แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย – ตอนที่ 852 มาแล้ว มาแล้ว เขามาอีกแล้ว

พอโทรติดปุ๊บเสียงโวยวายของศาสตราจารย์หลิวก็ลอดออกมา  

 

 

“เฉินเสี่ยวเชี่ยน อยากจะทำตัวเป็นวีรบุรุษหรือไง? ออกไปช่วยคนเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เรื่องที่เหล่าชีรู้แต่เธอกลับไม่บอกฉัน เธอไม่เห็นตอนที่เขามาพูดเรื่องนี้ด้วยความภูมิใจต่อหน้าฉันมันน่าหมั่นไส้แค่ไหน”  

 

 

พอได้ยินศาสตราจารย์หลิวพูดแบบนี้ สมองเสี่ยวเชี่ยนก็ว่างเปล่า  

 

 

ศาสตราจารย์ชีคนที่ควรจะออกไปจากชีวิตเธอได้แล้วทำไมอยู่ๆถึงไปหาอาจารย์ได้ นี่คือปริศนา…  

 

 

อีกทั้งคำพูดของอาจารย์เมื่อครู่ ทำไมข้อมูลแน่นขนาดนั้น?  

 

 

“อาจารย์ นี่หนูยังไม่ตื่นดีหรืออาจารย์ละเมออยู่คะ?”  

 

 

“อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่อง ฉันพูดเรื่องเธออยู่นะ ทำไมเธอบอกเหล่าชีแต่ไม่บอกฉัน”  

 

 

“…หนูไม่ได้บอกเขาค่ะ” ประธานเชี่ยนเองก็งง  

 

 

“มาที่มหาลัยในอีกครึ่งชั่วโมง ฉันอยากจะคุยกับเธอเรื่องนี้ อย่าคิดว่าฉันจะชมเธอนะ”  

 

 

จากนิสัยปากร้ายใจดีของศาสตราจารย์หลิว ถ้าพูดออกมาว่าอย่าคิดว่าฉันจะชมล่ะก็ แสดงว่ารู้สึกชื่นชมไปแล้วเกือบเต็มร้อย เพียงแต่ยังมีมาดอยู่เท่านั้น  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนไม่ได้กังวลว่าจะถูกอาจารย์ดุอะไร เธอยังคงงงเรื่องศาสตราจารย์ชีอยู่  

 

 

เธอรีบกินอาหารเช้าอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เก็บของมุ่งหน้าไปมหาวิทยาลัย เธอไปยังห้องทำงานของศาสตราจารย์หลิว เคาะประตูเปิดเข้าไปแล้วก็ต้องอึ้ง  

 

 

ทำไมเป็นเขาล่ะ  

 

 

เธอเห็นผู้ชายสวมชุดลำลองสีขาวนั่งอยู่บนโต๊ะศาสตราจารย์หลิว ใช่ นั่งอยู่  

 

 

ศาสตราจารย์หลิวกำลังหน้าบึ้งถลึงตามองเขา พอเห็นเสี่ยวเชี่ยนเข้ามาทั้งสองคนก็หันไปหาเสี่ยวเชี่ยน  

 

 

ทั้งสามคนถลึงตามองใส่กัน  

 

 

“คุณ…?” ถึงเสี่ยวเชี่ยนจะนึกถึงความเป็นไปได้มากมาย แต่พอเห็นศาสตราจารย์ชีในตอนนี้เธอก็ยังคงตะลึง  

 

 

ผู้ชายคนนี้มาปรากฏตัวในโลกของเธอบ่อยมากในช่วงระยะเวลาอันสั้น ครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วนี่ยังมาอยู่ในห้องทำงานของอาจารย์เธออีก?  

 

 

“Hi~” ชีอวี่เซวียนโบกมือให้เสี่ยวเชี่ยน  

 

 

ถึงแม้ศาสตราจารย์หลิวจะหมั่นไส้ศาสตราจารย์ชี แต่เพื่ออนาคตของเสี่ยวเชี่ยนเธอก็ต้องเก็บอารมณ์เอาไว้แล้วเริ่มแนะนำ  

 

 

“เธอคงเคยเจอเขาแล้วใช่ไหม เสี่ยวเชี่ยน ศาสตราจารย์ชีรอเธอนานแล้วนะ”  

 

 

สาด…ตา…จาน..ชี?  

 

 

นี่มันใช่เหรอ?  

 

 

“ได้ยินมานานแล้วว่าเสี่ยวหลิวมีเด็กที่เก่งมากอยู่คน พวกเราเจอกันหลายครั้งคุณไม่ทำให้ผมผิดหวังเลยจริงๆนะ”  

 

 

ศาสตราจารย์ชียิ้มให้เสี่ยวเชี่ยน ปีศาจน้อยที่อยู่ในใจกำลังยืนเท้าสะเอวหัวเราะร่า ฮ่าๆๆ  

 

 

สีหน้าของเสี่ยวเชี่ยนในเวลานี้น่ารักเป็นบ้าเลย  

 

 

เคยเห็นแต่เด็กคนนี้ทำหน้าเย็นชาเป็นปกติ อายุแค่นี้แต่ทำตัวมาดขรึม ทำตัวเหมือนไม่ให้ใครเดาทางถูก ในที่สุดตอนนี้ก็ทำหน้าน่ารักเป็นกับเขาแล้ว ถ้าไม่ติดว่าศาสตราจารย์หลิวอยู่ตรงนี้ ชีอวี่เซวียนอยากจะเข้าไปหยิกแก้มน้อยๆของเธอมาก แบ๊วจริงๆ~  

 

 

“นี่ตัวปลอมใช่ไหมคะ?” ในที่สุดเสี่ยวเชี่ยนก็ได้สติ  

 

 

“เสี่ยวเชี่ยน” ศาสตราจารย์หลิวไม่พอใจกับท่าทีของเสี่ยวเชี่ยน ถึงเธอเองก็เหม็นขี้หน้าชีอวี่เซวียนคนนี้ แต่คำพูดบางอย่างเก็บไว้ในใจก็พอแล้ว พูดออกมาได้ยังไง?  

 

 

“ผมตัวจริงของแท้แน่นอน” ชีอวี่เซวียนไม่ได้โกรธเลยแม้แต่น้อย  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนสมกับเป็นบอสที่ประสบการณ์โชกโชน เธอใช้เวลาแค่ไม่กี่วินาทีสมองก็กลับมาทำงานปกติ เธอเดินเข้าไปหาศาสตราจารย์ชีแล้วมองหน้าเขาอยู่สักพัก  

 

 

ทั้งสองคนไม่ได้เพิ่งเจอกันครั้งแรก แต่ทุกครั้งที่เจอกัน เขาให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันไปกับเสี่ยวเชี่ยน  

 

 

ครั้งแรก เขาเป็นเจ้าของร้านอาหาร ถึงจะแต่งตัวเป็นพ่อครัวแต่กลับให้ความรู้สึกภูมิฐานเหมือนนักปรัชญามากกว่า  

 

 

ครั้งที่สอง เขาแสร้งทำเป็นคนไข้ในโรงพยาบาลประสาท แต่คำพูดของเขาก็ยังคงเดาทางยาก  

 

 

ครั้งที่สาม ตอนที่เสี่ยวเชี่ยนไปปลอบใจผู้ป่วยชราในโรงพยาบาล เขายืนอยู่กับญาติผู้ป่วย ยืนยิ้มมองเธอรักษาคนไข้  

 

 

ตอนนี้เขามาปรากฏตัวในห้องทำงานของศาสตราจารย์หลิว แค่ชั่วพริบตากลายเป็นศาสตราจารย์ด้านประสาทที่มีชื่อเสียงระดับโลก  

 

 

ตอนที่ศาสตราจารย์หลิวแนะนำ เสี่ยวเชี่ยนรู้สึกว่าเกินความคาดหมายไปหน่อยแต่ก็ไม่ได้ตกใจมาก  

 

 

ที่เกินความคาดหมายคือ เขาเป็นศาสตราจารย์ชี แต่เธอกลับรู้สึกว่าคนนิสัยแบบนี้ บุคลิกแบบนี้กับท่าทางที่ดูเพี้ยนๆ เขาควรจะเป็นจิตแพทย์มากกว่า  

 

 

หลังจากที่รู้ว่าเขาเป็นใครแล้วได้มายืนอยู่ตรงหน้าเขาอีกครั้ง สายตาที่เสี่ยวเชี่ยนมองเขาเป็นแววตาที่มองสำรวจอย่างละเอียด  

 

 

 

 

 

ดวงตาของเขายากจะคาดเดา มีรอยตีนกาเล็กน้อย ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นคนไม่ทุกข์ไม่ร้อน การแต่งตัวสบายๆทำให้ดูเหมือนคนอายุสามสิบต้นๆ มีกลิ่นอายของความเป็นคนเมือง ดูแล้วเป็นคนเจ้าเล่ห์ไม่เบา  

 

 

เวลานี้ชีอวี่เซวียนเองก็มองเสี่ยวเชี่ยน สายตาเต็มไปด้วยความเอ็นดูและสนุกสนาน เขาอยากรู้มากว่ายามที่เขาเปิดเผยตัวตนทั้งหมดออกแล้วมายืนอยู่ตรงหน้าเธออีกครั้ง เธอจะแสดงท่าทางยังไง  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนให้คำตอบทันที  

 

 

“เพียะ”  

 

 

ตอนที่เธอฟาดฝ่ามือลงไปบนหน้าของชีอวี่เซวียน คล้ายกับโลกหยุดหมุนในทันที  

 

 

ตบนี้เสี่ยวเชี่ยนตบโดยไม่รู้สึกผิดอะไร ใครใช้ให้เล่นละครใส่เธอ ใครใช้ให้ปั่นหัวเธอ สมควรแล้วที่โดนตบ  

 

 

ศาสตราจารย์หลิวยังคงอึ้งไม่ได้สติ เธอเห็นแค่ศิษย์รักของตัวเองยืนจ้องศาสตราจารย์ชีอยู่สักพักแล้วก็ยื่นมือไปตบ  

 

 

ตบ ไป แล้ว  

 

 

เปรี้ยงปร้างเปรี้ยงปร้าง สายฟ้าฟาดลงมากลางหัวศาสตราจารย์หลิวไม่หยุด เล่นเอาศาสตราจารย์หลิวกรอบนอกนุ่มในเลยทีเดียว  

 

 

“คุณ…ตบผมเหรอ?” ชีอวี่เซวียนเอามือจับหน้า แววตาแสดงอาการน้อยใจ  

 

 

“ใช่ฉันตบคุณ ไม่ใช่แค่ตบฉันยังจะถีบด้วย” เสี่ยวเชี่ยนใช้วิชาป้องกันตัวที่เสี่ยวเฉียงสอนให้ เธอกระทุ้งศอกเข้าที่ท้องเขา จากนั้นก็ชกอก สุดท้ายเอานิ้วไปจิ้มตา  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนใช้สามกระบวนท่าต่อเนื่องอย่างคล่องแคล่ว หลังจากที่ชีอวี่เซวียนปล่อยให้เธอทำไปสองที ในที่สุดก็ทนไม่ไหวถ้าจะปล่อยให้เธอทำต่อเป็นครั้งที่สาม เขารีบจับข้อมือเธอไว้ เสี่ยวเชี่ยนรู้สึกเจ็บมาก  

 

 

หมอนี่เป็นวิชา ฝีมือน่าจะเก่งพอๆกับอาข่า แค่นี้ก็ดูออกแล้ว  

 

 

เดิมชีอวี่เซวียนไม่อยากทำกลับ แต่ตอนนี้ถ้าเขาไม่คุมเธอเอาไว้คงได้ทำเขาตาบอดแน่ เขาจึงสู้กลับตามสัญชาตญาณ  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนเจ็บจนหน้านิ่ว ชีอวี่เซวียนรีบปล่อยแล้วถามด้วยความเป็นห่วง  

 

 

“ไม่เป็นไรใช่ไหม? ขอโทษนะ ผมคุมแรงไม่ได้”  

 

 

ตอนที่เขาเข้าไปดูเสี่ยวเชี่ยนก็ยกมือตบเขาอีกหนึ่งที  

 

 

“เพียะ”  

 

 

“ขนาดสามีฉันยังไม่กล้าลงมือกับฉัน แล้วคุณเป็นใครถึงกล้าทำกับฉันแบบนี้?” เสี่ยวเชี่ยนคว้ากล่องใส่ปากกาบนโต๊ะเตรียมเขวี้ยง  

 

 

ชีอวี่เซวียนรีบหลบ “ถ้าเขากล้าทำคุณผมไม่มีทางปล่อยเขาแน่…โอ๊ย”  

 

 

“พอแล้ว เสี่ยวเชี่ยน เธอทำอะไรน่ะ” ในที่สุดศาสตราจารย์หลิวก็ได้สติ เธอรีบดึงเสี่ยวเชี่ยนออกมา ยังคิดจะถีบเขาอีก  

 

 

“หนูตบเขาเพราะเขามันตัวปลอม อาจารย์คะ ตานี่เด็กขนาดนี้จะเป็นศาสตราจารย์ชีได้ยังไง? วงการของพวกเราให้ความสำคัญเรื่องความรู้ความสามารถมาก ต่อให้เขาเป็นอัจฉริยะ กระโดดข้ามชั้นไปเป็นนักวิจัยหลังจบปริญญาเอกได้ ก็ไม่มีทางมีประสบการณ์รักษาสูง แล้วเขาจะมีอิทธิพลได้ยังไง?”  

 

 

เสี่ยวเชี่ยนพูดในสิ่งที่ตัวเองสงสัย  

 

 

ไม่ว่าตานี่จะเป็นตัวจริงหรือตัวปลอม ตบก่อนค่อยว่ากัน ถ้าเป็นตัวปลอม เดี๋ยวตานี่คงหนีไป แต่ถ้าเป็นตัวจริง เธอไม่เชื่อหรอกว่าเธอตบขนาดนี้แล้วเขายังจะกล้ารับเธอเป็นศิษย์อีก เอาเป็นว่าเรื่องที่ตานี่ปั่นหัวเธอก่อนหน้านี้ตบแค่นี้ยังน้อยไปด้วยซ้ำ  

 

 

หลังจากที่ตัดสินใจแล้วเสี่ยวเชี่ยนก็ไล่ตบศาสตราจารย์ชีต่อ  

 

 

“บอกมานะ นายเป็นพวกแก๊งค์ลักพาตัวหรือพวกขายตรง คิดจะทำอะไรกับฉัน”  

Related

Comment

Options

not work with dark mode
Reset