บทที่ 1353 เที่ยวไนต์คลับ
ตามเสียงดนตรีที่ดังกระหึ่มหู เยี่ยหวันหวั่นฝืนใจเปิดประตูรถก่อนเดินลงจากรถช้าๆ
ชีซิงกับชิวสุ่ยทั้งสองคนเข้าไนต์คลับเปิดห้องเรียบร้อยแล้ว
“ทั้งสองท่านเชิญเข้ามาข้างในค่ะ” เด็กสาวที่ท่าทางจะเป็นบริกรคนหนึ่งเข้ามาต้อนรับทันทีด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
ระหว่างทางไปห้องส่วนตัว เยี่ยหวันหวั่นกวาดสายตาสำรวจ ทั้งหมดล้วนเป็นเด็กสาวหน้าตาโดดเด่น บ้างสวมชุดบันนี่เกิร์ลไม่ก็แต่งคอสเพลย์น่ารักมาก
แต่ที่ทำให้เยี่ยหวันหวั่นแปลกใจคือ นอกจากผู้หญิงกลับยังมีผู้ชายที่แต่งเนื้อแต่งตัว สวมชุดแสบตาเหลือเกิน ทว่าหน้าตาก็ยังพอถูไถได้
เยี่ยหวันหวั่นนิ่งเงียบ
ที่นี่มันที่บ้าอะไรกันเนี่ย…
ผ่านไปชั่วครู่ บริกรก็เปิดห้องส่วนตัว จากนั้นก็ถอยออกไป
“เสี่ยวเฟิง มานี่เร็ว!”
ชิวสุ่ยเห็นเยี่ยหวันหวั่นปรากฏตัวก็รีบลุกขึ้นจากโซฟา โบกมือให้เยี่ยหวันหวั่น
ชีซิงนั่งอยู่ข้างๆ มีสีหน้าเย็นชาอย่างเห็นได้ชัด “พี่เฟิง”
เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้านับว่าตอบรับ
“ไม่ทราบว่าทุกท่านต้องการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อะไรไหมคะ” บริกรคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องส่วนตัวก่อนเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้ม
เยี่ยหวันหวั่นเพิ่งคิดอยากสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำนวนหนึ่ง แต่เป่ยโต่วกลับโบกมือยกใหญ่ “ไม่ต้อง พี่เฟิงของพวกเราไม่เคยดื่มเหล้า! จริงสิ เอาสินค้ามา”
ได้ยินแบบนั้น บริกรก็พยักหน้าแล้วจากไป
เยี่ยหวันหวั่นค่อนข้างหมดคำพูด ตอนอยู่ประเทศจีนซือเยี่ยหานไม่ให้เธอดื่มเหล้า นี่อุตส่าห์ลำบากมาถึงรัฐอิสระ ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยก็กลับไม่เคยดื่มเหล้า…
แต่ผ่านไปครู่หนึ่งหญิงสาวชายหนุ่มไม่น้อยก็พลันพรั่งพรูเข้ามาในห้อง
บริกรยืนอยู่ด้านข้างให้พวกเป่ยโต่วเลือกคน
“เธอ…แล้วก็เธอ…มา” เป่ยโต่วหัวเราะซุกซน เลือกเด็กสาวที่แต่งตัวเซ็กซี่หลายคน
“คุณพี่ชายมานั่ง” ชิวสุ่ยเลือกเด็กชายที่หน้าตาไม่เลวคนหนึ่ง
“ชีซิง เลือกคนสิ” เป่ยโต่วเห็นชีซิงนิ่งตลอดก็อดเร่งไม่ได้
“ไม่จำเป็น” ชีซิงเอ่ยเสียงเรียบ
“เพ้ย เจ้าแปลกพวก!” เป่ยโต่วเบ้ปากแล้วมองเยี่ยหวันหวั่น “พี่เฟิง ไม่ต้องสนใจหมอนี่ พี่เลือกเถอะ”
เวลานี้เยี่ยหวันหวั่นมุมปากกระตุกเล็กน้อย ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยแบดเจอร์ยังชอบแบบนี้ด้วยเหรอ…
กวาดตามองหนึ่งที ถึงแม้แต่ละคนไม่นับว่าน่าเกลียด แต่หลังเห็นคนงามเลิศล้ำจนชินตา คนพวกนี้ก็ช่างไร้รสชาติ
“ไม่ถูกใจ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
“พวกเธอทำบ้าอะไร แม้แต่ฉันยังคิดว่าน่าเกลียด เลือกที่ดีกว่านี้หน่อยไม่ได้เรอะ เปลี่ยนกลุ่มอื่นมา!” เป่ยโต่วขมวดคิ้วเอ่ย
พนักงานบริการพาพวกพี่ชายไปทั้งหมดด้วยความจนใจ แค่ครู่เดียวคนกลุ่มหนึ่งก็เข้ามาอีกภายใต้การนำของพนักงาน
“พี่เฟิง กลุ่มนี้ดี ค่าหน้าตาสูงกว่าก่อนหน้านี้ ถึงไม่เท่าผมแต่ก็พอได้” เป่ยโต่วเอ่ยกับเยี่ยหวันหวั่น
คนกลุ่มนี้ทั้งหมดแต่งชุดสูทลำลองมีชายเต็มวัยที่เปี่ยมเสน่ห์เพศชาย แล้วก็มีหนุ่มน้อยหน้าตาอ่อนหวานใสซื่อบริสุทธิ์
เพียงแต่เทียบกับหน้าตางามล้ำที่เยี่ยหวันหวั่นเคยเห็นมา ก็ยังคงห่างชั้นกันอยู่มาก…เธอไม่สนใจจริงๆ
“ไม่ถูกใจ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยอย่างเบื่อหน่าย
นี่ไม่ใช่ว่าเธอไม่เลือก แต่ว่าไม่ดีจริงๆ ชีซิงไม่น่าสงสัยเธอได้หรอกมั้ง…
และเยี่ยหวันหวั่นก็เชื่อว่าแบดเจอร์ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ย ไม่มีทางเป็นคนประเภทไม่เลือกกินเด็ดขาด อย่างน้อยก็ต้องเป็นของคุณภาพสูงสุดละมั้ง…
“คุณพี่ชาย มานั่ง”
เยี่ยหวันหวั่นไม่เลือก แต่ชิวสุ่ยกลับตาวาวแล้วพลันเลือกหนุ่มน้อยที่ดูขี้อายนิดหน่อยคนหนึ่งในนั้นมา…
เยี่ยหวันหวั่นหมดคำพูด
นึกไม่ถึงว่าเธอจะเป็นแบบนี้นะชิวสุ่ย…
————————————————————————————-
บทที่ 1354 ค่าความหน้าตาดีของจักรพรรดิจี่
เป่ยโต่วมองเยี่ยหวันหวั่น “พี่เฟิง นี่ก็ไม่เลวแล้วนะ…พี่รสนิยมสูงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร…งั้นพี่จะเอาแบบไหนกันแน่”
ได้ยินแบบนั้นเยี่ยหวันหวั่นคิดเล็กน้อยแล้วจึงเอ่ยปาก “หึ อย่างน้อยที่สุดก็ต้องระดับจี่ซิวหร่านละมั้ง…”
ใช้ซือเยี่ยหานเป็นตัวเปรียบเทียบคนพวกนี้ก็ไม่รู้จัก ในหัวเยี่ยหวันหวั่นจึงผุดชื่อของจี่ซิวหร่านขึ้นมา
“จี่ซิวหร่าน?” เป่ยโต่วชะงักเล็กน้อย มีสีหน้าบอกไม่ถูก “ใครอะ หล่อกว่าผมเหรอ!”
“จักรพรรดิจี่…” ชิวสุ่ยที่อยู่ด้านข้างเหลือบมองเป่ยโต่วอย่างหมดคำพูด
ในที่สุดเป่ยโต่วก็ตอบสนองว่าเยี่ยหวันหวั่นพูดชื่อของจักรพรรดิจี่ “เชี่ย! พี่เฟิง…พี่ไม่ใช่หรอกมั้ง…พวกเราอย่าร้องขอสูงขนาดนั้นเลย ผมก็ชอบคนงามอันดับหนึ่งของรัฐอิสระนะ…พี่เห็นเขาสนใจผมไหมล่ะ”
เยี่ยหวันหวั่นยิ้มไม่เอ่ยวาจา นี่ก็คือจุดประสงค์ของเธอ อย่างไรเสียเธอเรียกร้องอย่างนี้ ถ้ามีค่าความหน้าตาดีระดับจักรพรรดิจี่ก็มาบริการ ถ้าไม่มีงั้นก็แล้วกันไป…
แต่ที่ทำให้เยี่ยหวันหวั่นนึกไม่ถึงคือ เวลานี้ชิวสุ่ยลอบคลำๆ ล้วงมือถือออกมาหาหมายเลขมือถือของจักรพรรดิจี่แล้วส่งข้อความหนึ่งให้จักรพรรดิจี่
…
เป่ยโต่วได้แต่ให้บริกรพาคนกลุ่มนี้ถอยออกไปด้วยความจนใจ เยี่ยหวันหวั่นไม่ถูกใจ งั้นก็ทำอะไรไม่ได้
ในเวลานี้เอง มือถือของเยี่ยหวันหวั่นดังขึ้นเป็นสายจากหลิวอิ่ง
เยี่ยหวันหวั่นลุกขึ้นเดินออกจากห้องส่วนตัวทันที เธอไปยังที่ที่สงบเล็กน้อยแล้วรับสายที่หลิวอิ่งโทรมา
“เจ้านาย” เสียงของหลิวอิ่งดังมาจากในโทรศัพท์
เยี่ยหวันหวั่นกลับไม่ค่อยชินกับคำเรียกนี้ของหลิวอิ่งเท่าไรนัก
“ทำไมเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยถาม
“เจ้านายอยู่ไหนครับ” หลิวอิ่งเอ่ย
“อยู่ไนต์คลับ” เยี่ยหวันหวั่นตอบตามตรง
หลิวอิ่งเงียบไปแป๊บหนึ่งจากนั้นจึงเอ่ยปาก “เจ้านาย…วันนี้ผมกับพวกเหล่าเจียงน่าจะบังเอิญเจอร่องรอยหนึ่งของคุณชายเก้า…แต่ตอนนี้พวกเราไม่มีบัตรผ่านของรัฐอิสระ แล้วก็ไม่มีเงินทุนกับกำลังคนด้วย จะตรวจสอบทีก็ลำบากมาก”
“ร่องรอยของคุณเก้า…” ได้ยินคำพูดนี้ของหลิวอิ่ง เยี่ยหวันหวั่นตาลุกวาวเล็กน้อย
เธอคิดแค่ว่าจะหาซือเยี่ยหานให้เร็วที่สุดและกลับประเทศไปด้วยกันกับซือเยี่ยหาน ตระกูลเยี่ย ตระกูลซือ…แล้วก็ยังมีเรื่องอีกมากไม่ได้สะสางจำเป็นต้องกลับไปจัดการ
อีกทั้งเวลาที่พ่อกับเยี่ยมู่ฝานเหลืออยู่ก็ไม่ถือว่ามากแล้ว เหลืออีกประมาณห้าเดือนกว่าก็จะถึงการประกาศคำตัดสิน ก่อนหน้านั้นเธอต้องหาซือเยี่ยหานแล้วพากลับประเทศจีนไปให้ได้
“พวกนายได้ข่าวอะไรมา” เยี่ยหวันหวั่นรีบเอ่ยถาม
“เจ้านาย เรื่องนี้ต้องพูดยาว…แต่เจ้านายวางใจได้ พวกเราตรวจสอบให้ชัดเจนได้แน่นอน แต่…พวกเราต้องมีบัตรผ่านรัฐอิสระ แล้วยังต้องมีเงิน…มีตัวตน” หลิวอิ่งเอ่ย
ได้ยินแบบนั้นเยี่ยหวันหวั่นพยักหน้าน้อยๆ บัตรผ่านกับเงินไม่ใช่ปัญหา แต่ตัวตนที่หลิวอิ่งว่า เขาน่าจะอยากได้ตำแหน่งชั่วคราวในพันธมิตรอู๋เว่ย สั่งการสมาชิกกองกำลังพันธมิตรอู๋เว่ยไม่ได้ นี่ดูเหมือนไม่ง่ายเลย
“พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน เรื่องบัตรผ่าน ฉันเตรียมไว้แล้ว เงินก็ไม่ต้องห่วง” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
ได้ยินแบบนั้นหลิวอิ่งตื่นเต้นเล็กน้อยรีบเอ่ยพูด “ขอบคุณครับเจ้านาย…”
“หลิวอิ่ง ไม่ต้องเรียกฉันว่าเจ้านาย” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
“งั้น…จากนี้ต่อหน้าคนผมจะเรียกคุณว่าพี่เฟิง…” หลิวอิ่งเอ่ย
…
ผ่านไปชั่วครู่ เยี่ยหวันหวั่นก็วางสาย ดูเหมือนว่า การตัดสินใจเก็บหลิวอิ่งกับพวกเหล่าเจียงไว้เมื่อตอนนั้นจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว…
ตั้งแต่มาถึงรัฐอิสระในที่สุดก็มีข่าวคราวของซือเยี่ยหาน หวังว่าพวกหลิวอิ่งจะค้นพบเบาะแสร่องรอย
หลังเก็บอารมณ์แล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็หันตัวเข้าไนต์คลับ
“เห…น้องสาวคนนี้สวยนะเนี่ย…ทำไมเมื่อกี้ไม่เห็นนะ”
ยังไม่ได้เข้าห้องผู้ชายคนหนึ่งก็ขวางข้างตัวเยี่ยหวันหวั่นไว้
“เฮอะ…สวยตรงไหน ก็แค่อีตัวเท่านั้นแหละ” ผู้หญิงชุดแดงหนึ่งในนั้นชำเลืองมองเยี่ยหวันหวั่นหนึ่งทีแล้วหัวเราะเยาะ
ได้ยินแบบนั้นเยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วน้อยๆ คนกลุ่มนี้มองเธอเป็นหญิงบริการของไนต์คลับเหรอ