บทที่ 1209 ถ้าฉันไม่ให้ล่ะ
เยี่ยหวันหวั่นไล่ทหารรับจ้างห้าคนออกไป พยายามสงบสติอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็เปิดประตูให้พวกเนี่ยอู๋หมิงเข้ามา
เยี่ยหวันหวั่นบอก “นั่งสิ”
เนี่ยอู๋หมิงเอ่ยว่า “น้องสาว…”
“ถังถังไม่อยู่ ไม่ต้องเรียกน้องสาวก็ได้” เยี่ยหวันหวั่นนั่งลงบนโซฟา เนี่ยอู๋หมิงนั่งฝั่งตรงข้าม ส่วนอีกสี่คนยืนรออยู่ข้างๆ
เนี่ยอู๋หมิงกระแอมเบาๆ “โอเคๆๆ น้องโหย่วหมิง…”
เดิมทีเยี่ยหวันหวั่นไม่อยากเจอ แล้วก็ไม่อยากถามด้วย แต่อีกไม่นานถังถังจะกลับมาพร้อมกับซือเยี่ยหานแล้ว
ดังนั้นสุดท้ายจึงเปิดประตูให้พวกเขาเข้ามา
“ทำไมจู่ๆ ถึงมารับถังถังกลับบ้าน?” เยี่ยหวันหวั่นชะงัก จากนั้นถามอีกว่า “เกิดเรื่องด่วนอะไรขึ้นที่บ้านงั้นเหรอ หรือว่า หาตัว…พ่อแม่ถังถังเจอแล้ว?”
เนี่ยอู๋หมิงตอบว่า “ยังหาตัวผู้ชายคนนั้นไม่เจอ แต่เจอน้องสาวฉันแล้ว”
หาแม่แท้ๆ ของถังถังเจอแล้วจริงๆ ด้วยสินะ…
ถึงแม้คำตอบจะเป็นอย่างที่คิดไว้ แต่เยี่ยหวันหวั่นก็ยังตั้งรับไม่ค่อยทัน “ทำไมถึงกะทันหันอย่างนี้?”
เนี่ยอู๋หมิงอธิบาย “ก่อนหน้านี้ฉันรับปากเธอแล้ว จะหาให้เจอภายในเวลาสามเดือน ความจริงฉันได้เบาะแสมานานแล้ว แต่เพราะเคยตกม้าตายมาหลายครั้ง เลยยังไม่อยากบอกถ้ายังไม่มั่นใจ ครั้งนี้ฉันตรวจสอบแน่ชัดและมั่นใจแล้ว ถึงได้พาคนมารับถังถังกลับบ้าน”
เนี่ยอู๋หมิงพูดจบ เยี่ยหวันหวั่นเงียบไปครู่หนึ่งก็ยังไม่ยอมเปิดปาก ภาพความทรงจำที่อยู่ร่วมกับถังถังในช่วงที่ผ่านมาค่อยๆ ผุดขึ้นมาทีละภาพ…
จู่ๆ ยังไม่ทันได้เตรียมใจ ถังถังก็ต้องไปแล้ว
เหมือนตอนแรกที่เขาปรากฏตัวอย่างกะทันหัน…
พอเห็นเยี่ยหวันหวั่นไม่ยอมพูดอะไร เนี่ยอู๋หมิงจึงเรียก “น้องโหย่วหมิง?”
เยี่ยหวันหวั่นเงยหน้ามองเขา “คุณไว้ใจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ”
เนี่ยอู๋หมิงไม่เข้าใจ “หา?”
แววตาของเยี่ยหวันหวั่นเย็นชาขึ้น “ถ้าฉันไม่ยอมคืนเด็กให้คุณล่ะ”
เนี่ยอู๋หมิงไม่ทันพูดอะไร นักพรตใจบริสุทธิ์ก็โพล่งด้วยความตื่นเต้น “เถ้าแก่โหย่วหมิง จิตวิญญาณในการช่วยเหลือคนของคุณช่างยิ่งใหญ่และน่ายกย่องนัก!”
อี้จือฮวากล่าว “งั้นต่อจากนี้คุณก็จะกลายเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตพวกเรา!”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก
เยี่ยหวันหวั่นนวดขมับ มองบนใส่พวกเขาอย่างเอือมระอา ถามว่า “พวกคุณอยู่แถบยุโรปเหนือใช่ไหม?”
เนี่ยอู๋หมิงครุ่นคิด “ประมาณนั้น…”
อะไรคือประมาณนั้น?
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “หลังจากนี้…ฉันจะไปเยี่ยมถังถังได้ไหม?”
เนี่ยอู๋หมิงได้ยินแล้วทำหน้าลำบากใจ สี่คนข้างหลังต่างมองหน้ากัน สีหน้าดูมีลับลมคมใน
ต่อจากนั้น เนี่ยอู๋หมิงตอบว่า “หากเป็นสถานการณ์ปกติ ก็ต้องได้อยู่แล้ว…แต่ว่า…จุดที่บ้านฉันอยู่ค่อนข้างพิเศษ…คนนอกเข้าออกไม่ได้ง่ายๆ…เพราะงั้น…”
เยี่ยหวันหวั่นแปลกใจ “คนนอกเข้าออกไม่ได้ง่ายๆ? หมายความว่ายังไง”
อี้จือฮวาอธิบาย “พูดง่ายๆ ก็คือ…ที่ที่พวกเราอยู่ค่อนข้างต่อต้านคนนอก ห้ามคนนอกเข้าออก ถ้าคนทั่วไปบุกเข้าไป…ก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้…”
เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกคุ้นกับคำพูดทำนองนี้ เธอพึมพำเบาๆ ตามจิตใต้สำนึก “หรือว่า…พวกคุณเป็นคนของรัฐอิสระ?”
อี้จือฮวาเลิกคิ้ว “เอ๊ะ? เถ้าแก่โหย่วหมิง รู้จักรัฐอิสระด้วยเหรอ?”
เนี่ยอู๋หมิงค่อนข้างประหลาดใจ “ถังถังบอกเธอเหรอ?”
คำพูดของอี้จือฮวากับเนี่ยอู๋หมิงทำให้เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วมุ่น
ไม่นึกว่าจะเป็นรัฐอิสระจริงๆ…
พวกเนี่ยอู๋หมิงเป็นคนของรัฐอิสระจริงๆ
ความจริงดูจากฝีมือที่น่ากลัวของพวกเขา ก็ไม่น่าแปลกใจมาก…
คุณมู่เคยบอกว่ารัฐอิสระเป็นสถานที่ที่ไม่สามารถเข้าออกได้ตามอำเภอใจ
————————————————————————————-
บทที่ 1210 หัวหน้าหล่อ หัวหน้าไปก่อนเลย!
เดิมทีแค่ยุโรปเหนือก็ห่างไกลมากแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสถานที่ที่เป็นอันตรายสำหรับคนทั่วไป และไม่สามารถนึกฝันว่าจะได้ก้าวเท้าเข้าไปอย่างนั้นเลย
เยี่ยหวันหวั่นใจลอยเมื่อได้รู้เรื่องนี้ ตอนนี้อง นักพรตใจบริสุทธิ์ออกไปรับสายข้างนอก ผ่านไปครู่หนึ่งก็เดินกลับมาอย่างร้อนใจ “หัวหน้า คุณนายใหญ่เร่งแล้วนะครับ หลิงเฟิงกับหลิงอวิ๋นรออยู่ข้างนอก เครื่องบินใกล้มาถึงแล้ว…”
อี้จือฮวาบิดขี้เกียจ “ในที่สุดภารกิจมหาโหดก็จะสิ้นสุดลงแล้ว…ต้องตากแดดตากลมทุกวัน ดูสิ ผิวหน้าฉันเสียหมดแล้ว…”
นักพรตใจบริสุทธิ์กลอกตาใส่เขาอย่างหมั่นใส้ “อย่ามัวแต่ห่วงหน้าหยาบๆ ของนายเลย รีบอธิบายให้จอมมารฟังดีกว่า จะได้พาเขาพาเขาไปส่ง!”
อี้จือฮวาชะงักงันทันที “อธิบาย? ใครจะไปล่ะ”
นักพรตใจบริสุทธิ์รีบบอก “ฉันจะไปรู้เหรอ แต่ยังไงก็ไม่ใช่ฉันแน่นอน!”
อี้จือฮวาปฏิเสธ “บอกไว้ก่อนนะ! ฉันไม่ไปเด็ดขาด!”
หนุ่มกรรมกรต่างชาติบอก “ฉันพูดจีนไม่ค่อยเก่ง!”
หนุ่มภูเขาน้ำแข็ง “…”
ตลกแล้ว จะให้ไปอธิบายกับจอมมารน้อยว่าพวกเขารวมหัวกันหลอกเขางั้นเหรอ?
ด้วยเหตุนี้ ทั้งสี่เลยพร้อมใจกันหันไปมองเนี่ยอู๋หมิง
นักพรตใจบริสุทธิ์ยิ้มระรื่นพูดว่า “ผมว่า ใครโกหกก็ให้คนนั้นไปอธิบาย อย่างนี้เข้าท่าที่สุดแล้ว!”
อี้จือฮวากล่าวเสริม “หัวหน้า คุณหล่อคุณไปแล้วกัน!”
เนี่ยอู๋หมิงลูบคาง “ถ้างั้น…พวกเรามาสู้กัน ใครแพ้คนนั้นไป?”
อีกสี่คนที่เหลือได้แต่เงียบ
ชิบหาย! หน้าไม่อายเกินไปแล้วมั้ง?
พูดมาตรงๆ ว่าเขาจะไม่ไปเด็ดขาดก็สิ้นเรื่องแล้วไหม!
ในขณะที่ทั้งห้าคนกำลังเถียงกันว่าใครจะเป็นคนอธิบาย เสียงฝีเท้าก็ดังมาจากหน้าบ้าน จากนั้นร่างสองร่างก็เดินเข้ามา
ซือเยี่ยหานสวมชุดลำลองสีเบจ กลิ่นอายสุขุมเยือกเย็นของคนชั้นสูงปกคลุมรอบกาย ถังถังสวมชุดเด็กลายการ์ตูนที่เยี่ยหวันหวั่นซื้อให้ มือถือถังน้ำสีแดงเล็กๆ ใบหนึ่งไว้ ในถังน้ำมีปลาและกุ้งตัวเล็กหลายตัวว่ายไปว่ายมาอย่างสนุกสนาน
“แม่ครับ…”
ถังถังถือถังน้ำวิ่งเข้ามาอย่างมีความสุข ปรากฏว่าพอเห็นพวกเนี่ยอู๋หมิง สีหน้ามีความสุขและน่ารักน่าเอ็นดูก็หายไปในพริบตา
อี้จือฮวาเอ่ย “จะ…จบเห่แล้ว…”
นักพรตใจบริสุทธิ์คร่ำครวญ “จบเห่แล้วจริงๆ…หัวหน้าเรารนหาที่ตายแท้ๆ…ถึงขนาดกล้าโกหกจอมมารน้อย…หวังว่าเรื่องที่หาตัวแม่แท้ๆ เจอจะระงับความโกรธของจอมมารน้อยได้…ไม่อย่างนั้นพวกเราตายโหงแน่…”
อี้จือฮวาจับจ้องชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างถังถัง “จบกัน…ฉันอาจต้องนอกลู่นอกทางแล้วล่ะ…”
นักพรตใจบริสุทธิ์ถาม “หมายความว่าไง?”
เขามองตามสายตาของอี้จือฮวาไป แล้วก็เห็นชายหนุ่มที่ยืนข้างจอมมารน้อย มุมปากกระตุกเล็กน้อยทันที “นายมันคนใจโลเลไม่มีจรรยาบรรณของกุลสตรี! เห็นผู้ชายหน้าตาดีหน่อยถึงกับเดินไม่ไหว? ไม่รู้สึกผิดกับหัวหน้าบ้างเหรอ?”
อี้จือฮวาแย้ง “หน้าตาดีหน่อย? นายบอกว่านี่คือหน้าตาดีหน่อยงั้นเหรอ??”
นักพรตใจบริสุทธิ์เอ่ย “เอิ่ม เดี๋ยวนะ ทำไมฉันรู้สึกว่าสีหน้าท่าทางของจอมมารน้อย…เหมือนกับผู้ชายคนนั้นเลยล่ะ? เถ้าแก่โหย่วหมิงเก่งเกินไปแล้วมั้ง หาพ่อตัวปลอมได้เหมือนขนาดนี้!”
เยี่ยหวันหวั่นเห็นถังถังกลับมา ก็พยายามควบคุมความคิดที่สับสนวุ่นวาย อมยิ้มแล้วเดินไปหาเด็กน้อย “ถังถังกลับมาแล้วเหรอ! มานี่มา! คุณลุงมาหาแล้ว ทำไมยังไม่ทักทายอีกล่ะจ๊ะ?”
ถังถังเงยหน้า หันไปทักทายเนี่ยอู๋หมิงอย่างว่าง่าย “คุณลุงครับ”
เมื่อเนี่ยอู๋หมิงที่กำลังดื่มชาสงบสติอารมณ์ได้ยินคำว่า ‘คุณลุง’ ก็พ่นน้ำชาออกจากปาก เกือบสำลักน้ำชาตาย
……………………………….