บทที่ 1405 อวดดีเกินไปแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นจ้องชายผมหยิกอึ้งๆ “หนึ่งคนหนึ่งพัน สิบสี่คนก็ต้องหมื่นสี่ไม่ใช่เหรอ…ซื้อสิบแถมหนึ่งก็ต้องหนึ่งหมื่นสามสิ…”
ได้ยินเยี่ยหวันหวั่นว่าอย่างงั้น ชายผมหยิกรีบยิ้มแหย “เอ่อ…ผมไม่ได้ตั้งใจคำนวณผิดนะ…ก็ได้ ถ้างั้นก็หนึ่งหมื่นสาม พี่เฟิ่ง งั้นผมเริ่มฆ่าเลยนะ?”
นาทีนี้ สายตาของพวกผู้มีอิทธิพลหลายคนหันไปมองพวกเยี่ยหวันหวั่น
“เหอะ หัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยเป็นเหมือนในข่าวลือไม่มีผิด อวดดีเกินไปแล้ว!” ชายชราคนหนึ่งแค่นเสียงเย็นชา
“หึๆ หัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยได้ฉายาว่าแบดเจอร์ ถ้าไม่อวดดีแล้วจะได้ฉายาว่าแบดเจอร์เหรอ…” ผู้มีอิทธิพลด้านหนึ่งแค่นหัวเราะ
“ฉันกลับอยากเห็นว่าแบดเจอร์ที่ล่ำลือกันวันนี้จะเดินออกไปจากคฤหาสน์หลังนี้ได้รึเปล่า อย่าว่าแต่ตระกูลเยี่ยนเลย นายแห่งอาชูร่าไม่ปล่อยให้เธอรอดไปได้แน่”
“ผู้นำตระกูลเยี่ยนคนก่อนรู้จักกับนายแห่งอาชูร่า อีกอย่างได้ยินว่าเยี่ยนอวิ๋นก็กำลังจะแต่งงานกับนายแห่งอาชูร่า หัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยลบหลู่ตระกูลเยี่ยนขนาดนี้ ยังไงก็ต้องตายแน่ๆ”
คนจากตระกูลเยี่ยนจ้องเยี่ยหวันหวั่น เห็นเยี่ยหวันหวั่นซื้อขายชีวิตของพวกเขาต่อหน้าต่อตา ที่น่าแค้นที่สุดก็คือชีวิตของพวกเขากลับมีค่าแค่คนละหนึ่งพันเท่านั้น แถมยังมีซื้อสิบแถมหนึ่งด้วย?!
“ฆ่าเธอซะ!” ผู้อาวุโสของตระกูลเยี่ยนคนหนึ่งตวาดเสียงเกรี้ยว
“มาเลยๆๆ มาฆ่าฉันเลย ฉันเป่ยโต่วพ่อของพวกแกไงเล่า ส่วนชีซิงก็ปู่ของพวกแก!” เป่ยโต่วหัวเราะเยาะ จากนั้นก็หันไปหาชีซิง “ใช่ไหม เหล่าชี”
ชีซิงเหลือบมองเป่ยโต่วเล็กน้อย ก่อนจะรับคำอย่างหาได้ยาก “อื่ม”
เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก ไอ้บ้าเป่ยโต่วนี่…
แต่คนของตระกูลเยี่ยนยังไม่ทันลงมือ เยี่ยนอวิ๋นผู้เป็นแก้วตาดวงใจของผู้นำตระกูลเยี่ยนก็แค่นเสียงขึ้นจมูก “ทุกท่านไม่จำเป็นต้องโมโห”
คำพูดของเยี่ยนอวิ๋นทำให้คนของตระกูลเยี่ยนอึ้งงัน สีหน้าประหลาดใจ ไม่รู้ว่าทำไมเยี่ยนอวิ๋นถึงไม่ให้พวกเขาลงมือ
“การประชุมครั้งนี้นายแห่งอาชูร่าว่าที่สามีในอนาคตของฉันเป็นผู้จัด ในเมื่อหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยได้รับเชิญ ก็ถือว่าเป็นแขกของนายแห่งอาชูร่า…หัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยอวดดีขนาดนี้ กล้าฆ่าคนของตระกูลเยี่ยนในการประชุมของนายแห่งอาชูร่า ก็สมควรต้องให้นายแห่งอาชูร่าเป็นคนลงโทษ พวกเราควรให้เกียรตินายแห่งอาชูร่า ไม่อย่างงั้นคนอื่นคงเห็นการประชุมครั้งนี้เป็นแค่เรื่องตลก” เยี่ยนอวิ๋นเอ่ยเสียงราบเรียบ
พอเยี่ยนอวิ๋นพูดจบ คนของตระกูลเยี่ยนก็ขมวดคิ้วทำหน้าครุ่นคิด
ลองคิดดูดีๆ แล้วเยี่ยนอวิ๋นก็พูดมีเหตุผล
งานประชุมครั้งนี้นายแห่งอาชูร่าเป็นเจ้าภาพ ไม่ว่าหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยจะเป็นยังไง ก็ถือเป็นแขกที่นายแห่งอาชูร่าเชิญมา ถ้าหาพวกเขามีเรื่องปะทะกับพันธมิตรอู๋เว่ยที่นี่ ก็เท่ากับเป็นการไม่ให้เกียรตินายแห่งอาชูร่า ซึ่งจะส่งผลเสียกับเยี่ยนอวิ๋น
เพราะถึงยังไง เยี่ยนอวิ๋นก็ได้รับการยอมรับจากสาธารณชนว่าเป็นนายหญิงของนายแห่งอาชูร่าแล้ว
“ได้ ฟังคำอวิ๋นเอ๋อร์ก็แล้วกัน อย่าเพิ่งมีเรื่องกับนังผู้หญิงชั้นต่ำคนนี้” ผู้อาวุโสตระกูลเยี่ยนคนหนึ่งพยักหน้าบอก
ผู้มีอิทธิพลจากกองกำลังต่างๆ ในงานอดไม่ได้ที่จะยกนิ้วโป้งให้เยี่ยนอวิ๋น
แก้วตาดวงใจของตระกูลเยี่ยนเป็นคนสายตากว้างไกลจริงๆ รู้จักมองการณ์ไกล ยึดภาพรวมเป็นหลัก
“หึๆ วันนี้หัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยคงจะเอาตัวรอดยากซะแล้ว…ยังไม่พูดถึงความแค้นระหว่างนายแห่งอาชูร่ากับหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยเลย แค่นายแห่งอาชูร่าออกหน้าแทนหญิงคนรักของตัวเอง หัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยก็ไม่รอดแล้ว” ชายชราคนหนึ่งพูดกลั้วเสียงหัวเราะ
ผู้คนรอบข้างต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย
ตอนนี้ในใจเยี่ยหวันหวั่นแอบด่าบรรพบุรุษสิบแปดชั่วโคตรของทีมทหารรับจ้างจูซิงไปแล้วรอบหนึ่ง พวกนายนี่มันมืออาชีพเรื่องต้มนายจ้างชัดๆ…
————————————————————————————-
บทที่ 1406 เหลือทางรอดไว้สักทางเถอะ
เดิมทีที่เธอยอมมาร่วมการประชุมที่นายแห่งอาชูร่าเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ ก็แค่ต้องการแสดงท่าทีให้สมาคมสหพันธ์วิทยายุทธเห็นเท่านั้น แต่นึกไม่ถึงว่าจะเรื่องจะเลยเถิดมาถึงขั้นนี้…
ตามคาด คนของเนี่ยอู๋หมิงเชื่อใจไม่ได้เลยซักคน…
“พี่เฟิ่ง ตกลงจะฆ่ารึเปล่า…ผู้นำตระกูลเยี่ยนกับเยี่ยนอวิ๋นลูกสาวสุดที่รักของเขาฝีมือสูงกว่าคนทั่วไปหน่อย…อันนี้พวกผมอาจจะต้องคิดเงินเพิ่มต่างหาก…คนหนึ่งคิดเพิ่มหนึ่งพันแปด น่าจะไม่มีปัญหาใช่ไหม…” ชายผมหยิกมองเยี่ยหวันหวั่น แล้วรีบพูดขึ้นก่อน
นี่เป็นโอกาสทำกำไรงาม ต้องรีบคว้าไว้ก่อน…
“พวกนายอย่าเพิ่งคิดเรื่องฆ่าคนเลย…อีกเดี๋ยวเตรียมตัวหนีก่อนเถอะ…” เยี่ยหวันหวั่นได้แต่เอือมระอา
“หนีก็ต้องคิดเงินเหมือนกันนะครับ…พอถึงเวลาถ้ามีเรื่องปะทะกันจริง พวกผมสามคนต้องคุ้มกันพี่เฟิ่ง แล้วก็ยังมีลูกน้องอีกสองคนของพี่เฟิ่งหนีออกไป แต่พวกผมก็ต้องตกอยู่ในอันตราย ราคานี้ต้องสูงกว่าฆ่าคนหน่อย…อย่างน้อยสองหมื่น ไม่งั้นไม่โอเค” ชายผมหยิกกดเครื่องคิดเลข พร้อมกับพูดร่ายยาวไม่หยุด
นาทีนี้ เยี่ยหวันหวั่นมีความคิดอยากตายแล้วด้วยซ้ำ เนี่ยอู๋หมิง…แน่ใจเหรอว่าหมอนั่นส่งคนมาช่วยเธอ…ไม่ได้ส่งคนมาขุดหลุมฝังเธอ…
ช่วยหาคนที่ปกติแล้วก็พึ่งพาได้กว่านี้หน่อยไม่ได้รึไง เหลือทางรอดไว้ให้เธอซักทางเถอะ!
“ทุกท่าน”
ในตอนนั้นเอง ชายชราผมขาวคนหนึ่งค่อยๆ สาวเท้าออกมาจากด้านในคฤหาสน์ กวาดตามองทุกคน “ขอแนะนำตัวซักหน่อย ผมเป็นพ่อบ้านของนายแห่งอาชูร่า…อีกเดี๋ยวนายแห่งอาชูร่าก็จะออกมาพบทุกท่าน ทุกท่านกรุณาอยู่ในความสงบ”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ทุกคนก็พยักหน้า
พอรู้ว่าอีกไม่นานนายแห่งอาชูร่าก็จะมา เยี่ยหวันหวั่นเลยเดินเล่นรอบๆ คฤหาสน์ก่อน
บอกว่าเดินเล่น จริงๆ แล้วกำลังจำเส้นทางหนีมากกว่า ไม่งั้นวันนี้เธอกับชีซิงแล้วก็เป่ยโต่วต้องตายเป็นผีอยู่ที่นี่แน่ๆ
ถึงยังไงเธอก็แสดงจุดยืนไปพอสมควรแล้ว สมาคมสหพันธ์วิทยายุทธต้องรู้แน่ว่าเธอก่อเรื่องที่นี่ อีกเดี๋ยวนายแห่งอาชูร่าออกมา เธอก็จะด่าเขาซักสองสามประโยค จากนั้นก็ชิงเผ่นก่อน…
ที่เยี่ยหวันหวั่นมาที่นี่ ก็เพื่อ “แสดงความจริงใจ” ต่อสมาคมสหพันธ์วิทยายุทธ ให้พวกเขารับรู้ท่าทีของเธอเท่านั้น
ตามแผนของเยี่ยหวันหวั่น ถ้าหากแค่ก่อเรื่องเล็กน้อยในสถานการณ์อย่างนี้น่าจะไม่มีอันตรายอะไรมาก แต่ถ้าอยู่ภายใต้การ “ช่วยเหลือ” ของพวกจูซิง กลัวก็แต่…
ณ มุมหนึ่งของคฤหาสน์ เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิด เธอกำลังวางแผนการหลบหนีที่จะใช้ในอีกสักครู่
ทันใดนั้น ชายชุดดำคนหนึ่งเดินสวนมาข้างหน้า เยี่ยหวันหวั่นเองก็ไม่ทันระวัง ทั้งสองจึงเดินชนกัน
“ตาบอดรึไง!”
ชายชุดดำตวาดด่าเสียงดัง
เยี่ยหวันหวั่นหน้าบึ้ง ทำท่าจะพูดอะไร
แต่วินาทีต่อมา ชายใส่แว่นกรอบทองก็สับฝ่ามือลงกลางหน้าผากชายชุดดำด้วยความเร็วปานสายฟ้าฟาด
เสียง “บึ้ม” ดังขึ้น ขาทั้งสองข้างของชายชุดดำลอยเหนือพื้น ตัวปลิวออกไปไกลหลายเมตรเหมือนว่าวที่เชือกขาด
ชายชุดดำคนนั้นถูกซัดปลิวเข้าไปในกลุ่มฝูงชน
“หัวหน้าไป๋ จะอวดดีเกินไปแล้ว!”
“หรือหัวหน้าไป๋ไม่ชอบหน้าพวกเรา อยากดวลกันซักตั้ง?!”
วินาทีนี้ ผู้มีอิทธิพลหลายคนที่โดนชายชุดดำชนพากันลุกขึ้น แล้วหันมาจ้องเยี่ยหวันหวั่น
เยี่ยหวันหวั่นกุมหน้าผาก แม่แกเถอะ เกี่ยวอะไรกับเธอล่ะเนี่ย เธอไม่ได้ทำอะไรใครสักหน่อย ตาแว่นจากทีมทหารรับจ้างจูซิงเป็นคนทำต่างหากเล่า…จะเอาเรื่องก็ไปเอาเรื่องกับเขาสิ…
แต่จนใจที่สามคนนั้นมากับเธอ ถ้าคิดจะปัดความรับผิดชอบก็คงเป็นไปไม่ได้…