บทที่ 1335 เด็กดี อย่าโกรธเลย!
จี่ซิวหร่านได้ยินแบบนั้นก็มองเยี่ยหวันหวั่นเหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้ม ในดวงตาผุดแววอ่อนโยนอย่างบอกไม่ถูกสายหนึ่ง “นี่ค่อยสมเป็นคุณ…”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก
“เสี่ยวเฟิง ผมอยากถามคุณหนึ่งคำถาม” จี่ซิวหร่านมองเยี่ยหวันหวั่นพลางเอ่ยปากเสียงเบา
“ถามอะไรเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
“หลายปีมานี้ คุณมีความสุขไหม” จี่ซิวหร่านเอ่ยถาม
ได้ยินแบบนั้น เยี่ยหวันหวั่นนิ่งเงียบไม่เอ่ยวาจา คำพูดนี้ของจี่ซิวหร่านหมายความว่ายังไง…
“ก็ดีนะ…” เยี่ยหวันหวั่นครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนเอ่ยปากตอบ
“คำถามนี้ คุณไม่จำเป็นต้องตอบผมตอนนี้ รอหลังจากนี้ค่อยบอกผมอีกที ผมยังมีธุระบางอย่างต้องไปจัดการ ไปก่อนนะ” จี่ซิวหร่านพูดจบก็หันตัวจากไป
รอหลังจี่ซิวหร่านจากไปแล้ว เยี่ยหวันหวั่นกลับเปี่ยมสีหน้าพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ทำไมจี่ซิวหร่านคนนี้ประสาทแบบนี้นะ…
เอาเป็นว่ารอดผ่านไปได้ก็ดีแล้ว!
เยี่ยหวันหวั่นหันกายไปมองต้าไป๋ที่อยู่อีกด้านทันที สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความดีใจ เธอนึกไม่ถึงแม้แต่น้อยว่าตัวเองจะได้เจอกับต้าไป๋ที่พันธมิตรอู๋เว่ยในรัฐอิสระนี้
ยังไม่รอให้เยี่ยหวันหวั่นเดินไปหาต้าไป๋ บีรุสกลับแทรกเข้ามาขวางข้างตัวเยี่ยหวันหวั่น
เวลานี้บีรุสเหมือนอยู่ไม่สุขนิดหน่อย มันมองต้าไป๋ขู่คำรามเสียงต่ำเป็นพักๆ เหมือนกำลังเตือน
แต่ต้าไป๋เพียงแค่ชำเลืองมองบีรุสเหมือนขี้เกียจจะสนใจมัน
‘กรรซ์!’
ไม่รอให้เยี่ยหวันหวั่นตอบสนอง เสียงคำรามต่ำทรงพลังดังออกมาจากปากบีรุส พริบตาเดียวมันก็เดินมาถึงข้างตัวต้าไป๋ ใช้กรงเล็บข่วนหัวต้าไป๋หลายทีราวกับกำลังหยั่งเชิงบางอย่าง
เยี่ยหวันหวั่นอึ้งตะลึง เจ้าบีรุสนี่ คงไม่ได้คิดจะสู้กับต้าไป๋หรอกนะ…
อย่าทำขายหน้าตัวเองเลย เสือดำยังไงก็คือเสือดำ จะไปเทียบกับเสือได้ยังไง…อีกทั้งยังเป็นต้าไป๋เสือที่แข็งนอกอ่อนในตัวนี้
ต้าไป๋ถูกบีรุสยั่วยุต่อเนื่อง ท้ายที่สุดมันก็ยืนขึ้นช้าๆ ดวงตาสัตว์หนาวยะเยือกมองบีรุส เสียงคำรามต่ำดังออกจากปากเป็นการเตือน
“เชี่ย…” เยี่ยหวันหวั่นตกใจกลัวเหงื่อไหลพราก บรรพบุรุษสองตัวนี้คงไม่ได้ตั้งใจจะลงมือกันหรอกมั้ง…
การสู้กันระหว่างคนกับคน เยี่ยหวันหวั่นก็เปล่ามีปัญหา อย่างมากจับแยกกันก็เท่านั้น แต่ถ้าสัตว์ดุร้ายสองตัวสู้กันขึ้นมาจริงๆ งั้นควรแยกกันยังไง แล้วใครจะกล้าไปหยุดการต่อสู้อีก
“ต้าไป๋ เด็กดี…อย่าโกรธเลย…” เยี่ยหวันหวั่นมองต้าไป๋พร้อมรีบเอ่ยปลอบ
แต่ที่ทำให้เยี่ยหวันหวั่นคาดไม่ถึงคือ คำปลอบนี้ของเธอกลับพลันจุดไฟโทสะของบีรุสขึ้นมาแล้ว
ยังไม่รอให้เยี่ยหวันหวั่นได้สติ ก็กลับเห็นบีรุสกลายเป็นเงาดำพุ่งใส่ต้าไป๋ในพริบตา
เพียงแค่ชั่ววินาทีเดียว บีรุสกับต้าไป๋ก็ต่อสู้กันแล้ว
ในห้องทำงาน เสียงสัตว์ร้ายขู่และคำรามด้วยความโกรธดังขึ้นไม่ขาดสาย
เยี่ยหวันหวั่นยืนอยู่กับที่ มองการต่อสู้ของบีรุสกับต้าไป๋ก็อดกุมหน้าผากไม่ได้ นี่เธอสร้างเวรกรรมอะไรไว้…
“พี่เฟิง เกิดอะไรขึ้น!”
เวลานี้เป่ยโต่วพลันพุ่งเข้ามาจากข้างนอก
ไม่ต้องให้เยี่ยหวันหวั่นตอบ เป่ยโต่วเพิ่งเข้าห้องทำงานมาก็เห็นแล้วว่าที่แท้จริงเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“โอ้…ต้าไป๋นี่ใช้ได้นะเนี่ย สู้สมน้ำสมเนื้อกับบีรุสได้…” เป่ยโต่วยืนอยู่อีกด้าน มองสัตว์ร้ายสองตัวฟัดกันก็อดพยักหน้าไม่ได้
“แยกพวกมันออกจากกัน!” เยี่ยหวันหวั่นพูดกับเป่ยโต่ว
ได้ยินคำพูดนี้ของเยี่ยหวันหวั่น เป่ยโต่วอึ้งงันอยู่กับที่ทันที เขามองเยี่ยหวันหวั่นอย่างไม่อยากเชื่อ “พี่เฟิง…พี่ไม่ได้พูดจริงใช่ไหม…พี่ให้ผมแยกสัตว์ที่สู้กันออกจากกันเนี่ยนะ!”
ถ้าเขาทำอย่างนั้นจริงๆ เกรงว่าบีรุสกับต้าไป๋ตัวนั้นก็คงฉีกทึ้งเขาแล้ว…
——————————————————————————–
บทที่ 1336 ไม่สนใจขอบคุณ
เวลานี้เยี่ยหวันหวั่นไม่ได้คิดมากมาย ขึ้นหน้าด้วยความรวดเร็ว กอดหมับบีรุสที่กำลังอยู่ในนัวเนียต่อสู้ไว้
บีรุสส่งเสียงคำราม ตอนที่ดวงตาดุร้ายหันมองเยี่ยหวันหวั่นก็พลันสงบลงมา
“ต้าไป๋!”
เยี่ยหวันหวั่นมือหนึ่งกอดบีรุส อีกมือหนึ่งกอดต้าไป๋
ฉากในตอนนี้ทำให้เป่ยโต่วที่อยู่ด้านข้างตาโตอ้าปากค้าง ชูนิ้วโป้งให้เยี่ยหวันหวั่นโดยไม่รู้ตัว “สุด…ยอด…พี่เฟิง ผมไม่ชมพี่แล้วจะชมใคร…”
เยี่ยหวันหวั่นกลับขี้เกียจสนใจเป่ยโต่ว นั่งยองข้างสัตว์ร้ายสองตัวปลอบต้าไป๋กับบีรุสไม่หยุด
บรรพบุรุษสองตัวนี้เกรงว่าคงจะไม่ถูกโฉลกกัน เห็นหน้าไม่แม้แต่ทักทาย พริบตาเดียวก็ขย้ำกันขึ้นมา
“เสี่ยวเฮย เป็นเด็กดีหน่อย ต้าไป๋เพิ่งมาที่นี่ นายอย่ารังแกต้าไป๋” เยี่ยหวันหวั่นลูบขนราวน้ำหมึกของบีรุส เอ่ยชี้แนะอย่างจริงใจไม่หยุด
“ฮ่าๆ … พี่เฟิง นี่พี่พูดสั่งสอนมันเหรอ” เป่ยโต่วระเบิดหัวเราะ “บีรุสตามพี่มาอยู่พันธมิตรอู๋เว่ยตั้งแต่เล็ก ที่นี่เท่ากับเป็นอาณาเขตของบีรุส สัตว์ดุร้ายประเภทนี้มีสติปัญญามาก แถมหวงอาณาเขตสุดๆ …สู้กันขึ้นมาผมก็ว่าปกตินะ…”
“ฉันยังให้นายต้องมาเตือนเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นเหล่มองเป่ยโต่วแวบหนึ่ง เจ้านี่หัวทึบหรือเปล่า ความรู้สามัญแบบนี้ยังหยิบมาอวด?
สัตว์ร้ายหวงอาณาเขตรุนแรงอยู่แล้วเข้าใจไหม ใครกันที่ยังไม่เคยเลี้ยงสัตว์ร้ายมาก่อน…
“พี่เฟิง ผมได้ยินมาว่า…จักรพรรดิจี่พาเสือขาวตัวนี้มา…ตกลงมันเรื่องอะไรกันแน่เหรอ” เป่ยโต่วถามเยี่ยหวันหวั่นอย่างเปี่ยมความสงสัย
“ฉันเลี้ยงเสือขาวหลังไปจากพันธมิตรอู๋เว่ย ครั้งก่อนเลยไหว้วานจักรพรรดิจี่ให้ช่วยหามากลับมา” เยี่ยหวันหวั่นหาข้ออ้างส่งๆ
ได้ยินคำพูดนี้ของเยี่ยหวันหวั่น เป่ยโต่วชะงักเล็กน้อยก่อนเอ่ยด้วยสีหน้าชื่นชมมาก “สมกับเป็นพี่เฟิงจริง…ไปที่ไหนต้องเลี้ยงสัตว์ร้าย…จริงสิ พี่เฟิง เพื่อนผมเลี้ยงหมีหนึ่งตัว พี่สนใจไหม ถ้าพี่เฟิงสนใจละก็ ผมเรียกให้เพื่อนผมเอาหมีมาให้พี่ก็ได้นะ”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก ไม่สนใจโว้ย!
“ถ้าว่างจนเบื่อนัก ก็ไสหัวมาช่วยฉันดูพวกมัน” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยเสียงเย็น
“เอ่อ…พี่เฟิง จู่ๆ ผมก็นึกได้ว่ายังมีเรื่องอีกนิดหน่อยต้องจัดการ…เดี๋ยวค่อยคุยกันนะ…” เป่ยโต่วพูดจบก็หันตัววิ่งออกไปจากห้องทำงานของเยี่ยหวันหวั่น
…
ผ่านไปไม่นาน ต้าไป๋กับบีรุสก็ยังคงจ้องกันและกัน ในดวงตาของแต่ละตัวเผยแววความเป็นศัตรูรุนแรง ถ้าไม่ใช่เพราะเยี่ยหวันหวั่นค่อยปลอบโยนอยู่ตลอด เกรงว่าต้าไป๋กับบีรุสก็คงไม่ยอมเลิกราจนกว่าจะตัวใดตัวหนึ่งตาย
จำต้องพูดว่าพลังต่อสู้ของบีรุสทำให้เยี่ยหวันหวั่นต้องมองมันอีกระดับจริงๆ
ต้าไป๋จัดเป็นสัตว์ร้ายขนาดใหญ่ตระกูลแมว ส่วนบีรุสจัดเป็นสัตว์ตระกูลแมวขนาดกลาง ตัวหนึ่งเป็นเสือ อีกตัวเป็นเสือดำ ไม่น่าเชื่อว่าจะสู้กันได้สูสี..
“เสี่ยวเฮยเด็กดี ต้าไป๋เด็กดี…มา จับมือกัน จากนี้ก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันนะ” เยี่ยหวันหวั่นคว้าอุ้งมือของบีรุสกับอุ้งมือของต้าไป๋มาชนเข้าด้วยกันหนึ่งที
แต่ทว่า บีรุสคำรามเสียงต่ำอันตรายออกมา ต้าไป๋ก็มองบีรุสอย่างเย็นชา
เยี่ยหวันหวั่นนิ่งเงียบ ไม่ถูกโฉลกกันจริงๆ …
“ผู้นำ!”
เวลานี้เอง ชายวัยกลางคนสวมชุดสูทรองเท้าหนังก็ก้าวเข้ามาในห้องทำงานของเยี่ยหวันหวั่น
“ว่ามา” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
“ผู้นำ…คนฝั่งสมาคมสหพันธ์วิทยายุทธ์มาแล้ว อยากพบท่านผู้นำครับ” ชายวัยกลางคนเอ่ยอย่างเร่งร้อน
“สมาคมสหพันธ์วิทยายุทธ์…”
ได้ยินชายวัยกลางคนพูดเช่นนี้ เยี่ยหวันหวั่นก็ขมวดคิ้วน้อยๆ