บทที่ 1413 โกหกหน้าด้านๆ
“เจียงเหยียน” ซือเยี่ยหานมองชายผมแดง
ได้ยินดังนั้นชายผมแดงเดินไปข้างกายซือเยี่ยหาน
“ปีที่ฉันไม่อยู่นี้ได้ยินว่ากองกำลังอาชูร่าบางส่วนถูกตระกูลเยียนใช้งาน มีเรื่องนี้ไหม” ซือเยี่ยหานน้ำเสียงเย็นเยียบประหนึ่งน้ำแข็งหมื่นปีชวนให้คนใจสะท้าน
“ใช่ครับ เยียนอวิ๋นตระกูลเยียนคิดว่าตัวเองเป็นคุณนายของท่านผู้นำมาตลอด อีกทั้งตระกูลเยียนใช้เรื่องที่ปีนั้นท่านผู้นำกับผู้นำตระกูลเยียนคนก่อนเคยเจราจาเรื่องแต่งงานกันเป็นข้ออ้าง สมาชิกของกองกำลังอาชูร่าบางส่วนก็เชื่อว่าเยียนอวิ๋นสามารถระดมและควบคุมกองกำลังได้จริงๆ” ชายผมแดงพูดตามความจริง
“อืม” ซือเยี่ยหานตอบรับเรียบๆ หนึ่งเสียงจากนั้นเอ่ยอีก “เอาคนพวกนั้นไปลงโทษสถานหนัก”
“รับทราบครับ” ชายผมแดงพยักหน้า
เวลานี้ ผู้นำตระกูลเยียนและพวกเยียนอวิ๋นต่างอึ้งตะลึงอยู่กับที่ นี่…ไม่เหมือนกับที่พวกเขาคิดไว้ก่อนหน้านี้แม้แต่น้อย…
ซือเยี่ยหานไม่ชายตามองเยียนอวิ๋นสักวินาทีเดียว กลับกันเขามองเยี่ยหวันหวั่นและกำลังจะเอ่ยปาก แต่แล้วหัวหน้ากองกำลังคนหนึ่งกลับลุกขึ้นมาแล้วคำนับเอ่ย “นายแห่งอาชูร่า ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยนี้พูดจาสามหาว ไม่เคารพผู้นำสมควรโดนประหาร!”
ทว่าซือเยี่ยหานกลับไม่ใส่ใจและเอ่ยเสียงเย็น “แพ้ชนะเป็นเรื่องปกติของการรบ ปีนั้นฉันนับว่าแพ้อย่างน่าเสียดาย ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยพูดความจริงก็เท่านั้น”
“อ่า…”
หัวหน้ากองกำลังบางส่วนไม่อยากเชื่อแม้แต่น้อย นี่มัน…โกหกหน้าด้านๆ เกินไปไหม
อาชูร่าเคยแพ้ที่ไหน…ต่อให้แพ้ก็แพ้ภายใต้การรุมโจมตีของกองกำลังมากมาย ไม่ได้แพ้ให้พันธมิตรอู๋เว่ยแห่งเดียวสักหน่อย!
เยี่ยหวันหวั่นพิศมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนบัลลังก์อย่างครุ่นคิด ทั้งโกรธทั้งโมโหแล้ว ถ้าเขาไม่ใช่ซือเยี่ยหานจะใจกว้างแบบนี้ได้ยังไง ถ้าเป็นซือเยี่ยหาน ทำไมถึงไม่รู้จักเธอ!
ถ้าไม่สะดวกรู้จักในที่นี้ ด้วยสติปัญญาของซือเยี่ยหานก็ต้องสามารถส่งสัญญาณให้เธอสักหน่อยได้แน่นอน กระทั่งแววตาก็ยังดี ไม่น่าทำเหมือนคนแปลกหน้าไม่มีการตอบสนองสักอย่าง
นอกเสียจาก…เขาจงใจแสร้งทำเป็นไม่รู้จักเธอตั้งแต่แรก…
“ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ย” จู่ๆ ซือเยี่ยหานก็มองเยี่ยหวันหวั่นพลางเอ่ย
“มีอะไรก็พูดมา” เยี่ยหวันหวั่นน้ำเสียงเย็นชาเล็กน้อย
“ในเมื่อคุณมางานครั้งนี้แล้วก็ต้องส่งส่วยทุกเดือนห้ามขาดแม้แต่ส่วนเดียว” ซือเยี่ยหานเอ่ยปาก
“อยากให้พันธมิตรอู๋เว่ยฉันส่งส่วยให้อาชูร่าคุณ ให้ตายฉันก็ไม่ส่ง” เยี่ยหวันหวั่นพูดอย่างไม่พอใจ
สีหน้าของชีซิงกับเป่ยโต่วที่อยู่ด้านข้างแสดงความตกใจเล็กน้อย เกินไปหน่อยแล้วมั้ง…ก่อเรื่องจนพอจะหนีได้แล้ว เป็นแบบนี้ต่อไป…ไม่สนุกแน่
แต่ทว่าเยี่ยหวันหวั่นกลับไม่สนใจเรื่องพวกนี้ เธอจ้องมองซือเยี่ยหานพลางเอ่ยปากเสียงเย็น “ทำไม พันธมิตรอู๋เว่ยฉันแต่ไหนแต่ไรก็เป็นแบบนี้ ไม่กลัวล่วงเกินใคร อย่าว่าแต่คุณ ต่อให้เป็นพระเจ้ามาเองก็เหมือนกัน”
ได้ยินแบบนั้น ซือเยี่ยหานนิ่งเงียบไปสักครู่ จากนั้นจึงเอ่ยปาก “บอกเหตุผลที่พันธมิตรอู๋เว่ยไม่ส่งส่วยมา”
เยี่ยหวันหวั่นโพล่งขึ้นมา “เมื่อกี้ก็บอกไปแล้วไง พันธมิตรอู๋เว่ยจนมาก ไม่มีเงิน”
ได้ยินคำพูดของเยี่ยหวันหวั่น หัวหน้ากองกำลังไม่น้อยหัวเราะเยาะต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นชี้เยี่ยหวันหวั่นพร้อมเอ่ยพูด “เหลวไหลทั้งเพ พันธมิตรอู๋เว่ยเธอเป็นกองกำลังที่ไร้กฎเกณฑ์ที่สุดในรัฐอิสระ ขโมยจี้ชิง ฆ่าเผาปล้น ไม่มีเรื่องที่ไม่กล้าทำ ถ้าพันธมิตรอู๋เว่ยเธอจน เกรงว่ารัฐอิสระคงไม่มีใครรวยแล้ว!”
“ไอ้ตอแหล!” เป่ยโต่วชี้คนคนนั้นพลางด่า “ไม่รู้จักพันธมิตรอู๋เว่ยฉันก็อย่ามาพูดมั่ว พันธมิตรอู๋เว่ยฉันทำทุกอย่างแต่ไม่เคยขโมย ฆ่าเผาปล้นต่างหากที่พันธมิตรอู๋เว่ยฉันถนัด!”
เยี่ยหวันหวั่นพลันหมดคำพูด แทบอยากจะฟาดฝ่ามือฆ่าเป่ยโต่ว ยังมีหน้ามาพูดอีก ภูมิใจนักเหรอไง!
———————————————————————————————
บทที่ 1414 ติ๊ง ปีศาจคลั่งปกป้องภรรยา ออนไลน์
“ในเมื่อเป็นอย่างนั้น” ซือเยี่ยหานมองเยี่ยหวันหวั่น แต่กลับชี้ไปที่ผู้นำตระกูลเยียนพลางเอ่ย “หลังจากนี้เป็นต้นไปส่วยทุกเดือนของพันธมิตรอู๋เว่ยให้ตระกูลเยียนรับผิดชอบแทนพันธมิตรอู๋เว่ย”
ทันทีที่ซือเยี่ยหานพูดออกไป ไม่ต้องพูดถึงคนของตระกูลเยียนและหัวหน้ากองกำลังเหล่านี้ในที่นี้ แม้แต่เยี่ยหวันหวั่นกับพวกชีซิงเป่ยโต่วเองก็ตกตะลึงอยู่กับที่ มีสีหน้าโง่งม
นี่เกี่ยวอะไรกับตระกูลเยียน…
ผู้นำตระกูลเยียนจ้องซือเยี่ยหานอย่างตกใจ ยังนึกว่าตัวเองหูฝาดไปแล้ว แต่เห็นพวกเยียนอวิ๋นก็มีสีหน้าเหมือนกัน เวลานี้จึงรีบร้อนเอ่ยกับซือเยี่ยหาน “หัวหน้าอาชูร่า…นะ…นี่หมายความว่ายังไงกันครับ…ส่วยของพันธมิตรอู๋เว่ย ทำไมต้องให้พวกเราตระกูลเยียนส่งด้วย”
ท้องฟ้าใต้หล้าทั่วทั้งแผ่นดินนี้มีเหตุผลแบบนี้ที่ไหนกัน!
พวกเขากับพันธมิตรอู๋เว่ยไม่เป็นมิตรก็ศัตรู อาศัยอะไรต้องส่งส่วยให้พันธมิตรอู๋เว่ยด้วย!
แต่ซือเยี่ยหานกลับเอ่ยเสียงเรียบ “หลายปีก่อนตระกูลเยียนเคยคบค้าสมาคมกับพันธมิตรอู๋เว่ยหลายครั้ง ตระกูลเยียนติดเงินพันธมิตรอู๋เว่ยก้อนใหญ่ ถูกไหม”
เมื่อได้ยิน ชีซิงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ถ้านายแห่งอาชูร่าไม่พูดถึงแม้แต่เขาก็เกือบจะลืมเรื่องนี้ไปแล้ว
ก่อนที่ผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยจะหายตัวไปพันธมิตรอู๋เว่ยก็เคยคบค้าสมาคมกับตระกูลเยียนหลายครั้งอยู่จริงๆ ครั้งสุดท้ายที่ร่วมมือกัน ตระกูลเยียนติดเงินพันธมิตรอู๋เว่ยจำนวนมหาศาลและยังไม่ได้คืน หลังจากผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยหายตัวไป ตระกูลเยียนก็ผิดชำระเงินก้อนนี้แล้วก็ไม่เคยพูดถึงอีก ถึงพันธมิตรอู๋เว่ยเร่งเร้าหลายครั้งหลายหน ตระกูลเยียนก็กลับหาสารพันเหตุผลมาปฏิเสธ ไม่เต็มใจคืนหนี้ให้พันธมิตรอู๋เว่ย…
ตอนนั้นเรื่องนี้วุ่นวายใหญ่โต นายแห่งอาชูร่าย่อมต้องรับรู้
“ไอ้ตาแก่ไม่ยอมตายจอมหน้าด้าน ติดเงินพันธมิตรอู๋เว่ยพวกเราตั้งมากขนาดนั้นจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่พูดถึงสักประโยค นายแห่งอาชูร่าไม่บอกฉันก็เกือบลืมไปหมดแล้ว” เป่ยโต่วชี้ผู้นำตระกูลเยียนพร่อมเอ่ยปากด่ากราด
เวลานี้ผู้นำตระกูลเยียนหน้าแดง จากนั้นก็โกรธเดือดพล่าน นี่นายแห่งอาชูร่าหมายความว่ายังไงกันแน่ พวกเขาติดเงินพันธมิตรอู๋เว่ยนั้นเป็นเรื่องหลายปีมาแล้ว ตอนนี้หยิบเอาออกมาพูดหมายความว่ายังไงกัน
มิหนำซ้ำนี่เป็นเรื่องระหว่างพวกเขากับพันธมิตรอู๋เว่ย ไม่เกี่ยวอะไรกับอาชูร่าอีกต่างหาก นายแห่งอาชูร่าเก็บส่วยจากพันธมิตรอู๋เว่ยไม่ได้ ก็มาหักจากพวกเขาไม่ได้ไหม!
ผู้นำตระกูลเยียนไม่พอใจอย่างยิ่ง เอ่ยกับซือเยี่ยหาน “หัวหน้าอาชูร่า…การตัดสินนี้ของท่านผู้นำขาดความยุติธรรมหรือเปล่า อีกอย่างเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของตระกูลเยียนเรากับพันธมิตรอู๋เว่ย…”
ความหมายภายใต้คำพูดของผู้นำตระกูลเยียนชัดเจนว่านี่คือเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับอาชูร่าและไม่ถึงขั้นต้องให้นายแห่งอาชูร่ามาจัดการ พวกเขาก็ไม่ได้อยู่ใต้สังกัดของกองกำลังอาชูร่าสักหน่อย
ดวงตาของซือเยี่ยหานวาบประกายเย็นเยียบอย่างบอกไม่ถูก ดวงตาดูดวิญญาณมองผู้นำตระกูลเยียนช้าๆ กล่าวอย่างเย็นชา “พูดแบบนี้ คุณกำลังกังขาฉัน”
ได้ยินซือเยี่ยหานพูดแบบนี้บวกกับสายตาเย็นชาสุดขั้วกระดูกนั้นของซือเยี่ยหาน ส่งผลให้ผู้นำตระกูลเยียนตัวสั่นเล็กน้อย หน้าผากซึมเหงื่อเย็นหนึ่งสาย
กระทั่งเวลานี้เอง ผู้นำตระกูลเยียนถึงเพิ่งรู้ตัวว่าแท้จริงแล้วตัวเองกำลังพูดอยู่กับใคร…
ในหัวที่เดือดพล่านจนจะสลบเหมือดค่อยๆ กระจ่างชัดทีละน้อย ผู้นำตระกูลเยียนส่ายหน้ารัวก่อนเอ่ยกับซือเยี่ยหาน “เปล่าครับๆๆ…นายแห่งอาชูร่า ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น แล้วก็ไม่ได้เจตนากังขาผู้นำพันธมิตรด้วย…ผมแค่…ช่างเถอะครับ…”
สุดท้ายผู้นำตระกูลเยียนก็ถอนหายใจ ได้แต่ต้องกล้ำกลืนฝืนทน
“ในเมื่อตระกูลเยียนไม่คัดค้านก็เอาตามที่ฉันว่า ส่งส่วยแทนพันธมิตรอู๋เว่ยทุกเดือนจนกว่าจะจ่ายเงินครบ” ซือเยี่ยหานเก็บสายตาแล้วเอ่ยปาก