น่าเสียดาย ดิ้นรนไปได้ไม่นาน เด็กสาวก็รู้สึกถึงเรี่ยวแรงมหาศาลที่กระแทกลงมาตรงต้นคอ
พอรู้สึกหน้ามืด ร่างกายของเธอก็ถูกกดติดกับผนัง
“แค่กๆ…”
เมื่อลำคอถูกบีบแน่น ปลายเท้าถูกบังคับให้ลอยขึ้นเหนือพื้น ในที่สุดดวงหน้าของเด็กสาวก็เริ่มแสดงออกมาถึงความหวาดกลัวขึ้นมาบ้างแล้ว
แต่นอกจากความกลัวกับความตื่นตระหนก สิ่งที่ฉายชัดในดวงตาของเด็กสาวยังมีอีกหนึ่งความหมาย : “นี่…นี่มันไม่ถูกต้องนี่!”
เธอเองก็ถือว่าเป็นคนที่เข้าใจซอมบี้ดีคนหนึ่งเลย แต่ซอมบี้ตัวที่อยู่ตรงหน้าเธอนี้อยู่นอกขอบเขตความเข้าใจของเธออย่างเห็นได้ชัด! ดูจากดวงตา มันไม่ใช่ซอมบี้ระดับสูง ดูจากสภาพร่างกาย มันก็ไม่ใช่ซอมบี้กลายร่าง…มันก็เป็นแค่ซอมบี้ธรรมดาที่รูปร่างภายนอกไม่ได้มีอะไรผิดปกติ แต่กลับไม่ได้มีปัญหาเรื่องสติปัญญาที่ต่ำกว่าซึ่งเป็นจุดด้อยของเผ่าพันธุ์ซอมบี้เลย!
ล่อลวงศัตรูให้เข้ามาติดกับ ส่งเสียงลวงทิศ ยื่นเท้าเข้ามาขัดขา…ทั้งหมดนี้มันใช่เรื่องที่ซอมบี้ตัวหนึ่งทำได้ที่ไหนกัน!
เด็กสาวรู้ว่าตัวเองพลาดท่าแล้ว แต่เธอไม่เข้าใจเลยซักนิดว่าเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่!
“ของสะสม” ทุกตัวที่อยู่ในชั้นนี้เป็นเหมือนของเล่นสำหรับเธอ ถึงแม้ของเล่นตัวนี้จะมีพฤติกรรมที่ผิดปกติไปบ้าง แต่เธอก็ไม่คิดว่ามันต่างจากซอมบี้ตัวอื่นมากมาย
แต่เธอไม่เคยคาดคิดว่าการเล่นครั้งนี้จะไม่สนุกเลยซักนิดเดียว!
เธอหวาดกลัวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ร่างกายกำลังสั่นเทิ้มเบาๆ อย่างควบคุมไม่อยู่
ตอนนี้ ซอมบี้ตัวนี้กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ดวงตาสีแดงก่ำกำลังจ้องมองมาที่เธอ…
ทว่าเด็กสาวกลับไม่รู้เลยว่า ความจริงคนที่กำลังมองเธอไม่ใช่ซอมบี้แต่อย่างใด แต่เป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่หลังซอมบี้ตัวนี้ต่างหาก…
“กลัวแล้วหรอ?”
หลิงม่อส่ายหัว
หวาดกลัวก็เป็นเรื่องธรรมดา มนุษย์ถูกซอมบี้จับตัวได้ จุดจบย่อมไม่สวย หากเป็นคนที่มีจินตนาการขึ้นมาหน่อย ก็อาจถึงขั้นนึกภาพวินาทีที่ตัวเองถูกฉีกทึ้งร่างทั้งเป็นก่อนตายได้เลย การตายอย่างนี้ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าสยดสยองสุดๆ สำหรับมนุษย์ ไม่มีใครอยากเห็นตัวเองกลายเป็นอาหาร ในขณะที่โลกทุกวันนี้สำหรับมนุษย์ กลับกลายเป็นเหมือนสถานที่ที่เปิดให้ซอมบี้ “กินคน”
เนื่องจากเมื่อกี้เธอถูกหลิงม่อกดหน้ากับพื้นเต็มๆ ตอนนี้ใบหน้าของเด็กสาวจึงมีคราบฝุ่นเลอะติดหน้าเต็มไปหมด
บวกกับดวงตาที่กำลังเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัวของเธอ ตอนนี้สภาพของเธอจึงต่างจากเมื่อกี้ไม่น้อย
แน่นอนหลิงม่อไม่มีทางทำเรื่องอย่างการฉีกร่างเด็กสาวด้วยมือเปล่า อย่างมากเขาก็เคยฉีกแต่เสื้อผ้าเท่านั้น ไม่เคยฉีกร่างใครซักหน่อย…
“ชั้นนี้น่าจะมีแค่เด็กผู้หญิงคนนี้ กับคนที่อยู่ในห้องอยู่กันแค่สองคน…”
หลิงม่อครุ่นคิด แล้วจู่ๆ ก็เอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋าของเด็กสาว
เห็นหลิงม่อยื่นมือเข้ามา เด็กสาวพลันยืดเกร็งปลายเท้า ขอบตาก็เริ่มแดงรื้นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
“ถึงจะน่าขายหน้ามาก…แต่ฉันไม่อยากถูกกินจริงๆ นะ!”
หลิงม่อเห็นเด็กสาวทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ก็อึ้งไปชั่วขณะ
“ไม่ใช่มั้ง…”
ทำไมพริบตาเดียวก็กลายเป็นร้องไห้ขี้มูกโป่งไปซะแล้ว…
เด็กสาวเห็นมือของหลิงม่อชะงักลง น้ำตาของเธอก็ยิ่งไหลเร็วขึ้นกว่าเดิม
ถึงจะไม่รู้ว่าทำไมซอมบี้ตัวนี้ถึงได้หยุด แต่ที่มันหยุดก็หมายความน้ำตาใช้ได้ผล หยุดร้องไม่ได้เด็ดขาด!
เด็กสาวจ้องหลิงม่อด้วยใบหน้านองน้ำตา เธอรู้สึกเหมือนตัวเองมองเห็นความหวังเลือนรางแล้ว
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว ซอมบี้ร้องไห้ไม่เป็นไง มันต้องไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ ดวงตาที่ได้กลายเป็นบ่อน้ำไปได้แน่ๆ!
พอเห็นเด็กสาวร้องไห้หนักขึ้นเรื่อยๆ หลิงม่อก็ขมวดคิ้วแน่น
เขายังไม่ทันได้ทำอะไรเลยนะ ร้องไหเร็วเกินไปหรือเปล่า!
แถมทั้งๆ ที่เขาหยุดแล้ว ทำไมเธอกลับร้องไห้ขึ้นมาจริงๆ ซะล่ะ?
“เด็กสาวที่อยู่ในวัยสดใสมักเข้าใจยากอย่างนี้เสมอหรอ…”
หลิงม่อครุ่นคิด จากนั้นก็เอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋า แล้วหยิบบางสิ่งออกมาให้เธอ
เด็กสาวกำลังร้องไห้อย่างเข้าถึงอารมณ์ ไม่คิดว่าจู่ๆ ซอมบี้จะยื่นมือมาที่ใบหน้าเธอ จึงตกอกตกใจยกใหญ่
“จะขุดบ่อน้ำไม่ได้นะ!”
เธอตะโกนเสียงเบาออกไป แต่ไม่นานก็พบว่าดูเหมือนตัวเองจะเข้าใจผิดไป…
บนฝ่ามือที่แบออกของซอมบี้ กลับเป็นลูกอมเม็ดหนึ่ง!
และลูกอมเม็ดนั้นก็เป็นเม็ดที่เธอขว้างออกไปเพื่อหยั่งเชิงก่อนหน้านี้ ไม่คิดเลยว่าจะถูกซอมบี้ตัวนี้เก็บไว้ได้
แต่ว่า…ทำไมซอมบี้ถึงได้เก็บลูกอมไว้ในกระเป๋า!
“อีกอย่างทำไมต้องเอามาให้…ห๊ะ เอาให้ฉัน?”
เด็กสาวเบิกตากว้างจ้องลูกอม แล้วเงยหน้ามองซอมบี้
พอเห็นซอมบี้ยกมือขึ้นเล็กน้อย เด็กสาวก็มั่นใจในการคาดเดาของตัวเอง
ลูกอมเม็ดนี้ให้เธอจริงๆ!
“แต่ทำไมล่ะ? ทำไมต้องให้ลูกอมกับฉัน? คือว่า…หรือว่า…อยากให้ฉันหยุดร้องไห้งั้นหรอ?!”
เด็กสาวอ้าปากค้าง สายตาที่จ้องซอมบี้ก็กลายเป็นอึ้งสนิท
ตอนนี้เธอไม่รู้แล้วว่าตัวเองควรประหลาดใจกับเรื่องไหนดี เรื่องที่ซอมบี้รู้จักการปลอบใจคน หรือเรื่องที่ไม่คาดคิดว่าตัวเองจะถูกซอมบี้ปลอบใจดี?
“หื้ม? ไม่ร้องแล้ว ได้ผลจริงๆ ด้วยแฮะ…”
หลิงม่อพยักหน้าอย่างพึงพอใจ จากนั้นก็ยัดลูกอมลูกนั้นใส่หมวกฮู้ดที่ไถลลงมาของเด็กสาว
เสี้ยววินาทีที่ฝ่ามือพุ่งผ่านใบหูของเด็กสาวไป เธอตัวสั่นงันงกอย่างเห็นได้ชัด
ตอนนี้เหมือนเธอจะรู้แล้วว่าซอมบี้ตัวนี้ไม่ได้ตั้งใจจะกินเธอ…
“นาย…นายฟังภาษาคนรู้เรื่อง?” เด็กสาวรวบรวมความกล้า แล้วถามขึ้น
พอเห็นซอมบี้ไม่พูดอะไร เด็กสาวก็รีบพูดต่อ “นายวางใจได้ ฉัน…ฉันไม่หนีหรอ”
“นายเข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหมล่ะ? ถ้านายพูดไม่เป็น…ก็ส่ายหน้าตอบ?”
หลังพบว่าซอมบี้ตัวนี้ไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบที่รุนแรง เด็กสาวก็เริ่มมีความกล้ามากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่นานเธอก็กลับไปเป็นเหมือนก่อนหน้านี้ ความจริงเด็กสาวคนนี้ถือว่ามีความกล้าบ้าบิ่นมากอยู่แล้ว ถ้าไม่อย่างนั้นคงไม่มีทางมอง “ของสะสม” พวกนี้เป็นของเล่นไปได้แน่นอน แถมยังถึงขั้นออกมาปั่นหัวหลิงม่อด้วยตัวคนเดียว
เล่นสนุกจนพลาดท่าหนึ่งครั้งทำให้เธอหวาดกลัวได้เพียงชั่วคราว แต่หลังจากที่พบว่าตัวเองไม่มีอันตราย นิสัยเดิมของเธอก็โผล่ออกมาอีกครั้ง
“…” หลิงม่อรู้สึกเอือมเล็กน้อย เป้าหมายของเขาคือเอกสารที่อยู่หลังประตูบานนั้น ไม่ใช่เด็กสาวคนนี้เสียหน่อย…
วิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็คือตบเธอให้สลบเหมือดในฝ่ามือเดียว แต่พอได้ยินเสียงเด็กสาวเอาแต่ถามโน้นถามนี่ไม่หยุด หลิงม่อกลับคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
“เธอเป็น…ใคร?” หลิงม่อจงใจพูดช้าๆ ออกไป
เด็กสาวอึ้งไปก่อน จากนั้นก็ร้องขึ้นด้วยดวงตาเป็นประกาย “นายพูดเป็นจริงๆ ด้วย! เก่งจัง เป็นซอมบี้กลายร่างที่กลายพันธุ์ส่วนสมองหรอ? ถ้าเขารู้ว่ามีผลงานประเภทนี้อยู่ด้วย ต้องดีใจมากแน่ๆ! แต่นายไม่เห็นเหมือนตัวทดลองของชั้นนี้เลย นายมาจากไหน?”
“…เธอถามมากเกินไปแล้ว ตอบฉันมา” หลิงม่อกลอกตาขาว
เธอยังถูกฉันบีบคออยู่นะโว้ย จริงจังหน่อยจะได้ไหม!
นี่สินะที่เขาเรียกว่าแผลหายแล้วลืมความเจ็บปวดน่ะ! จิตแข็งขนาดนี้ ไม่น่าล่ะถึงได้ทำตัวเป็นวิญญาณอยู่ในชั้นนี้ได้
“นายอย่าเพิ่งโกรธสิ!” เด็กสาวรีบพูดเสียงเบาทันที จากนั้นก็ตอบคำถามเขาว่า “ฉันชื่อหลัน…นายเรียกฉันว่าหลันหลันก็ได้ นายล่ะ? อ้อฉันลืมไป นายอาจจะไม่มีแม้แต่หมายเลขประจำตัวเลยก็ได้นี่นะ…”
“พูดอะไรไม่มีความเกรงใจเลยซักนิด…” แน่นอนหลิงม่อไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องอย่างนี้อยู่แล้ว สถานะซอมบี้ ดูเหมือนจะมีประโยชน์กับเขามากในตอนนี้ เด็กสาวคนนี้คงไม่มีทางรู้ว่าซอมบี้ก็หลอกถามเป็นสินะ? เขาครุ่นคิด แล้วถามต่อว่า “เขาคนนั้น…เป็นใคร? ทำไมต้องดีใจเรื่องของฉัน?”
“เขาหรอ! เอาอย่างนี้…ให้ฉันพานายไปเจอเขาไหม?” เด็กสาวกลอกตาไปมา แล้วพูดขึ้น
หลิงม่อนึกขำในใจ พริบตาเดียวเด็กสาวคนนี้ก็คิดจะหลอกเขาเสียแล้ว…
“เอาไหมล่ะ?” เด็กสาวถามอย่างคาดหวัง
“…” “เขา” ที่เธอพูดถึงต้องเป็นนักวิจัยคนนั้นอย่างแน่นอน บอกตามตรง ความจริงหลิงม่อก็อยากรู้เรื่องเขามากเหมือนกัน
แต่เด็กสาวกล้าเสนอขึ้นมาอย่างนี้ ก็แสดงว่าเธอมีวิธีรับมืออยู่แล้วแน่ๆ ทันทีที่ไปเจอนักวิจับคนนั้น เป็นไปได้ว่าเธออาจจะหนี และหันกลับมาเล่นงานเขาแทน
เด็กสาวที่กล้าล่อลวงซอมบี้ หลิงม่อไม่คิดว่าเธอจะเป็นเด็กผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งอย่างแน่นอน
“ใช่แล้ว นายบอกฉันหน่อยได้ไหม ว่านายหนีรอดจากน้ำมือของคุณแขนยาวมา…ไม่ใช่สิ นายชนะคุณแขนยาวได้ยังไง? ฉันเข้าๆ ออกๆ แค่แป๊บเดียว ทำไมออกมาทุกอย่างก็ไม่เหมือนเดิมแล้วล่ะ…” สีหน้าของเด็กสาวกลับดู “ไร้เดียงสา” มากจริงๆ
“แค่เข้าๆ ออกๆ ทีเดียวก็ทำให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นได้มากมาย บางทีมีเด็กเพิ่มขึ้นมาก็ยังไม่ใช่เรื่องน่าแปลก” หลิงม่อตอบอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์
“หื้ม?” คราวนี้สีหน้าของเด็กสาวดูไร้เดียงสาขึ้นมาจริงๆ เธอไม่เข้าใจที่เขาพูดเลยซักนิด…
หลิงม่อจ้องหน้าเด็กสาว แล้วจู่ๆ ก็ดึงตัวเธอลงมาจากบนผนัง
“ไปเจอเขา” หลิงม่อบอก
ตอนแรกเด็กสาวมีท่าทีตื่นตระหนก แต่พอได้ยินเขาพูด ก็รีบเผยสีหน้ายินดีออกมาทันที
มุมปากของเธอยกยิ้มขึ้นเบาๆ ร่างจริงของหลิงม่อเห็นแล้วก็หัวเราะขำกับท่าทางของเธอ
มาดูว่าใครจะเป็นคนชนะในเกมครั้งนี้…
—————————————————————————–