บทที่ 1049 ซาดิสม์
ทันใดนั้น เสียงอู้อี้ดังขึ้น ยามาโมโตะหน้าเปลี่ยนสี งอเข่าด้วยความเจ็บปวดสาหัส หน้าผากซึมเหงื่อเย็น ทั้งร่างถอยกะโผลกกะเผลกไปข้างหลังหลายก้าว
แต่ ทันทีที่ยามาโมโตะถอยหลัง เยี่ยหวันหวั่นก็กลับพุ่งไปด้วยความรวดเร็ว เพียงไม่กี่ก้าว ตัวเธอก็มาถึงด้านหน้ายามาโมโตะ แขนซ้ายยกขึ้น ตั้งท่าจะตบแก้มขวาของยามาโมโตะ
แทบจะด้วยสัญชาตญาณ ยามาโมโตะยกมือกัน
เห็นดังนั้น เยี่ยหวันหวั่นลดแขนลง จ้องยามาโมโตะที่อยู่ในท่ายกแขนกันอย่างสนใจ
“แกหลอกฉัน!”
ยามาโมโตะได้สติอย่างรวดเร็ว เขามองเยี่ยหวันหวั่นอย่างโมโห
แต่ยามาโมโตะเพิ่งเอ่ยปาก แขนซ้ายของเยี่ยหวันหวั่นกลับเงื้อขึ้นอีก
เห็นแบบนั้น ยามาโมโตะก็ตั้งท่าป้องกันอีกครั้งโดยจิตใต้สำนึก
‘เพี๊ยะ!’
จากนั้นทันทีทันใด เยี่ยหวันหวั่นหัวเราะเยาะ ยกแขนขวาขึ้น ตบแก้มซ้ายของยามาโมโตะอย่างแรง
“ฉันจะฆ่าแก!”
หลังจากที่ยามาโมโตะถูกเยี่ยหวันหวั่นตบหนึ่งฉาด เขาก็พลันตะคอกเสียงดัง ใช้ฝ่ามือต่างมีด พุ่งไปเฉือนลำคอของเยี่ยหวันหวั่น
เยี่ยหวันหวั่นยืนอยู่กับที่ ไม่ขยับสักแอะ แต่ในชั่วพริบตาเดียว ฝ่ามือเธอพุ่งออกไป คว้าหมับมีดมือที่ยามาโมโตะฟาดมา
มือซ้ายของเยี่ยหวันหวั่นราวกับคีมจับไม่ปาน เรี่ยวแรงน่าตื่นตะลึง จนยามาโมโตะชักมือกลับไม่ได้ในช่วงเวลาสั้นๆ
‘เพียะ!’
มือหนึ่งของเยี่ยหวันหวั่นจับมือขวาของยามาโมโตะไว้ ส่วนอีกมือก็ตบใส่หน้ายามาโมโตะอย่างแรง
“นังนี่ แกตายแน่!” ยามาโมโตะจ้องเยี่ยหวันหวั่นเขม็ง
‘เพียะ!’
ยามาโมโตะพูดจบ เยี่ยหวันหวั่นก็ตบหน้ายามาโตโตะอย่างแรงอีกฉาดติดๆ
“ตายไม่ตายนะ?” เยี่ยหวันหวั่นแค่นเสียงเย็น ดวงตาวาบคลื่นเย็นชา
เดิมทีเธอจัดการคนคนนี้เร็วๆ ก็ได้ แต่เมื่อนึกถึงคำที่เจ้าขยะนี่พูดเมื่อตะกี้ เธอก็ไม่อยากทำอย่างนั้น
เสี้ยวเวลานี้ ทุกคนในเหตุการณ์ตาโตอ้าปากค้าง ตะลึงงันอยู่กับที่
ยามาโมโตะคำรามด้วยความโกรธทันที ไม่ขัดขืนกับพันธนาการของเยี่ยหวันหวั่นอีก สองมือเขาจับเยี่ยหวันหวั่นแน่น คิดจะใช้แรงกดของร่างกาย ล้มเยี่ยหวันหวั่นชั่วพริบตา
แต่ทว่าเยี่ยหวันหวั่นกลับคล่องแคล่วว่องไว พริบตาที่ยามาโมโตะคว้าเธอ เธอก็งอตัวน้อยๆ ประสานแรงทั้งร่างระเบิดมันในชั่ววินาที
ในสายตาของทุกคน เหมือนกับว่าเยี่ยหวันหวั่นคว้ายามาโมโตะไว้ งอเอวหงายหลัง ทุ่มยามาโมโตะลงกับพื้นอย่างหนักหน่วง
เสียงดังสนั่นนี้ คนอื่นแค่ได้ยินก็รู้สึกเจ็บเหลือแสนแล้ว
ผู้นำตระกูลซุนซุนลี่จ้ง มองเยี่ยหวันหวั่นที่ด้านล่าง ดวงตาเปี่ยมไปด้วยความไม่อยากเชื่อ แข็งแกร่งอย่างยามาโมโตะ ในฝ่ามือของผู้หญิงคนนั้น กลับถูกรังแกเล่นอย่างสิ้นเชิง…
ทุกครั้งที่ยามาโมโตะทำท่าจะโจมตี เยี่ยหวันหวั่นก็นำก่อนหนึ่งก้าว ตอบโต้กลับอย่างยอดเยี่ยม แม้ความเร็วและเรี่ยวแรงของเยี่ยหวันหวั่นจะเทียบยามาโมโตะไม่ได้ แต่ทักษะศิลปะการต่อสู้และทักษะมวยปล้ำกลับเหนือล้ำยามาโมโตะหลายขุม…ทั้งสองคนนี้ คนละระดับกันโดยสิ้นเชิง!
คนของตระกูลซุนและตระกูลฉินที่เดิมทีดูถูกเยี่ยหวันหวั่นต่างๆ นานา ตอนนี้ตกอยู่ในความเงียบงันแล้ว มองท่วงท่าคล่องแคล่วพลิ้วไหวของผู้หญิงคนนั้นราวกับเห็นผีไม่ปาน
ทั่วทั้งสถานที่ เงียบกริบ
คนคนหนึ่งที่ร่างกายดูเล็กและอ่อนแอ จะระเบิดแรงน่ากลัวแบบนี้ได้ยังไง แล้วเธอยังมองทะลุองศาและการเคลื่อนไหวของยามาโมโตะได้ยังไงอีก…
ทุกครั้งที่ลงมือ เยี่ยหวันหวั่นกดการโจมตีของยามาโมโตะได้อยู่หมัด ทำให้ยามาโมโตะมีแรงแต่ไม่ได้ใช้ หากนี่เป็นศึกชี้เป็นชี้ตาย เกรงว่ายามาโมโตะคงถูกเยี่ยหวันหวั่นทุบตายไปแล้ว…
ผู้หญิงคนนี้…น่ากลัวเกินไปแล้วจริงๆ …
—————————————————————————————-
บทที่ 1050 เสือซ่อนเล็บ
บนสังเวียน ยามาโมโตะถูกโยนออกไป เขาคว่ำอยู่ตรงนั้น ไม่ขยับเขยื้อน
ดูสภาพแล้ว ท่าทุ่มเมื่อครู่นี้ของเยี่ยหวันหวั่น คงพอทำให้อวัยวะภายในเขาบาดเจ็บ
เหล่าตัวแทนของสามตระกูล ผู้ตัดสินบนเวที รวมถึงซุนลี่จ้ง เซนนี มู่สุยเฟิงต่างก็ตะลึงค้างอยู่ตรงนั้น
หลังสถานที่เงียบกริบหลายวินาที ในที่สุดทุกคนก็ตอบสนอง คลื่นอารมณ์ถาโถมทันควัน
“ชะ…เชี่ย! โคตรแกร่ง!” ฝั่งตระกูลซุน ปิ่งซิ่งทึ่งใจจนหน้าส่องแสง
“นึกไม่ถึงว่า คุณหนูเยี่ยท่านนี้จะเป็นเสือซ่อนเล็บ…” พี่ใหญ่โจวเหินมีสีหน้าซับซ้อน
“มิน่าคนเขาถึงไม่สนใจขึ้นเวที! เพราะระดับคนละชั้นกับพวกเรานี่เอง!”
“เมื่อก่อนฉันนึกว่าคุณหนูของพวกเรานับว่าเป็นสุดยอดในรุ่นเดียวกัน ตอนนี้ดูแล้ว โลกภายนอกช่างกว้างใหญ่ เหนือฟ้ายังมีฟ้าจริงๆ!”
…
ทางด้านตระกูลฉิน หัวกะทิห้าคนเงยหน้ามองหญิงสาวที่กำราบยามาโมโตะบนเวที สีหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
ไม่น่าเชื่อว่ายามาโมโตะที่ล้มเซนนี ซุนเสวี่ยเจินและคุณหนูของพวกเขาที่ร่วมมือกันก็ไม่อาจต้านทาน กลับถูกหญิงสาวบอบบางร่างน้อยโค่นลง…
พลังของผู้หญิงคนนี้ แท้จริงแข็งแกร่งกว่าคุณหนูรั่วซีเสียอีก!
ไม่สิ…แข็งแกร่งกว่ามาก…
“มารดาเถอะเพิ่งเคยเห็นผู้หญิงที่ฝีมือเก่งกาจได้ถึงขั้นนี้!”
“ไม่แปลกใจที่ซือเยี่ยหานส่งเธอมาเป็นตัวแทนตระกูลซือ!”
“ก็นั่นน่ะสิ ฉันยอมแล้ว!”
ได้ยินเสียงหัวกะทิของอีกสองตระกูลชื่นชมและถกกันไม่หยุด บอดี้การ์ดห้าคนของฝั่งตระกูลซือก็อดเลือดลมพลุ่งพล่านในทรวงอก รู้สึกราวกับฝันอยู่ยังไงยังงั้น
“คะ…คุณหนูของพวกเราเก่งขนาดนี้เชียว?”
ห้าคนมองหน้ากันอย่างตกใจ ขณะเดียวกันหน้าก็พลันร้อนเพราะเมื่อครู่นี้ตัวเองดันตัดสินคนที่หน้าตา
“อาจารย์ “
“อาจารย์เป็นยังไงบ้าง!”
เวลานี้ลูกศิษย์สองคนของยามาโมโตะตกใจกลัวจนหน้าถอดสี พุ่งตรงไปที่สังเวียน
“กะ…แกๆ …” สีหน้าที่คาวาตะมองเยี่ยหวันหวั่นราวกับมองสัตว์ประหลาด
เยี่ยหวันหวั่นก้าวขึ้นหน้าหนึ่งก้าวอย่างไม่เร็วไม่ช้า เลิกคิ้วเล็กน้อย “ทำไม”
คาวาตะกับลูกศิษย์อีกคนเห็นเยี่ยหวันหวั่นเข้ามากะทันหัน ก็พลันตกใจจนล้มลุกคลุกคลานถอยไปด้านหลัง “อย่าเข้ามานะ!”
กระทั่งยามาโมโตะยังถูกอัดจนเป็นแบบนี้ พวกเขาไหนเลยจะกล้าลงมือสุ่มสี่สุ่มห้า
เยี่ยหวันหวั่นเดินไปทางยามาโมโตะต่อ
ลูกศิษย์สองคนหน้าแข็งค้าง ฝีเท้าราวกับถูกตอกไว้บนสังเวียนยังไงยังงั้น พลันไม่กล้าขยับเขยื้อนขึ้นมา
เยี่ยหวันหวั่นก้าวย่างทีละก้าวไปตรงหน้ายามาโมโตะที่กรีดร้องไม่หยุดช้าๆ “ยังจะเอาอีกสักรอบไหม”
ทันทีที่ได้ยิน ยามาโมโตะก็หน้าซีด ทั้งร่างชักกระตุกขึ้นมา “ไม่…ไม่ ฉันยอมแพ้! ฉันยอมแพ้ ฉันแพ้แล้ว!”
คราวนี้เขาย่ามใจไป จะไปนึกถึงได้ยังไงว่า พลังต่อสู้ของผู้หญิงคนนี้กลับเหนือกว่าเขา ต่อให้แข่งอีกสิบครั้งร้อยครั้ง ก็มีแค่ผลลัพธ์เดียว
คนที่ด้านล่างสังเวียนอาจยังไม่รู้ มีแค่ตัวเขาที่ชัดเจนที่สุด ว่าการประลองตาเมื่อครู่ เขาบาดเจ็บสาหัสขนาดไหน ไม่มีทางสู้กับเธอได้อีกนัดแน่ นอกจากว่าเขาไม่รักชีวิตแล้ว
ผู้หญิงคนนี้ไม่เพียงพลังต่อสู้น่ากลัว แต่ยังลงมือโหดเหี้ยมด้วย!
ด้านล่างเวที ทุกคนได้ยินเสียงยอมแพ้ของยามาโมโตะต่างก็ตื่นเต้นสุดขีด
“สู้ได้ดี ทำเอาเจ้านั้นเป็นหมาดูถูกคนเลย!”
“ศิลปะการต่อสู้ของประเทศเรามีประวัติยาวนาน กว้างขวางลึกซึ้ง ดันกล้ามาหยาบช้าในถิ่นพวกเราซะได้!”
…
สุดท้าย ยามาโมโตะก็ถูกลูกศิษย์สองคนพยุง หนีหางจุกตูดไปท่ามกลางเสียงก่นด่า
………………………………..