บทที่ 1059 เปิดเผยความรักครั้งใหญ่
เกิดอะไรขึ้น…
เธอไม่ได้ฝันร้ายเรื่องนี้มานานมากแล้ว…
เยี่ยหวันหวั่นกอดถังถังที่อยู่ด้านข้างไว้แน่นโดยจิตใต้สำนึก เมื่อรับรู้ถึงอุณหภูมิอบอุ่นของเด็กน้อย ความเย็นในร่างกายจึงค่อยๆ ลดลงไป
ซือเยี่ยหานรู้สึกถึงความเคลื่อนไหวด้านข้าง จึงลืมตาขึ้น “เป็นอะไรไป”
เยี่ยหวันหวั่นส่ายหน้า “ไม่มีอะไร แค่ฝันร้ายน่ะ น่าจะเพราะวันนี้เล่นจนเหนื่อยไป…”
“ฝันถึงอะไร?”
“ฝันร้ายน่ะค่ะ ก็แค่ถูกไล่ฆ่าเอยอะไรเอย เลือดท่วมไปทั่วเท่านั้น ตกใจหมดเลย…”
ซือเยี่ยหานเงียบอยู่นาน เขายันตัวขึ้นเล็กน้อยแล้วจูบบนหน้าผากของหญิงสาว “มีฉันอยู่”
“อืม…” เยี่ยหวันหวั่นถูกปลอบจนหยีตาเหมือนลูกแมว ใจเย็นลงโดยสมบูรณ์ และตกเข้าสู่ห้วงฝันอีกครั้งในพริบตา
ครั้งนี้ ในฝันล้วนมีแต่ฉากน่าเบิกบานยินดี…
…
วันถัดมา ที่ห้องประชุมตึกบริษัทจูเสินสือไต้
วันนี้บริษัทมีการประชุมประจำ หัวข้อหลักคือประกาศเรื่องการโยกย้ายตำแหน่งระดับสูงและแผนงานของฤดูกาลถัดไป
หลังจากดำเนินธุรกิจมาได้สักระยะ บริษัทของพวกเขาค่อยๆ เข้าที่เข้าทางแล้ว ตอนนี้กำหนดให้เยี่ยมู่ฝานมีตำแหน่งเป็นประธานบริษัทควบตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสไตลิสต์ รับผิดชอบทุกอย่างที่เกี่ยวกับกิจกรรมภายนอกและการนำเสนอศิลปิน ส่วนเยี่ยหวันหวั่นยังคงเป็นผู้อำนวยการฝ่ายดูแลนักแสดง คอยบริหารทรัพย์สินอยู่หลังม่าน สองพี่น้องคนหนึ่งมุ่งดูแลภายนอก คนหนึ่งมุ่งดูแลภายใน
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยปาก “ลั่วเฉินกับกงซวี่หยุดประกาศทุกอย่างอย่างชั่วคราว และทุ่มเทกับการถ่ายหนังใหม่ ลั่วเฉินนายรับผิดชอบควบคุมและกระตุ้นกงซวี่…”
ลั่วเฉินตอบรับ “ครับ”
กงซวี่อุบอิบ “อาศัยอะไรให้เขามาดูแลผมกัน!”
เยี่ยหวันหวั่นกลอกตา “ใครใช้ให้นายฉุดลั่วเฉินลงน้ำด้วยล่ะ”
ตั้งแต่เวยป๋อโพสต์นั้นของกงซวี่เป็นต้นมา คำค้นหายอดนิยมที่อันดับยาวนานบนโลกออนไลน์ก็คือ ‘มิตรภาพที่กินขี้ด้วยกัน’
คนเขาพูดกันว่าความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องคือดื่มเหล้าด้วยกันกินเนื้อด้วยกันจีบสาวด้วยกัน แต่สองคนนี้ดันกินขี้ด้วยกัน…
เหลือทนจริงๆ!
เยี่ยหวันหวั่นพูดจบ ก็หันไปมองหานเซี่ยนอวี่ “เซี่ยนอวี่ นายปรากฏตัวในที่สาธารณะน้อยเกินไป ทางนี้มีเรียลลิตี้โชว์อยู่สองสามรายการ กลับไปนายลองเลือกมาสักอย่างก็ได้”
หานเซี่ยนอวี่พยักหน้า “ตกลง”
เขามองเยี่ยไป๋ที่กลับมาแต่งชาย ซึ่งยังเปี่ยมความสามารถอย่างที่ผ่านมา ก็มีสีหน้าผวาเล็กน้อย
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในห้างวันนั้น เหมือนเป็นความฝันยังไงยังงั้น…
ตอนมองเยี่ยไป๋ที่มีสีหน้าท่าทางเหมือนปกติ เขาเกือบสงสัยแล้วว่าเรื่องในวันนั้นเป็นความจริงหรือเปล่า
“ตอนนี้ให้ประธานเยี่ยอธิบายแผนงานของฤดูกาลถัดไปสักเล็กน้อย” เยี่ยวหวันหวั่นพูดจบก็กลับไปที่ของตัวเอง
เยี่ยมู่ฝานพยักหน้า แล้วเดินมาที่ด้านหน้าหน้าจอใหญ่
ขณะที่จะเอ่ยปากพูด เวลานี้กงซวี่ที่อยู่ด้านล่างก็ลุกพรวดขึ้นมาเหมือนโดนสูบลม “เชี่ย! ฉันเห็นอะไรเข้าแล้วเนี่ย!”
เส้นเงาดำพาดผ่านใบหน้าเยี่ยมู่ฝาน “กง ซวี่! ตอนนี้เป็นเวลาประชุม!”
เจ้านี่เป็นเด็กโรคสมาธิสั้นรึไง?
กงซวี่ชี้โทรศัพท์ตัวเองด้วยสีหน้าสยองขวัญ “ประชุมอะไรเล่า! เร็ว! พวกคุณรีบเปิดลิงก์ที่ผมส่งไปในกลุ่ม! มีข่าวซุบซิบประเด็นใหญ่เลย!”
เยี่ยมู่ฝานโกรธจนอยากอัดคน เขาสงสัยหนักมากว่ากงซวี่ทำงานผิดอาชีพ น่าจะไปเป็นปาปารัซซีมากกว่า
มีความกระตือรือร้นแบบนี้อยู่ ไม่แน่ตอนนี้อาจเป็นนักข่าวบันเทิงเบอร์หนึ่งของวงการบันเทิงไปแล้ว!
หานเซี่ยนอวี่ที่อยู่ด้านข้างส่ายหน้าอย่างเอือมระอา “มีข่าวลืออะไรอีก”
กงซวี่จ้องหานเซี่ยนอวี่ด้วยแววตาประหลาด “หานเซี่ยนอวี่ พี่ยังจะมาถามผมอีก?!”
หานเซี่ยนอวี่ได้ยินก็ไม่เข้าใจ “หมายความว่าไง”
กงซวี่จ้องหน้าจอมือถือ อ่านออกเสียงทีละคำ “เปิด เผย ครั้ง ใหญ่ ความ รัก ใหม่ ของ หาน เซี่ยน อวี่!”
………………………………
บทที่ 1060 ใจแคบเกินไปแล้ว
“พรวด” เฟ่ยหยางที่กำลังดื่มน้ำสำลักทันที “นายพูดเรื่องอะไรของนาย?”
ลั่วเฉินหันมองหานเซี่ยนอวี่ด้วยสายตาประหลาดใจไม่ต่างกัน
แม้แต่เยี่ยหวันหวั่นก็ยังทำหน้าเหลือเชื่อ
ถ้าหากพาดหัวข่าวซุบซิบเปลี่ยนเป็น ‘กงซวี่’ แทน เธอยังพอเข้าใจได้ เพราะนั่นเป็นเรื่องที่ปกติมาก
แต่ว่า หานเซี่ยนอวี่เนี่ยนะ?
เผยรักครั้งใหม่ของหานเซี่ยนอวี่?
ถ้าพูดถึงนักแสดงชายที่รักษาตัวให้อยู่ห่างจากข่าวฉาวทั้งปวงได้ดีที่สุดในวงการบันเทิง หานเซี่ยนอวี่จะต้องเป็นหนึ่งในนั้นแน่นอน
ตั้งแต่เดบิวต์จนถึงตอนนี้เคยมีแฟนแค่คนเดียว มั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง ต่อมาที่ต้องเลิกกันเพราะอีกฝ่ายนอกใจไปคบซ้อนกับนักธุรกิจร่ำรวยคนหนึ่ง
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น หานเซี่ยนอวี่ก็ไม่เคยพูดถึงอีกฝ่ายในทางเสียหายต่อหน้าสาธารณะแม้แต่ครั้งเดียว
กลับเป็นอีกฝ่ายที่พอหานเซี่ยนอวี่เกิดปัญหา ก็จงใจพูดจาชวนเข้าใจผิดเพื่อให้ประเด็นร้อนแรงขึ้น ส่งผลให้สาธารณชนคิดว่าหานเซี่ยนอวี่เป็นพวกใคร่เด็ก เกือบทำให้เขาอนาคตดับแล้ว…
ตั้งแต่นั้นมา หานเซี่ยนอวี่ก็ไม่มีข่าวรักๆ ใคร่ๆ อีกเลย ไม่มีแม้กระทั่งชนวนให้เกิดข่าวซุบซิบ
ดาราหญิงคนนั้นไหนกันแน่ที่มีข่าวซุบซิบกับหานเซี่ยนอวี่ได้?
พอคิดมาถึงตรงนี้ แม้แต่เยี่ยหวันหวั่นก็เริ่มอยากรู้บ้างแล้ว รีบคลิกอ่านข่าวบันเทิงที่กงซวี่แชร์มาในกลุ่มทันที
ไม่นาน เยี่ยหวันหวั่นก็เห็นภาพสะดุดตาบนพาดหัวข่าวหน้าแรก ในรูปเป็นแผ่นหลังของชายหญิงคู่หนึ่ง
ฝ่ายชายเป็นหานเซี่ยนอวี่ ส่วนผู้หญิงกลับเป็น…เป็นตัวเธอเอง?!
เยี่ยหวันหวั่นเกือบสำลักน้ำลายตัวเอง
ให้ตาย! นี่มันตอนเธอเจอหานเซี่ยนอวี่ที่ห้างวันนั้นไม่ใช่เหรอ?
โดนแอบถ่ายตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย?
เยี่ยหวันหวั่นรีบปัดลงข้างล่าง โชคดีที่ฝ่ายนั้นถ่ายไม่เห็นหน้า มีแค่ภาพจากด้านหลังกับด้านข้างไม่กี่ภาพ
จากนั้นเธอกวาดตาอ่านเนื้อหาข่าวเร็วๆ ที่แท้ภาพก็หลุดมาจากฝั่งแฟนคลับของหานเซี่ยนอวี่ มีแฟนคลับจำแผ่นหลังกับเสื้อผ้าของหานเซี่ยนอวี่ได้ พอเห็นเขามาเดินห้างฯ กับผู้หญิงคนหนึ่งอย่างไม่คาดคิด ก็เลยถ่ายรูปพวกนี้เก็บไว้…
กงซวี่บ่นอย่างตื่นเต้น “พี่เซี่ยนอวี่ พี่จะใจแคบเกินไปแล้วนะ! มีแฟนแล้วแต่ปิดบังพวกผม!”
หานเซี่ยนอวี่นวดหัวคิ้ว หันไปมองเยี่ยหวันหวั่นตามจิตใต้สำนึก และเผยสีหน้าหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก
เขาไม่นึกเลยว่าวันนั้นจะโดนถ่ายรูปไว้ได้
นี่มันจะบ้าบอกันไปใหญ่แล้ว…
“พี่เซี่ยนอวี่ รีบบอกมาตามตรงเลยนะ! ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่ หลิวอินอิน? ฟู่เสวี่ย? หรือเฉินเสี่ยวชู หรือว่า…เชี่ย! หรือว่าเฉียวเข่อซิน?”
หานเซี่ยนอวี่มุมปากกระตุก
จะให้บอกตามตรงเหรอ
หรือจะให้บอกว่าในภาพคือเยี่ยไป๋เพื่อนเกลอของเขา…คนที่นั่งอยู่ตรงนี้?
ตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นก็ปวดหัวเช่นกัน ไม่ว่าจะนึกอย่างไร เธอก็นึกไม่ถึงว่าตัวเองจะมาตกม้าตายตรงนี้
กลับบ้านไปถึงจะคุกเข่าจนกระดานซักผ้าหักก็ไม่มีประโยชน์แล้ว…
หานเซี่ยนอวี่มองกงซวี่ที่กำลังตื่นเต้นเหมือนได้ฉีดเลือดไก่ “หยุดเดามั่วได้แล้ว ไม่ใช่อย่างที่นายคิด”
กงซวี่ดวงตาเป็นประกาย “แล้วมันยังไง ยังไงๆๆ? พี่ก็บอกมาสิ!”
เฟ่ยหยางทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ บอกว่า “จะตอบว่ายังไงดีล่ะทีนี้?”
เซี่ยนอวี่ไม่ยอมบอกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร เกี่ยวข้องอะไรกัน ตอนนี้เขาร้อนใจจะตายแล้ว!
“พี่เฟย แม้แต่พี่ก็ไม่รู้เรื่องนี้เหรอ” กงซวี่ได้ยินอย่างนั้นยิ่งตะลึง ลั่วเฉินเองก็ทำหน้าสงสัยใคร่รู้อย่างหาดูได้ยาก
ด้วยความสามารถของเฟ่ยหยาง ถ้าเขารู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร และเป็นอะไรกับหานเซี่ยนอวี่ ก็น่าจะรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสมที่สุดในทันที แต่ตอนนี้เฟ่ยหยางกลับลังเล แสดงว่าแม้แต่เขาก็ไม่ได้รู้เรื่องนี้ดีเหมือนกัน
…………………