บทที่ 1383 เสื้อกั๊กเต็มไปหมด
หลินเชวียพูดจบก็ถามด้วยความแปลกใจ “พี่เก้า ในเมื่อเยี่ยหวันหวั่นเป็นคนรัฐอิสระ งั้นบ้านเธออยู่ไหน พ่อแม่เธอล่ะ แล้วเธอชื่ออะไร?”
เขาเคยได้ยินตำนานอันแข็งแกร่งของผู้หญิงในดวงใจพี่เก้ามามากมาย แต่กลับไม่เคยรู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของเธอคือใคร
ตอนนี้เป็นไง มี
ผู้หญิงคนนี้มีเสื้อกั๊กเยอะเกินไปแล้วมั้ง?
เธอไม่เหนื่อยบ้างรึไงนะ…
“เรื่องนั้นสำคัญด้วยเหรอ” ซือเยี่ยหานเอ่ยด้วยใบหน้าเย็นชา
หวันหวั่นไม่เคยบอกเขาเกี่ยวกับชื่อจริง และชาติกำเนิดของเธอ เขาเองก็ไม่เคยสนใจ
“เอิ่ม เอาเถอะๆ ไม่บอกก็แล้วไป แล้วหลังจากนั้นล่ะ?” หลินเชวียตาเป็นประกาย จ้องหน้าพี่เก้าของเขาอย่างอารมณ์ค้าง
หายากที่พี่เก้าจะยอมพูดเรื่องพวกนี้กับเขา! นี่มันโอกาสดีที่พันปีจะมีครั้งหนึ่ง!
แต่ทว่า ซือเยี่ยหานกลับไม่พูดอะไรอีก มีเพียงสีหน้าที่ดูเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อหญิงสาวที่ปรากฏตัวอย่างเหนือความคาดหมายคนนั้นได้ยึดครองชีวิตของเขาไปจนหมด กระทั่ง เมื่อเธอฝ่าทะลวงเส้นแบ่งเขตแดนไปพร้อมกับเขา…
แต่จู่ๆ เยี่ยหวันหวั่นกลับหายตัวไปสิบเดือนกว่า ไร้ร่องรอยไร้ข่าวสาร ราวกับหายไปกับอากาศ…
ในช่วงนั้น เขาตามหาเธออยู่ตลอดเวลา แต่หลังจากเจอเยี่ยหวันหวั่น ภัยพิบัติครั้งนั้นก็ได้เริ่มต้นขึ้น…
ภาพเหตุการณ์ในวันนั้นผุดขึ้นมาในสมองซือเยี่ยหานอีกครั้ง
เยี่ยหวันหวั่นเนื้อตัวเปื้อนเลือด ราวกับปีนขึ้นมาจากขุมนรก
ถ้าหากไม่ใช่เขาบังเอิญหาเธอเจอ กลัวก็แต่…เธอคงทนไม่ไหวแล้ว…
ทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้ เขายังคงรู้สึกกลัวไม่หาย
และอาการบาดเจ็บของเขา…ก็ได้มาจากภัยพิบัติครั้งนั้น
หลังจากที่เยี่ยหวันหวั่นฟื้นจากอาการบาดเจ็บสาหัส เธอก็ไม่ยอมพูดอะไร เอาแต่ขอร้องซือเยี่ยหานให้พาเธอไปจากรัฐอิสระ อย่ากลับมาอีกตลอดกาล…
ด้วยเหตุนั้น เขาจึงสั่งให้ยุบอาชูร่า แล้วพาเธอกลับจีน
แต่พอไปถึงจีน…
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายเธอ เยี่ยหวันหวั่นทรมานเจียนตายทุกวัน เธอทำโทษตัวเองอย่างบ้าคลั่ง น้ำตาอาบแก้ม กระทั่งมีแนวโน้มที่จะฆ่าตัวตาย
สุดท้าย เยี่ยหวันหวั่นขอร้องซือเยี่ยหานให้ลบความจำของเธอซะ
ตอนแรกซือเยี่ยหานไม่เห็นด้วยกับเรื่องบ้าๆ อย่างงี้ แต่เมื่ออาการของเธอเริ่มย่ำแย่ลงทุกวัน เขาไม่อาจทนดูเธอมีชีวิตอย่างทุกข์ทรมานอย่างนั้นต่อไป
สุดท้ายซือเยี่ยหานก็ตัดสินใจใช้วิธีถ่ายโอนความจำ โดยล้างความจำทั้งหมดตอนอยู่รัฐอิสระของเยี่ยหวันหวั่นทิ้ง
เพื่อหยุดความทรมานของเธอ แล้วก็เป็นวิธีที่จะทำให้เธอปลอดภัยด้วย
แต่ครั้งนี้ ที่เขาต้องกลับมารัฐอิสระก็เพราะแม่ของซือเยี่ยหาน
แม่ของซือเยี่ยหานขู่เขาว่าถ้าหากเขาไม่กลับมา เธอจะประกาศให้คนทั้งรัฐอิสระรู้ว่าเยี่ยหวันหวั่นอยู่ที่ไหน
เมื่อถึงตอนนั้นทุกอย่างที่เขาทุ่มเททำมาตลอดก็จะสูญเปล่า
ด้วยอำนาจของตระกูลซือในประเทศจีน แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยหากเขาคิดจะใช้มันปกป้องเยี่ยหวันหวั่น
สุดท้าย ซือเยี่ยหานทำได้แค่ยอมจำนน แล้วกลับมาที่รัฐอิสระอีกครั้ง
ถ้าวางดาบลง ก็ไม่สามารถปกป้องคนรักได้
แต่ถ้ากอดดาบแน่น ก็ไม่สามารถกอดคนรักได้เหมือนกัน
ดวงตาอันลึกล้ำและมืดมนของซือเยี่ยหานค่อยๆ ทอดมองออกไปนอกคฤหาสน์หลังใหญ่ ในเมื่ออาชูร่าฟื้นคืน งั้นเขาก็จะทำให้โลกใบนี้ตกอยู่ในกำมือเขา…
หลินเชวียมองซือเยี่ยหานอย่างสับสน ภัยพิบัติหรือกลุ่มอำนาจอะไรกันแน่ที่น่ากลัวถึงขนาดที่แม้แต่ซือเยี่ยหานก็ยังไม่อาจหยุดยั้ง…
แต่ไม่ว่ายังไง ราชาในอดีต…ได้หวนกลับมาแล้ว
……
ในพันธมิตรอู๋เว่ย
ผู้ส่งสารจากอาชูร่าเพิ่งกลับไปได้ไม่นาน ก็มีข่าวส่งกลับมา
นายแห่งอาชูร่าได้จัดการประชุมขึ้น เมื่อถึงเวลากลุ่มอำนาจที่อยู่รอบๆ จะไปเข้าร่วมด้วย อีกทั้งครั้งนี้พวกเขาได้เชิญหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยไป๋เฟิ่งไปเข้าร่วมด้วย
และการประชุมที่จัดขึ้นโดยนายแห่งอาชูร่าในครั้งนี้ จะมีขึ้นในอีกสามวัน
————————————————————————————-
บทที่ 1384 มีเรื่องกับใครไม่ได้ทั้งนั้น
หลังจากได้รับคำเชิญของอาชูร่า เยี่ยหวันหวั่นสีหน้าสับสน แต่ลึกๆ กลับเข้าใจสถานการณ์ดี
อาชูร่าเชิญผู้นำกลุ่มอำนาจต่างๆ เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่ายังไงสมาคมสหพันธ์วิทยายุทธต้องรู้เรื่องนี้แน่ๆ
สำหรับสมาคมสหพันธ์วิทยายุทธ บางทีนี่อาจเป็นโอกาสดีที่พันธมิตรอู๋เว่ยจะลอบโจมตีอาชูร่า ถ้าหากเธอไม่ไป อย่าว่าแต่นายแห่งอาชูร่าจะทำให้เธอลำบากเลย แค่สมาคมสหพันธ์วิทยายุทธเธอก็ไม่รู้จะผ่านด่านนี้ไปยังไงแล้ว…
สถานการณ์ตอนนี้ เดธโรสที่เยี่ยหวันหวั่นสร้างขึ้นมาด้วยตัวเองยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง แน่นอนว่าการรวบรวมกำลังคนของเดธโรสก็ต้องดำเนินการอย่างลับๆ ความคืบหน้าจึงยังเห็นได้ไม่ชัด
เธอในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นสมาคมสหพันธ์วิทยายุทธก็ดี อาชูร่าก็ดี จะมีเรื่องกับใครไม่ได้ทั้งนั้น…
“พี่เฟิ่ง ถ้าหากครั้งนี้พวกเรารับคำเชิญจริงๆ ต้องไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แน่นอน…คนจากสมาคมสหพันธ์วิทยายุทธพวกนั้นต้องให้พันธมิตรอู๋เว่ยของเราลงมือในเวลาอย่างงี้แน่ๆ…” เป่ยโต่วเดินมาหยุดข้างเยี่ยหวันหวั่น แล้วพูดเบาๆ
เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้าเล็กน้อย เรื่องนี้เธอย่อมรู้ดีแก่ใจ
เยี่ยหวันหวั่นเคยคิดว่าบางทีเธออาจฉวยโอกาสนี้หนีออกจากพันธมิตรอู๋เว่ยไปซะให้รู้แล้วรู้รอด ขอแค่เธอไปจากที่นี่ เธอก้ไม่ต้องสนใจอะไรอีกแล้ว
แต่หลังไตร่ตรองอย่างดีแล้ว สุดท้ายเธอก็ล้มเลิกความคิดนี้ไป
ถึงเธอจะหนีออกจากพันธมิตรอู๋เว่ยก็ไม่มีประโยชน์ พอถึงตอนนั้นเธออาจไม่ได้แค่โดนสมาคมสหพันธ์วิทยายุทธไล่ล่า แต่ยังเป็นการเปิดโปงว่าตัวเองไม่ใช่หัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยอีกด้วย แน่นอนว่าต้องโดนพันธมิตรอู๋เว่ยออกหมายจับด้วย ผลลัพธ์เลวร้ายจนไม่อยากจะคิด
“ชีซิง นายคิดว่าไง?” ผ่านไปครู่หนึ่ง เยี่ยหวันหวั่นหันไปถามชีซิง
ชีซิงในตอนนี้แทบจะเชื่อสนิทใจแล้วว่าเยี่ยหวันหวั่นคือแบดเจอร์ตัวจริง ถึงจะยังสงสัยอยู่บ้างเล็กน้อย แต่การแสดงออกของเยี่ยหวันหวั่นก็ทำให้ชีซิงไม่ได้ระแวงมากขนาดนั้นอีกแล้ว
ชีซิงยังไม่ทันพูดอะไร เป่ยโต่วกลับเม้มปากแล้วมองเยี่ยหวันหวั่น “พี่เฟิ่ง…พี่จะไปถามก้อนหินอย่างเจ้านั่นทำไม พี่ถามผมสิ ผมรู้หมดทุกเรื่องแหละ”
เพียงแต่ เป่ยโต่วยังไม่ทันพูดมากไปกว่านั้น กลับถูกเยี่ยหวันหวั่นถมึงตาใส่อย่างไม่พอใจ
“พี่เฟิ่ง” ชีซิงมองเยี่ยหวันหวั่นแล้วบอกว่า “เรื่องนี้เลี่ยงไม่ได้…ไม่มีกลุ่มอำนาจไหนต่อต้านสมาคมสหพันธ์วิทยายุทธได้ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเรารับเงินกับข้อตกลงจากสมาคมสหพันธ์วิทยายุทธมาแล้ว ยังไงก็ต้องทำงานตามกฎกติกา…”
เป่ยโต่วโต้แย้งทันที “ถุยเหอะ นายหมายความว่ายังไงพวกเราก็ต้องลอบโจมตีอาชูร่างั้นเหรอ?”
เป่ยโต่วแค่นยิ้ม “ตอนนี้พันธมิตรอู๋เว่ยของเราสถานการณ์เป็นยังไงนายไม่รู้รึไง พี่เฟิ่งไม่มีอำนาจอะไรเลย นายลองบอกให้พวกตาเฒ่านั่นไปลอบโจมตีอาชูร่า ดูซิพวกเขาจะยอมทำไหม?”
ชีซิงเหลือบมองเป่ยโต่วเล็กน้อย จากนั้นก็พูดต่อโดยไม่สนใจเขา “พี่เฟิ่ง พวกเราไม่จำเป็นต้องลอบโจมตีอาชูร่า ขอแค่แสดงท่าทีให้สมาคมสหพันธ์วิทยายุทธเห็นก็พอแล้ว…
พวกเราตอบรับคำเชิญของอาชูร่าในครั้งนี้จากนั้นค่อยปฏิเสธที่จะส่งส่วยรายเดือนให้พวกเขาก็ได้ จะให้ดีก็ทำให้ฝ่ายอาชูร่าเดือดดาลจนเต้นเร่า เมื่อเป็นอย่างนั้น ถึงพวกเราจะไม่ทำอะไรอาชูร่าในทันที สมาคมสหพันธ์วิทยายุทธก็ว่าอะไรพวกเราไมได้”
พอฟังความคิดเห็นของชีซิงจบ เยี่ยหวันหวั่นก็พยักหน้า สิ่งที่ชีซิงพูดตรงกับสิ่งที่เธอกำลังคิดอยู่พอดี
ขอแค่เธอแสดงท่าทีให้มากพอ สมาคมสหพันธ์วิทยายุทธก็ทำอะไรเธอไม่ได้แล้ว