บทที่ 399 สิ้นหวัง
หนึ่งในงานอดิเรกแห่งความวิปริตของยูจีนก็คือคว้านไส้พุงของยอดฝีมือที่เขาหมายตา จากนั้นนำร่างไปแช่ในน้ำยาสูตรพิเศษเพื่อทำเป็นตุ๊กตาหุ่น จัดโชว์ไว้ในบ้านเหมือนเป็นถ้วยรางวัล น่าสยดสยองชวนขนลุก
“เช่นนั้นก็ต้องดูว่านายจะมีความสามารถนี้ไหม?” หลิวอิ่งแค่นเสียงหัวเราะเย็นชา เข้าจู่โจมอีกครั้ง
ครั้งนี้ยูจีนมีการป้องกันตัวแล้วจึงไม่อาจเข้าประชิดตัวได้ง่ายอีก ในช่วงเวลานี้ต่างฝ่ายต่างก็ไม่มีใครยอมใคร
แม้ว่าคนทั้งสองจะไม่มีใครเป็นรองใคร แต่สวี่อี้กลับไม่รู้สึกผ่อนคลายลงได้เลย ตรงกันข้ามสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นเรื่อยๆ
ยูจีนผู้นี้เจ้าเล่ห์เกินไป เขาดูออกว่าหลิวอิ่งชำนาญเรื่องความว่องไว จึงตั้งใจดึงเกมต่อสู้เพื่อผลาญพลังของเขา
แน่นอนว่าหลิวอิ่งก็ดูออกเช่นกัน แต่เวลานี้เขาถอนตัวไม่ได้แล้ว เพียงเผลอสติไปแค่เล็กน้อยก็อาจจะถึงแก่ชีวิตได้ ซึ่งคนอื่นๆ ต่างก็โมโหทว่าก็ไม่กล้าทำอะไร เพราะเกรงจะกระทบต่อเขา
เพียงพริบตาเวลาก็ผ่านไปสิบห้านาทีแล้ว โจ๊กเกอร์ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยลายพรางกล่าวเร่งอย่างทำอะไรไม่ถูก “โธ่โว้ย! ช้าจริง…ยูจีน ถ้านายไม่ไหว! ก็ปล่อยให้ฉันทำเถอะ!”
“หุบปาก!”
ยูจีน ตวาดเสียงต่ำ มองหลิวอิ่งอีกครั้งด้วยสายตาที่จริงจังมากขึ้น
ไอ้หมอนี่ มีความสามารถอยู่บ้างจริงๆ ถึงสามารถทำให้เขาเสียเวลานานขนาดนี้…
เวลาผ่านไปจากวินาทีเป็นนาที…
ดวงตาของยูจีนพลันสว่างขึ้นพร้อมเอ่ยว่า “ฮ่าๆ…หาเจอแล้ว…”
“แย่แล้ว!”
สวี่อี้กำลังจะเอ่ยเตือน แต่ก็สายไปเสียแล้ว ยูจีนเจอจุดอ่อนของหลิวอิ่งแล้วก่อนที่เขาจะทันรู้ตัว นิ้วมืออันน่ากลัวกว่าอาวุธแหลมคมได้แทงเข้าไปยังท้องน้อยที่เป็นประตูเปิดกว้างของหลิวอิ่งดัง “ซวบ” ก่อนจะดึงออกมาอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากอวัยวะภายในเสียหาย หลิวอิ่งกระอักเลือดอย่างรุนแรง ใบหน้าพลันซีดขาว
นิ้วมือของยูจีนเปื้อนไปด้วยโลหิตแดงฉาน เลือดไหลหยดลงพื้นติ๋งๆ แลบลิ้นสีแดงเลือดหมูเลียลิ้มชิมรสเลือดสดของหลิวอิ่งทีละนิด ราวกับเป็นอาหารเลิศรส…
การโจมตีครั้งนี้หนักหน่วงเกินไป ร่างกายของหลิวอิ่งพลันซวนเซ
“หลิวอิ่ง!” สวี่อี้รีบเข้าไปประคองร่างเขาไว้
“หัวหน้า! ! !” คนอื่นๆ ต่างก็วิ่งกรู่เข้าไปล้อม
คนเหล่านี้วิปริตถึงขั้นไหนกัน ขนาดหลิวอิ่งยังพ่ายแพ้ให้กับพวกเขา
ได้เห็นบาดแผลอันน่าสยดสยองขั้นสุดบนร่างของหลิวอิ่ง ซ่งจิ้งเดือดดาลอย่างที่สุด ตะโกนลั่นแล้วก้าวออกมาจากทีม
“ไอ้วิปริต! ฉันจะสู้กับนายเอง–”
“ซ่งจิ้ง! กลับมา! นายไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา!” หลิวอิ่งตวาดเสียงกร้าว
“หัวหน้า ยังไงก็ตายเหมือนกัน ผมจะแก้แค้นให้หัวหน้าเอง!”
พูดจบก็กดเสียงทุ้มต่ำพลางกล่าว “ต่อให้ผมตาย อย่างน้อยก็สามารถล้วงเบาะแสของเขาได้!”
หลิวอิ่งห้ามไว้ไม่ทัน ซ่งจิ้งพูดจบก็พุ่งตัวออกไป
เห็นว่าเหตุการณ์เปลี่ยนเป็นแบบนี้ สวี่อี้ได้แต่พูดปลอบใจตัวเอง “ในหมู่ของบอดี้การ์ด ซ่งจิ้งมีฝีมือดีที่สุด สติปัญญาก็สูงที่สุดด้วย ไม่แน่อาจจะล้วงจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้ามมาได้จริงๆ ก็ได้…”
ในหมู่ของคนพวกนี้ ยูจีนผู้นี้เป็นคนที่จัดการได้ยากที่สุด หากมีโอกาสจะสังหารเขาได้…
ซ่งจิ้งเดินตรงไปข้างหน้าอย่างไม่ลังเล ได้เห็นชายหนุ่มหน้าซีดขาว ปากแดงเลือดหมูที่อยู่ตรงหน้าจึงเอ่ย “เชิญได้!”
“โอ๊ะโอ มีปลาซิวมาอีกตัวแล้ว แต่ดูเหมือนจะด้อยกว่าตัวเมื่อครู่นะ? แต่ว่าก็น่าสนใจดี…จะฝืนใจเล่นกับนายสักหน่อย…”
ยูจีนจ้องเขา กล้ามเนื้อกระตุกด้วยความตื่นเต้น แววตาแพรวพราวราวกับกำลังเพลิดเพลินอยู่ในงานเลี้ยง บิดคอดังกรอบ วินาทีถัดมาก็พุ่งตัวขึ้นไปดุจดั่งสายฟ้า…
ซ่งจิ้งดวงตาเป็นประกาย ตั้งรับในทันที…
มองดูคนทั้งสองต่อสู้กันพัลวัน ใจทุกคนต่างกระดอนขึ้นมาถึงลำคอ
…………………………………
บทที่ 400 เสียงที่ดังขึ้นกะทันหัน
เจสันโจ๊กเกอร์คนนั้นและพันธมิตรเลือดคนอื่นๆ กลับยืนพักผ่อนอยู่กันตรงนั้นพอดี ต่างพากันหัวเราะลั่นอย่างมีความสุขแปลกๆ ยิ่งทำให้รู้สึกไม่สบายใจขึ้นไปทุกทีๆ …
เห็นคนทั้งสองสู้กันพัลวัน โจ๊กเกอร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเห็นใจ “จุ๊ๆ ช่างไร้เดียงสานัก…คิดจะหาจุดอ่อนของยูจีนจริงเหรอ…”
ช่วงเวลาเพียงพริบตา ซ่งจิ้งและยูจีนสู้กันไปร้อยกระบวนท่าแล้ว
ถัดมา พวกหลิวอิ่งไม่มีความรู้สึกยินดีเลยสักนิด ตรงกันข้ามใบหน้ากลับยิ่งซีดขาว
ตั้งแต่ต้นถึงตอนท้ายไอ้โรคจิตนั่นกำลังแกล้งซ่งจิ้งเล่นเหมือนแมวหยอกหนู กรงเล็บแหลมคมดั่งเหล็กกล้าทิ้งรอยแผลไว้บนกายของซ่งจิ้งในทุกระบวนท่า
ทุกรอยแผลนั้นแทบจะกรีดทะลุเนื้อไปในทันที ปักทะลุเข้าปอดไม่ถึงกับเสียชีวิต ทว่าสร้างความเจ็บปวดเป็นหมื่นส่วน เจ็บปวดเหมือนตายทั้งเป็น…
ภายในช่วงเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่นาที ซ่งจิ้งแทบจะกลายเป็นมนุษย์เลือดไปเสียแล้ว!
ด้วยเสื้อผ้าชุดดำจึงทำให้มองคราบเลือดไม่ออก แต่ที่ใต้ฝ่าเท้าของเขาในทุกย่างก้าวนองไปด้วยรอยเลือด…
สิ่งที่ทำให้พวกเขายิ่งสิ้นหวังและไม่อยากจะเชื่อก็คือ ผู้ชายวิปริตคนนี้ประลองกับซ่งจิ้งเป็นร้อยกระบวนท่าแล้ว ก็ยังไม่เผยพลังที่แท้จริงออกมาสักที
หลิวอิ่งดวงตาหม่นหมองเต็มทน ตะเกียกตะกายจะลุกขึ้น แต่ได้เพียงเสี้ยววินาทีก็ต้องห่อตัวกลับลงไปเพราะความเจ็บปวดอันรุนแรง เหงื่อเย็นไหลซึมหน้าผาก เอ่ยด้วยลมหายใจถี่รัว “เร็ว! ห้ามซ่งจิ้งเร็ว! ชัดเจนว่าเดรัจฉานนั่นกำลังแกล้งคนเล่น!”
ถัดมา วินาทีที่สิ้นเสียงของหลิวอิ่ง “ซวบ” เสียงหนึ่งดังขึ้น เป็นเสียงที่ฟังดูน่าขนลุกยิ่ง
หน้าท้องของซ่งจิ้งถูกมือที่คมดั่งใบมีดของยูจีนแทงเข้าไปอย่างไม่ทันตั้งตัว เจ็บปวดแทบเป็นลมหมดสติล้มลงไป ทว่าไม่นานก็พยุงตัวลุกขึ้น ปล่อยให้เลือดหลั่งริน พุ่งตัวขึ้นไปอีกครั้งด้วยอาการเซซวน…
ต่อมา ในเวลานี้ซ่งจิ้งมีกำลังเสื่อมทรุดจนเป็นม้าตีนปลายแล้ว กำลังจะมีการเคลื่อนไหว ฝ่ายตรงข้ามก็ซ้ำกระบวนท่าเก่าจู่โจมไปที่ท้องน้อยของเขาอีกครั้ง…
“พอแล้ว!” หลิวอิ่งกำหมัดสองข้างแน่นกระดูกแทบแตก ดวงตาแดงฉาน
สมาชิกคนอื่นๆ ต่างก็ตาแดงกร่ำ คำรามส่งเสียงเตรียมจะกระโจนขึ้นไป
“อย่า…อย่าเข้ามา…” ซ่งจิ้งรู้ดีว่าคนอื่นๆ เข้ามาก็เท่ากับเอาตัวเองมาตายเช่นกัน สู้ให้เขาคนเดียวถ่วงเวลาอีกหน่อยจะดีกว่า ดังนั้นจึงกระโจนสุดกำลังเข้าใส่ยูจีนอีกครั้ง
ครั้งนี้ยูจีนไม่ได้เล่นเป็นแมวจับหนูกับเขาอีกแล้ว แต่ละกระบวนท่าทั้งกระหายเลือดทั้งน่ากลัว ร่างกายของซ่งจิ้งแทบไม่เหลือชิ้นดีเลย…
“เห้อ…ระดับกระจอกแค่นี้เองเหรอ? ไม่น่าสนใจ…”
ยูจีนพึมพำประโยคหนึ่งอย่างไร้ความสนใจ นัยน์ตาประกายความเบื่อหน่าย และในเวลาเดียวกันนี้เอง นิ้วมือจู่โจมไปยังหน้าอกข้างซ้ายของซ่งจิ้ง ก่อนที่วินาทีถัดมาจะตัดทะลุหัวใจของซ่งจิ้ง
“หัว…หัวหน้า…ขอโทษด้วย…” ซ่งจิ้งมองไปยังหัวหน้าและทีมที่ตนเองรักอย่างสุดซึ้งด้วยสายตาที่มองเป็นครั้งสุดท้าย แววตาเปี่ยมไปด้วยคำขอโทษ
เมฆหนาที่ขอบฟ้าพลิกม้วนรุนแรงมากยิ่งขึ้น บรรยากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นฟุ้งคาวเลือด ในสายตาของทุกคนเป็นเพียงความเงียบงัน…
และในเวลานี้เอง ท่ามกลางสายลมโหยหวนพลันมีเสียงผู้หญิงทั้งเย้ายวนและมีเสน่ห์แว่วดังมา
“เจ้าเด็กชุดดำ โจมตีเขาที่จุดอวิ๋นเหมิน จุดจงฝู่ จุดชี่ฮู่…”
สมองของซ่งจิ้งในเวลานี้เลือนลางแล้ว ทว่าก็ยังมีประคองสติสุดท้ายไว้ได้อย่างชัดเจน โกรธแค้นไม่ยอมที่จะตายไปแบบนี้
หลังจากเสียงนี้ดังผ่านเข้าหูมา จิตใต้สำนึกก็ได้ใช้พลังเฮือกสุดท้ายไม่ยอมหลีกหลบแต่กลับซัดเข้าจู่โจมสามจุดลมปราณที่คนผู้นั้นบอกด้วยความรวดเร็ว…
“อ้าก–” เสียงร้องเจ็บปวด
ทว่าไม่ได้เป็นเสียงที่มาจากซ่งจิ้ง แต่มาจากปากของยูจีนไอ้วิปริตคนนั้น
ยูจีนคล้ายกับได้รับความเจ็บปวดอย่างใหญ่หลวง กุมบริเวณหัวไหล่เซถอยหลังต่อเนื่องกันไปหลายก้าว ส่วนซ่งจิ้งก็หลบการโจมตีคร่าชีวิตครั้งนี้ไปได้แบบนี้นี่เอง
………………………………