บทที่ 287 แก้ต่างอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น
เยี่ยหวันหวั่นที่อยู่ข้างๆ กัดปลายตะเกียบจ้องซือเยี่ยหาน รอเขาวางสายแล้วจึงถาม “นายจะไปแล้วเหรอ?”
“มีเรื่องต้องจัดการนิดหน่อย” ซือเยี่ยหานพูดพลางลุกขึ้น
“อ้อ…งานเป็นเรื่องสำคัญ งั้นรีบไปเถอะ!” เยี่ยหวันหวั่นลุกขึ้นมาช่วยหยิบเสื้อคลุมให้เขา จากนั้นไปส่งที่หน้าประตู
หานเซี่ยนอวี่ก็ลุกขึ้นเดินตามหลังไปส่งด้วยเช่นกัน “เขาดื่มไวน์เข้าไป คงขับรถไม่ได้แน่เลย?”
“คนขับรถอยู่ไหม?” เยี่ยหวันหวั่นถามเขา
ซือเยี่ยหานตอบ “อยู่”
เยี่ยหวันหวั่นถึงได้สบายใจ ยื่นเสื้อคลุมในมือให้กับเขา “งั้นนายเดินทางปลอดภัยนะ!”
แม้ว่าจะดื่มไวน์ไปไม่น้อย แต่สภาพของซือเยี่ยหานกลับไม่ได้ต่างจากปกติเลย ดูแล้วมีสติชัดเจน ที่เขาบอกว่าความสามารถในการดื่มคือ ‘พอได้’ ดูท่าคงจะเป็นการถ่อมตัว
ได้ยินคำกำชับของเยี่ยหวันหวั่น ซือเยี่ยหานรับเสื้อคลุมมาโดยไม่ได้พูดอะไร ติดกระดุมเสื้อสูททีละเม็ด จากนั้นตอบรับเรียบๆ ไปหนึ่งคำ “อืม”
“ดูคืนนี้นายดื่มไปไม่น้อยเลย กลับไปก็ให้คนซื้อซุปแก้เมาค้างให้สักหน่อยนะ!” เยี่ยหวันหวั่นผลักเปิดประตูพลางบอก
ซือเยี่ยหานเหลือบมองตาเธอทีหนึ่ง ไม่ได้พูดอะไร ก้มหน้าติดกระดุมเสื้อเม็ดสุดท้าย ภายใต้สายตามองส่งของอีกฝ่าย เขาพลันยื่นนิ้วมือเรียวยาวไปจับคางเยี่ยหวันหวั่นไว้ ก่อนโน้มตัวลงไปจุมพิตที่ริมฝีปาก เอ่ยว่า “ได้”
เยี่ยหวันหวั่นนิ่งค้างไป
หานเซี่ยนอวี่ที่อยู่ด้านข้างหน้าเหวอ
วินาทีที่ดึงสติกลับมาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ในหัวของเยี่ยหวันหวั่นมีเสียงระเบิดดังกึกก้อง
และการแสดงออกทางสีหน้าของหานเซี่ยนอวี่ก็ราวกับถูกฟ้าผ่า
เมื่อครู่นี้มันเกิดอะไรขึ้น!
เสียงคำรามในหัวของเยี่ยหวันหวั่นแทบจะทำให้ผืนฟ้าสั่นแผ่นดินไหว…
ในสถานการณ์ที่เธอวุ่นวายจนวิญญาณแทบออกจากร่าง ตัวต้นเรื่องจูบเธอแล้วก็ตีหน้าตายสะบัดก้น ผลักประตูเดินออกไปเฉยๆ
น่าจะผ่านไปประมาณสิบวินาทีเต็ม ในที่สุดเยี่ยหวันหวั่นก็ดึงสติกลับมาได้ หันหน้าแข็งทื่อมองไปทางหานเซี่ยนอวี่ด้านหลัง “หาน…หานเซี่ยนอวี่…คุณ…คุณฟังผมอธิบายนะ…”
คืนนี้ตั้งแต่แรกจนถึงตอนท้าย ซือเยี่ยหานสงบนิ่งอย่างไม่มีที่เปรียบ ทำให้เธอผ่อนความระมัดระวังไป คิดว่าการแต่งเป็นชายก็ทำให้ทุกอย่างราบรื่นแล้ว คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าก่อนจากไปเขาจะฆ่าเธอตายอย่างไม่ทันตั้งตัวแบบนี้
เธอแทบจะเสียสติแล้ว ทำแบบนี้จะให้เธออธิบายกับหานเซี่ยนอวี่ยังไง?
“ผม…เพื่อนคนนี้ของผมเป็นคนเชื้อสายจีนจากประเทศ M โตที่ต่างประเทศ นิสัยค่อนข้างมีอารมณ์ขัน ชอบล้อเล่นน่ะ…เฮอะ..เฮอะ…เฮอะ…” ภายใต้สถานการณ์คับขัน เธอลอกเลียนคำของสวี่อี้ทั้งหมดที่อธิบายกับผู้บริหารระดับสูงในตอนนั้น
แม่เจ้าโว้ย หนามยอกเอาหนามบ่งจริงๆ!
ส่วนการตอบสนองของหานเซี่ยนอวี่ต่อคำอธิบายนี้คือ นิ่งอึ้ง
นิสัยค่อนข้างมีอารมณ์ขัน?
ชอบล้อเล่น?
นาย…แน่ใจใช่ไหม?
ไม่ต้องพูดถึงว่านิสัยของเพื่อนนายคนนี้ไม่ได้ขี้เล่นตั้งแต่แรกแล้ว ต่อให้จะเป็นอย่างนั้น การจูบลาผู้ชายคนหนึ่งก่อนจากไป นี่จัดเป็นการล้อเล่นได้งั้นเหรอ?
เยี่ยหวันหวั่นก็พอจะรู้ว่าที่ตัวเองอธิบายแบบนี้มันโง่เขลาเพียงใด แต่ก็ทำได้เพียงกัดฟันทำต่อ “เวลาเขาเมาจะเป็นแบบนี้แหละ ชอบล้อเล่น ปกติผมยังเคยเรียกเขาว่าเบบี๋เลย เมื่อก่อนที่หอพักผมมักจะมีผู้ชายสองคน วันๆ ชอบขายความจิ้นด้วยการโอบกอดกันเพื่อดึงดูดพวกสาวๆ ผู้ชายที่แมนทั้งแท่งกลุ่มหนึ่งนัวเนียกันไปมาบ้าคลั่งยิ่งกว่าเกย์ด้วยซ้ำ ไม่อยากจะดูแล้ว…”
หานเซี่ยนอวี่เห็นสีหน้าพูดจาค่อนแขวะที่เป็นปกติมากของเยี่ยหวันหวั่นก็สับสน พลันรู้สึกว่าที่เยี่ยหวันหวั่นพูดมามีเหตุผล แต่ก็ยังเหมือนว่ามีตรงไหนผิดเพี้ยนไป “เป็นแบบนี้จริงเหรอ…”
เยี่ยหวันหวั่นรีบตอบ “แน่นอนสิ ผมแมนทั้งแท่งนะ! แมนมาก! มีแฟนเป็นผู้หญิงด้วย!”
หานเซี่ยนอวี่เหลือบมองเขา อยากพูดบางอย่างแต่ก็หยุดไว้
ต่อให้นายแมนทั้งแท่ง แต่เพื่อนของนายคนนั้น…ดูเหมือนจะไม่ค่อยใช่นะ…
……………………………………
บทที่ 288 คิดเหมาบัญชี
เวลาเช้าตรู่ ตึกใหญ่ของกวงเหยามีเดีย
ในห้องทำงานชั้นบนสุด ตกแต่งอย่างหรูหรามาก บนกำแพงมีภาพวาดสีน้ำมันยุคกลางหลายรูปและเขาสัตว์โบราณแขวนอยู่ แจกันดอกไม้เคลือบโลหะหลากสีสันบนโต๊ะส่องสะท้อนแวววาวภายใต้แสงอาทิตย์
ในมือโจวเหวินปินถือแก้วกาแฟดำ ทิ้งร่างอย่างผ่อนคลายลงบนโซฟาหนังแท้ด้านหลัง ท่าทางสบายอารมณ์มาก
เขาสวมชุดสูทของอาร์มานี่ โอต์ กูตูร์ สวมนาฬิการุ่นลิมิตเต็ดอิดิชันของปาเต็ก ฟิลลิป ผมหวีจนเงางาม ถึงแม้ว่าจะผ่านวัยกลางคนมาแล้ว อายุสี่สิบกว่าปี แต่ยังดูแลตัวเองได้ดีมาก มองไปแล้วเหมือนอายุสามสิบต้นๆ
เวลานี้ ตรงข้ามโจวเหวินปินมีคนนั่งอยู่หนึ่งคน สวมเสื้อยืดสีขาวเก่าๆ กับกางเกงยีนส์ฟอกสี ผมดำตัดทรงสั้นเรียบๆ หน้าตาสะอาด ไม่ได้ศัลยกรรม เงาที่ย้อนแสงสว่างคือใบหน้าสมบูรณ์แบบไร้ที่ติเหมือนรูปปั้นแกะสลักอย่างประณีต
แต่ดวงตาคนคนนั้นกลับมัวหมองไร้แสง ริมฝีปากบางก็ไม่มีสีเลือดเลย ทั่วทั้งตัวปกคลุมไปด้วยไอเย็นยะเยือก
โจวเหวินปินจิบกาแฟอย่างสบายๆ เหลือบขึ้นมองฝั่งตรงข้ามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “ลั่วเฉิน เป็นยังไงบ้าง? คิดดีแล้วหรือยัง?”
รูปร่างลั่วเฉินผอมบางมาก แต่หลังกลับเหยียดตรง เมื่อได้ยินหลังที่ตั้งตรงของเขาพลันสั่นขึ้นมาโดยไม่ทันสังเกตเห็น ดวงตาที่หม่นหมองหนาวเย็นยะเยือกถึงขีดสุด แต่ความเย็นนั้นก็โดนความมืดมิดในก้นบึ้งดวงตากลืนกินไปอย่างรวดเร็ว กลายเป็นความท้อแท้สิ้นหวัง
เวลานี้ เสียงเคาะประตู ‘ก๊อกๆๆ’ ดังขึ้นมา ทำลายความเงียบในห้อง
ผู้ชายร่างอ้วนสวมสูทสีเทาคนหนึ่งเดินเข้ามา ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อ พอเห็นโจวเหวินปินก็ร้องโวยวายอย่างทำอะไรไม่ถูก “หัวหน้าโจว…เกิดเรื่องใหญ่แล้ว…”
โจวเหวินปินที่โดนรบกวนเวลาพักผ่อนคิ้วขมวดทันที มองไปทางฝ่ายนั้นอย่างไม่พอใจ “เช้าตรู่อยู่เลย โวยวายอะไร?”
ชายอ้วนรีบพูด “หัวหน้าโจว เบื้องบนไม่แม้แต่จะบอกอะไรเลย จู่ๆ ก็ส่งผู้จัดการคนใหม่มา วันนี้จะมาแล้ว แถมยังให้พวกเราทุกคนร่วมมือทำงานกับเขาอย่างเต็มที่ คุณว่าประธานฉู่หมายความว่ายังไงครับ?”
ถึงแม้ผลการดำเนินงานของกวงเย่าจะเป็นแค่ปลายแถวในบรรดาบริษัทเครือโกลบอล แต่ก็อยู่ภายใต้โกลบอลเอ็นเตอร์เทนเมนท์เหมือนกัน หลังหนุนกับต้นไม้ใหญ่เย็นสบาย เทียบกับบริษัทผู้จัดการดาราอื่นๆ ที่เล็กแล้วถือว่าดีมาก
ไม่ว่าจะเป็นศิลปินหรือผู้จัดการ คิดอยากจะเข้ากวงเย่านั้นไม่ใช่เรื่องง่าย จำเป็นต้องมีประสบการณ์การทำงานที่เกี่ยวข้องและประวัติการศึกษา สัมภาษณ์ต้องผ่านหลายด่าน คุณสมบัติที่ต้องการสูงมาก
ที่สำคัญคือตอนนี้โจวเหวินปินเป็นหัวหน้าใหญ่ ไม่ว่าศิลปินคนไหนรวมถึงผู้จัดการ ก่อนเข้ามาทำงานเขาต้องดูก่อนถึงจะได้
ตอนนี้จู่ๆ มีผู้จัดการคนหนึ่งถูกส่งลงมา แล้วยังให้สิทธิพิเศษขนาดนี้ เป็นใครก็ไม่ยอมทั้งนั้น โดยเฉพาะพรรคพวกของโจวเหวินปินย่อมต้องสนใจเป็นพิเศษ
โจวเหวินปินได้ยินก็หรี่ตาลง มีแววดุร้ายพาดผ่านใบหน้า พูดเสียงแข็งว่า “คนที่ชื่อเยี่ยไป๋ใช่ไหม?”
ชายอ้วนพยักหน้าติดกัน “ใช่ๆ! ชื่อนี้แหละครับ ผู้อำนวยการโจว คุณรู้เรื่องด้วยเหรอ?”
ไม่รู้ว่าโจวเหวินปินคิดอะไรอยู่ สีหน้ายิ่งดูไม่ได้เข้าไปใหญ่ “ก็แค่เด็กใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์เท่านั้นเอง มาอยู่ในที่ฉันจะพลิกแผ่นดินได้เรอะ? จะไปทำอะไรก็ไป เรื่องเล็กแค่นี้จำเป็นต้องทำเป็นเรื่องใหญ่โตไหม!”
หึๆ ไอ้เด็กน้อย คิดไม่ถึงว่าเขาไปหาเกาเฟยจากมาร์สวีคเอ็นมาจะเปลี่ยนความคิดเห็นของทุกคนได้ สุดท้ายยังทำให้หานเซี่ยนอวี่หลุดคดีได้ด้วย ทำลายแผนการเขาหมด
…………………………………………………………..