เสี่ยวเชี่ยนรีบยัดโทรศัพท์ให้อวี๋หมิงหลางอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เผ่นไปมาร์คหน้า
มีสามีไว้ทำอะไรน่ะเหรอ?
รับเคราะห์แทนไง
อวี๋หมิงหลางยิ้มพลางรับโทรศัพท์
“ผมเองนะครับแม่”
“ไอ๊หยา หมิงหลางเลิกงานแล้วเหรอ เหนื่อยหรือเปล่า กินข้าวหรือยัง เชี่ยนเอ๋อตัวแสบไม่ได้ทำกับข้าวไว้อีกแล้วใช่ไหม?” ท่าทีที่มีต่อลูกเขยนั้นแตกต่างจากลูกสาวโดยสิ้นเชิง เจี่ยซิ่วฟางถามอวี๋หมิงหลางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ยังไม่ได้กินเลยครับ เดี๋ยวว่าจะทำก๋วยเตี๋ยวให้เชี่ยนเอ๋อครับ”
“อ๋า เด็กคนนี้ทำไมยังทำตัวแบบนี้นะ ให้เราเข้าครัวได้ไงกัน… ก๋วยเตี๋ยวน่ะใส่กุ้งด้วยนะไม่งั้นไม่มีสารอาหาร”
“ครับๆๆ แม่พูดถูกครับ ในตู้เย็นยังมีกุ้งแช่แข็งที่คราวก่อนแม่เอามาให้เหลืออยู่เลยครับ เดี๋ยวผมจะใส่ลงไปหน่อย วันนี้เชี่ยนเอ๋อเหนื่อยมามากครับ ยุ่งเรื่องแข่งเดี๋ยวผมเลยว่าจะทำอะไรง่ายๆให้กิน เมื่อเที่ยงพวกเราไปฉลองข้างนอกกันมาครับ แม่กับพี่ชายผมก็มาด้วย”
เจี่ยซิ่วฟางยิ้มหน้าบาน ปากก็ทำบ่นเสี่ยวเชี่ยนพอเป็นพิธี “เด็กคนนี้ไม่ไหวเลยจริงๆ แม่บอกตั้งกี่ครั้งแล้วไม่รู้ว่าให้เรียนทำอาหาร แต่เรื่องเรียนก็ยุ่งเหลือเกิน เดี๋ยวกลับมาครั้งหน้าแม่ต้องสั่งสอนหน่อยแล้ว”
“ไม่เป็นไรครับแม่ ตอนนี้พวกเราอยู่ด้วยกันแล้วนี่ครับ ถ้าผมอยู่บ้านผมก็จะทำ ช่วงนี้กำลังจะจ้างแม่บ้านมาครับ ต่อไปถ้าผมไม่อยู่จะได้มีคนดูแลเรื่องอาหารสามมื้อของเชี่ยนเอ๋อ เชี่ยนเอ๋องานยุ่งมากแม่ไม่ต้องให้เธอเรียนทำอาหารหรอกครับ แม่กับพี่สะใภ้ใหญ่ของผมก็ไม่ค่อยทำอาหาร มีแม่บ้านดูแลหมด”
พอได้ยินว่านี่เป็นธรรมเนียมของตระกูลอวี๋ เจี่ยซิ่วฟางก็ไม่พูดอะไรอีก ขอจบเรื่องนี้ไว้เพียงเท่านี้ ฝีมือการทำอาหารของลูกสาวเธอพัฒนาไม่ขึ้นจริงๆ เข้าครัวแต่ละทีได้เกิดเรื่องตลอด
“กุ้งยังพอกินไหม? แช่แข็งไว้ตั้งแต่ปีก่อน ช่วงนี้ปิดทะเลแล้วหาซื้อกุ้งยาก อีกสองเดือนถ้าซื้อได้เดี๋ยวแม่แช่แข็งเอาไปให้นะ”
“พอกินครับ ฝีมือแม่สุดยอดมากเลยครับ แช่แข็งกุ้งมาได้สดใหม่มาก พอเอามาละลายน้ำแข็งทำอาหารกินยังรู้สึกได้ถึงความสดเลยครับ”
“แน่สิ แม่จะบอกให้นะ นี่เป็นเคล็ดลับของครอบครัวเลยล่ะ ต้องเอากุ้งเป็นๆแช่ในขวดน้ำก่อน จากนั้นก็…”
เจี่ยซิ่วฟางอารมณ์ดีเพราะคำชมจากอวี๋หมิงหลาง ชมแม่บ้านว่าฝีมืองานครัวดีก็ไม่ต่างอะไรกับการที่เสี่ยวเชี่ยนได้แชมป์ เห็นได้ชัดว่าเสี่ยวเฉียงรู้ว่าต้องเข้าทางแม่ยายยังไง
ทำให้มาก บ่นให้น้อย ต่อหน้าแม่ยายนอกจากชมเมียตัวเองแล้วยังต้องชมแม่ยายว่าสั่งสอนลูกมาดีด้วย พร้อมทั้งเลื่อมใสในประสบการณ์ชีวิตของแม่ยายอย่างอ้อมๆ จะทำให้ดูจงใจไม่ได้เด็ดขาด
เจี่ยซิ่วฟางพอคุยเรื่องที่ตัวเองถนัดก็พูดไม่หยุด ลูกเขยพูดจาเป็น ทำให้คนแก่ดีใจ ถามนู่นถามนี่ไม่หยุด ปกติผู้ชายจะพูดน้อยกับแม่ยาย แต่เสี่ยวเฉียงเป็นกรณียกเว้น
พอเสี่ยวเชี่ยนแปะผ่านมาร์คหน้าเสร็จเดินออกมา อวี๋หมิงหลางก็ยังประจบแม่ยายไม่เสร็จ
เสี่ยวเฉียงถลึงตาใส่
เลิกใช้มาร์คหน้าสีแดงฉานแล้ว ครั้งนี้เปลี่ยนเป็นสีดำ?
เขาเอานิ้มไปจิ้มด้วยความสงสัย ไอ้สีดำๆนี่มันอะไรกัน?
หลังจากที่คราวก่อนเอาฉี่มาทาหน้า ตอนนี้เอาโคลน? ผู้หญิงนี่เป็นสิ่งมีชีวิตที่เข้าใจยากจริงๆ ใบหน้าสวยอยู่แล้วแต่กลับเอาอะไรไม่รู้มาโบก
เสี่ยวเชี่ยนตีมือเขาที่ซุกซน ดันตัวเขาไปข้างๆ จากนั้นก็ขยับปากพูดแบบไม่มีเสียง อย่าเพิ่งทำกับข้าว มีเรื่อง
อวี๋หมิงหลางพยักหน้าพลางเอามือไปโอบเธอไว้
อืม ต้องให้เธอหันหลังให้เขา จะได้ไม่เห็นหน้าดำๆ ต่อให้รักเมียมากแค่ไหนแต่เห็นมาร์คหน้าของเมียแล้วก็สร้างความกดดันให้ไม่น้อยเลยนะ
เสี่ยวเชี่ยนเอาตัวพิงหน้าอกเขา จากนั้นก็คุยกับแม่ต่อ
“แม่ น้าคนที่แม่จะให้หนูไปช่วยอะตกลงคนไหนกันแน่? เขาทำงานอะไร?”
“คนที่ทำเหล็กนั่นไง บ้านเก่าเรายังมีถังเหล็กที่เขาทำเลยนะ ลืมแล้วเหรอ?”
“อ๋อ” เสี่ยวเชี่ยนนึกออกแล้ว
เสี่ยวเชี่ยนยกกาน้ำชาที่ทำจากแก้วขึ้นมา กำลังจะให้เสี่ยวเฉียงเอาชาผลไม้ไปต้มในไมโครเวฟ…กานี่เธอตามหาตั้งนานกว่าจะหาเจอ ใช้ต้มชาในไมโครเวฟได้ ไม่มีทางระเบิด กำลังดี
พอยกขึ้นมานั้นก็เห็นเงาสะท้อนในกา เธอเห็นผู้ชายหน้าด้านคนหนึ่งกำลังทำหน้าทะเล้นอยู่ข้างหลังเธอ
เสี่ยวเชี่ยนเพ่งมอง หันหน้าไป เขารีบทำหน้าขรึมทันที คล้ายกับว่าหน้าทะเล้นเมื่อครู่ไม่ใช่เขา
“เชี่ยนเอ๋อ?” เจี่ยซิ่วฟางเห็นลูกสาวเงียบไปจึงเรียก
“อยู่แม่ แล้วน้าคนนั้นตกลงเขาเป็นอะไรเหรอ?” เสี่ยวเชี่ยนหันหน้ากลับแสร้งทำเป็นไม่เอาเรื่อง
อวี๋หมิงหลางทำหน้าทะเล้นอีกรอบ แบร่ๆๆ ยัยปีศาจหน้าดำ
เสี่ยวเชี่ยนรีบหันขวับ จับมือเขาได้ขณะยังเอามือทำอยู่ที่หน้า
วินาทีต่อมากลายเป็นเสี่ยวเชี่ยนเอามือหยิกหน้าเขา เสี่ยวเฉียงไม่กล้าขัดขืน
ฮือๆๆ ผู้หญิงคนนี้เจ้าเล่ห์เหลือเกิน โหดร้ายมาก
“แม่ พูดต่อเลย” มือเสี่ยวเชี่ยนออกแรงหยิก หยิก หยิกให้หน้าด้านๆนี่มันรู้สึกบ้าง
อวี๋หมิงหลางเจ็บจนหน้านิ่ว เมียเมียเมีย เมตตาหน่อย โกรธแบบนี้มาร์คหน้ามันจะหลุดออกหมดนะ
“คืองี้ ไม่ใช่น้าคนนั้นหรอกที่มีปัญหา แต่เป็นลูกชายเขาต่างหาก ลูกชายเขาปีนี้จะ38แล้ว แต่เมียยังไม่ยอมท้อง เรื่องนี้ทำวุ่นวายกันไปทั้งบ้าน แกช่วยไปดูเมียเขาหน่อยได้ไหมว่าตกลงเป็นอะไรกันแน่? หมอดูประจำหมู่บ้านดูแล้วบอกว่าชงกับย่าที่ตายไป แต่เผากระดาษก็แล้ว ทำเสื้อผ้าก็แล้ว ก็ยังไม่ท้องสักที ถึงได้คิดจะมาหาแกนี่แหละ แกเป็นหมอดูของหลวงไม่ใช่เหรอ…”
เสี่ยวเชี่ยนเอามือที่หยิกหน้าเสี่ยวเฉียงออกอย่างเซ็งๆ นี่มันอะไรกันเนี่ย
หมอดูในหมู่บ้านไม่ได้เรื่องก็เลยมาหาเธอ ทำไมรู้สึกเหมือนตัวเธอเป็นกระโถน อะไรไม่มีทางเลือกก็เอามาทิ้งที่เธอ?
ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเอาเสี่ยวเชี่ยนมาล้อเล่น ความหมายคือถ้าดูแล้วไม่โอเคก็ไม่เป็นไร แค่อยากมาลองดู จิตแพทย์ที่ได้รางวัลแถมยังเรียนสูงแบบเธอ ค่ารักษาเก็บทีชั่วโมงละห้าพัน ทำไมถึงตกลงมาถึงขั้นสู้หมอดูในหมู่บ้านไม่ได้นะ?
“ให้เขาไปรักษาที่โรงพยาบาล ตอนนี้มีจิตแพทย์ดูให้ได้หมด”
“ไปโรงพยาบาลก็ต้องเสียเงินไม่ใช่เหรอ ได้ยินว่าราคาไม่ใช่ถูกๆ ค่าลงทะเบียนก็ยี่สิบ คราวก่อนเขาพาเมียไปหาหมอในเมือง ได้ยินว่าต้องลงทะเบียนเป็นคนไข้ทั้งสองคน เห็นบอกว่าเรื่องแบบนี้ต้องรักษาทั้งคู่ แบบนี้ไม่เท่ากับโกงเหรอ? สองคนก็สี่สิบแล้ว”
เจี่ยซิ่วฟางคิดเอาเองว่าตัวเองทีความยุติธรรม ขอเปิดโปงค่ารักษาที่ขูดรีดแบบนี้
อวี๋หมิงหลางแอบขำ เสี่ยวเชี่ยนเปิดลำโพงฟังเพราะโทรศัพท์จะได้ไม่โดนมาร์คหน้าของเธอ เขาเลยได้ยินด้วย
เมียเขาตอนนี้คงกำลังรู้สึกอยากจะบ้า สี่สิบยังหาว่าแพง เมียเขาคิดค่ารักษาทีชั่วโมงละหลายพันเลยนะ แม่ยายคิดจะมาเอาเปรียบเมียเขา
เสี่ยวเชี่ยนปวดขมับ ยังไม่ทันจะได้ตอบโต้อะไรก็ได้ยินแม่พูดขึ้นมาอีก