บทที่ 305 ไม่ควรใจอ่อน
เช้าวันรุ่งขึ้น
บทที่เยี่ยหวั่นหวันตื่นมาก็พบว่าตัวเองเปลี่ยนเป็นชุดนอนที่สะอาดแล้ว ผมปลอมบนศีรษะก็ไม่อยู่แล้ว กลับไปเป็นสภาพของผู้หญิง เธอตกใจรีบปีนลุกขึ้นมา
เมื่อคืนดื่มเกินลิมิตไป จำไม่ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น จำได้เพียงแค่ว่าตัวเองไปงานปาร์ตี้กับหานเซี่ยนอวี่
คงไม่ได้โดนหานเซี่ยนอวี่จับได้แล้วหรอกนะ?
เยี่ยหวั่นหวันรีบร้อนใส่รองเท้าแตะออกจากห้องนอน หลังจากนั้น…
เห็นซือเยี่ยหานที่กำลังดื่มกาแฟอยู่ในห้องรับแขก…
หลังเห็นซือเยี่ยหาน เยี่ยหวั่นหวันก็ถอนหายใจออกมาทันที หัวใจค่อยกลับมาที่เดิม
“ที่รัก คุณไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศแล้วกลับมาไม่ได้หรอกหรือ? แย่แล้ว ทำไมสายขนาดนี้แล้ว ฉันต้องเข้าบริษัท…” เยี่ยหวั่นหวันเห็นเวลาสายแล้ว เลยไม่ได้พูดอะไรมาก รีบร้อนล้างหน้าล้างตาเปลี่ยนเสื้อผ้าไปขณะพูด
ซือเยี่ยหานเหลือบมองไปทางหญิงสาว ไม่พูดอะไร รอบตัวเต็มไปด้วยบรรยากาศมาคุ
ปลอมตัวเป็นคนอัปลักษณ์มาหลายปีขนาดนี้ ฝึกจนคุ้นเคยมานานแล้ว เยี่ยหวั่นหวันเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยความรวดเร็ว เทียบกับการทรมานที่ต้องแต่งหน้าแต่งตัวประหลาดหลายแบบทุกวัน สำหรับเธอแล้วเสื้อผ้าผู้ชายนั้นแต่งง่ายกว่าเยอะเลย แต่ต้องทาคิ้วหนาขึ้นมาหน่อย และเพิ่มเงาโครงหน้าทำให้เครื่องหน้าดูเป็นผู้ชายและดูมีมิตินิดหน่อยก็ใช้ได้แล้ว
ก่อนหน้านี้เธอเอาเครื่องแต่งกายที่ยุ่งเหยิงพวกนั้นของตัวเองขายในเวปขายของมือสองทั้งหมด แล้วเปลี่ยนเป็นเครื่องแต่งกายผู้ชาย
เพราะต้องไปบริษัท วันนี้เยี่ยหวั่นหวันเลยเปลี่ยนมาใส่สูทสไตล์อังกฤษที่ทางการขึ้นมา ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวข้างใน คอเสื้อเข้ากันกับลายปักด้านล่างสไตล์เรโทร กระเป๋าตรงหน้าอกปักดอกกุหลาบสีแดง จงใจใช้หน้าม้าปิดบังดวงตาคู่นั้นที่แวววาวมีเสน่ห์เกินไป
บทที่ออกมาอีกครั้ง เยี่ยหวั่นหวันได้แปลงตัวเองจากหญิงสาวที่ลุกขึ้นมาจากเตียงอย่างงัวเงีย กลายเป็นหนุ่มน้อยผู้สูงศักดิ์สง่างามจากชนชั้นสูงของยุโรปในยุคกลาง
“เอ่อ? ที่รัก เมื่อคืนคุณเอาพื้นรองเท้าที่เพิ่มความสูงถอดไปไว้ไหนคะ?” เยี่ยหวั่นหวันถามอย่างเร่งรีบ
ถึงแม้ทุกครั้งเวลายืนอยู่ต่อหน้าซือเยี่ยหานเธอจะตัวเล็กมากอย่างเห็นได้ชัด ที่จริงแล้วตัวเธอไม่เตี้ยเลย แต่เครื่องมือที่ทำให้เธอดูแมนขึ้นนั้นย่อมขาดไม่ได้
ขณะที่เยี่ยหวั่นหวันมองไปรอบๆ เพื่อหาของ เธอก็เหลือบมองไปทางซือเยี่ยหานด้วย ปรากฏมองปราดเดียวก็พบว่าด้านล่างเปลือกตาซือเยี่ยหานมีสีดำคล้ำ เอ๋ เมื่อคืนซือเยี่ยหานนอนไม่พอ?
หรือว่าความสามารถในการนอนรวดเร็วของเธอไม่ได้ผลแล้ว?
ที่ยิ่งทำให้เธอช็อกคือ… จู่ๆ หางตาเธอก็เห็นที่คอเสื้อซือเยี่ยหาน…
วินาทีต่อมา เยี่ยหวั่นหวันเดินตรงเข้าไป กระชากคอเสื้อซือเยี่ยหานออก “อะไรเนี่ย! ที่รักคุณถึงกับหักหลังฉันไปทำซี้ซั้วอะไรข้างนอกเลยหรือ!?”
สายตาซือเยี่ยหานที่อดทนมาตลอดทั้งเช้าในที่สุดก็ระเบิดแสงเย็นออกมาน้ำเสียงเย็นยะเยือกถึงขีดสุด พูดเน้นแต่ละคำ “ฉัน ซี้ ซั้ว?”
เยี่ยหวั่นหวันชี้ไปที่ร่องรอยแห่งความรักบนคอเขา ระหว่างที่ปลดกระดุมคอออกก็ถามไปด้วย “คุณยังไม่ยอมรับอีก คุณดูรอยจูบบนคอคุณ แล้วยังมีตรงนี้ ตรงนี้ก็มี! มีรอยฟันกัดด้วย! บัดสีบัดเถลิงทนดูไม่ได้! คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะเป็นคนแบบนี้!”
สีหน้าซือเยี่ยหานดำเหมือนก้นหม้อ ปัดมืออีกฝ่ายออก แล้วติดกระดุมคอเสื้อใหม่อีกรอบ เห็นได้ชัดว่าโมโหมาก
รู้อย่างนี้เมื่อคืนไม่ควรใจอ่อนกับเธอเลย!
เวลานี้ จู่ๆ เสียงกริ่งประตูดังขึ้น
เยี่ยหวั่นหวันจ้องซือเยี่ยหานตาเขม็ง จากนั้นไปเปิดประตู
ที่หน้าประตูคือหานเซี่ยนอวี่ หลังจากเห็นเยี่ยหวั่นหวันแต่งตัวแล้ว มีแววตกตะลึงผ่านเข้ามาในดวงตาเขาอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นยื่นหน้าเข้าไปมองข้างใน แล้วพูดขึ้นมา “อรุณสวัสดิ์ ผมซื้ออาหารเช้ามา จะกินด้วยกันไหม?”
…………………………………………………
บทที่ 306 ฟังหนูอธิบายก่อน
เยี่ยหวั่นหวันมองถุงที่หานเซี่ยนอวี่หิ้วในมือ ไม่อยากให้เขาเห็นอะไรผิดปกติ เลยผ่อนคลายสีหน้าลง เปิดประตูให้เขาเข้ามา “ขอบคุณ วันหยุดคุณยังตื่นเช้าขนาดนี้?”
“เอ่อ…” หานเซี่ยนอวี่ลูบจมูก ไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไงดี
หรือเขาควรจะตอบว่าตัวเองแนบกำแพงฟังทั้งคืนไม่ได้นอนเลยดี?
สองคนนี้ไม่น่าจะมีเรื่องอะไรหรอกนะ…
หานเซี่ยนอวี่กำลังคิดอยู่ พอเข้ามาก็เห็นชายหนุ่มข้างๆ โต๊ะอาหารในห้องกำลังจัดแจงคอเสื้อที่ยุ่งเหยิงอยู่ด้วยสีหน้าเย็นชา ทันใดนั้นก็มองไปทางเยี่ยหวั่นหวันด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ เขยิบเข้าไปใกล้ ถามหยั่งเชิงเสียงเบา “เฮ้ เสี่ยวไป๋ เมื่อคืน… เมื่อคืนคุณไม่ได้ทำอะไรเพื่อนคุณใช่ไหม?”
เยี่ยหวั่นหวันทำหน้าไม่เข้าใจ “เพื่อนผม? คุณหมายถึงซือจิ่ว? ผมจะทำอะไรเขา?”
หานเซี่ยนอวี่เห็นเธอทำหน้าเหมือนจำอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น ก็พูดไม่ออกขึ้นมาทันที “คุณจำไม่ได้เลยหรือ? เมื่อคืนคุณเมาเหล้าแล้วลวนลามเขา เรียกเขาว่าคนงาม เรียกเขาว่าพี่ชายน้อย แล้วยังจะดูดวงเขาให้ได้ ดึงมือเขาไปลูบอยู่นาน บอกว่าเขาจะต้องเดียวดายไปตลอดกาล มีชีวิตที่สันโดษไปจนแก่ แล้วยังบอกว่าชะตาชีวิตเขาขาดคุณ ต้องนอนกับคุณเท่านั้นถึงแก้เคล็ดได้ จากนั้นคุณก็ลากเขาเข้าห้องเหมือนโจร ผมอยากจะห้ามก็ห้ามไม่อยู่ กลัวว่าตอนกลางคืน…”
เยี่ยหวั่นหวันมึนงง
What?!
คำพูดของหานเซี่ยนอวี่… เหมือนกับค้อนขนาดใหญ่หนักแปดร้อยจิน[1]… ทุบลงมาบนศีรษะของเยี่ยหวั่นหวันอย่างแรง… ทำให้เธอดวงตาเป็นประกาย…ท้องฟ้าพื้นดินกลับตาลปัตร…
“เมื่อกี้คุณ… พูดว่าอะไรนะ?” เยี่ยหวั่นหวันจ้องมองเขาด้วยความอึ้ง
หานเซี่ยนอวี่กระแอมเบาๆ “คุณจำไม่ได้เลยจริงหรือ…”
ถึงแม้เยี่ยหวั่นหวันและหานเซี่ยนอวี่คุยกันเสียงไม่ดัง แต่ซือเยี่ยหานได้ยินชัดเจน หลังอีกฝ่ายติดกระดุมคอเสื้อใหม่อย่างพิถีพิถันแล้ว ก็มองไปทางเธออย่างเย็นชาราวกับน้ำแข็ง
เยี่ยหวั่นหวันกลืนน้ำลายลงอย่างยากลำบาก ไม่กล้าสบตาซือเยี่ยหานตรงๆ จ้องหานเซี่ยนอวี่อย่างเอาเป็นเอาตายแล้วพูด “เป็นไปได้ยังไง! ผมจะทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไง! ในใจผมมีแต่แฟนผมเพียงคนเดียว! คุณอย่าพูดมั่วๆ!”
หานเซี่ยนอวี่มองเธออย่างช่วยไม่ได้ “ผมพูดมั่ว? เมื่อคืนคุณไม่เพียงแค่ลวนลามเพื่อนคุณยังจีบพี่ซินด้วยคุณจำไม่ได้แล้วเหรอ?”
วินาทีที่หานเซี่ยนอวี่พูดจบ สีหน้าซือเยี่ยหานที่อยู่ข้างโต๊ะก็ยิ่งดูไม่ได้อย่างเห็นได้ชัด
หึ ดีมาก…
“พี่ซินเป็นใครอีก?” เยี่ยหวั่นหวันสีหน้ามึนงง
หานเซี่ยนอวี่ “เฉียวเข่อซินไง!”
เยี่ยหวั่นหวันตกใจ
ราชินีหนังเฉียว…เฉียวเข่อซิน? หญิงในฝันของเธอ?
หานเซี่ยนอวี่ทำได้แค่ช่วยเธอรื้อฟื้นความทรงจำ “เหมือนพี่ซินรู้สึกสนใจคุณมาก เพื่อช่วยคุณแก้ปัญหา ผมเลยบอกว่าคุณมีแฟนแล้ว ไม่ใช่คนที่ง่ายๆ แบบนั้น ปรากฏว่าคุณกลับล้มคำพูดผม บอกว่าคุณคือคนแบบนั้น แล้วยังดึงมือพี่ซินไปบอกว่าจะดูดวงให้เธอ บอกว่าเธอจะได้เป็นราชินีหนังของจินหลานครั้งนี้ด้วย คุณไม่เพียงแต่ทำนายว่าราชินีหนังของจินหลานคือเธอ คุณยังทำนายราชาหนัง นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมทั้งหมด แล้วพนันกับเธอ…”
“พนัน… พนันอะไร?” เยี่ยหวั่นหวันรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมาอย่างประหลาด
หานเซี่ยนอวี่มองเธอ “พนันว่าถ้าเธอชนะ เธอจะทำยังไงก็ได้ แต่ถ้าคุณชนะ…เธอต้องจูบคุณ…”
เยี่ยหวั่นหวัน “…”
นี่ไม่ใช่เรื่องจริง!
เธอจะกลายเป็นคนทำผิดศีลธรรมแบบนี้ได้ยังไง!
ในขณะที่โลกของเยี่ยหวั่นหวันกำลังถล่มทลายอยู่นั้น หานเซี่ยนอวี่ก็จ้องตาเธอลึกเข้าไป จากนั้นก็พูดขึ้นมาอีกประโยค “แม้แต่ผมคุณยังจีบเลย!”
เยี่ยหวั่นหวัน “…”
เยี่ยหวั่นหวันมองไปทางซือเยี่ยหานด้วยจิตใจที่แหลกสลาย คุณพ่อ… ฟังหนูอธิบายก่อน…
…………………………………………………
[1] จิน หน่วยวัดในจีนโบราณ หนึ่งจินเท่ากับ 500 กรัม