บทที่ 1223 แฟ้มปริศนา
เยี่ยหวันหวั่นบันทึกหมายเลขโทรศัพท์ไว้ทันที
หมายเลขโทรศัพท์นี้ค่อนข้างพิเศษ ไม่เหมือนหมายเลขภายในประเทศ
หลังจากลังเลอยู่ชั่วครู่ เยี่ยหวันหวั่นก็ใช้โทรศัพท์มือถือตัวเองโทรไปยังหมายเลขโทรศัพท์ประหลาดนี้
ทว่า สัญญาณสายไม่ว่างที่ส่งมาจากปลายสาย กลับทำให้หัวใจเธอจมอยู่ในเกล็ดน้ำค้างแข็งโดยสมบูรณ์
ไม่นาน เยี่ยหวันหวั่นก็ต่อสายหาเยี่ยมู่ฝาน
“มีอะไร?” เยี่ยมู่ฝานถาม
“พี่ ช่วยฉันตรวจสอบเบอร์โทรหน่อยสิ…” เยี่ยหวันหวั่นตรงเข้าประเด็น ก่อนบอกหมายเลขโทรศัพท์กับเยี่ยมู่ฝาน
“นี่เบอร์โทรจากที่ไหนน่ะ แปลกขนาดนี้…ไม่เหมือนเบอร์ภายในประเทศ แล้วก็ไม่เหมือนเบอร์จากประเทศรอบๆ ด้วย…มีเบอร์อย่างนี้อยู่ด้วยเหรอ” เยี่ยมู่ฝานน้ำเสียงแปลกใจ
“ช่วยฉันตรวจสอบให้เจอที” เยี่ยหวันหวั่นขอร้อง
“รอเดี๋ยว แกอย่าเพิ่งวางสาย” เยี่ยมู่ฝานพูดจบก็เปิดคอมพิวเตอร์ ป้อนหมายเลขโทรศัพท์เข้าไปทันที
“เชี่ย…” หลังผ่านไปครู่หนึ่ง ก็มีเสียงอุทานของเยี่ยมู่ฝานดังขึ้นมา
“เจอแล้วเหรอ!” เยี่ยหวันหวั่นตกใจ
“เอ่อ…เปล่า…” เยี่ยมู่ฝานเอ่ย “เบอร์นี้ของแกไม่อยู่ในประเทศไหนเลย แถมยังไม่ใช่เบอร์สมมติด้วย เบอร์นี้ไม่มีตัวตนอยู่แต่แรกแล้ว!”
“ไม่มีตัวตน?” พอได้ยินคำพูดนี้ของเยี่ยมู่ฝาน เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วแน่น ตรวจสอบโทรศัพท์ตั้งโต๊ะภายในห้องหนังสืออีกรอบ
เบอร์โทรศัพท์ประหลาดนี้ไม่เพียงโทรหาโทรศัพท์ตั้งโต๊ะในห้องหนังสือของซือเยี่ยหานแค่ครั้งเดียว สายนั้นโทรมาอย่างน้อยมากกว่าห้าครั้ง และทุกครั้งซือเยี่ยหานก็รับทันที ราวกับอยู่ในห้องหนังสือเพื่อรอสายนี้ตลอด ทว่าบนรายการการโทร กลับไม่มีบันทึกของเบอร์โทรนี้อยู่
แบบนี้หมายความว่า เบอร์โทรศัพท์นี้มีตัวตนอยู่แน่นอน…อีกทั้งด้วยนิสัยของซือเยี่ยหาน นอกเสียจากว่าตัวเองไม่อาจโทรไปได้ ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีทางเป็นฝ่ายรอสายโทรเข้าอยู่ที่ห้องหนังสือทุกวัน…
พูดอีกแบบก็คือ สายโทรศัพท์นี้ได้แต่รับ ไม่สามารถโทรไปเองได้…
“หวันหวั่น เบอร์นี้ของแกโทรไม่ได้นะ อีกอย่าง มีเบอร์แบบนี้อยู่ที่ไหนกัน แกดูผิดหรือเปล่าเนี่ย…” เสียงของเยี่ยมู่ฝานดังขึ้นมา
“เข้าใจแล้ว…พี่ช่วยฉันตรวจสอบต่อที เบอร์โทรนี้มีอยู่จริงแน่นอน” พูดจบเยี่ยหวันหวั่นก็วางสายไป
เวลานี้ เยี่ยหวันหวั่นนั่งอยู่ในห้องหนังสือของเยี่ยมู่ฝาน มีหลากหลายอารมณ์
ไม่รู้ทำไม ในใจเยี่ยหวันหวั่นยิ่งแน่ใจว่าการหายตัวไปของซือเยี่ยหานกับเบอร์โทรประหลาดนี้ จะต้องเกี่ยวข้องกันอย่างมีปมเงื่อนซับซ้อน บางทีเขาหายตัวไปเพราะเบอร์โทรนี้ก็ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้เลย…
ขณะที่เยี่ยหวันหวั่นครุ่นคิด หางตาก็เหลือบเห็นแฟ้มเอกสารทำจากโลหะแฟ้มหนึ่งที่ด้านล่างชั้นหนังสือ บนแฟ้มเอกสารนั้นยังสลักโค้ดเนมชัดเจนว่า ‘YWW’
เยี่ยหวันหวั่นลุกขึ้น หยิบแฟ้มเอกสารนั้นติดมือขึ้นมา หลังพินิจดูหนึ่งรอบก็พบว่าบนแฟ้มเอกสารนี้มีกุญแจล็อกรหัส จำเป็นต้องใส่รหัสจึงจะเปิดได้
สายตาของเธอมองที่โค้ดเนมตัวอักษรปริศนาบนแฟ้มเอกสาร ดวงตาผุดแววสงสัย
‘YWW’ สามตัวอักษรนี้สื่อแทนถึงอะไร
เยี่ยหวันหวั่นตาสว่างวาบ ปฏิกิริยาแรกที่เกิดขึ้นในหัวคือ นี่เป็นตัวย่อพินอินชื่อและนามสกุลของตัวเอง
ชื่อย่อของเยี่ยหวันหวั่น ก็คือ YWW นั่นเอง
นี่…หรือว่าแค่เรื่องบังเอิญเหรอ?
นิ้วของเยี่ยหวันหวั่นบีบแน่น พยายามลองเปิดแฟ้มนี้ดู
แต่เยี่ยหวันหวั่นลองรหัสหลายชุดแล้วก็ไม่สามารถเปิดแฟ้มนี้ได้
เหมือนเป็นสัญชาตญาณ เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกว่าเนื้อหาภายในนี้ บางทีอาจจะเกี่ยวข้องกับตัวเอง..
—————————————————————————
บทที่ 1224 ถูกคนแตะต้องมาก่อน
ทำไมซือเยี่ยหานถึงหายตัวไปกะทันหัน หมายเลขโทรศัพท์ประหลาดนั้นโทรมาจากไหนกันแน่ แล้วในแฟ้มที่มีเครื่องหมายตัวอักษรย่อนี้คืออะไรกันแน่…
เวลานี้เยี่ยหวันหวั่นงุ่นง่านใจ จึงออกแรงกระชากกุญแจล็อกรหัสไปหนึ่งที
เสียง ‘แกร๊ก’ ดังขึ้นในอากาศ…
เยี่ยหวันหวั่นอึ้งงัน มองกุญแจล็อกรหัสในมือตามจิตใต้สำนึก เธอพบว่ากุญแจถูกเธอกระชากจนพังแล้ว…
กุญแจนี่…เหมือนจะเคยมีคนแตะต้องมาก่อน…
หรือว่าก่อนหน้าเธอ มันถูกใครพังเปิดมาแล้ว…
เยี่ยหวันหวั่นไม่มีเวลาคิดมาก รีบหยิบของที่อยู่ข้างในออกมา
“hypnosis…”
ด้านในนั้นเป็นเอกสารปึกหนา ขณะอ่านภาษาต่างประเทศเป็นพรวนข้างบน เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วน้อยๆ ในเอกสารฉบับนี้ ทุกอย่างบันทึกเกี่ยวกับการสะกดจิตและความทรงจำ
ในนั้นประกอบไปด้วยการเขียนทับความทรงจำและการจัดเรียงความทรงจำใหม่ กระทั่งว่ายังพูดถึงพันธุศาสตร์ที่คลุมเครือ
จากการนำเสนอช่วงต้นบนเอกสาร เยี่ยหวันหวั่นเข้าใจความหมายในนั้นคร่าวๆ แล้ว
กระบวนการคือทฤษฎีการเขียนทับความทรงจำของ A + B
ความหมายประมาณว่า ล้างความทรงจำของ A ทิ้ง แล้วเอาความทรงจำของ B มาบังคับใส่ไว้ในส่วนลึกของสมอง A เทคนิคนี้สำเร็จด้วยการนำรูปแบบของการสะกดจิตขั้นลึกมาใช้ประโยชน์
ถ้าความทรงจำของ A ถูกวิธีสะกดจิตล้างจนสะอาดเอี่ยม และผสมผสานความทรงจำของ B เข้าไปในตัว A เช่นนั้นตามหลักทฤษฎี A ก็จะมาแทน B อีกทั้งเจ้าตัวก็จะไม่รู้สึกผิดสังเกตอะไร
ตอนนี้ เยี่ยหวันหวั่นเผยสีหน้าสงสัยเล็กน้อย ทำไมซือเยี่ยหานถึงสนใจของอย่างนี้ได้…
ทว่าตอนที่เยี่ยหวันหวั่นดึงเอกสารแผ่นถัดไป ก็ต้องตกตะลึงอยู่กับที่โดยสมบูรณ์
บนเอกสารแผ่นนี้บันทึกข้อมูลเอกสารของหญิงสาวไม่น้อย ทุกคนล้วนเสียชีวิตแล้ว ตั้งแต่ภูมิหลังครอบครัวไปจนถึงประวัติการเติบโต ทั้งหมดบันทึกไว้อย่างละเอียดยิบ
กระทั่งว่าหนึ่งในนั้น เยี่ยหวันหวั่นยังเห็นข้อมูลและเอกสารของตัวเองด้วย
ชื่อเต็ม: เยี่ยหวันหวั่น
เพศ: หญิง
อายุ: 16 ปีเต็ม
บิดา: เยี่ยเส่าอัน
มารดา: เหลียงหวั่นจวิน
ปู่: เยี่ยหงเหวย
ย่า: ถานอี้หลาน
พี่ชาย: เยี่ยมู่ฝาน
ภูมิหลังชีวิต: คุณหนูตระกูลเยี่ยของประเทศจีน ตายในการจลาจลที่ต่างประเทศเมื่ออายุสิบหกปี
เมื่อเห็นเอกสารแนะนำที่เกี่ยวกับตัวเอง เยี่ยหวันหวั่นตกตะลึงทันที บันทึกในเอกสารนี้ละเอียดมาก แต่ในคำอธิบายสุดท้ายกลับบันทึกว่าตัวเธอตายไปนานแล้วในการจราจลที่ต่างประเทศเมื่อหลายปีก่อน…
และที่ด้านหลังของเอกสารยังระบุข้อความไว้ว่า ‘เข้ากันกับการเขียนทับความทรงจำ’
ส่วนสุดท้ายของเอกสารเก็บแผ่นซีดีหนึ่งแผ่นไว้
เยี่ยหวันหวั่นหยิบแผ่นซีดีออกมา จากนั้นเดินกลับไปที่โต๊ะหนังสือ เปิดคอมพิวเตอร์ของซือเยี่ยหานแล้ววางแผ่นซีดีเข้าไปในเครื่องเล่น
ครู่หนึ่งผ่านไป บนจอคอมพิวเตอร์ปรากฏคลิปวิดีโอหนึ่ง
“ไม่มีปัญหาใช่ไหม”
เสียงเย็นชาของผู้ชายดังออกมา
จากนั้นชายชราในชุดขาวคนหนึ่งก็ปรากฏตัวในวิดีโอ
“คุณชายเก้า โปรเจกต์นี้พวกเราวิจัยกันมามากกว่าสามปีแล้ว ถ้าใช้วิธีทางยีนจะเสี่ยงอันตรายมาก แต่พวกเราเปลี่ยนมาใช้วิธีสะกดจิตขั้นลึก สามารถได้ผลลัพธ์แบบเดียวกันโดยสมบูรณ์ จะไม่มีปัญหาใดๆ เป็นอันขาดครับ”
“หลักการ” ฝ่ายผู้ชายเอ่ยปาก
ชายชราชุดขาวพยักหน้า แล้วเอ่ยอธิบาย “การสะกดจิตขั้นลึกคือการทำลายเครือข่ายความทรงจำของผู้ถูกสะกดจิตโดยสมบูรณ์ ความทรงจำที่ผ่านมาทั้งหมดของผู้ถูกสะกดจิตจะถูกรีเซ็ตใหม่ และช่วงเวลานี้หากไม่ได้เขียนทับความทรงจำใหม่ไป ผู้ถูกสะกดจิตจะหลงลืมตัวเอง
แต่ถ้าใช้วิธีสะกดจิตอีกครั้ง บังคับป้อนความทรงจำของคนอื่นเข้าไป นี่ก็จะเรียกว่าการเขียนทับความทรงจำ อย่างนั้นผู้ถูกสะกดจิตก็จะกลายเป็นเจ้าของความทรงจำที่ถูกป้อนนี้เต็มตัว พูดง่ายๆ คือ รูปลักษณ์ภายนอกผู้ถูกสะกดจิตจะเปลี่ยนไป กลายเป็นอีกคนหนึ่งโดยสมบูรณ์”
…………………..