แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี – บทที่ 261 ศาลเตี้ย / บทที่ 262 เป็นเขา…

บทที่ 261 ศาลเตี้ย / บทที่ 262 เป็นเขา…

บทที่ 261 ศาลเตี้ย

ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น สภาพจิตใจของหานเซี่ยนอวี่ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ จนผู้จัดการอดเป็นห่วงสุขภาพของเขาไม่ได้

ในเมื่อผลกระทบของเรื่องนี้ไม่ได้แค่ส่งผลถึงการงานและชีวิตของเขาเท่านั้น ยังส่งผลต่อความรู้สึกนึกคิดเขาด้วย

ช่วยเหลือเด็กเหล่านั้นด้วยความเมตตาแท้ๆ สุดท้ายกลับถูกใส่ร้ายป้ายสี ทั้งที่ไม่ได้ทำกลับต้องแบกรับชื่อเสียงเสื่อมเสียที่น่ากลัวแบบนี้ไปตลอดชีวิต

ส่วนสามีภรรยาจอมโลภคู่นั้นกลับกัดกินเลือดเนื้อของเขา ได้รับความเห็นใจจากสังคม ในอนาคตยังสามารถใช้ชีวิตอยู่อย่างสุขสบายจากเงินชดเชยค่าเสียหายจำนวนมหาศาล

หากวันนี้หนุ่มสกุลเยี่ยคนนั้นไม่ปรากฏตัว แล้วบริษัทบีบให้เซี่ยนอวี่ใช้วิธีจ่ายเงินไกล่เกลี่ยนอกศาล เขานึกไม่ออกเลยว่าเซี่ยนอวี่จะทนต่อไปได้หรือไม่

เห็นหานเซี่ยวอวี่ไม่พูดสิ่งใด เฟยหยางจึงเอ่ยปลอบอีกครั้ง “นายก็อย่ามองโลกในแง่ร้ายมากเกินไป ประธานฉู่ก็ยอมให้ลองดูสักตั้งแล้วไม่ใช่เหรอ? ไม่แน่ว่าอาจจะมีจุดพลิกผันจริงๆ ก็ได้ เยี่ยไป๋นั่นถ้าไม่มีวิธีอะไร คงไม่กล้าพูดจาใหญ่โตกลางห้องประชุมแบบนั้นหรอก…”

สิ่งที่เฟยหยางไม่กล้านึกถึงคือ หากเยี่ยไป๋ทำไม่สำเร็จ…

หรือยิ่งไปกว่านั้น…หากคนคนนั้นมีจุดประสงค์ชั่วร้ายแอบแฝงอยู่…

ได้ยินชื่อ ‘เยี่ยไป๋’ นี้แล้ว นัยน์ตาของหานเซี่ยวอวี่ถึงได้เคลื่อนไหว มีรอยยิ้มอบอุ่นปรากฎขึ้นลางๆ

หลังจากตื่นกลัวอยู่ชั่วขณะ เขาก็ค่อยๆ หลับตาลง ตัดขาดจากนัยน์ตาที่เหมือนวังวนลึกล้ำไม่เห็นก้นบึ้ง

สองวันผ่านไป

สามีภรรยาสกุลจ้าวรวบรวมสื่อ “ประชุมปราบปราม” ตามกำหนด อีกทั้งยังใช้วิธีการไลฟ์สดตลอดการประชุมอีกด้วย

ทั้งๆ ที่มีการฟ้องร้องไปแล้ว แต่กลับจัดงานแถลงข่าวก่อนเปิดศาลแบบนี้ แล้วจะต่างกับศาลเตี้ยตรงไหน?

เพื่อป้องกันไม่ให้กระทบกระเทือนจิตใจของหานเซี่ยนอวี่ เฟยหยางได้ทำการถอดสายโทรทัศน์และอินเตอร์เน็ตไว้ก่อนแล้ว อีกทั้งยังไม่รับโทรศัพท์ของหานเซี่ยนอวี่ด้วย

ขณะที่กำลังคิดว่าตกหล่นอะไรไปหรือเปล่า เวลานี้เอง โทรศัพท์ส่วนตัวของหานเซี่ยนอวี่พลันดังขึ้น

ชื่อผู้โทรเข้ามาคือ เยี่ยไป๋

เมื่อเห็นชื่อนี้ เฟยหยางรีบรับโทรศัพท์ เอ่ยอย่างระมัดระวัง “สวัสดีครับ คุณเยี่ย”

“เปิดไลฟ์สดดูครับ” คนปลายสายไม่อ้อมค้อม แต่กลับเอ่ยตรงประเด็นเลย

เฟยหยางได้ยินดังนั้นพลันตกใจ “ตอนนี้เหรอครับ?”

เยี่ยไป๋ “ครับ”

เฟยหยางลังเลเล็กน้อย จากนั้นเอ่ยว่า “ครับ ผมทราบแล้ว”

เฟยหยางรีบเปิดคอมพิวเตอร์เข้าไปดูเว็บไซต์ที่ถ่ายทอดสด จากนั้นเคาะประตูห้องนอนของหานเซี่ยนอวี่ “เซี่ยนอวี่…เซี่ยนอวี่…นายตื่นหรือยัง?”

หลังจากผลักประตูเข้าไป กลิ่นเหล้าคลุ้งไปทั้งห้องเหมือนที่ผ่านมา

หานเซี่ยนหวี่นอนอยู่ที่พื้น มีขวดเหล้ากลิ้งอยู่ข้างตัวเต็มพื้นห้อง ได้ยินเสียงเฟยหยางเรียกตัวเอง ก็ไร้ปฏิกิริยาตอบสนอง

เห็นเขาในสภาพนี้แล้ว เฟยหยางทั้งโกรธทั้งสงสาร แต่เขาก็รู้ว่าหากไม่ให้เซี่ยนอวี่ได้ระบายสักหน่อย กลัวว่าเขาจะเป็นบ้าไปจริงๆ ถึงไม่ได้ห้ามปราม

“รีบลุกขึ้นเร็วเข้า เมื่อกี้คุณเยี่ยโทรมา ให้พวกเราดูงานแถลงข่าว…”

ในเวลาเดียวกัน ณ โรงแรมใหญ่ในเมืองหลวง

ภายในห้องประชุมอเนกประสงค์ที่ใหญ่ที่สุดในโรงแรม เต็มไปด้วยนักข่าวจากหลายสำนัก จ้าวต้าหย่งบิดาของเด็กผู้หญิงและหลี่เฉียวหงมารดาของเด็กผู้หญิงกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะแถลง

จ้าวต้าหย่งมีรูปร่างท้วมเล็กน้อย ตัดผมทรงผมสกินเฮด สวมสูทเก่าๆ สีดำที่ขนาดไม่ค่อยพอดีกับเขานัก สีหน้าดูเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก

“ขอบพระคุณสื่อมวลชนทุกท่านที่ให้ความช่วยเหลือครอบครัวของเรา หานเซี่ยนอวี่เป็นดาราดัง มีทั้งเงินทั้งอำนาจ พวกเราเป็นประชาชนตัวเล็กๆ คิดอยากจะทวงคืนความยุติธรรมนั้นยากเหมือนเข็นครกขึ้นผู้เขา โชคดีที่บนโลกนี้ยังมีคนจิตใจดีอยู่มาก ทำให้พวกเราสองสามีภรรยามีพื้นที่ได้พูด ไม่อย่างนั้นพวกเราคงไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี…”

…………………………………………………………….

บทที่ 262 เป็นเขา…

หลี่เฉียวหงที่อยู่ด้านข้างเส้นผมมันเล็กน้อย สวมกระโปรงสีเทาไม่ใหม่ไม่เก่า ท่าท่างบอบบาง ก้มศีรษะเช็ดน้ำตาอยู่ตลอดเวลา “ฉันไม่นึกเลยว่าหานเซี่ยนอวี่จะเป็นคนแบบนี้ คิดไม่ถึงว่าฉันจะเป็นคนส่งลูกสาวไปอยู่ในกำมือของคนชั่วพรรค์นี้เองกับมือ…”

ทั้งสองเป็นประชาชนชนชั้นล่างแสนธรรมดา ยากจนข้นแค้น ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ยังโชคร้ายมาเจอเรื่องแบบนี้อีก พอปรากฏกายหน้ากล้อง ก็มีคนถาโถมมาคอมเมนต์เห็นใจในความโชคร้ายของพวกเขาจำนวนนับไม่ถ้วน แน่นอนว่ามีคอมเมนต์สาปแช่งหานเซี่ยนอวี่มากกว่า

ที่คอนโด เฟยหยางเห็นสองสามีภรรยาแสร้งทำตัวน่าสงสารอยู่ตรงนั้น ก็รู้สึกโมโหจนร่างแทบระเบิด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหานเซี่ยนอวี่ที่เจอกับตัวเลยว่ามองภาพนี้แล้วจะรู้สึกอย่างไร

“เซี่ยนอวี่ นายโอเคใช่ไหม…” เฟยหยางถามขึ้นอย่างเป็นห่วง

หานเซี่ยนอวี่จ้องสองคนนั้นที่อยู่ในจอโดยไม่พูดอะไรสักคำ จากนั้นไม่รู้ว่าเห็นอะไรเข้า สายตาพลันเปลี่ยนไป “เป็นเขา…”

“ใคร?” เฟยหยางมองตามสายตาของหานเซี่ยนอวี่ไปอย่างไม่เข้าใจ

จากนั้น เขาก็เห็นร่างคุ้นเคยร่างหนึ่งในที่นั่ง ผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างนักข่าวมาร์สวีคลี่ เหมือนว่าจะเป็นเยี่ยไป๋?

เขาก็อยู่ที่นั่นอย่างนั้นเหรอ?

เยี่ยไป๋คนนี้ เตรียมจะทำอะไรกันแน่…

ในสถานการณ์ที่มติมหาชนเห็นไปในทางเดียวกันแบบนี้ ไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้หรอก ถ้าวันนี้เขาเตรียมที่จะล้างมลทินให้หานเซี่ยนอวี่ในสถานการณ์แบบนี้ละก็ มีแต่จะส่งผลเสียให้หานเซี่ยนอวี่มากกว่าเดิม

เฟยหยางขมวดคิ้วเคร่งเครียด ดำดิ่งในความกังวล…

ในการถ่ายทอดสด คนที่พูดเป็นคนแรกคือเหยียนเจิ้งหยางนักข่าวตัวสูงผอมของสำนักข่าวตงหนานเดลี่ที่ถูกหานเซี่ยนอวี่ต่อยในตอนนั้น

สิ่งที่ถูกเรียกว่าข่าววงในในเหตุการณ์ครั้งนี้ ส่วนมากล้วนมาจากปลายปากกาของสำนักข่าวตงหนานเดลี่ ในขณะเดียวกันพวกเขายังเป็นผู้ริเริ่มและจัดงานแถลงข่าวในครั้งนี้ขึ้นมา

ใช้ประโยชน์จากความร้อนแรงของข่าวนี้ เรียกได้ว่าตงหนานเดลี่ได้ทั้งชื่อเสียงได้ทั้งผลประโยชน์ ซ้ำยังได้รับคำชมเชยว่าเป็นนักบุญแห่งวงการ

ก่อนจะเริ่มถามคำถาม เหยียนเจิ้งหยางเริ่มจากเปิดสไลด์โชว์เล่าความเป็นมาของเรื่องราวให้ทุกคนฟัง “รูปนี้หานเซี่ยนอวี่กับเด็กผู้หญิงหลายคนอยู่ในห้องด้วยกัน ทั้งยังนอนบนเตียงเดียวกันด้วย ทุกคนน่าจะเคยเห็นกันแล้วนะครับ

ตอนนั้นก็เป็นเพราะผมใช้รูปนี้ไปสัมภาษณ์ตามหลักเหตุผลเท่านั้น หานเซี่ยนอวี่ก็ลงมือทำร้ายผมอย่างรุนแรง ในฐานะดาราคนหนึ่ง ลักษณะนิสัยแบบนี้ ผมมีเหตุผลเพียงพอที่จะสงสัยว่านอกจากเขาจะมีจิตผิดปกติแล้ว เขายังมีแนวโน้มใช้ความรุนแรงอีก…”

“นั่นน่ะสิ! จะยังไงก็แล้วแต่ ลงมือทำร้ายคนอื่นได้ยังไง?”

“เหยียบโดนหางเข้าล่ะมั้ง!”

“นึกไม่ออกเลยว่าเด็กพวกนั้นถูกทำอะไรน่ากลัวขนาดไหนในนั้น!”

คำพูดของเหยียนเจิ้งหยางได้รับการสนับสนุนจากสื่อมวลชนทั้งหลายในห้องประชุมและผู้ชมที่กำลังชมการถ่ายทอดสดอยู่ โดยเฉพาะสื่อต่างๆ ยิ่งเกลียดเรื่องการทำร้ายนักข่าวแบบนี้เข้ากระดูกดำ

เหยียนเจิ้งหยางกล่าวต่อไปว่า “หลังจากที่เรื่องถูกเปิดเผยออกมา ความสกปรกเบื้องหลังหานเซี่ยนอวี่ผู้ใจบุญค่อยๆ ผุดขึ้นจากผิวน้ำ ตั้งแต่คลิปเสียงกล่าวหาของเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ไปจนถึงรูปเปลือย ตั้งแต่ข่าววงในจากอดีตคนงานในบ้าน ไปจนถึงงานอดิเรกดำมืดของหานเซี่ยนอวี่จากปากของแฟนเก่า…

ท่ามกลางหลักฐานแบบนี้ แฟนคลับของหานเซี่ยนอวี่ยังคงหลับหูหลับตาหวังว่าจะล้างมลทินให้เขา! ยังคงหลับหูหลับตาหวังจะใช้ช่องว่างของกฎหมาย! นี่ช่างเป็นสิ่งที่น่าเจ็บปวดอย่างที่สุด!”

คำกล่าวอ้างเรียกร้องความยุติธรรมของเหยียนเจิ้งหยางจบลง จากนั้นหยิบไมโครโฟน มองไปทางบิดาของเด็กหญิงและเอ่ยว่า “คุณจ้าวและคุณนายจ้าวครับ ผมเข้าใจความรู้สึกของพวกคุณสองสามีภรรยามากๆ นะ ตอนแรกผมไม่อยากให้พวกคุณต้องย้อนนึกถึงความทรงจำอันน่าเจ็บปวดพวกนั้นอีก แต่ว่าเพื่อที่จะให้คนร้ายได้รับการลงโทษที่สมควรได้รับ เพื่อที่ความชอบธรรมจะได้รับการเปิดเผย ผมหวังว่าคุณจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ต้นให้ทุกคนฟังอย่างละเอียดได้ และเผยความจริงให้ทุกคนได้เห็น!”

……………………………………………………….

Options

not work with dark mode
Reset