บทที่ 1217 เป้าหมายที่ยาวไกล
หลังจากทุกคนจากไป ในคฤหาสน์เหลือแค่เยี่ยหวันหวั่นกับซือเยี่ยหานสองคน
เยี่ยหวันหวั่นยังคงมีสีหน้ายิ้มน้อยๆ ตอนส่งถังถังจากไป
ซือเยี่ยหานที่อยู่ด้านข้างถอนหายใจแผ่วเบา โอบกอดหญิงสาวไว้ในอ้อมอก
อารมณ์ที่เยี่ยหวันหวั่นอดกลั้นไว้แทบจะทะลักออกมาในพริบตา เธอเอ่ยเสียงพร่า “คุณเก้า ฉันอยากได้ถังถัง ให้ถังถังเป็นลูกของฉันไม่ได้เหรอ?”
ซือเยี่ยหานลูบเส้นผมของหญิงสาว “ยังไงถังถังก็ไม่ใช่ลูกพวกเรา พ่อแม่จริงๆ ของเขายังรอเขาอยู่”
“ฉันไม่สน! ฉันจะเอาถังถัง! ฉันเป็นแม่ของถังถัง! ฉันรับปากแล้วว่าจะอยู่กับถังถังตลอดไป!”
“ถ้าเธอชอบ…ไว้พวกเรามีลูกกันก็ได้”
“ฉันไม่เอา ฉันอยากได้แค่ถังถัง!”
…
ในห้องนอน
วันนี้เยี่ยหวันหวั่นใช้อารมณ์มากเกินไป เมื่อนอนลงบนเตียงก็หลับแล้ว
ซือเยี่ยหานห่มผ้าให้หญิงสาว โน้มตัวไปจูบหางตาชื้นแฉะของเธอ
เวลานี้ มือถือเขาพลันสั่นขึ้นมา
บนหน้าจอมือถือเป็นตัวเลขประหลาดชุดหนึ่ง…
พริบตาที่เห็นตัวเลขนี้ ใบหน้าอ่อนโยนของชายหนุ่มถูกแทนที่ด้วยความอำมหิตเหลือล้น คลื่นลมสงบในดวงตากับวันเวลาสุขสงบราวกับสลายกลายเป็นนรกอสุรภูมิในวินาทีนั้น และจมลงสู่ห้วงเหวมืดมิดไร้รุ่งอรุณ…
ครั้งนี้เยี่ยหวันหวั่นหลับไปนานมาก ตอนตื่นมาก็เป็นเช้าของวันต่อมาแล้ว
เพิ่งหันหน้าอย่างงัวเงีย ก็สบเข้ากับดวงตาของซือเยี่ยหานที่กำลังจดจ้องเธอ
แววตาของชายหนุ่มสงบนิ่ง ใจเย็น ทั้งยังพอใจ เหมือนยังรวมความคิดถึงบางส่วนไว้ด้วย แต่สีดำสนิทที่ส่วนลึกของดวงตานั้น ก็เหมือนกำลังยับยั้งอารมณ์ที่ไปถึงขีดสุดและความเจ็บปวดล้ำลึกบางอย่างไว้ อารมณ์นั้นราวพร้อมฉีกกระชากพันธนาการและความสงบนิ่งภายนอกได้ทุกเมื่อ จากนั้นก็กระหน่ำโจมตีเธอ…
ทันทีที่เยี่ยหวันหวั่นสบสายตาแบบนั้น หัวใจเธออดเต้นผิดจังหวะไม่ได้ จากนั้นเพราะความคิดถึงและความเจ็บปวดที่วาบผ่านดวงตาของชายหนุ่ม หัวใจเธอจึงเกิดความปวดร้าวอย่างน่าประหลาด
“คุณเก้า…”
“ตื่นแล้ว” แววตาซือเยี่ยหานพลันกลับมาสุขุม อารมณ์ทั้งหมดเสมือนหมอกหนาที่ถูกลมพัดสลายไป
เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วเล็กน้อย ถึงแม้เธอเพิ่งตื่นยังมึนอยู่บ้าง แต่ยืนยันได้ชัดเจนว่าดวงตาเมื่อครู่นี้ไม่ใช่ภาพลวงตา!
“คุณ…ไม่ได้นอนทั้งคืนเลยเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นหยั่งเชิงถาม
เธอรู้สึกอย่างบอกไม่ถูกว่าซือเยี่ยหานอาจจะ…มองเธอแบบนี้ตลอดทั้งคืน…
สีหน้าของเขาเป็นธรรมชาติ ไม่มีความผิดปกติแม้แต่น้อย “ฉันเพิ่งตื่น กำลังจะไปบริษัท”
“อ้อ…” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า แล้วเงยหน้าจ้องซือเยี่ยหานเขม็งทันที “ซือเยี่ยหาน…ไม่ใช่ว่าพวกเราเคยเจอกันตอนไหนมาก่อน…ฉันหมายถึง…พวกเรารู้จักกันมาก่อนหน้านี้นานแล้วหรือเปล่า…แต่ว่าฉันลืมไป?”
การแสดงสีหน้าอันไร้ที่ติของซือเยี่ยหานเหมือนจะแข็งทื่อไปนิด แต่ก็แค่ชั่วพริบตาเดียว “เปล่า”
เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า “ก็จริง หน้าตาอย่างคุณ…ไม่สมเหตุสมผลถ้าฉันเห็นแล้วจะยังลืมได้…”
ซือเยี่ยหานนิ่งเงียบ
เยี่ยหวันหวั่นมองเวลาบนมือถือ “ฉันก็ต้องไปบริษัทแล้ว”
ซือเยี่ยหานถามขึ้น “ทำไมไม่พักสักสองสามวัน?”
เยี่ยหวันหวั่นส่ายหน้า เธอกลัวว่าตัวเองว่างแล้วจะอดคิดถึงถังถังไม่ได้
จู่ๆ ในบ้านมีคนน้อยลง ก็ดูจะเย็นเยียบลงทันตา…
เยี่ยหวันหวั่นยืดตัว ปลุกกำลังใจ เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ถึงได้ชัยชนะในช่วงนี้มาแล้ว แต่ยังเบาใจไม่ได้! ฉันในขั้นนี้ยังห่างไกลจากการมีอำนาจบารมี ห่างไกลจากมือเดียวค้ำฟ้า! คุณลืมเป้าหมายที่ยาวไกลในตอนนั้นของฉันแล้วเหรอ?”
—————————————————————————————-
บทที่ 1218 ความจำดีขนาดนี้
ซือเยี่ยหานมองเธอแวบหนึ่ง สีหน้าแฝงความหมายลึกซึ้ง “เป้าหมายยาวไกล? …รอเธอมีพลังอำนาจ มือเดียวค้ำฟ้าแล้ว ก็ขังฉัน ไม่ให้ฉันไปไหน แม้แต่พ่อแม่ก็ห้ามเจอ ไม่ว่าฉันไปไหนก็จะส่งคนตามดูฉัน จับตาดูฉัน จะ…”
“หยุดๆ!” เยี่ยหวันหวั่นตกใจจนจนสำลัก “คุณ…คุณความจำดีขนาดนี้เพื่ออะไร!”
เธอยังนึกว่าซือเยี่ยหานลืมไปแล้ว…
จำได้ว่าตอนนั้นเธอยังถูกซือเยี่ยหานกักขัง ทะเลาะเบาะแว้งกับเขา พูดประชดเขาหนึ่งประโยคว่า เขาอยากแต่งกับใครก็เป็นอิสระของเขา…
ตอนนั้นซือเยี่ยหานตอบเธอมาหนึ่งประโยค เขาไม่ต้องการอิสระแม้แต่น้อย
ตอนนั้นเยี่ยหวันหวั่นที่ถูกซือเยี่ยหานลิดรอนอิสรภาพจึงโกรธแล้วพูดประโยคต่อมาพวกนั้น…แถมยังพูดด้วยว่าจะล็อกเขาบนเตียง ใช้เขาสนองความต้องการทุกคืน…
ครั้งนั้นซือเยี่ยหานตอบกลับมาว่า ‘ฉันตั้งตารอเลย’
ตอนนี้มาคิดดูแล้ว ขอแค่เธอเชื่อฟังคำเขา หรือพูดว่าขอแค่เธออยู่ข้างกายเขา ซือเยี่ยหานก็จะตามใจเธอแบบไม่มีขีดจำกัดแม้แต่น้อย…
“ให้ฉันได้รังแกคุณ ได้ตอบโต้คุณสักหน่อยบ้างไม่ได้เหรอไง” เยี่ยหวันหวั่นบ่นอุบอิบ
ตอนแรกเดิมทีเธอตั้งใจว่าถ้าสักวันหนึ่งได้อิสระจะเลี้ยงดูหนุ่มหน้าหยกสักร้อยแปดสิบคน เปิดฮาเร็มสักสามพัน…
เวลานี้ทั้งหมดนั้นหายไปเพื่อเขาหมดแล้ว…
แน่นอนว่าคำพูดนี้เธอไม่กล้าพูดต่อหน้าซือเยี่ยหานเด็ดขาด
ซือเยี่ยหานกุมมือหญิงสาวมาวางตรงตำแหน่งหัวใจของตัวเอง “ไม่ต้องห่วง ไม่ว่าเธอจะมือเดียวค้ำฟ้าหรือว่าไม่มีอำนาจ ฉันก็ไม่ไปไหนทั้งนั้น”
เยี่ยหวันหวั่นสัมผัสได้ถึงการเต้นรุนแรงและความอบอุ่นจากในฝ่ามือ จึงเลิกคิ้วเบาๆ “ยั่วฉันตั้งแต่เช้าตรู่ขนาดนี้…ฉันไม่ใช่สุภาพบุรุษนะจะบอกให้…”
ขณะพูด เยี่ยหวันหวั่นสัมผัสได้ว่าบนเตียงมีบางอย่างกำลังสั่น
ตอนที่กำลังจะยื่นมือไปคลำ ซือเยี่ยหานก็เอื้อมมือข้ามเธอไปหยิบมือถือมา หางตาเหลือบอ่าน “สายจากบริษัท”
พูดจบก็จัดปกคอเสื้อ “ฉันไปแล้ว”
เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า “อื้อ โอเค ฝั่งฉันเข้าที่เข้าทางแล้ว รอลงตัวฉันจะไปช่วยทางฝั่งคุณ ถ้าร่างกายคุณไม่สบายตรงไหน ต้องบอกฉันนะ…”
“อืม”
“ถ้าอารมณ์ไม่ดีก็ต้องโทรหาฉัน”
“ตกลง”
ถึงแม้เยี่ยหวันหวั่นกังวลทางฝั่งตระกูลซืออยู่บ้าง แต่คิดดูอีกที ความวุ่นวายในชาติก่อนของตระกูลซือเป็นเพราะสภาพร่างกายของซือเยี่ยหาน และตอนนี้ด้วยกลยุทธ์ของซือเยี่ยหาน คนพวกนั้นภายใต้ฝ่ามือตระกูลซือตัดสินใจไม่รนหาที่ตายแล้ว
ส่วนซือหมิงหลี่ถูกบีบให้หนีไปต่างประเทศ ไม่อาจก่อคลื่นลมอะไรได้
ระยะนี้แม้แต่ท่าทีของพวกผู้อาวุโสที่มีต่อเธอก็เปลี่ยนไปใหญ่หลวงมาก ทุกอย่างที่เธอเจอในตระกูลซือเมื่อชาติที่แล้ว เธอล้วนไม่เจอในชาตินี้ สิ่งที่พิสูจน์ได้เพียงพอคือ โชคชะตาพลิกผันไปจากหน้ามือเป็นหลังมือแล้ว…
เยี่ยหวันหวั่นคิดแบบนี้จึงค่อยวางใจลง
ซือเยี่ยหานผูกเนคไทเสร็จ “ช่วงนี้น่าจะค่อนข้างยุ่ง ฉันไม่มาแล้ว มีธุระก็โทรมา”
เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า “ตกลง!”
เธอรบกวนเขามามากเกินพอแล้วเพื่อถังถัง เขาวิ่งไปมาหาเธอตลอดก็ไม่สะดวกจริงๆ
เยี่ยหวันหวั่นมาส่งซือเยี่ยหานถึงหน้าประตู “สองวันนี้ฉันต้องไปทริปนอกสถานที่คิดว่าคงไปหาคุณไม่ได้ คุณอย่าอยู่ดึกดื่นเชียวนะ! แล้วก็กินข้าวให้ตรงเวลาด้วย!”
“อืม”
“เอาละๆ ไม่ถ่วงเวลาคุณแล้ว งั้นคุณรีบไปเถอะ!” เยี่ยหวันหวั่นจูบมุมปากของชายหนุ่ม จากนั้นโบกมือเร่งเขาให้จากไป
มองเห็นซือเยี่ยหานเดินไปยังรถที่จอดอยู่ตรงหน้าประตู เปิดประตูรถขึ้นรถแล้ว เยี่ยหวันหวั่นถึงหาว เดินไปที่ห้องนอน
ผลคือเพิ่งเดินไปได้สองก้าว ด้านหลังก็พลันถูกอ้อมกอดที่แข็งแกร่งและร้อนผ่าวโอบกอดไว้แน่น…
…………………..