บทที่ 449 ที่แท้ก็ฝีมือนายสร้างความวุ่นวาย
“อารมณ์ของคุณชายกง ผม…ผมจะไปกล้าได้ไง!” ผู้ช่วยบ่นอย่างขลาดกลัว
“ไร้ประโยชน์!” โจวเหวินปินโมโหจนเดินฟึดฟัดอยู่ในห้อง
ผู้ช่วยก้มหน้าคอตก ในใจแอบวิจารณ์ กล้าแต่ด่าฉันคนเดียว เก่งจริงก็ไปด่ากงซวี่ดูสิ?
ด้านในห้องนอน กงซวี่นอนอยู่บนโซฟา กำลังคุยสัพเพเหระกับเพื่อนในกลุ่มวีแชท
[กงซวี่: สหายทั้งหลาย อย่าลืมช่วยฉันแชร์ด้วยนะ! ฉันจะต้องตามหาเธอคนนั้นให้เจอให้ได้!]
[จ้าวหมิงเจ๋อ: แชร์แล้วพี่ซวี่!]
[อันอวี่เฟิง: เป็นสาวสวยขนาดไหนกันแน่ ถึงใช้ผลไม้เชื่อมกล่องเดียวตกวิญญาณของคุณชายกงของพวกเราไปได้!]
[กงซวี่: สวยเหมือนนางฟ้าเลย!]
[อันอวี่เฟิง: โม้เปล่า สวยกว่าเฉิงม่านนีอีกเหรอ]
[กงซวี่: คนละระดับเลย ผลไม้เชื่อมน้อยของฉัน ใบหน้าสวยบริสุทธิ์ซะฉันตกใจขวัญหนีดีฝ่อหมด!]
[โม่เฟย: ตกใจขวัญหนีดีฝ่อบ้าอะไร…ครูภาษาจีนสอนนายมายังไงวะ!]
[กงซวี่: ยังไงก็ความหมายนั้นแหละ ผลไม้เชื่อมน้อยของฉันไม่ใช่แค่หน้าตาสวย รอยยิ้มยังหวานกว่าผลไม้เชื่อมอีก! ฉันรู้สึกว่าครั้งนี้ใจสั่นจริงๆ! วินาทีที่เธอยิ้มให้ฉัน หัวใจฉันนี่เต้นรัวมาก!]
คนในกลุ่มวีแชทต่างหมดคำจะพูดกันเป็นแถว….
[ถังซิงหั่ว: เจ๋งอะกงซวี่! ฉันนึกว่านายจะเงียบหายไปเลยหลังจากโดนถล่มด่ายับ ที่ไหนได้กลับมายิ่งใหญ่ขนาดนี้เลย! คนในวงการคงมีแต่นายคนเดียวที่กล้าเล่นแบบนี้!]
[กงซวี่: โอ้ย ฉันก็ประหม่าจะตายไหมล่ะ ถ้าอยู่ในวงการไม่ได้ คงได้แต่กลับบ้านไปสืบทอดมรดกหมื่นล้านแล้วละ!]
[ถังซิงหั่ว: … ]
[โม่เฟย: … ]
[อังอวี่เฟิง: …พวกเรารุมเขาให้ตาย!]
ดารากลุ่มหนึ่งกำลังซุบซิบกันในกลุ่ม หานเซี่ยนอวี่ซึ่งไม่ตอบอยู่นานพิมพ์มาหนึ่งประโยคอย่างที่เห็นได้ยาก…
[หานเซี่ยนอวี่: ร้านขนมแคนดี้? อยู่ใต้คอนโดฉันนี่! ถึงว่าทำไมถึงมีคนมากันล้นหลามขนาดนี้! ที่แท้ก็เป็นฝีมือนายสร้างความวุ่นวาย!]
[กงซวี่: เฮ้ย พี่อวี่ๆๆ ร้านนั้นอยู่ใต้คอนโดพี่จริงเหรอ? งั้นพี่เคยเห็นผู้หญิงคนนั้นที่ผมพูดถึงหรือเปล่า?]
กงซวี่พิมพ์พลางส่งภาพเหมือนที่ตัวเองวาดไปให้ แล้วยังส่งข้อความเสียงพูดกับหานเซี่ยนอวี่ ‘สวยมากเหมือนนางฟ้า! พี่อยู่ละแวกนั้น ต้องพอจะจำเธอได้แน่!’
หานเซี่ยนอวี่กระตุกยิ้มมุมปากดูภาพเหมือนฝีมือการวาดระดับอนุบาลนั่น จากนั้นส่งข้อความเสียงกลับไป ‘ขอโทษที ไม่เคยเห็น’
……
เวลานี้เอง มีเสียงเคาะประตูรัวๆ ดังขึ้น ขัดจังหวะการคุยติดลมของกงซวี่
“เฮ้ กงซวี่ยุ่งอยู่ไหม?” โจวเหวินปินถามด้วยสีหน้าเกรงใจอยู่บ้าง แตกต่างกับท่าทางตอนอยู่ต่อหน้าผู้ช่วยราวกับเป็นคนละคน
“ทำไม มีธุระเหรอ?” ยังตามหาผลไม้เชื่อมน้อยของตัวเองไม่เจอ กงซวี่จึงอารมณ์ไม่ค่อยดี
“นี่ กงซวี่ ถ้านายอยากกินขนมหวาน ก็ให้ผู้ช่วยไปซื้อให้ได้นี่ ทำไมต้องเสี่ยงไปด้วยตัวเอง ถ้าเจอคนมีเจตนารู้ตัวตนของนาย แล้วตั้งใจใช้แผนเข้ามาตีสนิท…” โจวเหวินปินกล่าวเตือนโดยใช้สิ่งล่อใจเป็นลำดับ
กงซวี่กลอกตาใส่ไปทีหนึ่ง “ถ้าผลไม้เชื่อมน้อยมีเจตนาอยากใกล้ชิดฉัน ฉันฝันไปก็ยังตื่นขึ้นมาได้!”
โจวเหวินปินถูกสวน พูดไม่ออกทันที
“เฮอะๆๆ นี่ยังไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ก็กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นหน้าหนึ่งแล้ว แสดงให้เห็นว่าบุคลิกของนายเป็นที่ชื่นชอบมาก! เพียงแต่ข่าวอื้อฉาวแบบนี้ หากมีมากเกินไปจะไม่ค่อยดีต่อคะแนนนิยมของนายเองนะ ยังไงนายก็เพิ่งเลิกกับเฉิงม่านนี ลำพังแค่แฟนคลับของเธอก็อธิบายด้วยยากแล้ว…”
โจวเหวินปินยกยอเป็นชุด ก่อนจะพูดจุดประสงค์ที่แท้จริงของตัวเอง “ดังนั้น นายคิดว่านายจะลบโพสต์เวยป๋อนี้ไหม?”
………………………………………………………..
บทที่ 450 รักษาโรคช้าเหมือนสาวไหม
แววตาของกงซวี่เย็นเยียบโดยพลัน “ฉันทำอะไรต้องให้นายมาสั่งการตั้งแต่เมื่อไร?”
โจวเหวินปินได้ยินก็พลันหน้าซีดตัวแข็งทื่อ ทว่าไม่กล้าล่วงเกินคุณชายใหญ่คนนี้ อีกอย่างคราวนี้ตนมีเรื่องต้องให้เขาช่วย จึงทำได้เพียงปล่อยเรื่องนี้ไป
“อ้อใช่ กงซวี่ ช่วงนี้ในบริษัทมีข่าวเรื่องของผู้จัดการคนใหม่นั่น นายได้ยินข่าวบ้างไหม?” โจวเหวินปินทำเหมือนถามลอยๆ
กงซวี่หรี่ตาหลง “ผู้จัดการคนที่เอาฉันไปเทียบกับอดีตดาราคนนั้นน่ะเหรอ”
โจวเหวินปินเห็นเขาเผยสีหน้าไม่พอใจ นัยน์ตามีประกายวาบไหว “ไม่ผิด เจ้าคนนั้นแหละ ทำตัวกร่างเบ่งกล้าม เห็นว่ามีประธานฉู่ถือหาง! ตอนนั้นฉันบอกเขาให้เอาหลินเฮ่าไปแทนลั่วเฉิน เขากลับพูดจาโอหัง บอกว่าเว้นแต่ฉันจะเอานายไปแลกแทน! ช่วงนี้ลั่วเฉินคนของเขาคือผู้เข้าชิงมาแรงของบทพระรองเรื่อง ‘มังกรผงาด2’ กระแสกำลังมาเลย!”
“ชิ เรื่องเล็กแค่นี้คุ้มให้นายเก็บมาใส่ใจด้วยเหรอ” กงซวี่พาดสองขายาวบนโต๊ะน้ำชา ใบหน้าเปี่ยมด้วยความไม่พอใจ เอ่ยไปตรงๆ “สบายใจได้ เด็กคนนั้น ฉันใช้นิ้วมือเดียวก็ขยี้เขาให้ตายได้แล้ว!”
โจวเหวินปินเห็นกงซวี่ถูกยั่วจนโมโหสำเร็จ มุมปากก็หยักยิ้มได้ใจ
ในเมื่อกงซวี่เอ่ยปากเอง เช่นนั้นก็ไม่มีทางปล่อยให้เยี่ยไป๋มีชีวิตที่ดีแน่!
เฮอะ เป็นแค่ผู้จัดการหน้าใหม่ตัวเล็กๆ คนเดียวเท่านั้น ก็กล้ามางัดข้อกับเขา!
……
จิ่นหยวน
“ฉันกลับมาแล้ว! พ่อบ้านสวี่ อาการนายท่านของนายวันนี้เป็นไงบ้าง ดีขึ้นบ้างไหม?”
เยี่ยหวันหวั่นในเวลานี้ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในโลกอินเทอร์เน็ตเลย ถือถุงขนมเดินเข้าไป พลันเอ่ยถามอาการของซือเยี่ยหานเป็นสิ่งแรก
สวี่อี้เห็นเยี่ยหวันหวั่นกลับมาก็เหมือนเห็นที่พึ่งในชีวิต รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก รีบตอบไปว่า “อาการของนายท่านวันนี้…ทรงๆ อยู่ครับ เมื่อเช้าตอนลุกจากเก้าอี้มีวิงเวียนเล็กน้อย กลางวันทานยาเสร็จไปไม่นานก็อาเจียน จากนั้นก็ทานใหม่อีกครั้ง ช่วงบ่ายที่คุณกำชับให้ทานยังดีหน่อย ไม่ได้อาเจียนอีก…”
สวี่อี้พูดไป ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยสีหน้าเครียดเล็กน้อย “ส่วนเรื่องอื่น วันนี้คุณหญิงใหญ่เชิญหมอตะวันตกท่านหนึ่งมาตรวจอาการให้คุณชายเก้าครับ…”
“ผลเป็นไงบ้าง?” แม้จะรู้ผลอยู่แล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็ยังถามอย่างร้อนใจ
สวี่อี้ถอนหายใจพร้อมส่ายหน้า “ผลเหมือนกับคุณหมอซุน บอกว่า…นานที่สุด…ก็มีอายุอยู่ได้ครึ่งปีเหมือนกัน…”
สีหน้าเยี่ยหวันหวั่นเคร่งเล็กน้อย ก่อนสูดหายใจลึกเอ่ยไปว่า “อย่าใจร้อน โรคภัยมาเร็วเหมือนภูเขาถล่ม แต่รักษาโรคช้าเหมือนสาวไหม นี่เพิ่งจะไม่กี่วันเอง ค่อยเป็นค่อยไปเถอะ! หมอซุนก็เคยบอกว่าการดูแลรักษาเป็นกระบวนการระยะยาว ใจร้อนไปก็เท่านั้น”
สวี่อี้พยักหน้า ก่อนจะบอกด้วยสีหน้าจริงจัง “คุณหนูหวันหวั่น ไม่ปิดบังคุณนะครับ ตอนนี้ยังมีเรื่องลอบสังหาร…”
“เรื่องอะไร?”
“ข่าวคุณชายเก้าล้มป่วยหนักไม่รู้ว่ารั่วไปได้ยังไง ตอนนี้ในกรุ๊ปมีความเคลื่อนไหวผิดปกติ คุณหญิงใหญ่เป็นห่วงสุขภาพของคุณชายเก้า ไม่ยอมให้เขาเข้าไปแทรกแซงตรวจสอบเรื่องหนอนบ่อนไส้ด้วยตัวเอง” เรื่องนี้สวี่อี้บอกเยี่ยหวันหวั่นอย่างไม่ปิดบัง
สีหน้าเยี่ยหวันหวั่นเยียบเย็น คิดถึงเรื่องในชาติก่อนขึ้นมา
ตอนนั้นก็เหมือนว่าคุณหญิงใหญ่เป็นคนไปสืบหาเรื่องหนอนบ่อนไส้เอง ผลคือตอนที่เงื่อนงำทั้งหมดใกล้จะเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน คุณหญิงย่าก็มาด่วนจากไป เบาะแสทุกอย่างจึงขาดกลางคัน
ครั้งนั้นทางตระกูลซือแจ้งว่าคุณหญิงย่าป่วยหนักเสียชีวิต แต่อะไรจะบังเอิญขนาดนี้ เป็นคืนก่อนที่คุณหญิงย่าจะจัดการหนอนบ่อนไส้พอดี การเสียชีวิตของท่านต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับคนที่บงการอยู่เบื้องหลังแน่ๆ…
เมื่อมั่นใจว่าสุขภาพของซือเยี่ยหานแย่ลงเรื่อยๆ คนเหล่านั้นก็ยิ่งไม่เกรงกลัว…
………………………………………………………..