บทที่ 937 ผู้ชนะตัวจริง
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่กี่ประโยค ก็ทำเอาพวกเยี่ยเส่าอันสะอึกจนพูดไม่ออกทันที
เดิมทีเยี่ยหงเหวยก็ไม่พอใจกับท่าทีของบ้านรองอยู่แล้ว เรื่องในวันนี้พูดได้ว่ากระตุ้นให้ความขัดแย้งนี้ไปถึงขีดสุด
และเรื่องวันนี้ ก็ทำให้เห็นถึงปัญหามากมายในด้านวิธีการแก้ปัญหาของมู่ฝานกับบ้านรอง
เหลียงเหม่ยเซวียนโมโหถจนถลึงตาจ้องเยี่ยหวันหวั่น “เธอเป็นแค่เด็กจะไปรู้เรื่องอะไร ห้ามพูดแทรกส่งเดช…”
เยี่ยหวันหวั่นยืนอยู่ข้างผู้อาวุโส “คุณปู่คะ หนูไม่รู้เรื่องอะไรก็จริง แต่หนูแยกแยะถูกผิดเป็น คนที่ทำผิดไม่ใช่พี่มู่ฝานนะคะ!”
เยี่ยหงเหวยมองหลานสาวที่อยู่ข้างกาย สีหน้าอ่อนลงหลายส่วน “เอาละ หวันหวั่น ปู่รู้ว่าพี่ชายของหลานไม่ผิด ผลงานของมู่ฝานวันนี้ทำให้ปู่ต้องมองเขาใหม่จริงๆ…”
เยี่ยหงเหวยพูดจบ ก็หันไปมองเยี่ยเส่าอัน สีหน้าเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที “เส่าอัน แกรู้ไหมว่าตัวเองทำผิดอะไร”
สีหน้าเยี่ยเส่าอันนิ่งค้าง “ผม…”
เยี่ยหงเหวยพูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด “ข้อแรก แกดูคนไม่ขาด ถึงได้ทำให้เกิดข่าวฉาวอย่างนี้ ข้อสอง ในฐานะ CEO และผู้กุมหางเสือของบริษัท สิ่งที่ควรมีมากที่สุดก็คือการมองภาพรวม แต่แก แกกลับทำให้เรื่องดำเนินไปถึงขั้นเลวร้ายที่สุดเพียงเพราะความเห็นแก่ตัว ข้อสาม แกไม่มีสำนึกเรื่องความสามัคคีในครอบครัว”
ขณะเยี่ยหงเหวยพูด สีหน้าผิดหวังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ “ฉันว่าแกสู้เด็กอย่างมู่ฝานกับหวันหวั่นไม่ได้ด้วยซ้ำ!”
คำพูดประโยคนี้ของชายชราถือว่ารุนแรงมากแล้ว
นัยน์ตาของเยี่ยอีอีที่อยู่อีกด้านหนึ่งมีแววชั่วร้ายพาดผ่าน แต่ไม่นานก็รีบพูดด้วยสีหน้าร้อนใจทันที “คุณปู่คะ หนูขอโทษ คุณปู่อย่าโทษคุณพ่อเลยค่ะ เรื่องนี้หนูเป็นคนดูแลต่อเอง หนูไม่ได้ตรวจสอบให้ดี ไม่เกี่ยวกับคุณพ่อเลยค่ะ”
เยี่ยหงเหวยเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “อีอี หลานมีความผิดจริงๆ ในฐานะผู้อำนวยการ คราวนี้หลานพักงานสามเดือนแล้วกัน”
เหลียงเหม่ยเซวียนร้อนรนทันใด “คุณพ่อ เกินไปแล้วนะคะ เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับอีอีด้วยล่ะ คุณพ่อจะทำโทษอีอีด้วยได้ยังไงกันคะ! อีกอย่างเดือนหน้าอีอีก็จะหมั้นกับเยว่เจ๋อแล้ว คุณพ่อสั่งพักงานหลานตอนนี้ แล้วจะให้หลานทำยังไงล่ะคะ…”
เยี่ยหงเหวยแค่นเสียงบอก “เมื่อกี้ใครเป็นคนบอกฉันว่าวันนี้มีนักข่าวมาเยอะขนาดนี้ เพื่อภาพลักษณ์ของบริษัท ยังไงก็ต้องให้คำอธิบายกับทุกคน? ใครกันเป็นคนบอกว่านี่เป็นเรื่องส่วนรวม ไม่ใช่เรื่องในครอบครัว? พวกแกพูดถูกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นใครก็ไม่ควรได้รับอภิสิทธิ์ เรื่องนี้ให้จัดการไปตามสมควร!”
แววตาของเยี่ยอีอีชั่วร้ายขึ้นอย่างที่จับสังเกตไม่ได้ แต่ภายนอกกลับพูดด้วยน้ำเสียงว่าง่ายและอดทนอดกลั้น “แม่คะ อย่าพูดอีกเลยค่ะ บทลงโทษของคุณปู่หนูสมควรได้รับแล้วล่ะค่ะ”
เยี่ยมู่ฝานเดินเข้ามาด้วยสีหน้ารู้สึกผิด “ขอโทษนะครับ คุณปู่ คุณย่า ทำให้งานฉลองกลายเป็นอย่างนี้ไปซะแล้ว…”
ถานอี้หลานถอนหายใจ แล้วบอกว่า “มู่ฝาน ย่ารู้ว่านี่ไม่ใช่ความผิดหลาน”
ถึงอย่างไรเมื่อกี้พวกเขาก็เห็นการกระทำของเยี่ยมู่ฝานทุกอย่าง ใครถูกใครผิด พวกเขาย่อมรู้ดี
เยี่ยหงเหวยเหลือบมองหน้าหลานชาย พูดเสียงขรึมว่า “บริษัทเล็กๆ ที่เปิดใหม่ของแกนั่น ฉันก็พอรู้เรื่องมาบ้าง มู่ฝาน ภายในหนึ่งปีนี้ ถ้าหากแกสร้างผลงานอะไรได้บ้าง ฉันจะพิจารณาให้โอกาสแกสักครั้ง”
ในที่สุดประโยคที่เยี่ยหวันหวั่นรอคอยก็มาถึง แววตาเธอไหวระริกเล็กน้อย เห็นเยี่ยมู่ฝานยืนนิ่ง ก็แอบตบสะกิดเขาเบาๆ
เยี่ยมู่ฝานที่กำลังอึ้งงันถึงค่อยได้สติ รีบบอกว่า “ขอบคุณครับปู่! ผมจะพยายาม!”
เวลานี้ เยี่ยอีอีกับเหลียงเหม่ยเซวียนหน้าเปลี่ยนสีไปอย่างสิ้นเชิง
ชายชราที่นิสัยดื้อรั้น ทันทีที่ตัดสินใจอะไรไปแล้วก็จะไม่มีวันเปลี่ยนใจอีก นึกไม่ถึงว่าจะ…กลับคำซะแล้ว!
นึกไม่ถึงว่าเขาจะมอบโอกาสในการสืบทอดบริษัทให้เยี่ยมู่ฝาน!
————————————————————–
บทที่ 938 นักขุดหลุมพรางตัวน้อย
เหลียงเหม่ยเซวียนตกใจหน้าถอดสี “คุณพ่อคะ นี่มัน…ทำแบบนี้ไม่ได้นะคะ!”
เยี่ยหวันหวั่นพูดอย่างไม่ช้าไม่เร็ว “คุณปู่ลงโทษให้รางวัลชัดเจน จัดการยุติธรรมเสมอมา อาสะใภ้รองกำลังสงสัยการตัดสินของคุณปู่เหรอคะ หรือคิดว่าในบ้านหลังนี้อามีสิทธิ์เหนือคุณปู่ได้?”
เหลียงเหม่ยเซวียนมองเยี่ยหงเหวยที่เริ่มหน้าบึ้งอย่างเกรงกลัว “เยี่ยหวันหวั่น เธออย่าพูดจาเหลวไหล ฉันพูดอย่างนั้นตั้งแต่เมื่อไร? ฉันหมายถึง…”
เหลียงเหม่ยเซวียนกับเยี่ยเส่าอันจะยอมได้ที่ไหน ย่อมร้อนใจจนอยากโต้แย้ง แต่จนใจที่เมื่อกี้พวกเขาพูดดักทางไว้หมดแล้วเพื่อเล่นงานเยี่ยมู่ฝาน ถ้าหากมากลับคำเอาตอนนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับตบหน้าตัวเองเลย
“เรื่องนี้ให้จัดการตามนี้ ห้ามใครพูดถึงอีกเด็ดขาด” เยี่ยหงเหวยไม่มีอารมณ์ฟังคนรุ่นหลังทะเลาะกันอีก เดินหน้าเคร่งเครียดออกจากโถงงานเลี้ยงไปพร้อมกับถานอี้หลาน
เหล่าแขกและนักข่าวต่างทยอยออกจากงานเลี้ยงไป เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดี เยี่ยหวันหวั่นกับเยี่ยมู่ฝานก็กลับด้วย
พอเดินไปถึงหน้าประตู เยี่ยหวันหวั่นพบว่าเยี่ยมู่ฝานเอาแต่ก้มหน้าก้มตาพึมพำอะไรไม่รู้
“พี่ ทำอะไรอยู่น่ะ?”
เยี่ยมู่ฝานรีบเงยหน้าขึ้น บอกว่า “อย่าเพิ่งขัด ฉันกำลังนับอยู่…ว่าครั้งนี้แกขุดหลุมพรางไว้ให้พวกเยี่ยเส่าอันกี่หลุม…”
ได้ความเชื่อใจและความรู้สึกดีๆ จากคุณปู่คุณย่า ได้รับโอกาสโปรโมทภาพยนตร์อย่างมีประสิทธิภาพในงานแถลงข่าวครั้งใหญ่ฟรีๆ ทำให้ประหยัดค่าโปรโมทได้ก้อนโต แก้ต่างข่าวลือ ช่วยสวีหลินเรียกร้องความยุติธรรม ทำให้เยี่ยอีอีถูกพักงาน…
เขานับไม่หวาดไม่ไหวแล้ว…
หวันหวั่นผลักคนที่อยากเล่นงานตกลงไปในหลุมพรางพร้อมกันหมดในครั้งเดียว…
ขณะที่สองพี่น้องกำลังพูดคุยกัน เสียงชายหนุ่มอันคุ้นเคยก็ดังมาจากข้างหลัง
“คุณชายเยี่ย ไม่เจอกันนาน”
พอหันไปหาต้นเสียง เยี่ยหวันหวั่นหรี่ตาลงเล็กน้อยทันที กู้เยว่เจ๋อ…
พอเห็นหน้ากู้เยว่เจ๋อ เยี่ยมู่ฝานรีบดึงเยี่ยหวันหวั่นให้มาหลบข้างหลังตัวเอง ปิดกั้นสายตาของกู้เยว่เจ๋อที่มองเธออยู่คล้ายตั้งใจและไม่ตั้งใจ
แววตาของเยี่ยมู่ฝานเย็นชา “โอ้ ฉันนึกว่าใคร ที่แท้ก็เศษสวะอย่างแกนี่เอง ทำไม มีธุระอะไรงั้นเหรอ”
กู้เยว่เจ๋อได้ยินก็หัวเราะเล็กน้อย พูดว่า “เปล่า ก็แค่ประหลาดใจมาก คืนนี้คุณชายเยี่ยเล่นลูกไม้ได้อย่างงดงามหมดจด มองไม่ออกเลย คงประเมินคุณต่ำไป”
พูดมาถึงตรงนี้ จู่ๆ กู้เยว่เจ๋อก็เปลี่ยนเรื่อง รอยยิ้มในดวงตาเปลี่ยนเป็นดูแคลน “แต่น่าเสียดาย มันไม่ได้ช่วยให้อะไรเปลี่ยนไป…”
มือของเยี่ยมู่ฝานข้างๆ ตัวกำหมัดทีละน้อย “หึ งั้นเหรอ? ถ้าอย่างนั้นก็รอดูต่อไปให้ดีเถอะ!”
กู้เยว่เจ๋อก็ไม่พูดอะไร เพียงยิ้มๆ แล้วเดินจากไป
ก่อนจะไป เขาเหลือบมองเยี่ยหวันหวั่นที่เงียบตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ด้วยสายตาที่แฝงไว้ด้วยการคุกคาม
ในมุมมองของผู้ชาย เยี่ยหวันหวั่นที่เปลี่ยนไปตั้งแต่หัวจรดเท้ามีแรงดึงดูดมากจริงๆ แต่น่าเสียดาย แจกันดอกไม้ที่สวยแค่ภายนอกไม่อาจสร้างประโยชน์อะไรให้เขาได้
ผู้หญิงประเภทนี้ หากเขาอยากเล่นสนุกด้วย ในวงการบันเทิงก็มีถมเถไป คนที่พร้อมจะเสนอตัวให้ยิ่งมีตั้งไม่รู้เท่าไร…
สายตาที่กู้เยว่เจ๋อมองเยี่ยหวันหวั่น มีหรือเยี่ยมู่ฝานจะไม่เข้าใจ เขาโมโหจนเกือบจะเหวี่ยงหมัดออกไปตรงนั้นเลย
แต่สุดท้ายเพราะเกรงใจน้องสาว จึงกล้ำกลืนฝืนทนเอาไว้
เยี่ยมู่ฝานมองเยี่ยหวันหวั่นที่ยืนอยู่ด้านข้าง แล้วพูดปลอบอย่างอ่อนโยน “หวันหวั่น ไม่ต้องไปเสียใจเพราะผู้ชายเลวๆ อย่างนั้น พี่จะเอาตระกูลเยี่ยกลับมาให้ได้! ถึงตอนนั้นแกอยากแต่งงานกับใครก็แต่ง!”
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้คิดอะไรกับกู้เยว่เจ๋อทั้งนั้น”
…………………………..
Related