แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี – ตอนที่ 159 รักเดียวใจเดียว? / บทที่ 160 บิดเบือนความจริง

บทที่ 159 รักเดียวใจเดียว?

 

 

การมาถึงของคุณแม่ซ่งกะทันหันเกินไป เจียงเยียนหรานไม่ทันได้ตั้งตัว จึงถูกตบฉาดใหญ่เข้าจังๆ

 

 

เดิมทีห้องประชุมใหญ่ทีเต็มไปด้วยเสียงโหวกเหวก พลันเงียบสงัด

 

 

คุณแม่ซ่งชี้หน้าเจียงเยียนหรานเริ่มต่อว่าอย่างหยาบคาย “ยัยสารเลวอกตัญญู เป็นขยะของตระกูล! ตอนนั้นอยากจะหมั้นหมายกับจื่อหางของเราตาเป็นมัน ตอนนี้มีอำนาจอยู่ในมือแล้วก็เลยถีบคนอื่นหัวส่ง ฉีกหมั้นหมายการแต่งงานไปเกาะกิ่งไม้ที่สูงกว่า คิดว่าตระกูลซ่งของเรารังแกง่ายนักหรือไง?

 

 

เธอพูดมาสิว่า ลับหลังจื่อหางของพวกเรา เธออ่อยไอ้หน้าขาวคนไหน? คนสกุลฉู่คนนั้นใช่ไหม? เจียงไห่เฉาสอนลูกสาวมาดีจริงๆ! มีหมั้นหมายอยู่กับตัวแล้วยังจะแรดไปทั่ว ได้ที่มีเงินแล้วก็เลยถีบจื่อหางของพวกเราหัวส่ง แล้วยังแย่งการประมูลของบ้านเราไปอีก จะบีบตระกูลซ่งของเราให้ตายหรือยังไง?

 

 

ปกติแล้วฉันเอาอกเอาใจดูแลเธออย่างกับคุณหนูใหญ่ เธอหลงคิดว่าตัวเองเป็นใครไปแล้วจริงๆ เหรอ ทั้งหน้าตานิสัย เธอมีอะไรคู่ควรกับลูกชายฉันบ้าง! ถ้าไม่ใช่เพราะมาเสียเวลากับเธอ ลูกชายของฉันคงจะหาที่ดีกว่านี้ได้ตั้งนานแล้ว! ลูกชายฉันรักเธอคนเดียวไม่วอกแวก เธอกลับไม่รู้จักเห็นคุณค่าของมัน ติลูกชายฉันอย่างนั้นอย่างนี้ใช่ไหม!”

 

 

คุณแม่ซ่งด่ากราดอยู่ตรงนั้นพรั่งพรูราวกับน้ำตก ยิ่งด่าก็ยิ่งหยาบคาย เจียงเยียนหรานเคารพที่อีกฝ่ายเป็นผู้ใหญ่ ตั้งแต่ต้นจนจบจึงไม่เถียงสักคำ ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อย หน้าชาอย่างมึนงง

 

 

จะอย่างไรเธอก็นึกไม่ถึงว่า คุณป้าซ่งที่ปกติอบอุ่นมีเมตตากับตัวเองขนาดนั้น จนตัวเธอปฏิบัติกับเขาราวกับแม่บังเกิดเกล้า จะพูดคำพูดหยาบคายเช่นนี้ออกมาได้

 

 

หรือว่าความรักใคร่เอ็นดูที่มีต่อเธอตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเป็นเพียงเรื่องหลอกลวงอย่างนั้นเหรอ?

 

 

ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้คุณป้ายังคิดว่าเธอไม่คู่ควรกับซ่งจื่อหาง…

 

 

ท่านกลางฝูงชน สายตาของเยี่นหวันหวั่นมองไปที่แก้มที่บวมแดงของเจียงเยียนหราน นัยน์ตาพลันวาบด้วยความเย็นชา จากนั้น เธอพลันส่งเสียงดังอย่างตกใจเกินความเป็นจริง

 

 

“พระเจ้า! เจียงเยียนหรานกับซ่งจื่อหางมีหมั้นหมายกันเหรอ? เป็นไปได้อย่างไร!”

 

 

คุณแม่ซ่งที่ยังต่อว่าไม่หยุดได้ยินว่ามีคนเคลือบแคลงสงสัย พลันยิ่งมีแรงฮึกเหิม กวาดสายตามองทุกคนในที่นั้น เอ่ยอย่างมั่นใจ “จะเป็นไปไม่ได้ได้ยังไง! ยัยสารเลวนี่โกหกคนอื่นว่าไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลซ่งของพวกเราสินะ?

 

 

ฉันจะบอกพวกเธอให้ พวกเราสองตระกูลตกลงให้เด็กทั้งสองแต่งงานกันตั้งแต่เด็กแล้ว ผู้ใหญ่ทั้งสองตระกูลต่างก็ดูดวงชะตาวันเกิดแล้ว แลกเปลี่ยนป้ายชื่อกันแล้วด้วย ในวงการมีใครไม่รู้บ้างว่าเด็กสองคนเป็นคู่กัน

 

 

ลูกชายฉันดีกับเธอขนาดนี้ รักเดียวใจเดียวเอาอกเอาใจเธออย่างกับเจ้าหญิง เธอยังมีหน้ามาปฏิเสธอีกอย่างนั้นหรือ? พวกเธอดูโฉมหน้าที่แท้จริงของยัยสารเลวนี่ให้ดี! เล่นชู้ลับหลังลูกชายฉันแล้วยังถือว่าตระกูลตัวเองยิ่งใหญ่ โลกนี้ทำไมถึงได้มีผู้หญิงที่ชั่วร้ายขนาดนี้อยู่นะ!”

 

 

เหย…

 

 

ได้ยินคำพูดนี้ของคุณแม่ซ่ง ผู้คนที่รายล้อมอยู่ทุกคนต่างนิ่งงันอยู่ตรงนั้น

 

 

อะไรนะ! ผู้หญิงคนนี้พูดอะไร?

 

 

ซ่งจื่อหางกับเจียงเยียนหรานมีหมั้นหมายต่อกัน!

 

 

เธอยังพูดอีกว่า…ซ่งจื่อหางรักเดียวใจเดียวภักดีต่อเจียงเยียนหราน?

 

 

คุณแม่ซ่งรู้สึกได้ว่าสายตาที่ทุกคนมองเธอมันผิดปกติ ทว่าก็ยังไม่เข้าใจว่าปัญหามันเกิดขึ้นที่ตรงไหนกันแน่

 

 

เยี่ยหวันหวั่นมองเธออย่างเย้ยหยัน ทันใดนั้นใช้น้ำเสียงมราเต็มไปด้วยความสงสัยเอ่ยขึ้นว่า “เป็นไปไม่ได้! คุณป้าคะ คุณป้ากำลังโกหกอยู่แน่ๆ! แฟนของซ่งจื่อหางคือเฉินเมิ่งฉีชัดๆ เกี่ยวอะไรกับเจียงเยียนหรานด้วยคะ”

 

 

คุณแม่ซ่งไหนเลยจะทนรับความสงสัยแบบนี้ได้ พลันบันดาลโทสะ พูดออกมาโดยไม่ทันคิดอะไร “ฉันนะเหรอโกหก! ฉันเป็นแม่ของซ่งจื่อหาง คำพูดของฉันจะไม่จริงได้ยังไง เป็นยัยสารเลวนี่ที่กำลังหลอกลวงคนอื่น เฉินเมิ่งฉีเป็นใคร? เธอกำลังพูดเหลวไหลอะไร?”

 

 

……………………………………………..

 

 

 

 

 

 

บทที่ 160 บิดเบือนความจริง

 

 

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้ “เมิ่งฉีเป็นเพื่อนสนิทหนูเองค่ะ! เขาสิถึงจะเป็นแฟนอย่างถูกต้องออกหน้าออกตาของซ่งจื่อหาง พวกเราทุกคนล้วนรู้ดี คุณป้ามาพูดเหลวไหลแบบนี้ได้ยังไงคะ คุณป้าพูดแบบนี้ จะไม่เป็นการทำลายชื่อเสียงเมิ่งฉีของพวกเราว่าเป็นมือที่สามหรอกเหรอ? คุณป้าพูดเกินไปแล้วนะคะ!”

 

 

“เธอ…เธอว่ายังไงนะ…แฟนของซ่งจื่อหาง…” ใบหน้าของคุณแม่ซ่งชะงัก สายตามองไปยังใบหน้าที่บวมแดงของเจียงเยียนหราน รู้สึกวิตกกังวลอย่างประหลาด

 

 

ได้ยินมาถึงตรงนี้ แทบจะทุกคนล้วนเข้าใจเรื่องราวความเป็นมาแล้ว

 

 

ต่อจากนี้ไม่ต้องให้เยี่ยหวันหวั่นเป็นคนพูดเองอีกต่อไป

 

 

ผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างคุณแม่ซ่งพูดขึ้นว่า “คุณป้าเป็นแม่ของซ่งจื่อหางเหรอคะ? ถ้าอย่างนั้นคุณป้ารู้ไหมว่า ซ่งจื่อหางประกาศต่อหน้าคนทั้งโรงเรียนว่า เขากับเจียงเยียนหรานไม่เกี่ยวข้องกัน ยังบอกอีกว่าเรื่องหมั้นหมายไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงการพูดเล่นกันระหว่าสองตระกูล อีกทั้งยังสารภาพรักกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งต่อหน้าสาธารณะชน?”

 

 

คุณแม่ซ่งได้สติ รีบแหวอย่างโมโห “นี่…นี่จะเป็นไปได้ยังไง! ลูกชายของฉันจะทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไง! พวกเธออย่ามาใส่ร้ายกันนะ!”

 

 

คนรอบข้างทนฟังไม่ไหวอีกต่อไป แย่งกันพูดขึ้น “พวกเราใส่ร้ายที่ไหน? เรื่องพวกนี้คนทั้งโรงเรียนรู้กันทุกคน ใครๆ ก็เป็นพยานได้ทั้งนั้น”

 

 

“นั่นน่ะสิ! ตอนนั้นเจียงเยียนหรานพบว่าซ่งจื่อหางแอบนัดเดทกับเฉินเมิ่งฉีเพื่อนสนิทของตัวเอง ก็ทะเลาะกับเฉินเมิ่งฉีจนเป็นเรื่องขึ้นมา ตอนแรกทุกคนช่วยเจียงเยียนหรานต่อว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นมือที่สาม ผลคือซ่งจื่อหางทำเพื่อเฉินเมิ่งฉี ตบหน้าเจียงเยียนหรานต่อหน้าทุกคนโดยการเขียนชี้แจงในเว็บบอร์ดของโรงเรียน พูดเองว่าไม่มีหมั้นหมายอยู่กับเจียงเยียนหราน ถ้าคุณป้าไม่เชื่อ ไปดูที่เว็บบอร์ดของโรงเรียนก็รู้แล้ว คลิปวีดีโอเจียงเยียนหรานจัดการหญิงชู้ แล้วก็โพสต์ที่ซ่งจื่อหางเขียนชี้แจงเพื่อปกป้องชู้ยังหราอยู่ตรงนั้นทั้งหมด!”

 

 

“ซ่งจื่อหางใช้ทั้งเทียนทั้งดอกกุหลาบสารภาพรักกับเฉินเมิ่งฉีอย่างยิ่งใหญ่ขนาดนั้น หลายวันมานี้ตัวติดกันตลอด ตอนนี้มาบอกว่าเขากับเจียงเยียนหรานหมั้นหมายกัน? นี่ไม่ใช่การตบหน้าตัวเองหรอกเหรอ?”

 

 

เวลานี้คำวิพากษ์วิจารณ์ของคนรอบด้านเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ สีหน้าของทุกคนแสดงถึงความตกตะลึงกับเรื่องหักมุมนี้

 

 

“คิดไม่ถึงว่าตั้งแต่ต้นจนจบเป็นซ่งจื่อหางที่โกหกเพื่อปกป้องมือที่สาม! เฉินเมิ่งฉีเป็นมือที่สามสอดมือเข้ามาจริงๆ ด้วย!”

 

 

“ตอนแรกคิดว่าซ่งจื่อหางเป็นลูกผู้ชาย คิดไม่ถึงว่าจะเป็นผู้ชายเลวๆ ที่แอบกิ๊กกั๊กกับเพื่อนสนิทของคู่หมั้นตัวเองลับหลัง! แม่เขายังกล้าพูดออกมาว่าเขารักภักดีต่อเจียงเยียนหรานคนเดียวอีกเหรอ? มีหน้าพูดแบบนี้ได้ยังไง?”

 

 

“ลับหลังอะไรกัน เขาคบกันต่อหน้าเจียงเยียนหรานเลยต่างหากไม่ใช่เหรอ?”

 

 

“เฮอะๆ ยังมีอีกนะ การประมูลครั้งใหญ่ที่ซ่งจื่อหางกำลังไล่ตามอยู่ในช่วงนี้อันที่จริงคว้าน้ำเหลวไปแล้ว! คาดว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์เป็นการแก้แค้นของตระกูลเจียง! สมน้ำหน้าจริงๆ!”

 

 

“ฉันยังหลงคิดว่าตระกูลซ่งจะเก่งกาจมาจากไหน ที่แท้ตลอดหลายปีที่ผ่านมาก็อาศัยความช่วยเหลือจากตระกูลเจียงนี่เอง”

 

 

“แม่เขายังกล้าวิ่งมาบิดเบือนความจริงถึงที่โรงเรียน ตบหน้าเจียงเยียนหราน ไม่ยอมรับผิดยังป้ายสีให้อีกฝ่ายอีก พระเจ้า! ทัศนคติต่อโลกกลับตาลปัตรไปหมดแล้ว คนตระกูลนี้นี่ยังไงกัน ช่างเป็นจิ้งจอกตาขาวที่อกตัญญูจริงๆ”

 

 

“หน้าไม่อายเกินไปแล้ว!”

 

 

 

 

คุณแม่ซ่งฟังคำถากถางดูแคลนจากทั่วสารทิศ ใบหน้าซีดลงเรื่อยๆ

 

 

อย่างไรเธอก็คิดไม่ถึงว่า เดิมทีคิดอยากจะระบายอารมณ์กับเจียงเยียนหราน อยากจะทำลายซื่อเสียงของเธอ ผลลัพธ์กลับได้รู้ความจริงเช่นนี้ โมโหจนเกือบจะเป็นลมไปตรงนั้น

 

 

ที่ตระกูลเจียงยกเลิกการหมั้นหมายอย่างกะทันหัน…ที่แท้ก็เป็นเหตุผลนี้เอง!

 

 

จื่อหางปฏิเสธเรื่องการหมั้นหมายต่อหน้าทุกคน คบหากับผู้หญิงคนอื่นในโรงเรียน?

 

 

นี่…นี่เป็นไปได้ยังไง! นี่เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!

 

 

หางตาของเยี่ยหวันหวั่นพลันเห็นเงาร่างคนบางคนกำลังจะเดินออกไปจากกลุ่มฝูงชน พลันโผเข้าไปด้วยความคล่องแคล่วอย่างรวดเร็ว ดึงแขนของเฉินเมิ่งฉีเอาไว้ได้ทัน เอ่ยอย่างร้อนใจ “เมิ่งฉี! ในที่สุดเธอก็มาสักที! เธอรีบอธิบายกับทุกคนให้ชัดเจนเร็วเข้า! พวกเขาพูดเกินไปแล้ว มาบอกว่าเธอเป็นชู้ไร้ยางอาย! เธอไม่ได้เป็นคนแบบนั้นใช่ไหม?”

 

 

ทันใดนั้น ทุกคนพากันหันมองไปทางเยี่ยหวันหวั่น พบว่าเฉินเมิ่งฉีที่ถูกเยี่ยหวันหวั่นหยุดไว้กำลังยืนเคียงข้างกับซ่งจื่อหางด้วยสีหน้าลุกลน

 

 

………………………………………….

Options

not work with dark mode
Reset