แค่มองสองคนทะเลาะกันต่อหน้าทุกคน
ซ่งจื่อหังด่าด้วยความโมโห “นายพูดมาฉันมีธาตุแท้อะไร?”
เจิ้งปินก็ด่ากลับอย่างไม่ยอม “ธาตุแท้ของนายก็คือนายมันคางคกอยากกินเนื้อหงส์ รู้อยู่ว่าเมิ่งฉีมีแฟนแล้ว ยังจะมาตามตื๊อเมิ่งฉีอีก!”
“ฮา! น่าขำตายล่ะ! เมิ่งฉีเป็นแฟนของฉัน ฉันจำเป็นต้องตามตื๊อด้วยเหรอ? เพื่อนนักเรียน สมองนายมีปัญหาหรือเปล่า? แฟนของเมิ่งฉี นายคงไม่บอกว่าเป็นตัวนายเองหรอกนะ?” ซ่งจื่อหังยิ้มเย็นชา ไม่สนใจคำพูดของเขาเลย คิดว่าคนนี้คงแค่ชอบเมิ่งฉี เลยอิจฉาวิ่งออกมาหาเรื่อง
เจิ้งปินพูดออกมาด้วยความโมโห “เมื่อคืนฉันคุยโทรศัพท์กับเมิ่งฉีทั้งคืน เธอบอกฉันเองว่านายมาตามตื๊อเธออยู่ฝ่ายเดียว!”
ในใจเฉินเมิ่งฉีเต้นตึกตัก รีบตัดบท “พวกคุณสองคนหยุดทะเลาะกันได้แล้ว! เรื่องนี้ต้องมีการเข้าใจผิดกันแน่นอน พวกเราค่อยคุยกันส่วนตัวดีกว่าไหม? อย่ามาทำให้คนที่นี่เห็นเป็นเรื่องน่าขำเลย! ดีไหม?”
เฉินเมิ่งฉีรีบโน้มน้าวทั้งสองคน
เห็นสายตาอ้อนวอนของเฉินเมิ่งฉีแล้ว ซ่งจื่อหังและเจิ้งปินลังเลไป
ที่ไม่ไกล เยี่ยหวั่นหวันหรี่สองตา วันนี้ถ้าให้โอกาสเฉินเมิ่งฉีได้หายใจ เธอไม่สงสัยเลยว่ากลับไปเธอต้องสามารถปลอบผู้ชายสองคนนี้อยู่แน่
ดังนั้น เยี่ยหวั่นหวันเลยเดินตึกๆๆ ออกมา ชี้นิ้วเริ่มด่าซ่งจื่อห่างด้วยความโกรธ “นายซ่งจื่อหัง! ฉันนึกว่านายจริงใจกับเมิ่งฉีเสียอีก คิดไม่ถึงว่านายเอาแต่ตามตื๊อบังคับเมิ่งฉี! ทำไมนายถึงทำแบบนี้! เธอเห็นแก่หน้าเยียนหราน เห็นแก่หน้าเมิ่งฉีไหม? นายมันชาติชั่วจริงๆ!”
ซ่งจื่อหังโดนเยี่ยหวั่นหวันพูดมั่วๆ ใส่ก็ของขึ้นพูดขึ้นมาอีก “ยัยอัปลักษณ์ เธอออกไปทางนั้นเลย! อย่ามาทำเป็นอวดรู้ต่อฉัน! ฉันบอกแล้วว่าฉันไม่ได้ฝืนใจเฉินเมิ่งฉี! ไม่เชื่อพวกเธอก็ไปถามเฉินเมิ่งฉีเอาเอง!”
เฉินเมิ่งฉีโกรธจนเวียนหัวไปหมด จ้องมองเยี่ยหวั่นหวันอย่างดุร้าย นี่มันจี้ใจดำเธอชัดๆ
อีกฝาก เจิ้งปินก็โมโหพูดขึ้นมา “ซ่งจื่อหัง! ฉันว่านายไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา! ฝั่งหนึ่งก็ครองเจียงเยียนหราน อีกฝั่งก็มาจีบเฉินเมิ่งฉีเงียบๆ เฉินเมิ่งฉีก็แค่เห็นแก่ความเป็นเพื่อนนักเรียนและเห็นแก่หน้าเจียงเยียนหรานถึงไม่ได้ทำให้นายขายหน้าต่อหน้าคนอื่น แต่นายกลับได้คืบจะเอาศอก ตามตื๊อเธอทุกวันไม่เลิกรา! ฉันจะบอกนายให้ ไม่ต้องไปถามเมิ่งฉีหรอก! ตัวนายเองนั่นแหละฟังไว้!”
เห็นเจิ้งปินควักมือถือออกมาด้วยความโกรธแล้วกดสองสามที ทันใดนั้นก็มีเสียงบทสนทนาของผู้ชายและผู้หญิงดังออกมาจากมือถือ
“เมิ่งฉี! ตกลงคุณกับซ่งจื่อหังมันยังไงกันแน่!” นี่เป็นเสียงเจิ้งปิน
“ฉันบอกแล้วว่าฉันกับเขาไม่ได้มีอะไรกัน เขาเป็นคนที่เยียนหรานชอบ ฉันจะมีอะไรกับเขาได้ยังไง เขาแค่มาตามตื๊อฉัน ฉันก็ทำอะไรไม่ได้จริงๆ!” ส่วนเสียงที่คุ้นเคยนี่ ชัดเจนว่าเป็นเสียงเฉินเมิ่งฉี
“งั้นพวกเราก็ประกาศคบกันเลยสิ! คุณไปบอกเขา บอกทุกคน ว่าผมต่างหากที่เป็นแฟนของคุณ! แบบนี้เขาจะได้ตัดใจ!”
“ไม่ได้ ประกาศไม่ได้ พ่อแม่ฉันไม่ให้ฉันมีความรักตอนนี้”
“งั้นทำไมคุณไม่บอกซ่งจื่อหังว่าคุณมีแฟนแล้ว! ตกลงคุณเห็นผมเป็นแฟนหรือเปล่า!”
…………………………………………………………