แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี – บทที่ 725 ทำไมมาอีกแล้ว / บทที่ 726 เข้าใจแล้ว

บทที่ 725 ทำไมมาอีกแล้ว

กงซวี่พูดด้วยน้ำเสียงแน่ใจ “ผิดแล้ว! ผิดอย่างใหญ่หลวง! ดังนั้นนี่เลยป็นสาเหตุที่เธอแห้วไงล่ะ! เข้าใจรึยัง?”

เฉินม่านจูยังไม่ค่อยเชื่อเท่าไร “จริงเหรอ?”

สีหน้าของกงซวี่เหมือนกำลังพูดความจริง “จริงแท้แน่นอน! ดังนั้นรุกอย่างวางใจได้เลยนะสาวน้อย!”

เฉินม่านจูเห็นกงซวี่มั่นใจขนาดนี้ บวกกับเขายังเป็นนักแสดงในสังกัดที่ค่อนข้างสนิทสนมกับเยี่ยไป๋ ในที่สุดจึงเชื่อ สีหน้าเหมือนรู้แจ้ง “ก็นึกว่าพี่เยี่ยชอบแบบผู้ดีหน่อย ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง…”

“ฮี่ๆ ที่เหลือไม่ต้องให้ฉันสอนก็ได้มั้ง?”

“เข้าใจแล้วๆ ขอบใจมากนะกงซวี่ ถ้าสำเร็จเดี๋ยวฉันเอาอั่งเปาให้เบิ้มๆ!” เฉิงม่านจูทำท่าเหมือนได้ยินความเห็นดีเลิศ

“ไม่เป็นไรน่าไม่เป็นไร!”

หลังจากเฉินม่านจูไปแล้ว ลั่วเฉินก็กวาดมองกงซวี่พร้อมขมวดคิ้ว “นายพูดบ้าอะไรของนาย”

กงซวี่กลอกตาใส่เขา “ฉันเปล่าพูดอะไรบ้าๆ สักหน่อย นายรู้เหรอว่าพี่เยี่ยไม่ชอบคนลามก?”

ลั่วเฉินอยากเอ่ยปาก แต่ไม่อาจโต้ตอบได้

ถึงแม้เขาจะเป็นนักแสดงของพี่เยี่ย แม้ว่าพี่เยี่ยจะเข้าใจเขาทุกอย่าง แต่ว่าเขารู้จักพี่เยี่ยน้อยมาก

หลังจากหายอยากรู้แล้ว กงซวี่ก็ผลักประตูเข้าไป

“พี่เยี่ย แหะๆๆ…โชคดีจังเลยนะ?”

เยี่ยหวันหวั่นมองสีหน้าเจ้าเล่ห์ของกงซวี่ จากนั้นก็โยนหนังสือพิมพ์ชุดหนึ่งลงไป บนหนังสือพิมพ์เป็นข่าวซุบซิบของกงซวี่กับดาราสาวคนหนึ่ง

กงซวี่ไม่กล้าวางแผนชั่วแล้ว ร้องจ๊ากออกมา “พี่เยี่ย นี่มันใส่ร้าย! ครั้งนี้ผู้หญิงคนนั้นตั้งใจเกาะกระแสผม! ผมเรื่องมากจะตายไป จะไปชอบคนแบบนี้ได้ไง!”

ตอนกลางคืน จูเจียงรอยัล

เยี่ยหวันหวั่นกวาดตาอ่านใบรับรองหยกเจไดต์ (หยกพม่า) จากนั้นโยนข้อมูลกองหนาที่ซือเยี่ยหานเตรียมไว้ให้เธอไปด้านข้าง

ก่อนหน้านี้ที่เธอบอกพ่อแม่ว่าจะไปเที่ยว ความจริงแล้วเธอต้องไปประเทศพม่า

หน้าที่แรกในซือกรุ๊ปที่เธอต้องลงมือทำจริงก็คือการจัดซื้อหินหยก

นี่เป็นเรื่องแรกในบริษัทที่เธอซึ่งเป็นนายหญิงในอนาคตก้าวก่าย ย่อมสำคัญมากเป็นธรรมดา

แต่ว่าของอย่าง ‘การพนันหยก’ ยังไม่พูดถึงว่าตอนนี้เธอเริ่มศึกษาแล้ว ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญก็บอกไม่ได้ว่าจะมีแต่กำไรไม่ขาดทุน

ทว่าเธอก็ยังเลือกหน้าที่ที่มีความเสี่ยงมากนี้…

เยี่ยหวันหวั่นกำลังใคร่ครวญ เวลานี้กริ่งประตูพลันดังขึ้น

หือ? ซือเยี่ยหานทำไมมาเร็วขนาดนี้?

เยี่ยหวันหวั่นรีบลุกไปเปิดประตู สุดท้ายเพิ่งจะเปิด กลับพบว่าคนที่มาไม่ใช่ซือเยี่ยหานแต่เป็นเฉินม่านจู

“ม่านจู…” พอเห็นคนมา เยี่ยหวันหวั่นก็ประหลาดใจเล็กน้อย ยังดีที่เธอยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อ

แต่ดึกดื่นขนาดนี้เธอมาที่นี่ทำไม?

“ผู้…ผู้อำนวยการเยี่ย…เข้าไปข้างในได้ไหมคะ” เฉินม่านจูสวมชุดโค้ทสีดำตัวหลวมโพรก ปิดร่างไว้อย่างมิดชิด

“เชิญครับ”

หลังจากเข้าห้องแล้ว เยี่ยหวันหวั่นรินน้ำให้เฉินม่านจู “ม่านจู เธอมาดึกขนาดนี้ มีเรื่องด่วนอะไรเหรอ?”

เฉินม่านจูคล้ายกังวลอยู่บ้าง ประคองน้ำแก้วนั้นขึ้นดื่มไปครึ่งแก้ว คิดถึงคำกำชับของกงซวี่เมื่อตอนกลางวัน ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง พูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “พี่เยี่ย พี่ไม่ลองพิจารณาตัวฉันดูเหรอคะ?”

เยี่ยหวันหวั่นตะลึงงัน…

ที่แท้ก็ยังไม่ตัดใจนี่เอง

แต่ว่าตอนเช้าเธอบอกไปอย่างชัดเจนแล้ว ทำไมตอนดึกยังมาอีก?

ใบหน้าของเยี่ยนหวันหวั่นปรากฏความไม่แน่ใจ จากนั้นพูดอย่างจนใจว่า “ม่านจู เธอก็น่าจะรู้หลักการของฉันนี่”

———————————————-

บทที่ 726 เข้าใจแล้ว

เฉินม่านจูพยักหน้าติดๆ กัน “ฉันรู้ค่ะ ฉันรู้ ในวงการมีใครไม่รู้บ้างว่าพี่เยี่ยไม่มีการให้เส้นสายกับนักแสดงในสังกัด แต่ว่าพี่เยี่ยอย่าเข้าใจผิดนะคะ ฉันไม่ได้ตั้งใจแบบนั้น ฉันไม่ต้องการให้คุณมอบสิ่งของให้ฉัน และไม่ต้องการให้คุณให้เส้นสายกับฉัน ฉันบริสุทธิ์ใจค่ะ บริสุทธิ์ใจจริงๆ”

แม้ว่าเฉินม่านจูจะไม่ได้พูดออกมา แต่ในที่สุดเยี่ยหวันหวั่นก็เข้าใจแล้ว

หล่อนไม่อยากได้เส้นสาย อยากจะหลับนอนกับเธอแค่นั้น…

บริสุทธิ์ใจจริงๆ…

เฉินม่านจูพูดจบก็สูดลมหายใจลึก ค่อยๆ ยืดตัวขึ้น ก่อนจะวางมือลงบนเข้มขัดเสื้อโค้ทของตัวเอง “ผู้อำนวยการเยี่ย…”

เยี่ยหวันหวั่นเห็นดังนั้นจึงขมวดคิ้ว อยู่ๆ ก็มีลางสังหรณ์ไม่ดี…

วินาทีต่อมา เฉินม่านจูดึงเสื้อโค้ทออก

ด้านในเฉินม่านจูว่างเปล่า ใส่แค่ชุดชั้นในปลุกเร้าอารมณ์ที่เซ็กซี่สุดๆ ชุดหนึ่ง…

เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก

ในห้วงความคิดของเธอคล้ายเกิดคลื่นยักษ์ม้วนขึ้นมา

โอ้โห! น้องสาว เธอจะรุกเกินไปหน่อยมั้ง?

ตอนเช้ายังถือตัวออกขนาดนั้น ตกดึกมาอยู่ๆ ก็เปลี่ยนภาพลักษณ์ ปลดปล่อยถึงขนาดนี้ เกิดอะไรขึ้น?

ตกลงเกิดอะไรขึ้นกันแน่

แม้ว่าเยี่ยหวันหวั่นจะเยือกเย็นขนาดไหน ครั้งนี้ก็ตกตะลึงแล้ว รีบกระแอมขึ้นแรงๆ

ในตอนที่หัวสมองของเยี่ยหวันหวั่นเกิดเสียงดังหึ่งๆ เพราะสับสนเกินไปนั้น เสียงแกรกก็ดังขึ้น

ที่ประตูมีเสียงไขกุญแจดังมา จากนั้นก็เป็นเสียงฝีเท้าที่คุ้นเคย

ตายแล้ว! จบกัน!

คนที่จะเข้ามาในเวลานี้ อีกทั้งยังมีกุญแจไว้เปิดประตู มีอยู่แค่คนเดียวเท่านั้น…

รอจนเยี่ยหวันหวั่นรู้สึกตัวก็ไม่ทันการณ์แล้ว

ซือเยี่ยหานก้าวเข้ามาด้านใน นอกจากนี้ยังเห็นเหตุการณ์ในห้องรับแขก

เยี่ยหวันหวั่นสะดุ้ง

พริบตาที่เห็นภาพด้านในห้องรับแขก ม่านตาของซือเยี่ยหานหดตัวลง สีหน้าเคร่งเครียดถึงขีดสุด…

เยี่ยหวันหวั่นดึงพรมที่อยู่ด้านข้างขึ้นมาคลุมหน้าเฉินม่านจูไว้ด้วยความเร็วสูงสุด จากนั้นพุ่งไปด้านหน้า ซือเยี่ยหานเหมือนธนูหลุดจากแล่ง ยื่นมือปิดตาเขาไว้ “หลับตา!”

“กรี๊ดดดด” ครั้งนี้เฉินม่านจูพบว่ามีคนเข้ามาเช่นกัน จึงตกใจจนกรีดร้อง

ในห้องรับแขกเกิดความวุ่นวายขึ้น…

จะบ้าตาย นี่มันเรื่องอะไรกัน!

เยี่ยหวันหวั่นกดดันจนศีรษะแทบไหม้ ทางหนึ่งจ้องมองซือเยี่ยหานเขม็ง ไม่ยอมให้เขาลืมตา ทางหนึ่งก็พูดกับเฉินม่านจู “ม่านจู เธอใส่เสื้อผ้าแล้วออกไปเถอะ คนคนนี้เป็นเพื่อนฉัน ไม่มีทางพูดอะไรแน่”

เฉินม่านจูทั้งอายทั้งอึดอัด แต่ยังไม่ลืมคำกับชับของกงซวี่ “ผู้อำนวยการเยี่ย…ฉัน…ฉันชอบคุณจริงๆ นะ…”

น้องสาว ขอร้องล่ะ ไม่ต้องพูดแล้ว

ยังดีที่เฉินม่านจูกลัวว่าในห้องจะยังมีคนอื่นอีก จึงไม่ได้รอนาน พูดจบก็สวมเสื้อออกไปอย่างรวดเร็ว

ในที่สุดเฉินม่านจูก็ไปแล้ว

เยี่ยหวันหวั่นเกือบล้มตัวลงไป เงื่อกาฬไหลออกมาด้านหลังหลายชั้น

ผ่านไปหลายวินาที เยี่ยหวันหวั่นถึงเงยหน้ามองไป เห็นซือเยี่ยหานกำลังยืนอยู่ที่ประตูพร้อมกับหลับตา

พอคิดถึงว่าเมื่อครู่ซือเยี่ยหานอาจเห็นอะไรเข้า แม้แต่กลัวซือเยี่ยหานจะโกรธ เยี่ยหวันหวั่นก็ลืมไปแล้ว เพราะเธอโกรธสุดๆ

ดังนั้นหญิงสาวจึงเดินตึงๆ เข้าไป “ซือเยี่ยหาน คุณจะเข้ามาทำไมไม่เคาะประตู! ต่อให้มีกุญแจ ถึงยังไงก็ต้องเคาะประตูก่อนอยู่ดี! คุณเห็นแล้วใช่ไหม? เห็นแล้วแน่ๆ! คุณเห็นมากเท่าไร? โมโหจะตายอยู่แล้ว…”

…………………………………….

Options

not work with dark mode
Reset