บทที่ 815 เล่นสำบัดสำนวน
เธอต้องยืนยันว่าทางหวงเทียนจะถ่ายบทละครที่สวีหลินเขียนเรื่องนั้นหรือไม่
ตอนนี้เธอใช้ความจำเขียนบทละครเรื่องนี้ออกมาก่อนแล้วเพื่อชิงจดทะเบียนลิขสิทธิ์ก่อนหวงเทียน และเริ่มโครงการอย่างลับๆ
เธอจะพลิกตัวได้หรือไม่ หนังเรื่องนี้เป็นไพ่ตายที่สำคัญที่สุด…
ถ้าว่าเดินหมากนี้ไม่ดี หลังจากออกจากกวงเย่า หากคิดกลับมาตั้งตัวใหม่จะลำบากถึงขีดสุด
เรื่องแรกในตอนนี้คือ เธอจำเป็นต้องชำระหนี้ให้เร็วที่สุด ทวงกรรมสิทธิ์ของบ้านกลับมาโดยสมบูรณ์ สองคือต้องรอข่าวที่ชัดเจนจากทางหวงเทียน…
ขณะที่เยี่ยหวันหวั่นกำลังพูด เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ที่เร่งด่วนดังขึ้นมา
ปลายสายมีเสียงกระวนกระวายของตงไจ๋ผู้ช่วยของกงซวี่ดังมา “พี่เยี่ย แย่แล้วครับ กงซวี่…กงซวี่มีเรื่องกับไช่หย่งเซิ่งแล้ว…”
เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วเบาๆ “ไช่หย่งเซิ่ง? วันนี้พวกเขาไปถ่ายปกซิวเซ่อไม่ใช่เหรอ?”
ตงไจ๋เอ่ย “ใช่ครับ แต่ว่าผู้อำนวยการไช่พาหยางลู่ซีนักแสดงในสังกัดของเขามาด้วย แถมยังบอกว่าจะให้หยางลู่ซีถ่ายรูปปกกับกงซวี่ กงซวี่ไม่ยอมเลยอาละวาด!”
คิดไม่ถึงเลย นอกจากไช่หย่งเซิ่งคนนี้จะแย่งความดีความชอบไปแล้ว ยังฉวยโอกาสแทรกนักแสดงที่ตัวเองพามาเข้าไปด้วย ใช้ทั้งทรัพยากร เกาะทั้งชื่อเสียงของกงซวี่
วางแผนมาเป็นอย่างดีจริงๆ ด้วย!
“เดี๋ยวฉันไปหา” เยี่ยหวันหวั่นพูดจบก็วางสาย
“หวันหวั่น เกิดอะไรขึ้น?” เยี่ยมู่ฝานมีสีหน้าเป็นห่วง
เยี่ยหวันหวั่นตอบ “ไช่หย่งเซิ่งแทรกหยางลู่ซีให้ขึ้นปกซิวเซ่อ”
เยี่ยมู่ฝานสบถ “เชี่ยเอ๊ย! เจ้าหมอนี่มันทำไมหน้าไม่อายขนาดนี้!”
เยี่ยหวันหวั่นบอก “ฉันจะไปดูสักหน่อย พี่ไม่ต้องห่วงฉัน รีบไปจัดการเรื่องของพี่เถอะ”
…
ตึกบริษัทของนิตยสารซิวเซ่อ ในสตูดิโอถ่ายรูป
“พี่เยี่ย!” พอเห็นเยี่ยหวันหวั่น กงซวี่ที่กำลังทะเลาะกับไช่หย่งเซิ่งทำหน้าเหมือนความบริสุทธิ์มีมลทินมัวหมองทันที “พี่เยี่ย ผมไม่ถ่ายแล้ว ผมจะกลับบ้าน!”
พอเห็นเยี่ยหวันหวั่น เหลียงฉงจงใจทำสีหน้าประหลาดใจพลางกล่าว “อ้าว ผู้อำนวยการเยี่ย ทำไมถึงมาด้วยตัวเองล่ะครับ?”
เยี่ยหวันหวั่นส่งสายตาบอกกงซวี่ให้ใจเย็น จากนั้นก็มองเหลียงฉง พูดตรงไปตรงมาว่า “หัวหน้าบ.ก.เหลียง ถ้าผมจำไม่ผิด ตอนแรกที่พวกเราคุยกันคือให้กงซวี่ถ่ายปกนิตยสารฉบับนี้ไม่ใช่เหรอครับ?”
เหลียงฉงตาเป็นประกายคมกริบวูบหนึ่ง ก่อนจะพูดอย่างไม่รีบไม่ร้อน “ผู้อำนวยการเยี่ย ไม่ใช่สิ ตอนนี้ต้องเรียกรองประธานเยี่ยแล้ว ยังไม่ได้แสดงความยินดีที่รองประธานเยี่ยได้เลื่อนขั้นเลย! เรื่องมันเป็นแบบนี้ครับ ถึงผมจะตอบรับให้กงซวี่ขึ้นปกของฉบับนี้ แต่ไม่ได้บอกนี่ว่าไม่มีคนอื่น ถูกรึเปล่าครับ?”
เยี่ยหวันหวั่นยกมุมปากยิ้มเย็นชา ไม่นึกเลยว่าจะเล่นสำบัดสำนวนกับเธอ…
เหลียงฉงพูดต่อ “ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ผู้อำนวยการฝ่ายผู้ดูแลนักแสดงเป็นคุณไช่ด้วย เรื่องถ่ายปกคู่ผมคุยกับเขาดีแล้ว”
ถึงแม้ตอนนี้จะพูดให้ดูดีว่าเยี่ยหวันหวั่นเป็นรองประธาน แต่มีใครที่ไม่รู้ความสัมพันธ์ของไช่หย่งเซิ่งกับฉู่หงกวงบ้าง ที่ฉู่หงกวงดึงตัวเขามาที่กวงเย่าเพราะตั้งใจจะทำอะไร ไม่ว่าวงในของกวงเย่าหรือคนภายนอกต่างก็รู้ดี พวกเขาย่อมต้องรู้ว่าใครมีสิทธิ์มีเสียงมากที่สุด
วันนี้รองประธานอย่างเยี่ยหวันหวั่นเป็นไม้ประดับอย่างแท้จริง มีเพียงแค่ชื่อเท่านั้น
ตอนนั้นเอง ไช่หย่งเซิ่งพาหยางลู่ซีเดินมาพร้อมหัวเราะเริงร่า “รองประธานเยี่ย เรื่องเล็กๆ แบบนี้ให้ผมจัดการเถอะ ไม่ต้องลำบากคุณหรอก คุณดูสิ กงซวี่กับซีซีของเราต่างก็เป็นหนุ่มหล่อสาวสวย พอยืนด้วยกันแล้วยิ่งเพลินตา ทุกคนอยากจะเห็นแบบนี้ อีกอย่างละครทีวีที่ซีซีเป็นนักแสดงหลักก็เพิ่งฉายจบไป ชื่อเสียงกำลังดี ยอดขายของนิตยสารฉบับนี้ต้องถล่มทลายแน่นอน!”
—————————————
บทที่ 816 พองขน
กงซวี่ฉุนเฉียวขึ้นมาอีกครั้ง ชี้หน้าไช่หย่งเซิ่ง ด่าว่า “ถล่มทลายเตี่ยแกสิ มาเกาะชื่อเสียงของฉันแล้วยังพูดจาให้ตัวเองดูดีแบบนี้อีก ทำอย่างกับว่าฉันได้เปรียบกว่า ได้ความกล้ามาจากไหนกันวะ! ขอบอกเลยนะ จะถ่ายใครก็ถ่ายไป ฉันไม่เอาด้วย! คิดจะใช้ฉันเหรอ? อย่างงั้นก็ต้องดูก่อนว่าฉันยอมหรือเปล่า!”
เมื่อกงซวี่หักหน้าเขาต่อหน้าคนจำนวนมากขนาดนี้ สีหน้าของไช่หย่งเซิ่งพลันไม่น่ามอง บอกเสียงทุ้มว่า “กงซวี่ เธอคิดว่าตัวเองยังเป็นคุณชายสองของตระกูลกงอยู่เหรอ? การร่วมมือที่สำคัญแบบนี้ เธอบอกไม่ถ่ายก็ไม่ถ่ายได้เหรอไง รองประธานเยี่ย หรือว่านี่เป็นนิสัยของนักแสดงในสังกัดคุณ?”
กงซวี่ชักสีหน้า สิ่งที่เขาเกลียดมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ ‘คิดว่าตัวเองยังเป็นคุณชายสองของตระกูลกง’ ประโยคนั้น ขณะกำลังจะเปิดปากด่า เยี่ยหวันหวั่นก็กดไหล่ของกงซวี่ไว้ จากนั้นมองไช่หย่งเซิ่ง “นิสัยของนักแสดงในสังกัดของผมจะเป็นยังไง ยังไม่ถึงตาคนนอกมาสอดปาก”
ไช่หย่งเซิ่งสีหน้าแข็งค้าง “คุณ…
เวลานี้ เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของเยี่ยหวันหวั่นดังขึ้นมา หน้าจอแสดงชื่อฉู่หงกวง
นอกจากนี้ที่ฉู่หงกวงโทรมายังแบบวิดีโอคอลด้วย
ไช่หย่งเซิ่งเห็นโทรศัพท์ของเยี่ยหวันหวั่น ก็พลันมีสีหน้าได้ใจ
เยี่ยหวันหวั่นรับโทรศัพท์ “ประธานฉู่”
อีกด้านของวิดีโอ ฉู่หงกวงนั่งบนเก้าอี้หนังตัวใหญ่ พูดด้วยน้ำเสียงจริงใจว่า “เยี่ยไป๋ ตอนนี้หย่งเซิ่งเพิ่งมาถึงบริษัท อาจจะมีคนไม่ฟังเขา หลายๆ เรื่องยังต้องให้เธอช่วยเหลือและร่วมมือ เข้าใจความหมายของฉันไหม?”
โทรมาเตือนเธอจริงๆ ด้วย
นอกจากนี้ยังจงใจวิดีโอคอลมา บอกว่าตัวเองหนุนหลังไช่หย่งเซิ่งต่อหน้าทุกคน
ไช่หย่งเซิ่งยืนอยู่ด้านข้าง ใบหน้าฉายแววเยาะหยัน แสร้งกล่าวอย่างจนปัญญาว่า “ประธานฉู่ รองประธานเยี่ยสั่งสอนนักแสดงในสังกัดไม่ให้ร่วมงานกับผมแบบนี้ ผมลำบากใจจริงๆ…”
เยี่ยหวันหวั่นพูด “ประธานฉู่ ผมขอยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับการถ่ายปกคู่ จะถ่ายก็ได้ แต่ผมต้องเตือนผู้อำนวยการไช่สักประโยค”
ในตอนนี้เอง ไช่หย่งเซิ่งทำหน้าไม่เกรงกลัว พูดในใจว่าเมื่อกี้แกกร่างนักไม่ใช่เหรอ สุดท้ายก็ยังต้องฟังเขาอยู่ดีนั่นแหละ!
ตอนแรกเยี่ยไป๋ปั้นลั่วเฉินมาคนหนึ่งจึงค่อยยืนหยัดได้อย่างมั่นคง แต่ต่อให้เก่งกว่านี้แล้วจะมีปัญญาทำอะไรได้? เขาไม่ต้องการของอย่างความสามารถ ขอแค่มีเส้นสายมีคนหนุนหลัง ต่อให้เป็นคนโง่เขาก็ปั้นจนดังได้!
รอเขาปั้นนักแสดงแถวหน้าได้สักคนก่อน ถึงตอนนั้นค่อยรับต้นทุนหรือแม้แต่นักแสดงในมือของเยี่ยไป๋มาทีละคนๆ ที่นี้กวงเย่าก็เป็นของในมือเขาแล้ว…
ฉู่หงกวงพยักหน้า “บอกได้”
ไช่หย่งเซิ่งกล่าวอย่างไม่สนใจ “เหอะๆ รองประธานเยี่ยจะเตือนอะไร พูดมาได้เลยครับ”
เยี่ยหวันหวั่นพูด “ถ้าผู้อำนวยการไช่ยังยืนกรานให้กงซวี่กับหยางลู่ซีถ่ายรูปด้วยกัน อย่างนั้นหลังจากปกนิตยสารฉบับนี้ออกแล้ว ผลลัพธ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ผู้อำนวยการไช่ต้องเป็นคนรับผิดชอบ ผู้อำนวยการไช่ยินยอมไหมครับ”
ผลลัพธ์ จะมีผลลัพธ์อะไรได้อีก?
เจ้าเด็กคนนี้โกรธที่เขาแย่งความดีความชอบ เลยจงใจข่มขู่เขาน่ะสิ!
เขาจะมองป่าหี่แบบนี้ไม่ออกเหรอ?
ไช่หย่งเซิ่งซ่อนความรังเกียจในดวงตาไว้ ตอบกลับว่า “รองประธานเยี่ย มันก็ต้องแบบนั้นอยู่แล้วสิครับ ถึงยังไงการร่วมงานในครั้งนี้ผมก็เป็นคนคุยนะ! เรื่องทั้งหมดที่ตามมา ผมต้องเป็นคนจัดการอยู่แล้ว!”
เยี่ยหวันหวั่นบอก “ดี ในเมื่อผู้อำนวยการไช่พูดแบบนี้ และมีประธารฉู่เป็นพยาน ถ้างั้นผมก็ไม่มีปัญหาอะไร”
เหลียงฉงที่อยู่ด้านข้างได้ยินคำพูดของเยี่ยหวันหวั่น ฉู่หงกวง และไช่หย่งเซิ่งก็ไม่ได้รู้สึกอะไร กลับรู้สึกว่าสมควรถ่ายรูปตามข้อเสนอของไช่หย่งเซิ่ง เพราะฉู่หงกวงหนุนหลังอีกฝ่ายอย่างชัดเจน
หลังจากวางสายแล้ว ไช่หย่งเซิ่งมองกงซวี่อย่างได้ใจ “กงซวี่ ผู้จัดการของเธอพูดแล้ว เธอจะยังอาละวาดต่อไปอีกเหรอ?”
พอเห็นเยี่ยหวันหวั่นยอมรับ กงซวี่โกรธจนจนพองขน “พี่เยี่ย ทำไมต้องให้ผมถ่ายปกกับยัยขี้เหร่คนนี้ด้วย ผมไม่ถ่าย เงินที่ให้ผมก็ชดใช้ความเสียหายทางจิตใจของผมไม่ได้!”
หยางลู่ซีที่อยู่อีกด้านใบหน้าบิดยู่ ยัย…ยัยขี้เหร่…?
เยี่ยหวันหวั่นมุมปากกระตุก ปากของเจ้าหมอนี่ก็เหลือรับจริงๆ
“ถ่ายเสร็จแล้วฉันจะให้ตงไจ๋ไปซื้อผลไม้อบแห้งให้” เยี่ยหวันหวั่นบอก
กงซวี่ปฏิเสธ “ไม่เอา! อย่าคิดนะว่าผลไม้อบแห้งแค่กล่องเดียวจะสั่งผมได้! ความบริสุทธิ์ของผมมีค่าแค่ผลไม้อบแห้งกล่องเดียวเหรอ พี่เห็นผมเป็นตัวอะไร?”
เยี่ยหวันหวั่นบอกอีก “งั้นสองกล่อง”
กงซวี่รีบพูด “…ถ่ายก็ได้ เร็วหน่อย! อย่ามัวเสียเวลา!”
เยี่ยหวันหวั่น “…”
…………………………………..