คู่รักที่แสนรู้ใจ
พอเสี่ยวเชี่ยนออกไปแล้ว หัวหน้าหวางก็ยังไม่เข้าใจ
“ทำไมต้องไปถามจอมฉก011ด้วย?”
ที่นี่อวี๋หมิงหลางมีชื่อเสียงไม่ค่อยดีเท่าไร ถ้าไม่ติดว่าเบื้องบนบังคับให้ต้องมาร่วมงานกัน หัวหน้าหวางแทบอยากจะถีบอวี๋หมิงหลางออกไป
คนพวกนี้เป็นพวกเลวที่ชอบแย่ง มาแต่ละครั้งไม่เคยมีเรื่องดี ทหารที่พวกเขาเพิ่งจะฝึกกันมาอย่างยากลำบาก พอหน่วยรบพิเศษมาก็เอาตัวไปง่ายๆอย่างกับมาตัดใบกุยช่าย แล้วจะไม่ให้เกลียดได้ยังไง
แต่ทำไมหมอเฉินต้องให้เขาไปถามอวี๋หมิงหลางด้วย?
“อ้อ เข้าใจแล้ว จะต้องเป็นเพราะเขินแน่ๆ หัวหน้าอวี๋เคยเป็นเพื่อนร่วมทางของเธอ น่าจะมีวิธีติดต่อแหละมั้ง?” หัวหน้าหวางดวงตาเป็นประกาย รีบไปหาอวี๋หมิงหลางอย่างอารมณ์ดี
อวี๋หมิงหลางรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ไปส่งเสี่ยวเชี่ยนด้วยตัวเอง แต่เขามีภารกิจ จะทำเสียงานไม่ได้ ดังนั้นสีหน้าจึงเคร่งขรึม ไม่สบอารมณ์เท่าไร
ตอนกินข้าวกลางวัน หัวหน้าอวี๋เดินถือกล่องข้าวเข้ามาหา
อยู่กันในป่าทุกอย่างเอาแบบง่ายๆ แค่ข้าวกล่องธรรมดาๆ อวี๋หมิงหลางกำลังนั่งถือกล่องกินข้าว ทันใดนั้นก็เห็นหัวหน้าหวางเดินหน้ายิ้มแป้นเข้ามา
ตาแก่นี่ไม่เคยพูดจาหน้ายิ้มแย้มกับเขาเลยสักครั้ง อยู่ๆอะไรเข้าสิง? อวี๋หมิงหลางหรี่ตา โลกนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรี มันต้องมีจุดประสงค์แน่ๆ
“หัวหน้าอวี๋ อาหารที่นี่พอกินได้หรือเปล่า มาตรฐานคงไม่สูงเท่าอาหารของหน่วย011ใช่ไหม?” หัวหน้าหวางอยากตีสนิท แต่พอเอ่ยปากก็ยังแอบจะแขวะนิดแขวะหน่อยไม่ได้
“ครับ พอกินได้ แค่มันจืดไปหน่อย” อวี๋หมิงหลางตอบแบบไม่ใส่ใจ แต่หยั่งเชิงดูท่าที
หัวหน้าหวางเดิมก็ไม่ชอบอวี๋หมิงหลางอยู่แล้ว ทุกครั้งที่มาทำตัววางมาดใหญ่โต แต่พอนึกได้ว่ามีเรื่องจะขอร้องก็ระงับความโกรธเอาไว้ แล้วฉีกยิ้มพลางถามต่อ
“หัวหน้าอวี๋มีวิธีติดต่อหมอเสี่ยวเฉินไหม?”
“ใครนะ?”
“เฉินเสี่ยวเชี่ยนไง เด็กคนนี้ใช้ได้เลยนะ อายุรุ่นราวคราวเดียวกับลูกผม เรียนมหาลัยเดียวกันด้วย วัยรุ่นให้เขาได้ทำความรู้จักกันก็ไม่เลวเลยนะ”
หัหวน้าหวางพูดจบ เฉียวเจิ้นที่กินไปฟังไปเกือบกัดตะเกียบหัก
นี่จะทำอะไร? คิดจะยุคู่หมั้นเขาให้แยกกันงั้นเหรอ?
นี่คือทหารที่อวี๋หมิงหลางไม่ชอบมาหลายปี มีความแค้นส่วนตัว อยากจะเล่นลูกไม้เอาแฟนเขาไปงั้นเหรอ?
เฉียวเจิ้นแอบมองอวี๋หมิงหลาง ไอ๊หยา Oneยิ้ม รอยยิ้มอมหิตนั่น ทุกครั้งที่Oneยิ้มแบบนั้นไม่เคยมีเรื่องดีเกิดขึ้น
โดยทั่วไป จะมีแค่ตอนวางแผนเล่นงานคนอื่นเท่านั้นอวี๋หมิงหลางถึงจะเป็นแบบนี้
เฉียวเจิ้นเริ่มสงสารหัวหน้าหวางแล้ว
“ให้วัยรุ่นได้ทำความรู้จักกันงั้นเหรอ?” อวี๋หมิงกัดฟันพูดคำว่าทำความรู้จัก แต่หัวหน้าหวางไม่ทันได้สังเกต
“ใช่ๆ อายุก็เหมาะสมกัน”
อายุ หึหึ แทงเข้าจุดเจ็บปวดของอวี๋หมิงหลางอีกแล้ว
ตอนนั้นเขาเกือบสูญเสียเสียวเหม่ยไปเพียงเพราะอายุที่ต่างกันหลายปี หัวหน้าหวางยังจะงัดเหตุผลนี้ขึ้นมา อวี๋หมิงหลางไม่โกรธก็แปลกแล้ว
“เหล่าหวาง อยู่ดีๆทำไมถึงจ้องอยากได้ผู้หญิงของคนอื่นล่ะ?”
“อะไรนะ?” เหล่าหวางไม่เข้าใจ
“ผมหมายความว่า อายุไม่ใช่ปัญหา อย่างเช่นพวกเรา ถึงอายุจะต่างกันขนาดนี้ แต่ก็คุยกันได้ ไม่เชื่อลองดูข้างนอกสิ…”
เหล่าหวางที่อยู่ข้างๆมองไปตามมืออวี๋หมิงหลางชี้ อวี๋หมิงหลางฉวยโอกาสหยิบกระปุกเกลือมาสาดลงในกล่องข้าว เทลงไปครึ่งขวด จากนั้นก็เอามือคลุกๆให้ทั่ว
น่าเสียดายจังที่ตัวเองเป็นคนรักสะอาด หลังเข้าห้องน้ำต้องล้างมือ
ตอนที่หัวหน้าหวางหันกลับมาอวี๋หมิงหลางได้ชักมือกลับแล้วจากนั้นก็เอามือที่เมื่อกี้ไปคลุกข้าวเช็ดไปที่ไหล่ของเหล่าหวางอย่างเนียนๆ
คราบน้ำมันอะไรทั้งหลายแหล่อยู่บนเสื้อเหล่าหวางหมดแล้ว
แต่เหล่าหวางที่นั่งอยู่ข้างๆยังไม่รู้ตัว เขามองอวี๋หมิงหลางอย่างสงสัย
“เมื่อกี้ผมดูผิด กินข้าวเถอะ…” อวี๋หมิงหลางพูดพลาง เอามือเช็ดจนสะอาด
เฉียวเจิ้นนั่งเอาข้าวยัดเข้าปากอย่างเงียบๆ เขาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เขาตัดสินใจแล้วว่าต่อไปห้ามหาเรื่องอวี๋หมิงหลาง วิธีนี้นี่มันแสบมาก
หัวหน้าหวางวกกลับเข้ามาคุยเรื่องเดิม “วิธีติดต่อเสี่ยวเฉิน…”
“วิธีติดต่อเขาคือ…” อวี๋หมิงหลางพูดตัวเลขออกมา เฉียวเจิ้นฟังแล้วก็มองบน
นี่มันเบอร์Oneไม่ใช่เหรอ?
เหล่าหวางถูกต้มตั้งแต่ต้นจนจบ ยังตั้งใจจดเสียด้วย อวี๋หมิงหลางหลอกต้มคนเสร็จก็ออกไป เหล่าหวางจดเบอร์ใส่กระดาษ แล้วเอาวางบนโต๊ะด้วยความพอใจ ยกกล่องข้าวขึ้นมา กินไปก็สงสัยไป
“เบอร์นี่ทำไมมันแปลกๆ…ทำไมคล้ายเบอร์ของกองทัพ?” เบอร์มันไม่เหมือนเบอร์ทั่วไป
จะเหมือนได้ยังไง เฉียวเจิ้นล่ะยอมเลยจริงๆ มิน่าอายุเท่านี้ตำแหน่งยังไปไม่ถึงไหน สูงกว่าOneแค่ขั้นเดียว สมองแบบนี้จะไปทันใคร
เบอร์ที่Oneให้เป็นเบอร์ภายใน แค่นี้ยังมองไม่ออกอีก…
“นึกออกแล้ว นี่มันเบอร์ภายในของหน่วยย่อยโลนวูล์ฟหน่วย011ไม่ใช่เหรอ?” ในที่สุดเหล่าหวางก็มองออก จากนั้นเขาก็รู้สึกได้ว่ารสชาติในปากมันเค็มมาก
แหวะ
เฉียวเจิ้นรีบไปยกกระติกน้ำเพียงกระติกเดียวที่อยู่บนโต๊ะมาอย่างรวดเร็วแล้วเงยหน้ากระดกลงคอหมด ในฐานะที่เป็นผู้ช่วยคู่ใจของอวี๋หมิงหลางจะไม่ให้ความร่วมมือได้ยังไง?
เรื่องซ้ำเติมน่ะ ขอให้บอก
หัวหน้าหวางเค็มจนแทบบ้า อีกทั้งยังหาน้ำกินไม่ได้ รู้สึกเหมือนกำลังจะตาย
เฉียวเจิ้นดื่มด่ำกับสีหน้าของเหล่าหวางแทนอวี๋หมิงหลาง ฉวยโอกาสตอนที่เหล่าหวางกำลังเค็มจัดเอามือลงไปคลุกข้าวในกล่องเขา จากนั้นก็ยืนขึ้น ฝากรอยมือไว้บนไหล่อีกข้างของเหล่าหวางที่ไม่ได้ถูกอวี๋หมิงหลางเช็ด
“หัวหน้าหวาง เบอร์นี้เป็นเบอร์ของหน่วยเราจริงๆ ต่อไปถ้าอยากจะหาหมอเฉินก็โทรหาหัวหน้าเราได้นะครับ มีอะไรฝากบอกได้ หนึ่งวัน24ชั่วโมง อยากโทรตอนไหนก็โทรได้เลย”
หัวหน้าหวางกำลังรู้สึกแย่มาก ทำได้แค่มองเฉียวเจิ้นด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย
เฉียวเจิ้นเช็ดมือพอแล้วถึงได้เฉลยให้ฟัง แสร้งทำสีหน้าตกใจ
“นี่หัวหน้าหวางไม่รู้เหรอว่าคู่หมั้นของหัวหน้าผมคือหมอเฉินน่ะ?”
“” ในที่สุดหัวหน้าหวางก็รู้แล้วว่าทำไมตัวเองถึงได้กินอาหารเค็มๆ เมื่อกี้เขาทำอะไรลงไป
เฉียวเจิ้นพอสนุกพอแล้วก็ลุกขึ้นออกไปอย่างสบายใจ ปีศาจน้อยที่อยู่ในใจยืนเท้าเอวหัวเราะอย่างสนุกสนาน
สมน้ำหน้า ปล่อยให้ตาแก่นี่เรียกจอมฉก011มาตั้งนาน อย่าคิดว่าเขาไม่รู้ ครั้งนี้Oneล้างแค้นทั้งเรื่องส่วนตัวเรื่องานได้เด็ดมาก
อวี๋หมิงหลางจัดการจัดการคนที่คิดจะแย่งผู้หญิงของเขาอย่างเงียบๆ ข้าวก็กินไม่ลงแล้วจึงออกไปข้างนอก เฉียวเจิ้นวิ่งตามมา
“Oneจะไปไหน?”
“ไปเดินในเขาสักรอบ”
“จริงสิ มีอยู่เรื่องที่ยังไม่ได้ถามนาย ก่อนหน้านี้นายปรึกษาฉันเรื่องหลิวลี่ ฉันเห็นแล้วในรายชื่อมีชื่อเขาเพิ่มเข้ามา แต่ในแผนทดสอบที่ให้ฉันมาตอนท้ายสุดมีการเพิ่มเหตุการณ์ลักพาตัวมันเรื่องอะไรกัน ทำไมมีผู้ช่วยลึกลับโผล่มาแสดงด้วย?”
“เธอคือรัก คือความอบอุ่น คือความหวัง เธอคือท้องฟ้าอันสดใสในเดือนสี่แห่งโลกมนุษย์” อวี๋หมิงหลางเงยหน้ามองฟ้า แล้วพูดอย่างคนอินจัด
เฉียวเจิ้นทำหน้าแหย “ช่วยพูดอะไรที่ฉันเข้าใจหน่อยได้ไหม?”
“มันคือความคิดที่ตกผลึกแล้วของเสียวเหม่ยกับฉัน แผนที่เพิ่มเข้าไปนี้ เป็นการรักษาโรคจิตเวชในเวลาเดียวกันให้คนสองกลุ่มที่จำเป็นต้องได้รับการรักษา”
“ไม่เข้าใจ…”