บทที่ 581 ต้าไป๋แค่ขนดกเอง
กับคนที่กล่อมจอมปีศาจได้ที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ ซือเยี่ยหานพ่ายแพ้อีกครั้งอย่างไม่ต้องสงสัย
ชายหนุ่มเหลือบมองทางหญิงสาวที่ดูเชยไปทั้งตัวแล้วพูดขึ้นมา “วันนี้เล่นพอหรือยัง”
“พอค่ะ พอแล้ว! วันนี้ได้ขยับกล้ามเนื้อและกระดูกเต็มที่จริงๆ รอฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนแล้วพวกเราไปเดินเล่นกัน ฉันจะพาคุณไปกินของอร่อย!” เยี่ยหวันหวั่นรีบเปลี่ยนเรื่องพูด จากนั้นวิ่งหายเข้าไปในห้องเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว
เกือบไปแล้วๆ!
เรื่องไปเจอพ่อแม่เธอ เดี๋ยวตอนไปเดทค่อยหาโอกาสคุยกับซือเยี่ยหานก็ได้…
ซือเยี่ยหานมองด้านหลังของหญิงสาวที่เดินออกไปอย่างร่าเริง แววตาลึกล้ำดั่งทะเลลึกใต้แสงจันทร์ สงบนิ่งเยือกเย็นเล็กน้อย แต่กลับมีคลื่นใต้น้ำกระเพื่อมอยู่…
ระหว่างที่เยี่ยหวันหวั่นเปลี่ยนเสื้อผ้า ซือเยี่ยหานมารออยู่ด้านล่าง ยังมีเสือขาวรออยู่ด้วยเหมือนกัน
หลายวันนี้ส่วนใหญ่สลอเทอร์จะอยู่ที่จิ่นหยวน เยี่ยหวันหวั่นเลี้ยงเสียจนอิ่มหมีพีมัน ตัวอ้วนแข็งแรง…
ไม่นานนัก เยี่ยหวันหวั่นวิ่งเสียงดัง ‘ตึงๆๆ’ ลงจากบันไดมา เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว
หญิงสาวสวมชุดเดรสปาดไหล่ลายดอกสีชมพูอ่อน ด้านนอกสวมเสื้อไหมพรมสีน้ำเงินอมเทาโทนเดียวกับซือเยี่ยหาน เผยให้เห็นกระดูกไหปลาร้าที่ขาวเนียนและน่องขาเรียวยาว รองเท้าส้นเข็มสีขาวดีไซน์มีเอกลักษณ์ ส้นรองเท้าเหมือนกิ่งก้านที่ปกคลุมไปด้วยดอกไม้ พันรอบข้อเท้าที่เรียวเล็กของหญิงสาว ผมยาวสีดำขลับราวเปื้อนน้ำหมึกที่เป็นลอนธรรมชาติสยายอยู่บนบ่า ส่ายไหวเบาๆ ตามจังหวะการวิ่ง…
ดวงตาหญิงสาวเป็นประกายวิบวับ วิ่งเหยาะๆ อย่างสดใสมาถึงตรงหน้าชายหนุ่ม เหมือนมีแสงอาทิตย์จ้ากระแทกเข้ามาในหน้าอกเขา ทำให้ความหนาวเย็นที่ไม่เปลี่ยนแปลงมาหลายปีหลอมละลาย…
“ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วค่ะ ออกเดินทางได้!”
เยี่ยหวันหวั่นเพิ่งพูดจบ ก็เห็นเสือขาวตัวใหญ่ที่นอนหมอบอยู่บนพรมถักทอจากขนหงส์เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและมองมาทางเธอ
สายตานั้นราวกับเตือนเธอบางอย่าง
เยี่ยหวันหวั่นรีบตบศีรษะ “เดี๋ยวก่อน ฉันยังไม่ได้ให้อาหารต้าไป๋เลย!”
ก่อนหน้านี้เธอแอบขโมยอาหารเอามาเลี้ยงต้าไป๋เงียบๆ ตอนนี้ใจกล้าขึ้นมาแล้ว พอเห็นซือเยี่ยหานไม่สนใจเลยให้อาหารอย่างเปิดเผย
หลังจากนั้นสักพัก ซือเยี่ยหานถามขึ้น “มันอ้วนขึ้นหรือเปล่า?”
มือเล็กของเยี่ยหวันหวั่นที่กำลังวิ่งถือเนื้อชิ้นใหญ่เข้ามาอย่างร่าเริงหยุดชะงักลง จากนั้นพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “พูดเหลวไหล ที่ไหนกัน ไม่อ้วนเลยสักนิดนะ? ต้าไป๋มัน…มันแค่ขนดกเท่านั้นเอง!”
ขนดก…
มุมปากซือเยี่ยหานหยักขึ้นอย่างที่ยากจะสังเกตเห็น
เยี่ยหวันหวั่นพอใจกับการปลอบใจตัวเองแบบนี้มาก ให้อาหารต่ออย่างมีความสุข
ต้าไป๋ที่ขนดกนอนขี้เกียจอยู่ตรงนั้น กินเนื้อชิ้นใหญ่อย่างสบายอารมณ์ ส่ายหางเล็กน้อย ตอนโดนเยี่ยหวันหวั่นดึงขนไปหนึ่งกำมือก็ไม่ได้ชักสีหน้าอะไร
หึ สัตว์เลี้ยงเหมือนเจ้าของจริงๆ…
ความจริงแล้ว ต้าไป๋ก็แค่โอหังนิดหน่อย อันที่จริงไม่มีอะไรน่ากลัวเลย…
ให้อาหารต้าไป๋เสร็จ เยี่ยหวันหวั่นกับซือเยี่ยหานก็เดินไปข้างนอก
นอกประตู บอดี้การ์ดลับกลุ่มหนึ่งกำลังจะออกไปดื่ม บังเอิญเจอเยี่ยหวันหวั่นกับซือเยี่ยหานออกมาจากในสวน พวกเขาตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ รีบไปเบียดเสียดซ่อนตัวอยู่หลังพุ่มไม้ด้วยความเร็วดุจสายฟ้าฟาดในฉับพลัน
“รีบซ่อนเร็วเข้าๆ! อย่าให้เท้าโผล่ออกมา!”
พูดกันดิบดีว่าจะไปซ้อมต่อสู้…
ทุกคนเห็นแค่ว่าหญิงสาวที่ไม่นานก่อนนี้โหดร้ายไม่มีใครเทียมอยู่บนสังเวียน เวลานี้สวมชุดกระโปรงสีชมพูอ่อนกับรองเท้าส้นสูง กำลังคล้องแขนเจ้านายของพวกเขา ท่าทางผอมบางน่ารักน่าชัง…
………………………………………………………………
บทที่ 582 สิบนิ้วประสานกัน
“คุณเก้า ฉันเจ็บข้อมือจัง เหมือนเคล็ดนิดหนึ่งเลย…”
เยี่ยหวันหวั่นพูดด้วยน้ำเสียงร้องทุกข์
ถึงแม้ว่าช่วงนี้ฝึกฝนจนมีกำลังแล้ว ความยืดหยุ่นของร่างกายดีกว่าเมื่อก่อนเยอะ ออกกำลังกายหนักหน่วงร่างกายก็ไม่ปวดเมื่อย แต่ร่างกายก็ยังเมื่อยล้าอยู่ ไม่อาจทำตามใจต้องการ ทุกครั้งที่ต่อสู้จะรู้สึกสดชื่นแจ่มใสไม่พอ
เธอมักจะรู้สึกว่า…ที่จริงแล้วเธอเต็มที่ได้มากกว่านี้…
ทุกคนที่หลบซ่อนอยู่เห็นภาพนี้แล้วอดตัวสั่นขึ้นมาไม่ได้
เยี่ยหวันหวั่นร่างบอบบางแบบนี้ เทียบกับตอนที่เธอโหดดุแล้วดูสยองมากกว่าอีก
พวกเขายังเป็นห่วงด้วยซ้ำว่าคุณชายเก้าที่ป่วยจะทนไม่ไหว เป็นการกังวลเรื่องที่แก้ไขอะไรไม่ได้จริงๆ
คนเขาอยู่ต่อหน้าคุณชายเก้าดูเชื่องเหมือนแมวตัวน้อยขนาดนี้…
………
ตอนนี้เป็นเวลาค่ำพอดี บนถนนที่ให้ความรู้สึกย้อนยุคสายหนึ่ง มีเสียงเรียกจากร้านค้าคึกคักทั้งสองฝั่ง ผู้คนเดินขวักไขว่ไปมา
ถึงแม้ถนนเส้นนี้จะอยู่ห่างไกล แต่ไม่กระทบกับการค้าขายของพวกเขาเลยสักนิด กระทั่งนักท่องเที่ยวต่างชาติยังเดินปะปนอยู่ด้วยไม่น้อย
เยี่ยหวันหวั่นจูงซือเยี่ยหานแล้วพูดแนะนำ “ถนนของกินอร่อยนี่ราคาถูกมาก ที่สำคัญแทบจะรวมของกินเล่นต่างๆ ของทั้งประเทศมาไว้เลย เมื่อก่อนฉัน พ่อแม่ฉันกับพี่ชายก็มาที่นี่บ่อยๆ! เฮ้อ ตอนนั้นของกินอร่อยๆ บนถนนเส้นนี้ทำให้ฉันได้ไขมันมาไม่น้อยเลย แม้แต่พี่ชายฉันยังอ้วนขึ้นห้าโลเพราะกินเป็นเพื่อนฉัน…”
ด้านข้าง ซือเยี่ยหานตั้งใจฟังหญิงสาวพูด มองดูสีหน้านั้น…เห็นได้ชัดว่าจอมมารที่ไม่ได้กินของธรรมดาอย่างคนปกติไม่รู้เลยว่าในเมืองมีที่แบบนี้ด้วย…
ยังไงซะแม้กระทั่งสายไหมผู้ชายคนนี้ก็ยังไม่รู้จักเลย…
“เถ้าแก่! เอาถังหูลู่อันหนึ่ง! ฉันเอาอันนั้น… ใช่ค่ะ อันใหญ่เลย!”
“ได้เลย หนูถือดีๆ ล่ะ!”
“ขอบคุณค่ะเถ้าแก่!”
เยี่ยหวันหวั่นถือถังหูลู่ที่เป็นมันวาวอย่างเบิกบานใจ ถามจอมปีศาจที่ไม่กินอาหารมนุษย์ว่า “คุณรู้ไหมว่านี่อะไร”
ซือเยี่ยหานเหลือบมองเยี่ยหวันหวั่นด้วยสีหน้าสื่อว่า ‘เธอคิดว่าฉันพิการทางสมองเหรอ’
เยี่ยหวันหวั่นรีบถามอีก “แล้วคุณเคยกินไหม”
ซือเยี่ยหานนิ่งเฉย
เอาละ เธอรู้แล้ว!
เยี่ยหวันหวั่นยื่นถังหูลู่ไปที่ปากซือเยี่ยหาน “รีบกัดชิมดูเร็ว อร่อยนะคะ!”
ซือเยี่ยหานมองของสีแดงเป็นประกายระยิบระยับคล้ายพลาสติกตรงหน้า ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะเบี่ยงปากหนี เหมือนรังเกียจอยู่บ้าง
“ไม่กินเหรอ แล้วคุณชอบกินอะไรคะ พวกเราไปซื้อกัน” เห็นซือเยี่ยหานไม่อยากกิน เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่ฝืนใจ ตัวเองกัดไปครึ่งคำอย่างมีความสุข แก้มพองออก ท่าทางที่เคี้ยวตุ่ยๆ ดูชำนาญมาก ไม่ต่างจากกระรอกน้อย
“ตรงนั้นเหมือนจะมี…” เยี่ยหวันหวั่นกำลังจะพูด จู่ๆ ชายหนุ่มที่อยู่ด้านข้างก็โน้มตัวมาทางเธอ ก้มลงมาแล้วกัดถังหูลู่ครึ่งลูกอีกฝั่งไป
เยี่ยหวันหวั่นกะพริบตาปริบๆ “ไม่กินไม่ใช่เหรอคะ…”
ซือเยี่ยหานเคี้ยวหน้านิ่ง รสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ กระจายอยู่ในปาก เหมือนจะไม่ได้รสชาติแย่จนรับไม่ได้อย่างที่เขาคิดไว้…
“ฮิๆ อร่อยใช่ไหม ไป! ฉันจะพาคุณไปกินของอร่อยกว่านี้อีก” เยี่ยหวันหวั่นวิ่งตรงไปข้างหน้าอย่างคึกคัก
เพราะคนเบียดเสียดกันมาก ไม่ทันไรหญิงสาวก็โดนเบียดไปข้างหน้า
ซือเยี่ยหานขมวดคิ้วเล็กน้อย ก้าวเท้ายาวไปไม่กี่ก้าว เดินตามไป สีหน้าไม่ค่อยดีนัก บอกว่า “อย่าเดินซี้ซั้ว”
“อ้อ… งั้นแบบนี้ก็ได้” เยี่ยหวันหวั่นจูงมือใหญ่ของชายหนุ่ม สิบนิ้วค่อยๆ ประสานกัน
ซือเยี่ยหานหลุบตาลงมองมือของสองคนที่จับจูงกัน “อืม”
………………………………………………….