บทที่ 1377 แสดงจนชาชิน
พันธมิตรเก่า?
ในเมื่อเป็นพันธมิตรเก่าละก็ ไม่ไปพบก็เกรงว่าจะไม่เหมาะสม…
เยี่ยหวันหวั่นได้แต่ต้องพาหลิวอิ่งกลับพันธมิตรอู๋เว่ยไปก่อนด้วยความจนใจ
นอกโถงประชุม เป่ยโต่วมองเยี่ยหวันหวั่นพลางเอ่ย “พี่เฟิง แทรนซ์มาแล้ว…”
“แทรนซ์…” เยี่ยหวันหวั่นมีสีหน้าว่างเปล่า นี่คือหัวหน้ากองกำลังที่ว่ามีความสัมพันธ์เป็นพันธมิตรกับพันธมิตรอู๋เว่ยเหรอ…
ถึงแม้เยี่ยหวันหวั่นเคยได้ยินเป่ยโต่วพูดถึงแทรนซ์มาก่อน แต่ตัวเธอไม่รู้จักคนคนนี้แม้แต่น้อย ละครฉากนี้ควรแสดงต่อไปยังไงดี
ตอนนี้เธอใกล้จะแสดงจนชาชินแล้ว…
“ผู้อาวุโสสามกับชีซิงกำลังต้อนรับอยู่…พี่เฟิง พี่รีบเข้าไปเถอะ!” เป่ยโต่วเอ่ย
ได้ยินแบบนั้นเยี่ยหวันหวั่นก็พยักหน้า ไม่เข้าไปได้ไหม…
เยี่ยหวันหวั่นได้แต่ต้องผลักประตูเข้าไปภายใต้ความจนใจ
ในโถงประชุม ชายชาวตะวันตกสวมชุดสูทสีขาวกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้
แทรนซ์รูปร่างผอมเล็กน้อย ใบหน้าสะอาดสะอ้าน แต่ในดวงตาสีน้ำเงินคู่นั้นกลับแฝงไปด้วยแววโหดเหี้ยมอำมหิต
“คุณหนูไป๋เฟิง ไม่เจอกันหลายปีคุณยังสวยเหมือนเดิม” แทรนซ์ลุกขึ้นยืนช้าๆ เขามองเยี่ยหวันหวั่นด้วยรอยยิ้มเปี่ยมความเป็นสุภาพบุรุษ
เยี่ยหวันหวั่นกลอกตาเล็กน้อย “แทรนซ์ ไม่เจอกันนานเลย”
เวลานี้สายตาของผู้อาวุโสสามหลี่ซือ ยังคงไม่ละไปจากตัวเยี่ยหวันหวั่นสักวินาทีเดียว
ตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงตอนนี้ หลี่ซือก็ไม่เคยเชื่อว่าเยี่ยหวันหวั่นคือไป๋เฟิงตัวจริง วันนี้เขาสามารถหยั่งเชิงได้อีกรอบพอดี
เยี่ยหวันหวั่นขึ้นหน้าไปกอดแทรนซ์เบาๆ
ถึงแม้เยี่ยหวันหวั่นไม่รู้จักแทรนซ์คนนี้แม้แต่น้อย แต่ดูแล้ว ทั้งสองกลับดูเหมือนเพื่อนเก่าแก่ที่ไม่ได้เจอหน้ากันหลายปีจริงๆ
ดูท่าทีของแทรนซ์ก็ไม่เจอความผิดปกติอะไร
“ผู้นำไป๋ พวกเรามาเข้าเรื่องกัน ฉันมาครั้งนี้มีด้วยกันสองเรื่อง…เรื่องแรก ฉันไม่สบอารมณ์ตระกูลเยียนอยากกำจัดทิ้งนานแล้ว ช่วงนี้ได้ยินมาว่าตระกูลเยียนก็ล่วงเกินคุณ พอดีเลยพวกเราหนึ่งคนหนึ่งส่วน กำจัดตระกูลเยียนทิ้งกัน” แทรนซ์ยิ้มพลางเอ่ยปาก
เยี่ยหวันหวั่นอดทอดถอนใจในใจไม่ได้ เธอไม่อยากยั่วยุตระกูลเยียน แล้วก็ไม่อยากร่วมมือกับแทรนซ์ผู้นี้ด้วย…แต่ว่า นี่ก็เหมือนจะไม่ใช่สไตล์ของแบดเจอร์อีก
“ส่วนอาณาเขตของตระกูลเยียน กฎเก่าของพวกเราแบ่งกันห้าสิบห้าสิบคุณว่ายังไง” แทรนซ์เอ่ยอีก
“ห้าสิบๆ?” เยี่ยหวันหวั่นครุ่นคิดเล็กน้อย จากนั้นก็เก็บรอยยิ้มบนใบหน้า “แทรนซ์ ฉันไม่เคยแบ่งห้าสิบห้าสิบกับใคร”
ยังจำตอนนั้นที่คุยกับเป่ยโต่วได้ เป่ยโต่วเคยพูดว่าพันธมิตรอู๋เว่ยเมื่อก่อนตอนที่ร่วมมือกับกองกำลังข้างเคียง พันธมิตรอู๋เว่ยไม่เคยแบ่งผลประโยชน์ต่ำกว่าหกส่วน ดังนั้นกฎเก่าห้าสิบห้าสิบบ้าบอสิ
“แทรนซ์ ในเมื่อคุณไม่จริงใจอย่างนี้ งั้นพวกเราก็ไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันต่อ” เยี่ยหวันหวั่นยิ้มหยัน
เวลานี้ผู้อาวุโสสามลอบเหยียดยิ้ม ชีซิงก็มีสีหน้าเย็นชา มืดทึมราวกับจะควบแน่นหยดออกมาเป็นน้ำได้
ตั้งแต่ต้นจนจบเยี่ยหวันหวั่นสังเกตผู้อาวุโสสามและชีซิงตลอด เมื่อเห็นสีหน้าของสองคนนี้ ในใจเยี่ยหวันหวั่นก็สะดุดกึก รู้สึกว่ามีตรงไหนไม่ถูก…
“ฮ่าๆ ผู้นำไป๋ ฉันล้อคุณเล่นเท่านั้นเอง ฉันสี่คุณหก อย่าจริงจังขนาดนั้นสิ” แทรนซ์เอ่ย
ฟังถึงตรงนี้ เยี่ยหวันหวั่นจึงมีสีหน้าอ่อนลงเล็กน้อย
“เรื่องที่สอง อาชูร่าฟื้นคืนจากเถ้าถ่านก็ให้กองกำลังทั้งหมดบนอาณาเขตของพวกเราต้องส่งส่วยตามกำหนดทุกเดือน…ฉันไม่สบอารมณ์สุดๆ เงินที่ฉันได้มา ทำไมฉันต้องแบ่งให้พวกนั้นด้วย ผู้นำไป๋…ฉันคิดว่า คุณก็จะไม่ส่งส่วยนี้สินะ” แทรนซ์เอ่ย
————————————————————————————
บทที่ 1378 การเล่นเป็นเพื่อนจบแล้ว
“แน่นอนว่าไม่” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
ตอนนั้นคนของกองกำลังอาชูร่ามาพันธมิตรอู๋เว่ยให้แบดเจอร์ส่งส่วย แต่ผลคือแบดเจอร์กลับฆ่าคนมาทิ้งโดยตรง เยี่ยหวันหวั่นย่อมรู้เรื่องนี้ แบดเจอร์ตัวจริงจะส่งส่วยได้ยังไง
“ฮ่าๆ เยี่ยม ดี…ในเมื่อไม่มีธุระแล้ว งั้นฉันก็ไปก่อนล่ะ” แทรนซ์พูดจบก็ลุกขึ้นยืน
เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่ได้พูดมากความ แต่แอบลอบมองชีซิง
เวลานี้ทั้งตัวชีซิงราวกับน้ำแข็งก้อนหนึ่ง หนาวเยือกถึงขั้วกระดูก
เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วในใจ ต้องมีตรงไหนไม่ถูก…บางที เธออาจเผยอะไรบางอย่างเพราะแทรนซ์คนนี้…
ไม่นาน เธอก็เห็นชีซิงเปิดมือถือแล้วเริ่มส่งข้อความ
ผ่านกระจกของห้องประชุม ในที่สุดเยี่ยหวันหวั่นก็พออ่านเนื้อหาในข้อความออก
‘ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่พี่เฟิง…ฉันจะฆ่าเธอ เป่ยโต่ว นายถูกหลอกแล้ว’
คนรับข้อความก็คือเป่ยโต่ว
ตัวอักษรด้านหลังอ่านไม่ชัด แต่เห็นแค่ประโยคแรกก็เพียงพอแล้ว
‘แย่แล้ว…’ ในใจเยี่ยหวันหวั่นพลันเครียดขมึงขึ้นมา
ตั้งแต่เธอเข้ามาในห้องประชุมก็ยังไม่ได้พูดผิดสักประโยค ไม่มีทางจะเผยพิรุธใดๆ ได้
อีกอย่างแทรนซ์คนนี้มีตัวตัวจริง ชีซิงกับผู้อาวุโสสามไม่ได้สร้างขึ้นมาหยั่งเชิงเธอ…
เมื่อตัดทุกอย่างนี้ออก ปัญหาก็น่าจะมีอย่างเดียว
ชายชาวตะวันตกตรงหน้านี้ไม่ใช่แทรนซ์แต่แรกแล้ว! เธอถูกหลอกแล้ว!
“ช้าก่อน”
ยังไม่รอให้ชีซิงส่งข้อความออกไป เยี่ยหวันหวั่นพลันแค่นหัวเราะ เรียกชายชาวตะวันตกคนนี้ไว้
“ผู้นำไป๋ ทำไม…ยังมีเรื่องอะไรเหรอ” ชายชาวตะวันตกชะงักเล็กน้อย
ได้ยินดังนั้น เยี่ยหวันหวั่นก็เดินไม่ช้าไม่เร็วไปตรงหน้าชายชาวตะวันตก มุมปากยกขึ้นน้อยๆ วาดเป็นรอยยิ้มชั่วร้ายก่อนเอ่ยพูด “ฉัน…เล่นละครเป็นเพื่อนนายจบแล้ว งั้น…ก็ควรให้ฉันถามคำถามนายหน่อยหรือเปล่า”
“ผู้นำไป๋หมายความว่าไง” ชายชาวตะวันตกเอ่ย
‘เพียะ!’
ไม่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้สติกลับมา เยี่ยหวันหวั่นยกแขนขวาขึ้น แทบจะในพริบตาเดียวก็ฟาดฝ่ามือลงไป ตบใส่หน้าของชายชาวตะวันตกอย่างแรง
ชายชาวตะวันตกถูกเยี่ยหวันหวั่นตบคว่ำลงกับพื้นอย่างไม่ทันตั้งตัวในทันที
“นายเห็นฉัน…เป็นอะไร…ไอ้โง่เหรอ” เยี่ยหวันหวั่นยิ้มเย็นเอ่ย
“ผู้นำไป๋ คุณหมายความว่ายังไง อยากก่อสงครามระหว่างพวกเราเหรอ!” ชายชาวตะวันตกพลันโมโห
“เข้ามา!”
เยี่ยหวันหวั่นตะคอกเสียงโกรธ
วินาทีถัดมาสมาชิกหัวกะทิของพันธมิตรอู๋เว่ยสิบกว่าคนก็เดินเข้ามาในโถงประชุม สมาชิกพวกนี้สวมชุดสีขาว ด้านหลังเขียนคำว่าอู๋เว่ย
“ช่วยฉันถามเขาหน่อย ทำไมถึงสวมรอยเป็นแทรนซ์…ใครคือผู้อยู่เบื้องหลัง ถ้าไม่บอกก็ฆ่าซะ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยเป็นนัย
ยังไม่รอให้สมาชิกพันธมิตรอู๋เว่ยเคลื่อนไหว ชายชาวตะวันตกก็เอ่ยอย่างเดือดดาล “พูดบ้าอะไรของคุณ ฉันนี่แหละคือแทรนซ์!”
“นายคือแทรนซ์?” เยี่ยหวันหวั่นยิ้มเยาะ “ฉันรู้จักแทรนซ์มาตั้งหลายปี ทำไมฉันไม่เห็นรู้ว่าแทรนซ์กลายเป็นคนตะวันตกแล้ว?”
เมื่อคำพูดนี้ของเยี่ยหวันหวั่นออกไป รอยยิ้มบนใบหน้าของผู้อาวุโสสามพลันแข็งทื่อในทันที ส่วนดวงตาของชีซิงก็ผุดแววประหลาดใจ
เห็นดังนั้นเยี่ยหวันหวั่นจึงค่อยถอนหายใจโล่งอก
รัฐอิสระนี้มีคนตะวันตกไปมาน้อยมาก อีกฝ่ายไม่ด้อยกว่าหัวหน้าของกองกำลังพันธมิตรอู๋เว่ย งั้นแล้วจะเป็นคนตะวันตกไปได้ยังไง!
อีกทั้งเมื่อครู่นี้เยี่ยหวันหวั่นก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่า นิสัยต่อต้านคนนอกของรัฐอิสระสูงสุดกว่าที่ไหนๆ จะปล่อยให้ชาวตะวันตกอยู่ที่นี่อย่างแข็งแกร่งแบบนี้ได้ยังไง!
ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้คิดเยอะ แต่หลังจากไตร่ตรอง ก็มีหลายจุดที่ไม่สมเหตุสมผลจริงๆ
ดังนั้นเธอกำลังพนันว่าแทรนซ์คือคนตะวันออก นี่คือการพนันครั้งใหญ่…ชนะก็รอด แพ้ก็ตาย!
และเธอก็ชนะแล้ว สีหน้าของผู้อาวุโสสามกับชีซิงก็คือหลักฐานชั้นดี