แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย – ตอนที่ 876 มีคนถูกทำให้หมั่นเขี้ยว

ชีอวี่เซวียนกลับมองคนที่เธอมองไม่ออกได้  

 

 

อีกทั้งไม่ได้ผ่านการพูดคุยเสียด้วย ทำให้เสี่ยวเชี่ยนรู้สึกเหลือเชื่อมาก  

 

 

“สงสัยใช่ไหมล่ะว่าผมรู้ได้ไง? มาเป็นศิษย์ผมสิ เดี๋ยวสอนให้”  

 

 

ลักษณะการพูดของชีอวี่เซวียนทำให้แม่อวี๋นึกถึงเวลาที่ห้างมีลดราคา น้ำเสียงของพนักงานที่พูดโฆษณาชวนเชื่อ  

 

 

ซื้อแล้วไม่ผิดหวัง ไม่ถูกต้มแน่นอน ลดกระหน่ำสุดๆนาทีนี้  

 

 

เป็นครั้งแรกที่เห็นคนใช้วิธีนี้รับลูกศิษย์  

 

 

รับศิษย์กับสอนนักเรียนความหมายคนละอย่างกัน ครูมีหน้าที่แค่สอนหนังสือ แต่ถ้าฝากตัวเป็นศิษย์อย่างเป็นทางการแล้ว นั่นก็แสดงว่าจะได้เรียนความรู้ที่มีมากกว่าในห้องเรียน ระหว่างศิษย์กับอาจารย์จะมีความผูกพันกันมากกว่า เรื่องนี้ชีอวี่เซวียนค่อนข้างโลภ เขาไม่เพียงแต่จะอยากเป็นอาจารย์สอนปริญญาเอกให้เสี่ยวเชี่ยน ยังอยากให้เธอฝากตัวเป็นศิษย์กับเขาด้วย  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนทำหน้ามุ่ย จากนั้นก็คลายสีหน้าลง  

 

 

“อยากให้ฉันฝากตัวเป็นศิษย์เหรอ?”  

 

 

“ช่าย~”  

 

 

“ได้สิคะ”  

 

 

ชีอวี่เซวียนเบิกตาโพลง เอ๋ วันนี้ดวงอาทิตย์ขึ้นผิดทางหรือเปล่า?  

 

 

“ถ้าฉันเรียนปริญญาเอกจะไม่มีทางไปจากเมืองนี้แน่นอน ถ้าคุณมาอยู่ที่มหาลัยของเราได้ฉันก็จะกล้ำกลืนฝืนทนฝากตัวเป็นศิษย์กับคุณก็ได้ แต่ฉันได้ยินมาว่าคุณอยู่ทางใต้มั่นคงดีแล้ว คงไม่มาอยู่ที่นี่หรอก แถมยังเซ็นสัญญากับทางนั้นแล้วด้วยใช่ไหมล่ะ? ดังนั้น…” เสี่ยวเชี่ยนแสร้งทำเป็นยักไหล่ด้วยความเสียดาย “ฟ้าไม่ได้กำหนดให้เรามีวาสนาต่อกัน”  

 

 

“ย้ายมา…อยู่ที่นี่เหรอ?”  

 

 

ดูเหมือนศาสตราจารย์ชีจะไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนก็แค่แกล้งพูด  

 

 

เขาจะมาจริงได้ไง?  

 

 

ทางใต้ให้ค่าตอบแทนเขาดีสุดๆ อากาศทางเหนือกับใต้ต่างกันมาก เธอไม่เชื่อหรอกว่าตานี่จะรับไหว อีกทั้งเขาเป็นอาจารย์ที่ถูกเชิญมาเป็นพิเศษ อยู่ๆบทจะไปก็ไปได้ที่ไหน? มีสัญญาเป็นหลักฐานอยู่ทนโท่  

 

 

อีกอย่างเรื่องหาอาจารย์ปกติเป็นหน้าที่ของศิษย์ที่ต้องขอร้องอาจารย์ เธอไม่เชื่อหรอกว่าชีอวี่เซวียนจะยอมรับการดูถูกแบบนี้ได้  

 

 

ถึงตานี่จะหน้าหนากว่าที่เธอคิดไว้มาก ดูดันทุรังกับเธอมากเป็นพิเศษแบบที่ไม่น่าเข้าใจเท่าไร แต่เสี่ยวเชี่ยนไม่ได้รู้สึกโอเคกับผู้ชายคนนี้  

 

 

บอกไม่ถูกว่าเป็นความรู้สึกแบบไหน มันคล้ายกับว่าพออยู่ใกล้เขาแล้วจะซวยยังไงไม่รู้  

 

 

ชีอวี่เซวียนตกอยู่ในห้วงความคิด เสี่ยวเชี่ยนถามขึ้น  

 

 

“ตกลงคุณดูออกได้ไงว่าผู้หญิงคนนั้นชอบช้อปปิ้ง?”  

 

 

“เพราะ…สิ่งนี้” ชีอวี่เซวียนหยิบใบเสร็จต่างๆออกมาปึกหนึ่ง เสี่ยวเชี่ยนทำตาตี่ใส่  

 

 

“คุณล้วงกระเป๋าคนอื่น?”  

 

 

นี่มันพฤติกรรมโจรไม่ใช่เหรอ? ตานี่ไปยุ่งกับกระเป๋าคนอื่นตั้งแต่เมื่อไร ทำไมเธอไม่เห็น?  

 

 

“อย่าใช้คำน่าเกลียดแบบนั้นได้ไหม ผมก็แค่อยู่ด้านหลังเขาพอดีตอนที่เขาไปห้องน้ำ พอเห็นของพวกนี้มันตกก็เลยแอบดู ดูสิ ใบเสร็จเป็นปึกแบบนี้มันดูเกินไปไหมล่ะ? ของใช้พวกนี้มีแต่พวกออฟฟิศซื้อทั้งนั้น คนปกติจะซื้อทำไมมากมายขนาดนี้ในระยะเวลาอันสั้น แบบนี้ไม่ใช่พวกบ้าช้อปเหรอ?”  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนรู้สึกเหมือนถูกตานี่ปั่นหัว ก็คิดว่าจะเก่งสักแค่ไหน ที่แท้ก็เป็นแค่เรื่องบังเอิญ  

 

 

“พฤติกรรมแปลกๆย่อมสะท้อนจิตใจที่ผิดปกติ ดังนั้นพวกเราต้องสังเกตพฤติกรรมของผู้ขอรับคำปรึกษาอย่างละเอียด แม้แต่คนรอบตัวของเขาก็ห้ามปล่อยผ่าน”  

 

 

ชีอวี่เซวียนพูดกับเสี่ยวเชี่ยนอย่างจริงจัง เสี่ยวเชี่ยนทำเสียง หึ ออกมา “เรื่องพวกนี้อาจารย์ฉันเคยพูดไว้ตั้งนานแล้วค่ะ”  

 

 

“แล้วเขาเคยบอกคุณไหมว่า โรคบ้าช้อปปิ้งเกี่ยวกับซิกมันด์ ฟรอยด์?”  

 

 

ชีอวี่เซวียนดึงดูดความสนใจจากเสี่ยวเชี่ยนได้ ในใจเธออยากรู้มาก  

 

 

เขากับศาสตราจารย์หลิวเป็นคนละสไตล์ ความคิดแนวใหม่แบบนี้เสี่ยวเชี่ยนไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน  

 

 

ถึงแม้ในใจจะอยากรู้สุดๆ แต่เสี่ยวเชี่ยนกลับรู้ว่าชีอวี่เซวียนกำลังหย่อนเบ็ดมาตกเธอ  

 

 

เธออดทนไว้ไม่งับ  

 

 

“กำลังจะเริ่มแล้ว คุณนี่พูดเยอะจริง” เสี่ยวเชี่ยนเบนสายตาขึ้นไปมองบนเวที ต้าอีกำลังจะเริ่มตอบแล้ว  

 

 

ชีอวี่เซวียนไม่ได้โกรธ ใบหน้าเขาผุดรอยยิ้มที่สวยงามแล้วหันไปมองบนเวที  

 

 

อดทนเก่ง ควบคุมตัวเองได้ยอดเยี่ยม เด็กคนนี้เก่งขนาดไหนกันนะ  

 

 

ถ้าไม่เห็นว่าตอนเสี่ยวเชี่ยนพูดเอามือหมุนกำไลหยกที่ข้อมือล่ะก็ ศาสตราจารย์ชีก็เกือบหลงกลเธอเข้าแล้ว คิดว่าเธอจะไม่สนใจเรื่องนี้จริงๆเสียอีก  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนตัดสินใจว่าเดี๋ยวเสร็จเรื่องแล้วจะไปค้นหาข้อมูล ชีอวี่เซวียนสะกิดต่อมอยากรู้ของเธอเข้าแล้ว ตานี่โจมตีจิตใจเก่งจริงๆ  

 

 

ต้าอีประสบความสำเร็จในการตอบปัญหา เธอทำได้อย่างไร้ที่ติตั้งแต่ต้นจนจบ  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนให้เธอเป็นตัวของตัวเอง เธอก็แสดงความสามารถออกมาอย่างเต็มที่ ตอบปัญหาในรอบนี้อย่างใจเย็น  

 

 

“…อย่างที่ได้กล่าวมาข้างต้น ดิฉันคิดว่านักจิตวิทยาบำบัดควรยึดเรื่องจรรยาบรรณมาเป็นอันดับแรก การปฏิวัติวงการให้ก้าวหน้าสามารถเป็นแรงผลักดันระหว่างหมอกับคนไข้ได้ แต่เราก็ไม่ควรลืมความตั้งใจแรกของเราค่ะ”  

 

 

ต้าอีสรุป เสียงปรบมือดังเกรียวกราวมาจากด้านล่าง เสี่ยวเชี่ยนเองก็พยักหน้าอย่างพอใจ  

 

 

“ใช้ได้ พูดได้ลึกซึ้งกว่าคนก่อนหน้า น่าประทับใจมาก คุณเป็นคนสอนเด็กคนนี้เหรอ?” ชีอวี่เซวียนเองก็ให้คะแนนสูง  

 

 

“ใช่ค่ะ” เสี่ยวเชี่ยนตอบเขาสั้นๆ  

 

 

“ใช้ได้ จัดอยู่ในประเภทที่สุขุมนุ่มลึก นิสัยเรียบร้อยดูหัวโบราณ แต่กลับมีความคิดที่แปลกใหม่ คุณสอนเขามาดีมาก ในบรรดาศิษย์หลานของผมถึงเขาจะไม่ได้มีสติปัญญาดีมาก แต่เป็นคนมานะอุตสาหะ ต่อไปเขาต้องก้าวหน้าแน่นอน”  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนเหล่มองเขา “อย่ามานับความสัมพันธ์ส่งเดช เขาเป็นศิษย์ของฉัน ไม่ใช่ศิษย์หลานของคุณ”  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนยกนิ้วกลางให้ในใจ ศิษย์หลานบ้าบอไรวะ หลานกับผีสิ  

 

 

ผู้เข้าแข่งขันคนต่อไปทำผลงานสู้ต้าอีไม่ได้อย่างเห็นได้ชัด ในสายตาของเสี่ยวเชี่ยนครั้งนี้ต้าอีมาเป็นอันดับหนึ่งของกลุ่มอย่างไม่ต้องสงสัย  

 

 

ปกติถ้าแข่งเสร็จก็ต้องประกาศคะแนน แต่ทางคณะกรรมการกำลังปรึกษากัน ดูเหมือนจะมีเรื่องให้ถก ยังไม่ประกาศคะแนนออกมาง่ายๆ  

 

 

“ไปกับผมหน่อยได้ไหม?” ชีอวี่เซวียนหันไปถามเสี่ยวเชี่ยน  

 

 

“ผ่านได้ก็ผ่าน ถ้าพวกเขาจะตัดสิทธิ์ฉันเพราะต้าอีแข่งแทน ถึงแพ้ฉันก็ไม่อะไรอยู่แล้ว” เสี่ยวเชี่ยนรู้ว่าเขาจะพาไปไหน  

 

 

คณะกรรมการกำลังหารือกันเรื่องต้าอีแน่นอน  

 

 

ต้าอีเป็นเพียงแค่ผู้ช่วย เสี่ยวเชี่ยนต่างหากที่เป็นผู้เข้าแข่งขันตัวจริง เสี่ยวเชี่ยนไม่มาต้าอีจึงเข้าแข่งแทน ถึงผลคะแนนจะออกมาดี แต่คณะกรรมการกลับมีข้อถกเถียง ไม่รู้ว่าควรถือว่าเสี่ยวเชี่ยนผ่านหรือเปล่า  

 

 

บารมีของชีอวี่เซวียนมีอยู่มาก ถ้าเขาเข้าไปพูดย่อมไม่มีปัญหา ทำไมเสี่ยวเชี่ยนจะไม่รู้เรื่องนี้  

 

 

แต่เธอไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณชีอวี่เซวียนถึงได้พูดออกไปตรงๆ  

 

 

เดิมก็ไม่ได้สนิทกับเขาสักนิด เขาส่งอาข่ามาดักฟังชีวิตเธอก่อน ต่อมาก็พยายามเข้าหาเธออย่างไม่ทราบสาเหตุ เป็นหนี้บุญคุณคนแบบนี้คงไม่มีจุดจบที่ดีแน่ เสี่ยวเชี่ยนไม่อยากเสียเปรียบ  

 

 

“ก็แค่ให้คุณไปเดินกับผมสักรอบแค่นั้น กลัวขนาดนั้นเลย?” ชีอวี่เซวียนขำท่าทางของเสี่ยวเชี่ยน  

 

 

เด็กขี้ระแวงเอ๊ย ยังจะอดทนได้อีก  

 

 

“ไม่มีอะไรที่ไม่หวังผลตอบแทน ฉันไม่ได้สนิทกับคุณด้วยค่ะ”  

 

 

ไอ๊หยา นิสัยแบบนี้มันน่ารักชะมัด  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนทำให้ชีอวี่เซวียนหมั่นเขี้ยวไม่ไหวแล้ว  

 

 

ยิ่งเธอเป็นแบบนี้ เขาก็ยิ่งชื่นชมเธอ  

 

 

ต่อให้ไม่มีเหตุผลที่บอกเสี่ยวเชี่ยนไม่ได้ข้อนั้น ต่อให้เธอไม่ได้เป็นอะไรกับเขาเลย ลำพังแค่บุคลิกที่สุขุมเกินวัยของเสี่ยวเชี่ยนก็เพียงพอให้ชีอวี่เซวียนประทับใจเธอมากพอแล้ว

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย – ตอนที่ 876 มีคนถูกทำให้หมั่นเขี้ยว

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย – ตอนที่ 876 มีคนถูกทำให้หมั่นเขี้ยว

ชีอวี่เซวียนกลับมองคนที่เธอมองไม่ออกได้       อีกทั้งไม่ได้ผ่านการพูดคุยเสียด้วย ทำให้เสี่ยวเชี่ยนรู้สึกเหลือเชื่อมาก       “สงสัยใช่ไหมล่ะว่าผมรู้ได้ไง? มาเป็นศิษย์ผมสิ เดี๋ยวสอนให้”       ลักษณะการพูดของชีอวี่เซวียนทำให้แม่อวี๋นึกถึงเวลาที่ห้างมีลดราคา น้ำเสียงของพนักงานที่พูดโฆษณาชวนเชื่อ       ซื้อแล้วไม่ผิดหวัง ไม่ถูกต้มแน่นอน ลดกระหน่ำสุดๆนาทีนี้       เป็นครั้งแรกที่เห็นคนใช้วิธีนี้รับลูกศิษย์       รับศิษย์กับสอนนักเรียนความหมายคนละอย่างกัน ครูมีหน้าที่แค่สอนหนังสือ แต่ถ้าฝากตัวเป็นศิษย์อย่างเป็นทางการแล้ว นั่นก็แสดงว่าจะได้เรียนความรู้ที่มีมากกว่าในห้องเรียน ระหว่างศิษย์กับอาจารย์จะมีความผูกพันกันมากกว่า เรื่องนี้ชีอวี่เซวียนค่อนข้างโลภ เขาไม่เพียงแต่จะอยากเป็นอาจารย์สอนปริญญาเอกให้เสี่ยวเชี่ยน ยังอยากให้เธอฝากตัวเป็นศิษย์กับเขาด้วย       เสี่ยวเชี่ยนทำหน้ามุ่ย จากนั้นก็คลายสีหน้าลง       “อยากให้ฉันฝากตัวเป็นศิษย์เหรอ?”       “ช่าย~”       “ได้สิคะ”       ชีอวี่เซวียนเบิกตาโพลง เอ๋ วันนี้ดวงอาทิตย์ขึ้นผิดทางหรือเปล่า?       “ถ้าฉันเรียนปริญญาเอกจะไม่มีทางไปจากเมืองนี้แน่นอน ถ้าคุณมาอยู่ที่มหาลัยของเราได้ฉันก็จะกล้ำกลืนฝืนทนฝากตัวเป็นศิษย์กับคุณก็ได้ แต่ฉันได้ยินมาว่าคุณอยู่ทางใต้มั่นคงดีแล้ว คงไม่มาอยู่ที่นี่หรอก แถมยังเซ็นสัญญากับทางนั้นแล้วด้วยใช่ไหมล่ะ? ดังนั้น…” เสี่ยวเชี่ยนแสร้งทำเป็นยักไหล่ด้วยความเสียดาย “ฟ้าไม่ได้กำหนดให้เรามีวาสนาต่อกัน”       “ย้ายมา…อยู่ที่นี่เหรอ?”       ดูเหมือนศาสตราจารย์ชีจะไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน       เสี่ยวเชี่ยนก็แค่แกล้งพูด       เขาจะมาจริงได้ไง?       ทางใต้ให้ค่าตอบแทนเขาดีสุดๆ อากาศทางเหนือกับใต้ต่างกันมาก เธอไม่เชื่อหรอกว่าตานี่จะรับไหว อีกทั้งเขาเป็นอาจารย์ที่ถูกเชิญมาเป็นพิเศษ อยู่ๆบทจะไปก็ไปได้ที่ไหน? มีสัญญาเป็นหลักฐานอยู่ทนโท่       อีกอย่างเรื่องหาอาจารย์ปกติเป็นหน้าที่ของศิษย์ที่ต้องขอร้องอาจารย์ เธอไม่เชื่อหรอกว่าชีอวี่เซวียนจะยอมรับการดูถูกแบบนี้ได้       ถึงตานี่จะหน้าหนากว่าที่เธอคิดไว้มาก ดูดันทุรังกับเธอมากเป็นพิเศษแบบที่ไม่น่าเข้าใจเท่าไร แต่เสี่ยวเชี่ยนไม่ได้รู้สึกโอเคกับผู้ชายคนนี้       บอกไม่ถูกว่าเป็นความรู้สึกแบบไหน มันคล้ายกับว่าพออยู่ใกล้เขาแล้วจะซวยยังไงไม่รู้       ชีอวี่เซวียนตกอยู่ในห้วงความคิด เสี่ยวเชี่ยนถามขึ้น       “ตกลงคุณดูออกได้ไงว่าผู้หญิงคนนั้นชอบช้อปปิ้ง?”       “เพราะ…สิ่งนี้” ชีอวี่เซวียนหยิบใบเสร็จต่างๆออกมาปึกหนึ่ง เสี่ยวเชี่ยนทำตาตี่ใส่       “คุณล้วงกระเป๋าคนอื่น?”       นี่มันพฤติกรรมโจรไม่ใช่เหรอ? ตานี่ไปยุ่งกับกระเป๋าคนอื่นตั้งแต่เมื่อไร ทำไมเธอไม่เห็น?       “อย่าใช้คำน่าเกลียดแบบนั้นได้ไหม ผมก็แค่อยู่ด้านหลังเขาพอดีตอนที่เขาไปห้องน้ำ พอเห็นของพวกนี้มันตกก็เลยแอบดู ดูสิ ใบเสร็จเป็นปึกแบบนี้มันดูเกินไปไหมล่ะ? ของใช้พวกนี้มีแต่พวกออฟฟิศซื้อทั้งนั้น คนปกติจะซื้อทำไมมากมายขนาดนี้ในระยะเวลาอันสั้น แบบนี้ไม่ใช่พวกบ้าช้อปเหรอ?”       เสี่ยวเชี่ยนรู้สึกเหมือนถูกตานี่ปั่นหัว ก็คิดว่าจะเก่งสักแค่ไหน ที่แท้ก็เป็นแค่เรื่องบังเอิญ       “พฤติกรรมแปลกๆย่อมสะท้อนจิตใจที่ผิดปกติ ดังนั้นพวกเราต้องสังเกตพฤติกรรมของผู้ขอรับคำปรึกษาอย่างละเอียด แม้แต่คนรอบตัวของเขาก็ห้ามปล่อยผ่าน”       ชีอวี่เซวียนพูดกับเสี่ยวเชี่ยนอย่างจริงจัง เสี่ยวเชี่ยนทำเสียง หึ ออกมา “เรื่องพวกนี้อาจารย์ฉันเคยพูดไว้ตั้งนานแล้วค่ะ”       “แล้วเขาเคยบอกคุณไหมว่า โรคบ้าช้อปปิ้งเกี่ยวกับซิกมันด์ ฟรอยด์?”       ชีอวี่เซวียนดึงดูดความสนใจจากเสี่ยวเชี่ยนได้ ในใจเธออยากรู้มาก       เขากับศาสตราจารย์หลิวเป็นคนละสไตล์ ความคิดแนวใหม่แบบนี้เสี่ยวเชี่ยนไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน       ถึงแม้ในใจจะอยากรู้สุดๆ แต่เสี่ยวเชี่ยนกลับรู้ว่าชีอวี่เซวียนกำลังหย่อนเบ็ดมาตกเธอ       เธออดทนไว้ไม่งับ       “กำลังจะเริ่มแล้ว คุณนี่พูดเยอะจริง” เสี่ยวเชี่ยนเบนสายตาขึ้นไปมองบนเวที ต้าอีกำลังจะเริ่มตอบแล้ว       ชีอวี่เซวียนไม่ได้โกรธ ใบหน้าเขาผุดรอยยิ้มที่สวยงามแล้วหันไปมองบนเวที       อดทนเก่ง ควบคุมตัวเองได้ยอดเยี่ยม เด็กคนนี้เก่งขนาดไหนกันนะ       ถ้าไม่เห็นว่าตอนเสี่ยวเชี่ยนพูดเอามือหมุนกำไลหยกที่ข้อมือล่ะก็ ศาสตราจารย์ชีก็เกือบหลงกลเธอเข้าแล้ว คิดว่าเธอจะไม่สนใจเรื่องนี้จริงๆเสียอีก       เสี่ยวเชี่ยนตัดสินใจว่าเดี๋ยวเสร็จเรื่องแล้วจะไปค้นหาข้อมูล ชีอวี่เซวียนสะกิดต่อมอยากรู้ของเธอเข้าแล้ว ตานี่โจมตีจิตใจเก่งจริงๆ       ต้าอีประสบความสำเร็จในการตอบปัญหา เธอทำได้อย่างไร้ที่ติตั้งแต่ต้นจนจบ       เสี่ยวเชี่ยนให้เธอเป็นตัวของตัวเอง เธอก็แสดงความสามารถออกมาอย่างเต็มที่ ตอบปัญหาในรอบนี้อย่างใจเย็น       “…อย่างที่ได้กล่าวมาข้างต้น ดิฉันคิดว่านักจิตวิทยาบำบัดควรยึดเรื่องจรรยาบรรณมาเป็นอันดับแรก การปฏิวัติวงการให้ก้าวหน้าสามารถเป็นแรงผลักดันระหว่างหมอกับคนไข้ได้ แต่เราก็ไม่ควรลืมความตั้งใจแรกของเราค่ะ”       ต้าอีสรุป เสียงปรบมือดังเกรียวกราวมาจากด้านล่าง เสี่ยวเชี่ยนเองก็พยักหน้าอย่างพอใจ       “ใช้ได้ พูดได้ลึกซึ้งกว่าคนก่อนหน้า น่าประทับใจมาก คุณเป็นคนสอนเด็กคนนี้เหรอ?” ชีอวี่เซวียนเองก็ให้คะแนนสูง       “ใช่ค่ะ” เสี่ยวเชี่ยนตอบเขาสั้นๆ       “ใช้ได้ จัดอยู่ในประเภทที่สุขุมนุ่มลึก นิสัยเรียบร้อยดูหัวโบราณ แต่กลับมีความคิดที่แปลกใหม่ คุณสอนเขามาดีมาก ในบรรดาศิษย์หลานของผมถึงเขาจะไม่ได้มีสติปัญญาดีมาก แต่เป็นคนมานะอุตสาหะ ต่อไปเขาต้องก้าวหน้าแน่นอน”       เสี่ยวเชี่ยนเหล่มองเขา “อย่ามานับความสัมพันธ์ส่งเดช เขาเป็นศิษย์ของฉัน ไม่ใช่ศิษย์หลานของคุณ”       เสี่ยวเชี่ยนยกนิ้วกลางให้ในใจ ศิษย์หลานบ้าบอไรวะ หลานกับผีสิ       ผู้เข้าแข่งขันคนต่อไปทำผลงานสู้ต้าอีไม่ได้อย่างเห็นได้ชัด ในสายตาของเสี่ยวเชี่ยนครั้งนี้ต้าอีมาเป็นอันดับหนึ่งของกลุ่มอย่างไม่ต้องสงสัย       ปกติถ้าแข่งเสร็จก็ต้องประกาศคะแนน แต่ทางคณะกรรมการกำลังปรึกษากัน ดูเหมือนจะมีเรื่องให้ถก ยังไม่ประกาศคะแนนออกมาง่ายๆ       “ไปกับผมหน่อยได้ไหม?” ชีอวี่เซวียนหันไปถามเสี่ยวเชี่ยน       “ผ่านได้ก็ผ่าน ถ้าพวกเขาจะตัดสิทธิ์ฉันเพราะต้าอีแข่งแทน ถึงแพ้ฉันก็ไม่อะไรอยู่แล้ว” เสี่ยวเชี่ยนรู้ว่าเขาจะพาไปไหน       คณะกรรมการกำลังหารือกันเรื่องต้าอีแน่นอน       ต้าอีเป็นเพียงแค่ผู้ช่วย เสี่ยวเชี่ยนต่างหากที่เป็นผู้เข้าแข่งขันตัวจริง เสี่ยวเชี่ยนไม่มาต้าอีจึงเข้าแข่งแทน ถึงผลคะแนนจะออกมาดี แต่คณะกรรมการกลับมีข้อถกเถียง ไม่รู้ว่าควรถือว่าเสี่ยวเชี่ยนผ่านหรือเปล่า       บารมีของชีอวี่เซวียนมีอยู่มาก ถ้าเขาเข้าไปพูดย่อมไม่มีปัญหา ทำไมเสี่ยวเชี่ยนจะไม่รู้เรื่องนี้       แต่เธอไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณชีอวี่เซวียนถึงได้พูดออกไปตรงๆ       เดิมก็ไม่ได้สนิทกับเขาสักนิด เขาส่งอาข่ามาดักฟังชีวิตเธอก่อน ต่อมาก็พยายามเข้าหาเธออย่างไม่ทราบสาเหตุ เป็นหนี้บุญคุณคนแบบนี้คงไม่มีจุดจบที่ดีแน่ เสี่ยวเชี่ยนไม่อยากเสียเปรียบ       “ก็แค่ให้คุณไปเดินกับผมสักรอบแค่นั้น กลัวขนาดนั้นเลย?” ชีอวี่เซวียนขำท่าทางของเสี่ยวเชี่ยน       เด็กขี้ระแวงเอ๊ย ยังจะอดทนได้อีก       “ไม่มีอะไรที่ไม่หวังผลตอบแทน ฉันไม่ได้สนิทกับคุณด้วยค่ะ”       ไอ๊หยา นิสัยแบบนี้มันน่ารักชะมัด       เสี่ยวเชี่ยนทำให้ชีอวี่เซวียนหมั่นเขี้ยวไม่ไหวแล้ว       ยิ่งเธอเป็นแบบนี้ เขาก็ยิ่งชื่นชมเธอ       ต่อให้ไม่มีเหตุผลที่บอกเสี่ยวเชี่ยนไม่ได้ข้อนั้น ต่อให้เธอไม่ได้เป็นอะไรกับเขาเลย ลำพังแค่บุคลิกที่สุขุมเกินวัยของเสี่ยวเชี่ยนก็เพียงพอให้ชีอวี่เซวียนประทับใจเธอมากพอแล้ว

Comment

Options

not work with dark mode
Reset