แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี – บทที่ 703 โลกสวยงามเพราะเธอ / บทที่ 704 พอจะนับว่าเป็นคนรู้จักกัน

บทที่ 703 โลกสวยงามเพราะเธอ

ในรถเงียบงันจนน่าอึดอัด

บนตัวชายหนุ่มมีกลิ่นอายที่ทำให้คนคาดเดาไม่ออกและเหินห่างอีกครั้ง

เหมือนกับว่าชายหนุ่มตรงหน้าคนนี้อยู่นอกโลก ไม่เข้ากันกับโลกใบนี้

ไม่รู้ทำไม เธอถึงรู้สึกว่าไม่อยากจะเห็นความเย็นชาแบบนี้บนใบหน้าของซือเยี่ยหานเลย

เยี่ยหวันหวั่นมองเขาด้วยรอยยิ้ม “อย่าเอาแต่ทำหน้าบึ้งสิ ไม่มีปัญหาอะไรหรอก ไม่ต้องเครียด ในโลกนี้มีเรื่องที่สวยงามอยู่เยอะแยะไป”

สายตาของซือเยี่ยหานหลอมรวมกับฟ้ากลางคืนด้านนอกหน้าต่าง “งั้นเหรอ?”

เยี่ยหวันหวั่นหยิบช็อคโกแลตอันหนึ่งออกมาจากกระเป๋า ยื่นเข้าไปในปากชายหนุ่มอย่างแผ่วเบา “แน่นอนอยู่แล้วสิ!”

กลิ่นหอมหวานละลายอยู่ระหว่างริมฝีปากและฟัน รอยยิ้มของหญิงสาวยังละลายใจคนได้มากกว่าความหวานระหว่างริมฝีปากและฟันเสียอีก

ซือเยี่ยหานก้มศีรษะลง กอดหญิงสาวที่อยู่ด้านข้างอย่างอ่อนโยน “หวันหวั่น โลกนี้…ไม่ได้สวยงามหรอก…”

เพียงเพราะว่ามีเธออยู่…

แม้ว่าซือเยี่ยหานจะไม่ได้พูดประโยคนี้ แต่ว่าเยี่ยหวันหวั่นก็เข้าใจความนัยของซือเยี่ยหานได้อย่างที่อธิบายไม่ถูก

ชาติก่อน เยี่ยหวันหวั่นไม่เคยตั้งใจทำความเข้าใจผู้ชายตรงหน้า เพียงรู้สึกหวาดกลัวและปฏิเสธความต้องการควบคุมที่เกือบบ้าคลั่งและไม่ปกติของเขา เจ็บปวดว่าทำไมคนที่ถูกเขากักขังไว้ต้องเป็นตัวเอง

จนกระทั่งเธอเริ่มพบว่า ทุกสิ่งที่เขาทำเป็นเพราะว่าในโลกของเขา นอกจากเขาแล้ว ก็มีแต่การดำรงอยู่ของเธอเท่านั้น…

ทุกสิ่งที่ผู้ชายคนนี้ทำเป็นเพียงเพราะกลัวว่าจะเสียเธอไปมากเกินไป…

แต่ว่า…เป็นเพราะอะไรกันแน่…

เธอเป็นคนที่ธรรมดาจนไม่อาจธรรมดาไปมากกว่านี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับซือเยี่ยหาน ความรู้สึกหนักอึ้งที่เขามีต่อเธอ ตกลงแล้วมาจากไหนกันแน่…

หลังจากคดีกลั่นแกล้งของกงซวี่พลิกผัน หวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์ก็ถูกโจมตีไม่น้อย แม้ว่าหวงเทียนจะผลักว่านชานชานออกมารับมีดแทน แต่สื่อและชาวเน็ตไม่ใช่คนโง่ คนซื่อบื้อก็ยังรู้ว่าหวงเทียนวางแผนอะไร ศิลปินที่เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบไม่น้อย คนที่โดนผลกระทบเหล่านี้หนักที่สุดคือหลิงเส่าเจ๋อ แม้เขาจะอธิบายว่าไม่รู้ว่าว่านชานชานตั้งใจขัดขาลั่วเฉิน แต่ว่าท่าทีข่มเหงคนของเขาในคลิปก็ทำลายภาพลักษณ์ในอดีตของเขา สร้างความเกลียดชังให้เหล่าแฟนคลับอย่างรุนแรงไปแล้ว

เหล่าแฟนคลับพากันแสดงตัวว่าถูกหลอกลวง คนส่วนใหญ่เริ่มเลิกเป็นแฟนคลับ

บางครั้งวงการบันเทิงก็เป็นแบบนี้ คุณปั้นแต่งภาพลักษณ์ผู้เสียหายที่รักความยุติธรรมให้ตัวเอง จู่ๆ มีวันหนึ่งเกิดทำเรื่องไม่ดีขึ้นมา ก็จะสร้างความผิดหวังอย่างใหญ่หลวง ส่วนคนที่ปกติถูกใส่ร้ายจนชินชาอย่างกงซวี่ แค่ทำเรื่องดีๆ เรื่องเดียว ก็ทำให้คนเปลี่ยนแปลงความคิดได้ง่ายๆ แล้ว

แต่ถึงอย่างไรหลิงเส่าเจ๋อก็มีผลงานคอยสนับสนุน ข่าวฉาวแบบนี้ผ่านไปสักระยะแฟนคลับก็จะลืมเอง แค่สร้างผลกระทบเล็กน้อยให้เขาสักพักเท่านั้น

ทว่ากงซวี่…

ยังดีที่ทุกครั้งที่คิดถึงลั่วเฉิน เยี่ยหวันหวั่นค่อยผ่อนคลายได้บ้าง…

วันนี้เป็นวันปิดกองของเรื่องมังกรผงาด 2 เยี่ยหวันหวั่นจึงตั้งใจไปกองละคร

เพิ่งจะไปถึงที่นั่น ก็เห็นซ่งจินหลินกำลังโมโหพอดี “นี่มันท่าต่อสู้ไร้ประโยชน์อะไรกัน! บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้หาแบบนี้มา?”

“ผู้กำกับครับ คนพวกนี้เป็นตัวประกอบทั้งนั้น…ทำท่าแบบนี้ได้ก็ไม่เลวแล้วนะครับ…จะให้พวกเขาปีนหลังคาไต่กำแพงก็ไม่ได้มั้ง…” หัวหน้านักแสดงตัวประกอบพูดได้ครึ่งเดียว ก็ได้รับสายตาดุร้ายจากซ่งจินหลิน จึงกล่าวละล่ำละลัก “ผมจะหาต่อครับ! จะหาต่อให้…”

“เป็นอะไรไปพี่จาง?” เยี่ยหวันหวั่นถาม

จางหวาเป็นหัวหน้าเหล่าตัวประกอบ รับผิดชอบหาตัวประกอบมา ตอนนี้กำลังทำท่าปวดศีรษะอยู่

——————————————————

บทที่ 704 พอจะนับว่าเป็นคนรู้จักกัน

หลังจากซ่งจินหลินเดินไปไกลแล้ว จางหวาก็บ่นด้วยความจนปัญญา “วันนี้การถ่ายทำจำเป็นต้องใช้ตัวประกอบฝีมือดีสักสองคน ฉันหาคนมาให้ผู้กำกับซ่งแล้ว แต่ผู้กำกับซ่งไม่ชอบใจ ตัวประกอบพวกนี้ส่วนใหญ่เป็นมือสมัครเล่น ต่อให้เป็นมืออาชีพก็มีไม่กี่คนที่ฝึกวิชาต่อสู้ จะไปหาคนที่มีวิชาต่อสู้โดดเด่นให้เขาจากไหน”

เยี่ยหวันหวั่นได้ยินก็ฝืนยิ้มออกมา นี่เป็นนิสัยของซ่งจินหลินจริงๆ ถ่ายละครเหมือนถ่ายหนัง กล้องทุกตัวจะต้องดีที่สุด

“เฮ้อ ผู้อำนวยการเยี่ย เอาไว้แค่นี้ก่อนแล้วกัน ฉันต้องไปหาคนก่อน! ไม่งั้นวันนี้ไม่มีทางปิดกองได้แน่…”

“ครับ พี่รีบไปหาเถอะ!”

สถานที่ที่ใช้ถ่ายทำวันนี้อยู่ใกล้ๆ สะพานเก่าแห่งหนึ่ง

เมื่อถึงสถานที่ถ่ายทำ ฝ่ายควบคุมอุปกรณ์กำลังเคลียร์พื้นที่ แต่ดูเหมือนจะเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น

เสี่ยวเฉินกำลังโต้เถียงกับใครบางคนบนสะพาน

เยี่ยหวันหวั่นเห็นแล้วว่าคนพวกนั้นเป็นใครก็พลันงงงัน…

เป็นคนรู้จักเหรอเนี่ย?

อืม…ก็พอนับว่าเป็นคนรู้จักกันได้อยู่…

บนสะพาน ผู้ชายคนหนึ่งที่ใส่ชุดสีฉูดฉาดจนดูเหมือนผู้หญิงนอนอยู่บนพื้นอย่างงดงาม ด้านข้างวางเปลอันหนึ่งไว้ บนเปลมีคนนอนอยู่อีกคน แผ่นป้ายใบหนึ่งวางอยู่ด้านข้างว่า ‘สามีป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่ได้ วอนผู้ใจบุญสงเคราะห์ค่ารักษาพยาบาล’

ด้านตรงข้ามเป็นนักพรตจอมหลอกลวงคนนั้นนั่นเอง

ทั้งสามคนใส่เสื้อเก่าขาด ไม่แตกต่างจากขอทาน

“ขอโทษด้วยค่ะ ฉันเป็นทีมงานในกองละคร อีกเดี๋ยวพวกเราจะต้องใช้วิวด้านล่างสะพาน ใกล้ๆ นี้ห้ามมีคน รบกวน พวกคุณช่วยหลีกทางด้วยค่ะ!”

“ใกล้จะปลายเดือนแล้ว พวกเราต้องทำงานให้เสร็จ เวลาเป็นเงินเป็นทองว่าไหมคะคุณ?”

คนที่อยู่บนเปลไม่ขยับ เหมือนกับเคลิ้มหลับไปแล้ว

สองคนนี้ คนหนึ่งเป็นผู้ชายแต่งเป็นผู้หญิง คนหนึ่งแต่งเป็นคนป่วย แบบนี้ยังหวังจะได้เงินอีกเหรอ? หรือคิดว่าคนอื่นตาบอดกันหมด

มุมปากของเสี่ยวเฉินเหมือนกระตุกเล็กน้อย คิดแค่ว่าพวกเขาตั้งใจหลอกเอาเงิน และก็ไม่คิดจะเสวนากับคนเหล่านี้ ดังนั้นจึงเอ่ยว่า “พวกคุณต้องการเงินเท่าไรถึงจะยอมไป”

หนุ่มหน้าสวยได้ยิน ใบหน้าก็พลันเคร่งขรึม “คุณผู้หญิงคนนี้ ให้ความเคารพกันหน่อย พวกเรารับเงินจากการทำงานสุจริตเท่านั้น อย่าสร้างมลทินให้กับเราสิ!”

เสี่ยวเฉินหน้าทะมึน “พวกคุณตั้งใจก่อกวนใช่ไหมเนี่ย?”

“หามิได้ วิญญูชนต้องการเงินทอง ต้องได้มาด้วยวิธีที่ถูกต้อง คุณผู้หญิงคนนี้ ให้ฉันทำนายให้ดีไหม?”

หนุ่มหน้าสวยพลันลุกขึ้น ชี้หน้านักพรตคนนั้นด้วยความโมโห “นี่! ไอ้นักพรตเวร อยากจะทำนายนักก็ไปที่อื่น อย่ามาแย่งธุรกิจกันนะ!”

“ไอ้กะเทยนี่ ที่นี่เป็นบ้านแกเหรอไง?”

“หุบปากได้แล้ว ตกลงจะไปไม่ไป?”

“เสี่ยวเฉิน…”

เสี่ยวเฉินกำลังต่อว่าอย่างโมโห พอเห็นเยียหวันหวั่นเดินมาทางนี้ สองแก้มก็แดงซ่าน “พี่เยี่ย มาแล้วเหรอคะ…”

“เกิดอะไรขึ้น?” เยี่ยหวันหวั่นกวาดมองคนเหล่านั้น

เสี่ยเฉินเอ่ยอย่างไม่พอใจ “วันนี้พวกเราต้องใช้ที่นี่ถ่ายทำ พวกฉันเลยเคลียร์พื้นที่อยู่ แต่ว่าคนพวกนี้พูดเท่าไรก็ไม่ยอมฟัง! เป็นคนสติไม่ดีชัดๆ กองละครอื่นส่งมาป่วนเหรอไง?”

เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก

คิดมากไปแล้ว ไม่ใช่มาป่วนหรอก…

แต่เป็นคนสติไม่ดีของแท้เลยต่างหาก…

นักพรตคนนั้นพอเห็นเยี่ยหวันหวั่นตาก็ลุกวาวทันที “โอ้ น้องเยี่ยโหย่วหมิง…”

พูดไม่ทันจบ เยี่ยหวันหวั่นก็พลันส่งแววตาที่เย็นเยียบสุดขีดไป

นักพรตปิดปากอย่างว่าง่าย ทำสีหน้าสื่อว่า ‘รู้แล้วครับๆ’

…………………………………………..

Options

not work with dark mode
Reset