แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี – บทที่ 213 ยิ่งทียิ่งมีแนวโน้มที่จะเป็นผู้นำที่ไม่มีความชอบธรรม / บทที่ 214 ตัวเองไปโอ๋เอง

บทที่ 213 ยิ่งทียิ่งมีแนวโน้มที่จะเป็นผู้นำที่ไม่มีความชอบธรรม / บทที่ 214 ตัวเองไปโอ๋เอง

บทที่ 213 ยิ่งทียิ่งมีแนวโน้มที่จะเป็นผู้นำที่ไม่มีความชอบธรรม

สวี่อี้มองดูนายของเขาที่เรียกตัวเองว่าสายตาสูงมาก แล้วมองเยี่ยหวั่นหวันข้างๆ ที่ดูโง่ทึ่ม ก็เงียบพูดไม่ออก

เวลานี้เขาเข้าใจจิตใจของหลิวอิ่งที่ได้ยินนายท่านบอกว่ามาตรฐานการเลือกแฟนของเขาคือ ‘หนึ่งเดียวในโลก’ นั้นแล้ว

“ยังมีอะไรจะถามอีกไหม?” ซือเยี่ยหานถาม

เยี่ยหวั่นหวันส่ายหน้า “ไม่มีแล้วค่ะ… แค่… ขอบคุณที่คุณเอาเสื้อผ้ามาให้ฉัน… แล้วยังมีถุงมืออีก… ด้านบนปักเสือตัวน้อยน่ารักมากเลย… คุณเลือกหรือคะ?”

ซือเยี่ยหาน “สวี่อี้เป็นคนเตรียม”

สวี่อี้เอือมอะรา

นายท่านกรุณาสัมผัสจิตใจที่ดีงามของตัวเองแล้วพูดอีกครั้ง!

ที่จริงแล้วผมเป็นคนเตรียม แต่ผมเตรียมไว้หนึ่งร้อยคู่เต็มๆ คุณถึงค่อยเลือกหนึ่งคู่ที่พอใจในนั้นเถอะ!

“อ้อ…” เยี่ยหวั่นหวันพยักหน้า จากนั้นถามต่ออีกประโยค “ต้าไปยังอยู่บ้านเปล่าคะ?”

“อยู่บ้าน” ซือเยี่ยหานพูด

สวี่อี้ได้ยินประโยคนี้ ก็อึ้งไปทันที

อยู่บ้านที่ไหน เขายังหาสลอเดอร์ไม่เจอด้วยซ้ำ!

เยี่ยหวั่นหวันสบายใจขึ้นมาแล้ว “จะเข้าเรียนแล้ว ฉันกลับไปก่อนนะคะ คุณระวังตัวด้วย!”

หลังเยี่ยหวั่นหวันเดินไปแล้ว สวี่อี้ก็รีบมองไปที่ซือเยี่ยหาน “นายท่านสลอเดอร์…”

“นายยังมีเวลาอีกหนึ่งวัน” ซือเยี่ยหานตัดบทประโยคหลังเขาเลย

สวี่อี้สำลักทันที ในใจร้องไห้ดั่งสายฝน “กระผมจะต้องหาสลอเดอร์ให้เจอก่อนที่คุณหนูเยี่ยจะกลับมาในวันพรุ่งนี้ครับ”

มิน่าอยู่ดีๆ ก็เรียกให้เขาไปตามหาสลอเดอร์กลับมา ที่แท้เพราะอยากจะโอ๋เอาใจคนสวยนี่เอง!

ถึงแม้ไม่อยากจะยอมรับ แต่นายท่านยิ่งทียิ่งมีแนวโน้มที่จะเป็นผู้นำที่ไม่มีความชอบธรรมแล้ว ฮือๆๆ …

………

วันรุ่งขึ้นหลังเลิกเรียน

เยี่ยหวั่นหวันเก็บประเป๋าเรียบร้อย บอกลาเจียงเยียนหราน

“เธออยู่คนเดียวได้ไหม? ไม่อย่างนั้นฉันสมัครให้เธอไปอยู่หออื่นอาทิตย์หน้า” เยี่ยหวั่นหวันเสนอแนะ

เจียงเยียนหรานส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอก จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยอยู่แล้ว ฉันอยู่คนเดียวจะได้มีสมาธิทบทวน!”

ถึงแม้ชิงเหอจะเป็นโรงเรียนเอกชนแสนแพงที่คุณภาพการเรียนนั้นดีที่สุด แต่ก็ยังไม่สามารถไปเทียบกับโรงเรียนม.ปลายธรรมดายังไม่ได้เลย เพราะนักเรียนไม่น้อยหลังสอบเข้ามหาวิทยาลัยเสร็จก็ไปเรียนเมืองนอกต่อเลย ไม่สนใจผลการสอบเข้ามาหวิทยาลัยเลยสักนิด ในหอพักหญิงวันๆ ก็คุยกันแต่เรื่องของแบรนด์เนมและเครื่องสำอาง

เจียงเยียนหรานเป็นลูกสาวคนเดียวในบ้าน พ่อแม่ไม่ยอมปล่อยให้เธอจากบ้านไปไกล เธอเตรียมจะสอบเข้าโรงเรียนบ้านเกิด

เดิมทีเธอยังไม่ได้คิดดีว่าจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ไหน แต่ช่วงนี้สนิทกับเยี่ยหวั่นหวันขึ้นมา เธอตัดสินใจสอบเข้าสถาบันภาพยนตร์สาขาการแสดงของมหาวิทยาลัยเมืองหลวง

อนาคตที่รอคอยอย่างมากก็ได้มาอยู่ร่วมกับเธอแล้ว

เพราะตั้งแต่เด็กได้รับการฝึกฝนจากพ่อแม่ เอกสาขาการแสดงนั้นเธอไม่กังวลใจ เพียงแต่วิชาวัฒนธรรมดูท่าเธอจะต้องสู้อีกรอบ

เธอได้ยินมาว่าเยี่ยหวั่นหวันต้องการเรียนเอกสื่อสารมวลชนคณะนิเทศศาสตร์ของมหาวิทาลัยเมืองหลวง

มหาวิทยาลัยภาพยนตร์และมหาวิทยาลัยการสื่อสารมวลชนเป็นหนึ่งในไม่กี่มหาวิทยาลัยแนวหน้าด้านสื่อภาพยนตร์และโทรทัศน์ของเมืองจีนเลย

และอย่างที่ทุกคนรู้กัน ระดับคะแนนของสาขาที่ไม่ใช่ศิลปะของมหาวิทยาลัยการสื่อสารมวลชนนั้นสูงจนน่ากลัว ไม่ต่างจากมหาวิทยาลัยเมืองหลวงเลย เยี่ยหวั่นหวันเป็นคนหนึ่งที่อยากจะสอบเข้าสาขาวิชาสื่อสารมวลชน

ตอนนี้ถึงแม้ว่าคะแนนสอบของเยี่ยหวั่นหวันจะไม่แย่ แต่วิชาเลขเธอเป็นตัวดึงคะแนนลงมาก อยากจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยการสื่อสารมวลชน เกรงว่าจะเฉียดฉิวพอดี…

“หวั่นหวัน เธอจะถือโอกาสตอนนี้กลับบ้าน มาเรียนวิชาเลขเสริมไหม? วิชาเลขเธอนี่เป็นปัญหาใหญ่จริงๆ!” เจียงเยียนหรานถามด้วยความกังวล

เยี่ยหวั่นหวันได้ยิน ก็โบกมือตอบทันที “วางใจได้ๆ ลงชื่อไว้นานแล้ว! อาจารย์ที่สอนพิเศษวิชาเลขให้ฉันเก่งมากเลย!”

………………………………………………………………….

บทที่ 214 ตัวเองไปโอ๋เอง

ด้านล่าง สวี่อี้เพิ่งเดินเข้ามา เตรียมจะยกกระเป๋าเดินทางให้เยี่ยหวั่นหวัน ก็ได้ยินบทสนทนาของเยี่ยหวั่นหวันและหญิงสาวอีกคนหนึ่ง เลยอดอึ้งไปไม่ได้

เยี่ยหวั่นหวันลงเรียนพิเศษหรือ? ทำไมเขาไม่รู้เรื่อง?

เพราะทุกเรื่องของเยี่ยหวั่นหวันเขาเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด

หรือว่านายท่านช่วยเยี่ยหวั่นหวันลงทะเบียนให้?

เจียงเยียนหรานได้ยินก็เบาใจลง “อาจารย์เลขที่ทำให้เธอสามารถพูดได้ว่าเก่งมากนั้น ต้องเก่งมากจริงๆ แน่ๆ เลย!”

“อืมอืม วางใจได้ เธอก็สู้ๆ นะ! งั้นฉันไปแล้ว! อย่าลืมคิดถึงฉันนะ!” เยี่ยหวั่นหวันเดินเข้าไปกอดเธอ

เจียงเยียนหรานหน้าแดงเล็กน้อย จ้องเธออย่างตำหนิ “รีบไปได้แล้ว เจอกันวันจันทร์นะ?”

หลังจากเยี่ยหวั่นหวันไม่แต่งหน้าแล้ว ใบหน้านี้ช่างเปล่งสว่าง แม้แต่เธอที่เป็นผู้หญิงยังทนไม่ไหวเลย อย่าว่าแต่ผู้ชายเลย

โชคดีที่เมื่อวานแฟนเยี่ยหวั่นหวันมาที่โรงเรียน ตัดความคิดคนพวกนั้นไปได้บ้าง

เจียงเยียนหรานมองไปทางสวี่อี้ อดถอนหายใจเบาๆ ออกมาไม่ได้ “คิดไม่ถึงเลยว่าแฟนเธอจะเป็นอาของซือเซี่ย ทุกคนต่างลือกันว่าตระกูลเขาใหญ่มาก กระทั่งยังมีคนบอกว่าเขาจะเป็นซือเยี่ยหานนายท่านที่ลึกลับของตระกูลซือหรือเปล่า ออร่าเขาเข้มข้นมาก แค่เห็นก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนธรรมดา…”

“แค่กๆๆ…” เยี่ยหวั่นหวันได้ยินก็สำลักติดต่อกัน พูดปฏิเสธออกไป “เป็นไปได้ยังไง! ความคิดช่างห่างจากความจริงเหลือเกิน! ถ้าซือเยี่ยหานเป็นแฟนฉัน! ประธานาธิบดีประเทศ M ก็เป็นพ่อฉันแล้ว!”

สวี่อี้ที่ยืนข้างๆ พูดไม่ออก

เจียงเยียนหรานหลุดหัวเราะออกมา “ฉันก็คิดว่าเป็นไปไม่ได้ คนในข่าวลือ จะเห็นได้ง่ายได้ยังไง ทุกคนก็แค่เดากันไปเองเท่านั้น อีกอย่างว่ากันว่าซือเยี่ยหานหน้าตาน่ากลัวดุร้ายมาก เป็นไปได้ยังไงที่จะหล่อขนาดนี้ อ่อนโยนขนาดนี้!”

อีกอย่างลูกหลานตระกูลซือทุกคนต่างเป็นนักเรียนโรงเรียนเฉพาะทางระดับประเทศ หรือไม่ก็ค่ายฝึกอบรมระดับประเทศ ได้รับการอบรมสั่งสอนโดยเฉพาะทางมาตั้งแต่เด็ก จะมาปรากฏตัวอยู่ในโรงเรียนเอกชนที่แสนแพงนี้ได้ยังไง

ถึงแม้อาจจะมีส่วนเกี่ยวจ้องกับตระกูลซือ แต่คิดว่าน่าจะเป็นญาติที่ห่างกันหลายขั้นอยู่!

แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ แค่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลซือแล้ว ก็สามารถทำให้คนทั่วไปนับถือได้เหมือนกัน

อ่อนโยน?

เยี่ยหวั่นหวันยิ้มแห้ง “ใช่แล้วๆ! แฟนฉันอ่อนโยนมากๆ …”

หลังบอกลาเจียงเยียนหรานแล้ว เยี่ยหวั่นหวันก็ออกมากับสวี่อี้

ก่อนออกไป สวี่อี้มองไปทางเจียงเยียนหรานอย่างพินิจพิเคราะห์

ผู้หญิงคนนี้เป็นรูมเมทเยี่ยหวั่นหวัน?

ไม่ง่ายเลยกว่าจะมีคนเพิ่งไป นี่จะมาอีกคนแล้ว

แต่ตอนนี้จากที่เขาไปตรวจสอบตระกูลมา เทียบกับตอนที่เจอตอนแรก ผู้หญิงคนนี้ถือว่าใช้ได้ หวังว่าจะไม่เปลี่ยนไปเป็นเฉินเมิ่งฉีอีกคน…

รถมาถึงจิ่นหยวนอย่างรวดเร็ว

เยี่ยหวั่นหวันอยู่ไกล ทนไม่ไหวพิงไปกับหน้าต่างมองสำรวจด้านนอก

ในที่สุด เธอเห็นเงาเสือขาวส่งเสียงคำรามนั่งด้วยตวามระมัดระวังอยู่หน้าประตูใหญ่

สิ่งที่ยิ่งทำให้เธอประหลาดใจคือ คอของเสือขาวผูกโบว์สีชมพูอยู่ด้วย ทั้งหล่อทั้งน่ารักมากเลย จะละลายอยู่แล้ว

“ว้าว! ต้าไป๋ๆๆ —“ เยี่ยหวั่นหวันพุ่งลงจากรถ วิ่งโผไปหาเสือขาวด้วยความตื่นเต้น

จากนั้น เธอก็โดนคำรามใส่อย่างที่คิด

แต่เยี่ยหวั่นหวันไม่สนใจที่โดนคำรามใส่เลย เดินไปรอบๆ มัน ชอบไม่ไหวแล้ว

เห็นได้ชัดว่าต้าไป๋รำคาญ ดูท่าทางแล้วอดไม่ได้อยากจะสะบัดหางให้เธอตาย ทำอะไรไม่ถูก ใครให้เขาเจอเจ้านายที่ไม่เห็นใจคนนี่

นิสัยไม่ดีจริงๆ จะโอ๋หญิงสาวทำไมตัวเองไม่โอ๋เองล่ะ มาทรมานสัตว์!

……………………………………………………………….

Options

not work with dark mode
Reset