บทที่ 679 พวกนายสองคนมันคนโกหกหลอกลวง
หลังจากเห็นภาพนี้แล้ว กงซวี่เหมือนโดยสายฟ้าฟาดกลางศีรษะ จ้องมองไปยังหานเซี่ยนอวี่และลั่วเฉินที่อยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าเอาเรื่อง
คนโกหก! พวกนายสองคนมันคนโกหกหลอกลวง! รวมหัวกันหลอกฉัน!
ไหนบอกว่าพี่เยี่ยชอบผู้หญิงไม่ใช่เหรอ
นายบอกฉันมา! บอกฉันมาว่าอะไร นี่มันเกิดอะไรขึ้น!!!
จู่ๆ ก็มีชายโฉดโผล่มานี่มันเกิดอะไรขึ้น!
เยี่ยหวันหวั่นสังเกตเห็นปฏิกิริยาของกงซวี่และคนอื่นๆ อยู่แล้ว แต่ว่าพอคิดดูดีๆ ถึงผลที่ตามมาถ้าชักมือกลับตอนนี้ เธอฉลาดเลือกอยู่เฉยๆ ไม่ขยับดีกว่า
หางตาเยี่ยหวันหวั่นเหลือบไปทางลั่วเฉิน กงซวี่และคนอื่นๆ ที่อยู่ไม่ไกล จากนั้นเงยหน้ามองซือเยี่ยหานอย่างจนปัญญา “ที่รักคะ อยู่ต่อหน้าศิลปินฉัน เห็นแก่หน้าฉันหน่อยได้ไหม”
เห็นแก่หน้า?
ซือเยี่ยหานทำสีหน้าสงสัย
หลังคิดสักเล็กน้อย ซือเยี่ยหานน่าจะคิดว่าเยี่ยหวันหวั่นกลัวโดนเข้าใจผิด ไม่ชอบให้ตัวเองอยู่ใกล้เธอเกินไปต่อหน้าคนในบริษัท สายตาลุ่มลึกเล็กน้อย ในขณะเดียวกัน มือที่กุมเธอไว้ก็คลายออก
เยี่ยหวันหวั่นเห็นสถานการณ์ มุมปากจึงหยักขึ้น ไม่ได้อธิบายอะไร
วินาทีต่อมา เธอถอดเสื้อคลุมออกจากตัว สะบัดเล็กน้อย นำกลับมาสวมบนตัวซือเยี่ยหาน จากนั้นถอดผ้าพันคอตัวเองออกมา เอามาพันรอบคอซือเยี่ยหานอย่างแน่นหนาสองรอบ หัวเราะเบาๆ แล้วพูดด้วยระดับเสียงที่พวกเขาสองคนได้ยินเท่านั้นว่า “ความหมายของฉันคือ ถึงแม้ว่าอาจจะสร้างความเข้าใจผิดได้ แต่ถึงยังไงฉันก็ควรเป็นฝ่ายรุก ถ้าโดนลูกน้องเข้าใจผิดว่าเป็นฝ่ายรับ แบบนั้นจะเสียหน้าแค่ไหน”
ซือเยี่ยหานไร้คำพูด
ผู้ชายสองคน คนหนึ่งหว่างคิ้วเผยให้เห็นรอยยิ้มที่ดูเฉื่อยชา หน้าตาหล่อเหลาโดดเด่นกว่าทุกคน เหมือนคุณชายในเกมและลูกเศรษฐีมั่งคั่ง อีกคนออร่าเยือกเย็น เหมือนหิมะขาวที่ปกคลุมยอดภูเขามาเป็นพันปี ไม่ยุ่งเรื่องทางโลก มองไปแล้วเห็นได้ชัดว่าไม่เข้ากัน แต่กลับดูกลมกลืนกันถึงขนาดนี้ ยืนอยู่ด้วยกันแล้วดูสวยงามราวกับภาพวาด…
อีกอย่างระหว่างสองคนยังมีบรรยากาศแห่งความรักใคร่ที่ดูไม่ชัดเจนไหลเวียนอยู่ช้าๆ…
ลั่วเฉิน หานเซี่ยนอวี่ กงซวี่ ถังซิงหั่วและคนอื่นๆ ที่อยู่ไม่ไกลต่างมีสีหน้าสับสนอธิบายไม่ถูก
ภาพเมื่อกี้ถ้าเป็นผู้ชายผู้หญิง ถือว่าเป็นการโชว์ความสวีทให้คนอิจฉา ดูเป็นภาพที่สวยงามและอบอุ่น แต่ตอนนี้ ผู้ชายสองคน นี่มัน… มีตรงไหนที่ไม่ถูกต้องกัน
ถังซิงหั่วกลืนน้ำลาย โน้มเข้าไปใกล้แล้วพูดด้วยความระมัดระวัง “เฮ้ย ผู้ชายคนเมื่อกี้นี่ใครน่ะ เกี่ยวข้องยังไงกับพี่เยี่ย ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าระหว่างสองคนนี้… ดูไม่ชอบมาพากล หรือว่า… ฉันรู้สึกไปเอง…”
กงซวี่ระเบิดลงทันที พุ่งเข้าไปตรงหน้าหานเซี่ยนอวี่และลั่วเฉินอย่างรวดเร็ว “นี่คือที่พวกนายบอกว่าพี่เยี่ยชอบผู้หญิง?”
หานเซี่ยนอวี่กับลั่วเฉินสบตากัน
จากนั้น ลั่วเฉินพูดขึ้นมา “มีปัญหาอะไร”
เส้นเลือดบนหน้าผากกงซวี่เต้นปุดๆ “นายยังมาถามฉันว่ามีปัญหาอะไร เมื่อกี้นายไม่เห็นเหรอ”
ลั่วเฉินทำหน้านิ่ง “เห็นแล้ว แล้วยังไง ก็แค่เพื่อนคบกันแบบปกติเท่านั้นเอง”
สำหรับลั่วเฉินผู้เคยเห็นฉากนั้นที่เยี่ยหวันหวั่นโผเข้าหาซือเยี่ยหานบนโซฟามากับตาตัวเอง เมื่อกี้ก็แค่ห่มเสื้อผ้า แตะมือเล็กน้อยเท่านั้น สำหรับลั่วเฉินแล้วถือว่าปกติ
“แบบปกติ? นายตาบอดหรือไง” กงซวี่คำราม มองไปทางหานเซี่ยนอวี่ “พี่เซี่ยนอวี่ พี่ก็คิดว่าปกติ?”
หานเซี่ยนอวี่ลูบจมูก “น่าจะ… ไม่มีอะไรนะ…”
อันที่จริง…
หานเซี่ยนอวี่เห็นมากกว่าลั่วเฉิน เขาถึงขั้นเห็นซือจิ่วจูบเยี่ยไป๋มาก่อนด้วยซ้ำ…
สุดท้าย เหลือแค่กงซวี่ที่บ้าคลั่งอยู่คนเดียว…
………………………………………………………………
บทที่ 680 ต้องมีอะไรแอบแฝงแน่
รถขับอย่างนุ่มนวลอยู่บนถนน แต่ในใจกงซวี่กลับเหมือนนั่งอยู่บนรถไฟเหาะ
ที่เบาะหลัง กงซวี่เอาแต่พูดกับตัวเองด้วยความอารมณ์เสีย “SHIT! หรือว่าคนที่ผิดคือฉันจริงๆ ฉันคิดมากไป คุณชายเริ่มเข้ามาในสนามรักตั้งแต่สามขวบ เป็นไปได้ยังไงที่แม้แต่เรื่องแบบนี้จะตัดสินผิดพลาด ระหว่างพี่เยี่ยกับไอ้หนุ่มหน้าอัมพาตนั่นต้องมีอะไรแอบแฝงแน่! ใช่ ต้องมีปัญหาแน่นอน!”
ถังซิงหั่วนั่งติดกระจกหน้าต่างรถอย่างหวาดกลัว พูดเสียงอ่อนขึ้นมา “ฉันขอพูดอะไรสักคำได้ไหม”
กงซวี่มองไปทางเขาอย่างอารมณ์เสีย “มีไรก็พูดมา!”
ถังซิงหั่วพูด “ฉันอยากจะบอกว่า พี่เยี่ยชอบผู้หญิงหรือผู้ชายเกี่ยวอะไรกับนายด้วย นายไม่จำเป็นต้อง… ไม่จำเป็นต้องหัวเสียขนาดนี้เลย…”
วินาทีที่คำพูดของถังซิงหั่วสิ้นสุด ใบหน้ากงซวี่แข็งทื่อขึ้นมาทันที
ไม่ผิด…
รสนิยมทางเพศของเยี่ยไป๋ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา ทำไมเขาต้องสนใจขนาดนี้
กงซวี่พยายามบอกตัวเอง ว่าเขาไม่สนใจสักนิด เขาก็แค่สนใจมากเพราะเขาคือพี่ชายของเสี่ยวมี่เจี้ยนเท่านั้นเอง
แต่ว่า ในสมองกลับมีภาพคืนนี้ที่เยี่ยไป๋คลุมเสื้อ พันผ้าพันคอให้ผู้ชายคนนั้นวนซ้ำไปมาไม่หยุด…
สีหน้าที่เยี่ยไป๋มองผู้ชายคนนั้น…
ถังซิงหั่วมองดูสีหน้ากงซวี่ที่หงุดหงิด แล้วบ่นพึมพำ “นอกเสียจากว่า…นาย…” เป็นเกย์จริงๆ
กงซวี่พูดเสียงต่ำ “นอกเสียจากว่าฉันอะไร”
ถังซิงหัวกล้าพูดความจริงที่ไหน ส่ายหน้าพัลวัน พูดน้ำเสียงหนักแน่น “ไม่! ไม่มีอะไร!”
สายตากงซวี่จ้องเขม็งถังซิงหั่วด้วยความมืดมน สายตาราวกับแสงเอกซเรย์
ถังซิงหั่วโดนจ้องจนขนลุก ตกใจลนลานอุดปากตัวเองไว้
ไม่ใช่มั้ง? หรือว่าเขาคิดอยากจะทำอีกรอบ
คนขับ จอดรถ! จอดรถ!
ฉันจะลงจากรถ!
เดิมทีคืนนี้คิดจะไปนอนที่วิลล่ากงซวี่ แต่เห็นสถานการณ์แบบนี้แล้ว อยู่กับเขาด้วยกันอันตรายเกินไป
ในที่สุดรถก็ขับมาใกล้วิลล่า ถังซิงหั่วใจจดใจจ่อหวังจะรีบลงจากรถ ปรากฏว่า ตอนที่กำลังจะลงจากรถ จู่ๆ ก็พบว่าสถานการณ์ข้างหน้าดูผิดปกติ
ข้างนอกวิลล่าที่มืดมิดเต็มไปด้วยฝูงคนรายล้อมอยู่ มีนักข่าวพร้อมอุปกรณ์ถ่ายทำ แล้วยังมีเหล่าบรรดาคนที่ชื่นชมผลงานนับไม่ถ้วนถือป้ายไฟ LED อยู่…
บนป้ายไฟเขียนไว้ชัดเจน ‘กงซวี่ไสหัวออกไปจากวงการบันเทิง’ ‘กงซวี่ขอโทษหลิงเส่าเจ๋อ’…
รถกงซวี่เพิ่งปรากฏตัวในสายตาของทุกคน หน้าต่างรถก็เริ่มมีเสียงปังๆๆ ดังขึ้นมา มีไข่เน่าและใบผักเน่าเขวี้ยงมาที่รถไม่หยุด…
เดิมทีคืนนี้กงซวี่อารมณ์ไม่ดีอยู่ ตอนนี้ยิ่งหงุดหงิดหนักเข้าไปใหญ่ “เวร! รถสปอร์ตคันใหม่ของฉัน!”
ถังซิงหั่วขมวดคิ้ว “วิลล่านี้นอกจากคนที่สนิทไม่กี่คนแล้วไม่มีใครรู้ ใครแอบบอกข่าว”
“จะมีใครอีก!” กงซวี่หึเสียงเย็นชา
“ยังไงก็แล้วแต่ หลบฉากก่อนดีกว่า” ถังซิงหั่วพูด
ตั้งแต่ว่านชานชานโพสต์เวยป๋อจนถึงตอนนี้ ผ่านไปแค่ไม่กี่ชั่วโมง แต่เรื่องกลับบานปลายไปจนทั้งวงการทั้งโลกออนไลน์ต่างรู้กันหมด สื่อใหญ่ต่างก็เริ่มเข้ามาโจมตี ยกระดับชี้ประเด็นอ่อนไหวเช่นศีลธรรมของศิลปินและชนชั้นทางสังคม…
ถึงแม้กงซวี่มีกำลังหนุนที่แข็งแกร่ง แต่ถ้าผลกระทบเสียหายมาก แล้วฝ่ายที่เกี่ยวข้องเบื้องบนเข้ามาแทรกแซงละก็ เรื่องก็ยุ่งยากแล้ว…
ถ้าเรื่องยังใหญ่โตอย่างนี้ต่อไป ครั้งนี้กงซวี่อาจถึงขั้นโดนแบน…
ถังซิงหั่วกวาดตามองนักข่าวและแฟนคลับที่บ้าคลั่งนอกหน้าต่าง “กงซวี่ ครั้งนี้นายทำมากเกินไปจริงๆ ฉันว่านายขอโทษดีกว่า ไม่อย่างนั้นเรื่องบานปลายแล้ว เกรงว่าผลที่ตามมาจะจัดการไม่ไหว”
………………………………………………………………