บทที่ 195 ยังพอใจกับสิ่งที่เธอได้เห็นอยู่ไหม?
ภายใต้สายตาจำนวนนับไม่ถ้วน หญิงสาวที่ถอดชุดแสดงละครขาดวิ่นและหนักอึ้งออก ถอดผมปลอม เครื่องสำอางหนาเตอะและความสกปรกก็ถูกน้ำชะล้างออกไปทั้งหมด
เพียงพริบตาไข่มุกเปื้อนฝุ่นก็ได้พบกับแสงตะวันอีกครั้ง เปล่งประกายเสียจนแสบตา สายตาเย็นชาอย่างผู้สูงส่งมองลงมายังพื้นดินนั้นราวเปลวเพลิง แผดเผาสิ่งจอมปลอมของเธอทุกสิ้นให้วอดวายจนสิ้น แผ่ความเจิดจรัสของเธอออกมาทั้งหมดในคราเดียว
เมื่อซือเซี่ยทราบข่าวก็รีบรุดมาทันที และสิ่งที่ได้เห็นก็คือภาพๆ นี้ เขายืนอึ้งอยู่ด้านล่างเวที คนทั้งคนยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น
ผู้คนเหล่านั้นที่ก่อนหน้านี้กำลังดูการกลั่นแกล้งชอบใจหัวเราะจนตัวโยนล้วนตกตะลึงอย่างไม่อาจเชื่อสายตาอยู่ที่เดิม
คนเดียวที่ยังนับว่ามีสติ คงจะมีเพียงหลิงตงคนเดียวที่รู้เรื่องราว…
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด ห้องโถงใหญ่อันเงียบสนิท พลันเกิดเสียง “กึกกัก” ดังขึ้นอย่างกะทันหัน ไม่รู้ว่าใครไม่ทันระวังผลักอุปกรณ์แถวหนึ่งล้มลง
จนกระทั่งเวลานี้เอง ฝูงชนถึงได้สติขึ้นมา ทั้งห้องโถงใหญ่ระเบิดไปด้วยเสียงอุทานตกใจและคำวิพากษ์วิจารณ์
“แม่…แม่เจ้าโว้ย! สวยมาก!!!”
“สวยตะลึงเลยต่างหากเล่า สวยสุดๆ ไปเลย! นี่…นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? นั่น…นั่นคือเยี่ยหวันหวั่นเหรอ?”
“เป็นไปไม่ได้! ฉันต้องกำลังฝันอยู่แน่ๆ! ยัยเยี่ยหวันหวั่น ตัวประหลาดนั่นจะสวยขนาดนี้ได้ยังไง! นายจับหัวใจดวงน้อยของฉันดูสิ เต้นเร็วจนแทบกระเด็นออกมาอยู่แล้ว ฉันรู้สึกว่าฉันกำลังมีความรัก! นี่มันเทพธิดาในฝันของฉันชัดๆ!”
“พระเจ้า! นี่คือคนที่พวกพี่บอกว่าเป็นสาวอัปลักษณ์อันดับหนึ่งของชิงเหอเหรอ? นี่จะต้องเป็นมุขหลอกเด็กใหม่อย่างพวกเราแน่ๆ! พี่สาวคนนี้สวยระเบิดไปเลย!”
“เฮ้ยๆๆ เด็กน้อยขนของพวกนายขึ้นครบแล้วหรือยัง จะวิ่งมาแย่งรุ่นพี่ผู้หญิงกับพวกเรา! รู้จักธรรมเนีนมมาก่อนมาหลังหรือเปล่า?”
…
ณ กลางเวที เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วมองดูผู้คนด้านล่างเวทีที่บ้าคลั่งกว่าเมื่อครู่นี้เสียอีก
โดยเฉพาะผู้ชายพวกนั้น วิก่อนยังพูดจาแดกดันถากถางเธอยู่เลย วิต่อมากลับกระหือรือสารภาพรักเอาแต่พูดว่าเทพธดาเสียแล้ว
เธออดทนมาตั้งนานขนาดนี้ เดิมทีคิดว่าอย่างน้อยก็ทนจนจบการศึกษา ผลสุดท้ายกลับสะดุดพลาดท่า จนจบเห่
ดอกท้อ[1]ดอกเดียวก็สามารถริดรอนชีวิตครึ่งหนึ่งของเธอได้แล้ว คนมากมายขนาดนี้ เธอมีสักกี่ชีวิตก็คงไม่พอ!
ขณะที่เยี่ยหวันหวั่นกำลังปวดหัวอยู่นั้นเอง สายตาพลันเหลือบไปเห็นเจียงเยียนหรานที่อยู่ท่ามกลางผู้คน
เหมือนว่าเจียงเยียนหรานจะถูกฝูงชนที่เบียดเสียดผลักจนล้มลง กำลังล้มอยู่ที่พื้นด้วยสีหน้าเจ็บปวด
ความสนใจของทุกคนอยู่ที่ตัวเธอทั้งหมด ขนาดที่ว่ายังมีคนเบียดมาข้างหน้าไม่หยุด สถานการณ์วุ่นวายจึงไม่มีใครสังเกตเห็นเธอ
เมื่อเห็นว่าฝูงชนยังคนเบียดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เยี่ยหวันหวั่นก็รีบเดินไปด้างล่างเวที
ฝูงชนที่กำลังเบียดเสียดกันอยู่เมื่อเห็นเยี่ยหวันหวั่นเดินมา ต่างมีสีหน้าตื่นเต้นทำอะไรไม่ถูก หลีกทางให้อย่างอัตโนมัติจนกลายเป็นทางเดินเล็กๆ
“เอ๋? นางฟ้าจะไปไหนเหรอ?”
“ไม่รู้สิ!”
“จะไปหาซือเซี่ยหรือเปล่า?”
…
ซือเซี่ยที่ยืนอึ้งอยู่ด้านล่างเวที เมื่อเห็นเยี่ยหวันหวั่นเดินเข้ามา นัยน์ตาพลันหดเล็กเล็กน้อย
จากนั้น ฝูงชนกลับเห็นว่า เยี่ยหวันหวั่นเดินตรงผ่านซือเซี่ยไปหยุดตรงหน้าเจียงเยียนหราน “ข้อเท้าพลิกเหรอ?”
เจียงเยียนหรานส่ายศีรษะอย่างตื่นตกใจ คิดไม่ถึงว่าเยี่ยหวันหวั่นจะเห็นตัวเธอได้ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ “ไม่…ไม่เป็นอะไร…”
เยี่ยหวันหวั่นเลิกคิ้วขึ้น พยุงเธอขึ้นมา “ฉันจะส่งเธอไปห้องพยายาล”
ว้า…ที่แท้นางฟ้าก็ไปหาเจียงเยียนหราน…
ฝูงชนที่กำลังรอดูข่าวซุบซิบเผยสีหน้าผิดหวัง ทว่าสายตาของทุกคนยังคงไม่อาจถอนออกจากเยี่ยหวันหวั่นได้
เดิมทีเยี่ยหวันหวั่นเตรียมที่จะเดินออกไปแล้ว ไม่รู้ว่านึกอะไรได้ พลันหยุดเท้า หันมองเฉิงเสวี่ยที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล มุมปากยกยิ้มเอ่ยว่า “แม่ดาวโรงเรียนเฉิง เป็นอย่างที่เธอต้องการแล้ว ยังพอใจกับสิ่งที่เธอได้เห็นอยู่ไหม?”
พูดประโยคนี้จบ เยี่ยหวันหวั่นถึงได้พาเจียงเยียนหรานเดินออกไปอย่างไม่เร็วไม่ช้า
………………………………..
บทที่ 196 ดาวโรงเรียนเปลี่ยนคน
“เธอ…” เฉิงเสวี่ยจ้องเยี่ยหวั่นหวันไม่ละสายตา โมโหจนหน้าเขียวคล้ำไปหมดอยู่ตรงนั้น
ไม่ว่าจะยังไงเธอก็คิดไม่ถึง เยี่ยหวั่นหวันที่แต่งหน้าหนาน่ากลัวขนาดนั้น เช็ดออกมาจะกลายเป็นหน้าแบบนี้!
ส่วนใบหน้านั้นที่อยู่ตรงหน้าเยี่ยหวั่นหวัน คืนนี้เธอลงทุนลงแรงแต่งหน้าจากประณีตและแต่งชุดราตรีตัวสวย กลายเป็นเรื่องตลกไปเลย
เวลานี้ คนรอบด้านมองไปทางเฉิงเสวี่ย ทุกคนต่างมองด้วยสายตาประหลาด เริ่มสุมหัวพูดกระซิบกระซาบกันไปมา
เยี่ยหวันหวั่นล้างเครื่องสำอางออกทั้งหมด หน้าสดอย่างแท้จริง บนร่างก็สวมแค่ชุดกระโปรงสีขาวเรียบง่ายเท่านั้น แต่กลับโดดเด่นกว่าเฉิงเสวี่ยอีก ดาวโรงเรียนชิงเหอของพวกเขา ผู้หญิงในฝันในใจของชายหนุ่มทุกคนโดนฆ่าจนหมดจดภายในเสี้ยววินาที นี่มันแนวคิดอะไรกัน!
“พวกนายจำได้ไหมที่เยี่ยหวั่นหวันเคยพูดไว้ เธอไม่เปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงเพราะกลัวจะเกิดเรื่องวุ่นวาย? บ้าจริงนี่กลายเป็นเรื่องจริง! นี่มันบ้าไปแล้ว!”
“ไม่ได้บ้าอย่างเดียว! จะเรียนจบอยู่แล้ว ฉันเพิ่งรู้ว่าโรงเรียนพวกเรามีหญิงงามระดับชาติขนาดนี้! นี่ชนะดาวโรงเรียนของพวกเราไปสิบแปดช่วงตัวเลย! ถ้าเยี่ยหวั่นหวันปิดเผยโฉมหน้าจริงเร็วกว่านี้ จะยังมีเฉิงเสวี่ยทำไม?”
“เรื่องที่เกิดวันนี้ก็น่าจะเป็นเฉิงเสวี่ยก่อเรื่องสินะ? เดิมทีอยากจะสั่งสอนเยี่ยหวั่นหวัน ใครจะรู้ว่ากลายเป็นตบหน้าตัวเอง!”
“นี่เยี่ยหวั่นหวันกับเฉิงเสวี่ย เป็นสโนว์ไวท์กับแม่เลี้ยงใจร้ายจริงด้วย!สุดยอด!“
“คืนนี้ช่างบันเทิงจริงๆ! จนถึงตอนนี้ฉันยังไม่ค่อยได้สติกลับมาอยู่เลย! ดาวโรงเรียนชิงเหอสามปีซ้อน ปรากฏว่ากลับโดนยัยอัปลักษณ์ฉีกหน้า…”
“ใครบอกว่าอัปลักษณ์! ใครบอกว่าอัปลักษณ์! ใครบอกว่าผู้หญิงในฝันของฉันอัปลักษณ์! ผู้หญิงในฝันของฉันต่างหากที่เป็นดาวโรงเรียนชิงเหอตัวจริง! ไม่เชื่อก็มาประลองกันดู! มาโหวตเลย!”
“ยังจำเป็นต้องโหวตอีกเหรอ? ดาวโรงเรียนชิงเหอของพวกเราควรจะมีการเลื่อนขั้นอย่างเหมาะสม ควรจะเปลี่ยนคนได้แล้ว!”
……..
เฉิงเสวี่ยเห็นสายตาที่เย้ยหยัน ได้ยินคำวิพากษ์วิจารณ์พวกนั้นแล้ว ก็ผลักลิ่วล้อที่อยู่ข้างๆ สองคนไปทางหลังเวทีอย่างแรง ทั้งวิ่งทั้งโมโห ออกแรงฉีกทึ้งชุดแต่งตัวที่งดงามออก
ส่วนคนที่คิดแผนให้เฉิงเสวี่ยคนนั้น ผู้หญิงผมสั้นที่วางแผนให้เยี่ยหวั่นหวันโดนน้ำมันเช็ดเครื่องสำอางออก ตอนนี้งงเป็นไก่ตาแตกไปหมด ตอนนี้เธอจะกล้าเดินเข้าไปใกล้เฉิงเสวี่ยที่ไหน รีบก้มหน้าก้มตาหนีไปให้ไกลที่สุด
ท่ามกลางเสียงฮือฮาของฝูงชน เฉินเมิ่งฉีกำหมัดแน่นยืนอยู่ในมุม สีหน้าดุร้าย
ไปตายซะ…
อาศัยอะไร! อาศัยอะไรที่ตอนนี้เธอตกมาอยู่ในสภาพที่ทุกคนด่ากันหมด ส่วนเยี่ยหวั่นหวันยัยอัปลักษณ์นั่นแค่เผยใบหน้าจริงแค่นั้น จู่ๆ ก็กลายเป็นสาวในฝันของชิงเหอเฉยเลย กระทั่งยังมาแทนที่ดาวโรงเรียนของเฉิงเสวี่ยด้วย!
เรื่องทั้งหมดนี่มันเกิดปัญหาที่ตรงไหน ตั้งแต่เยี่ยหวั่นหวันไม่ได้ออกจากจิ่นหยวนตั้งแต่แรกตามกู้เยว่เจ๋ออย่างที่เธอคาดคิด ทั้งหมดเกิดขึ้นไปในทิศทางที่เธอไม่สามารถควบคุมได้เลย…
ไม่เพียงแค่นี้ เยี่ยหวั่นหวันยิ่งทียิ่งห่างเหินกับเธอ แล้วกลับไปสนิทกับเจียงเยียนหรานมากยิ่งขึ้น
เสียงเรียกเข้ามือถือดังขึ้นมา เฉินเมิ่งฉีเหลือบมองสายเรียกเข้า สูดลมหายใจลึกเดินออกไปนอกห้องประชุม
มองชื่อสายที่โทรเข้ามา เฉินเมิ่งฉีสีแววรังเกียจลอยขึ้นมา แต่บทที่รับสาย น้ำเสียงกลับออดอ้อนอ่อนหวานมาก “ฮัลโหล? พี่มู่ฝาน?”
“วันนี้การแสดงราบรื่นดีไหม?”
“ก็ดีอยู่ค่ะ…” เฉินเมิ่งฉีสีหน้าเย็นชาเล็กน้อย
หึ ราบรื่น?
การแสดงเต้นบัลเล่ต์ครั้งนี้เธอเต้นเป็นแบล็คสวอนได้โดดเด่นที่สุด เดิมทีคืนนี้ควรจะแพรวพราวสะดุดตาทุ่ด แต่เพราะเรื่องซ่งจื่อหางนั่น บทที่เธอขึ้นเวที ด้านล่างมีแค่เสียงโห่ที่รอเธอ
……………………………………………
[1] ดอกท้อ เปรียบเปรยถึงโชคด้านความรัก