บทที่ 1225 ไม่ใช่ของตัวเอง
“มีตัวเลือกที่เหมาะสมไหม?” ผู้ชายถาม
“มีก็มีอยู่คนหนึ่งครับ ก็คือเยี่ยหวันหวั่นคนที่คุณเลือกไว้ก่อนหน้านั้น พวกผมศึกษาดูแล้ว ถึงแม้คนทั้งสองจะอายุต่างกัน แต่เรื่องความเหมือนของรูปร่างหน้าตา เรียกได้ว่าคล้ายกับเธอมากถึงเก้าสิบกว่าเปอร์เซ็นต์เลยครับ พื้นฐานครอบครัวก็ถือว่าใช้ได้ แล้วเยี่ยหวันหวั่นก็ตายในเหตุการณ์วุ่นวายที่ต่างประเทศด้วยครับ” ชายชราชุดขาวเอ่ย
“ดี ผมต้องทำอะไรบ้าง” ผู้ชายเอ่ยอีก
“คุณชายเก้าต้องหาทางกำจัดข้อมูลเรื่องที่เยี่ยหวันหวั่นตายไปแล้ว ไม่ให้ครอบครับของเธอรู้ก็พอครับ เมื่อถึงเวลานั้น เธอจะเข้าไปแทนที่เยี่ยหวันหวั่น กลายเป็นเยี่ยหวันหวั่นแทน และมีความจำตอนยังมีชีวิตอยู่ของเยี่ยหวันหวั่น” ชายชราชุดขาวกล่าว
หลังจากนั้น ภาพพื้นหลังของคลิปวิดีโอตัดไปที่ศูนย์วิจัยแห่งหนึ่ง
ผู้หญิงคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าทุกข์ทรมาน ซือเยี่ยหานนั่งอยู่ข้างๆ คอยเกลี่ยผมให้เด็กสาวเป็นระยะ สีหน้าเขาดูซับซ้อน
“ข่าวถูกปิดไว้แล้ว การตายของเยี่ยหวันหวั่นไม่มีคนรู้ เริ่มได้เลย” ซือเยี่ยหานเอ่ยกับชายชราชุดขาว
“คุณชายเก้า คุณแน่ใจแล้วเหรอครับ หากเข้าสู่กระบวนการสะกดจิตขั้นสูงเพื่อปรับโครงสร้างความจำแล้ว ความจำเดิมของผู้หญิงคนนี้จะถูกทำลายทิ้งทั้งหมด ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ไม่สามารถฟื้นกลับคืนมาได้ เธอจะกลายเป็นคนที่มีความจำชุดใหม่ไปตลอดชีวิต ซึ่งก็คือเยี่ยหวันหวั่นที่ตายไปแล้ว…” ชายชราชุดขาวถามเพื่อยืนยันอีกครั้ง
“เริ่มเถอะ” ซือเยี่ยหานกล่าว
เมื่อได้รับการยืนยันจากซือเยี่ยหาน ชายชราชุดขาวกับผู้ช่วยอีกหลายคนพยักหน้า ก่อนเริ่มทำการสะกดจิตขั้นสูงให้หญิงสาวบนเตียง
คลิปวิดีโอเล่นมาถึงตรงนี้ก็จบลง
ภายในห้องหนังสือ เยี่ยหวันหวั่นตกตะลึง ตัวสั่นเทาเล็กน้อย หน้าผากอาบเหงื่อบางๆ ดวงตาฉายแววเหลือเชื่อ ผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงทดลองนั่น ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นตัวเธอเอง…
ข้อมูลในวิดีโอนี้มากเกินไป ทำให้สมองของเยี่ยหวันหวั่นรับไม่ไหว และตั้งตัวไม่ทัน
ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไร เยี่ยหวันหวั่นถึงค่อยฝืนสงบสติอารมณ์ลง
จากข้อมูลที่ได้จากคลิปวิดีโอ เยี่ยหวันหวั่นตายท่ามกลางเหตุจลาจลของผู้ก่อการร้ายในต่างประเทศตอนอายุสิบหกปี และตัวเธอก็ถูกป้อนความจำทั้งหมดของเยี่ยหวันหวั่นเข้ามาโดยใช้วิธีสะกดจิตขั้นสูง จึงทำให้กลายเป็นเยี่ยหวันหวั่น
อีกทั้งการตายของเยี่ยหวันหวั่นก็ถูกซือเยี่ยหานปกปิดไว้ ไม่มีใครรู้ บวกกับที่ชายชราชุดขาวคนนั้นบอกว่ารูปร่างหน้าตาของเธอกับเยี่ยหวันหวั่นคล้ายกันมากถึงเก้าสิบกว่าเปอร์เซ็นต์…
ซึ่งก็หมายความว่าเธอไม่ใช่เยี่ยหวันหวั่น…
เธอไม่ใช่เยี่ยหวันหวั่น…อย่างนั้นเธอเป็นใคร?!
“ปะ…เป็นไปไม่ได้…” เยี่ยหวันหวั่นสูดหายใจลึก ยากจะเชื่อได้ลง
พ่อแม่และญาติพี่น้องของเธอ…ความทรงจำทั้งหมด ถูกถ่ายโอนเข้ามา ทุกอย่างไม่ใช่ของเธอตั้งแต่แรก…
ถ้าเธอไม่ใช่เยี่ยหวันหวั่น อย่างนั้นเธอเป็นใครกันแน่ พ่อของเธอเป็นใคร แม่ของเธอเป็นใคร…แล้วเธอมาจากที่ไหน?!
ซือเยี่ยหาน ทำไมเขาต้องทำลายความจำของเธอ แล้วเอาความจำของคนอื่นมายัดใส่สมองเธอ ให้เธอใช้ชีวิตเป็นเยี่ยหวันหวั่น?!
ตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นไม่ได้เชื่อวิดีโอนี้เสียทั้งหมด
เพราะความจำของเธอสมจริงขนาดนี้ ตั้งแต่เด็กจนโต ความจำสิบกว่าปีเธอผ่านมาด้วยตัวเองทั้งหมด แล้วมันจะกลายเป็นความจำของคนอื่นได้ยังไง!
แต่เรื่องราวในวิดีโอก็สมจริงขนาดนั้น ดูจากน้ำเสียงและท่าทางของซือเยี่ยหานก็รู้แล้วว่าไม่ใช่เรื่องโกหก และเยี่ยหวันหวั่นก็มั่นใจว่าผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงคนนั้นคือตัวเธอเอง…
————————————————————————————-
บทที่ 1226 เธอเป็นใคร?
แต่เธอกลับไม่มีความจำอย่างนั้นอยู่เลย ตัวเองในช่วงอายุนั้นไม่เคยรู้จักซือเยี่ยหาน จะไปนอนอยู่บนเตียงทดลองแล้วโดนยัดความจำใหม่เข้าสมอง หลังจากที่โดนล้างสมองด้วยการสะกดจิตขั้นสูงได้ยังไง…
ชั่วขณะนั้น เยี่ยหวันหวั่นมืดแปดด้าน ดวงตาเต็มไปด้วยแววสับสนงุนงง
เดิมทีแค่การหายตัวไปของซือเยี่ยหาน เยี่ยหวันหวั่นก็รับไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ยังมาเจอความลับเกี่ยวกับตัวตนของตัวเองในห้องหนังสือของซือเยี่ยหานอีก แถมตัวการของเรื่องทั้งหมดนี้ยังเป็นซือเยี่ยหานอีกด้วย…
ถ้าหากเรื่องในวิดีโอเป็นความจริงไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เธอไม่ใช่เยี่ยหวันหวั่น แล้วเธอเป็นใคร…
แต่ถึงแม้วิดิโอจะเป็นความ แต่ความจำส่วนลึกในสมองของเยี่ยหวันหวั่นกลับสมจริงขนาดนี้ ความจำตั้งแต่เด็กจนโตล้วนเป็นเรื่องที่เธอผ่านมากับตัวเอง ความทรงจำอันล้ำค่าเหล่านี้จะกลายเป็นสิ่งพิเศษของคนอื่นในชั่วพริบตาได้ยังไงกัน…
เยี่ยหวันหวั่นสูดหายใจลึกๆ ระงับอารมณ์ทั้งหมด นั่งลงข้างโต๊ะหนังสือ แล้วใช้คอมพิวเตอร์ของซือเยี่ยหานเสิร์จหาข้อมูลที่เกี่ยวกับการซ้อนทับความจำ
เพียงแต่ข้อมูลที่ได้จากการค้นหามีจำกัดมาก ด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้ ถ้าจะล้างความจำของผู้ใหญ่คนหนึ่งก็สามารถทำได้ แต่หากจะยัดความจำของคนอื่นเข้ามาแทนที่ กลับดูเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก
ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายโอนความจำที่สมบูรณ์แบบแค่ไหน ก็มักจะมาพร้อมกับความเสี่ยงสูงทั้งนั้น และการถ่ายโอนความจำอย่างนี้กลับมีข้อบกพร่องมากมาย
เว้นแต่จะเป็นความจำของบุคคลที่เกี่ยวข้อง ถ้าหากถูกถ่ายโอนองค์ประกอบความจำที่ไม่จำเป็น ก็อาจจะง่ายต่อการหาเบาะแส
นอกเสียจากว่าผู้ถูกถ่ายโอนความจำไม่เคยสงสัยในตัวตนของตัวเอง ทันทีที่สงสัยแล้วค้นพบความทรงจำอันจอมปลอมนี้ ก็อาจไม่ใช่เรื่องยาก
และการจะควบคุมไม่ให้ผู้ถูกถ่ายโอนความจำสงสัยในตัวตนของตัวเองก็มีเพียงวิธีเดียว คือ ‘การสะกดจิตขั้นสูง’
การสะกดจิตขั้นสูงยังต้องประกอบไปด้วย ‘ความทรงจำส่วนความรู้สึก’ ‘ความทรงจำระยะยาว’ รวมถึงการสะกดจิตตัวเองอย่างรุนแรงเป็นต้น หากเกิดความผิดพลาดในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่ง อาจทำให้ระบบประสาทของผู้ถูกสะกดจิตเสียหาย เป็นเรื่องยากที่จะทำให้บรรลุผลสำเร็จด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ของสมัยนี้ แต่ในทางทฤษฎี การสะกดจิตขั้นสูงอาจมีโอกาสเป็นไปได้มากกว่า
เมื่อผู้ถูกสะกดจิตถูกล้างความจำและถ่ายโอนความจำใหม่สำเร็จ ได้รับการชี้นำทางจิตวิทยาอย่างลึกซึ้ง ก็จะไม่สงสัยความทรงจำใหม่ของตัวเองอย่างแน่นอน…
เวลานี้ เยี่ยหวันหวั่นเหงื่อท่วมชื้นไปทั้งตัว ถ้าอย่างนั้นในทางทฤษฎีก็หมายความว่า ตัวเธออาจเป็นแค่คนที่มีความทรงจำของเยี่ยหวันหวั่น แต่ไม่ใช่เยี่ยหวันหวั่นตัวจริง…
ผ่านไปครู่หนึ่ง เยี่ยหวันหวั่นก็ปิดโน้ตบุ๊กลงแรงๆ
แม้ว่าจะเป็นการสะกดจิตขั้นสูง แต่หากผู้ถูกสะกดจิตสงสัยในตัวตนของตัวเอง กลับยังพอมีเบาะแสให้สืบหาได้
ถ้าหากเธอไม่ใช่เยี่ยหวันหวั่นจริงๆ ความทรงจำทั้งหมดถูกซือเยี่ยหานสั่งให้คนถ่ายโอนเข้ามาโดยใช้การสะกดจิตขั้นสูง จะต้องมีข้อบกพร่องที่ใหญ่มากซ่อนอยู่แน่
ถึงอย่างไรซือเยี่ยหานกับผู้สะกดจิตก็ไม่มีทางรู้จักเยี่ยหวันหวั่นดีทุกอย่าง เรื่องราวทั้งหมดที่เยี่ยหวันหวั่นผ่านมาในแต่ละช่วงอายุ มี BUG ที่ตามหาได้ง่ายที่สุดซึ่งก็คือความทรงจำวัยเด็กของเยี่ยหวันหวั่น รวมถึงของเล่นที่เยี่ยหวันหวั่นชอบที่สุดในวัยเด็ก คนที่เยี่ยหวันหวั่นเคยแอบชอบข้างเดียวสมัยเด็กเป็นต้น เรื่องพวกนี้ นอกจากตัวเยี่ยหวันหวั่นเองกับคนที่สนิทที่สุด คนอื่นไม่มีทางรู้แน่ๆ…
ถ้าเธอไม่ใช่เยี่ยหวันหวั่นจริงๆ…จะต้องหาช่องโหว่ที่สมเหตุสมผลเจอแน่!
………………………………….