จู่ๆ บรรยากาศในห้องผู้ป่วยก็เงียบกริบขึ้นมาทันใด…
ผ่านไปครู่ใหญ่ พยาบาลสาวที่ตอนแรกยังทำหน้าตกตะลึงก็เลิกแสร้งตีหน้าเศร้าอย่างจำยอม แล้วจ้องหน้าหลิงม่ออย่างเย็นชาบอกว่า “โลกมายาเป็นตัวแทนความมุ่งมั่นของฉันอยู่แล้ว ที่นายถามอย่างนี้ก็ไม่ได้ผิด แต่ในเมื่อนายไม่รู้ตำแหน่งของ ‘ฉัน’ทำไมไม่ไปหลบอยู่ในสถานที่ปลอดภัยก่อนล่ะ? แน่นอนว่านายจะลองออกจากที่นี่ก็ได้…ถ้านายทำได้ล่ะก็นะ”
ร่างมายาพูดเสียงกลั้วหัวเราะหยันๆ คำพูดคำจาแฝงไปด้วยการข่มขู่
ทว่าความจริง ณ สถานที่หนึ่งในชั้น 5 ชายคนนั้นกลับกำลังสูดควันบุหรี่เต็มปอด “เชี่ย เจ้าหมอนี่มันเกินคาดจริงๆ ตามหลักแล้ว คนที่ไม่ได้เจอสาวงามมาเกือบหนึ่งปี จู่ๆ เห็นสาวงามตัวเป็นปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า ถึงจะแค่เป็นอาหารตาเฉยๆ ก็ต้องมองกันนานหน่อยหรือเปล่า? ถึงจะไม่สนใจเรื่องความงาม แต่ฉันก็เล่าเรื่องที่น่าสนใจให้ฟังอยู่ไม่ใช่หรือไง? ไม่ได้ดูละครมาตั้งเป็นปี ใจคอจะไม่อยากดื่มด่ำกับเรื่องเล่าของฉันหน่อยหรอ? ช่างไร้อารมณ์จริงๆ ช่างเป็นคนที่ไร้อารมณ์…”
“อะไรอีกล่ะคราวนี้?” เด็กสาวถาม
“ก็หมอนี่น่ะสิ พิลึกคน! ฉันอุตส่าห์เล่นงานจุดอ่อนสำคัญสองประการของมนุษย์แล้ว แต่เจ้านั่นกลับไม่สะเทือนเลย!” ชายคนนั้นพูด
“นายหยุดเล่นได้แล้ว” เด็กสาวเอือม “มันเป็นเพราะทัศนคติด้านความงามกับอารมณ์ขันของนายมีปัญหาต่างหาก…”
ชายหนุ่มสูบบุหรี่เต็มปอดอีกครั้ง จากนั้นก็พ่นควันออกมาดัง “ฟู่ว” บอกว่า “ก็ได้ ดูเหมือนโลกมายาจะใช้ไม่ได้ผลแล้ว…”
“ก็บอกแล้วว่าเต้นรูดเสาน่าจะได้ผลดีกว่า…” เด็กสาวแนะนำ
“เดี๋ยวๆๆ เป็นเด็กเป็นเล็กไปเรียนเรื่องแบบนี้มาจากที่ไหนกัน…อีกอย่างนะ! โลกมายาถูกสร้างขึ้นจากพื้นฐานจินตนาการของฉันนะ!”
“นายก็คิดเป็นแต่เรื่องผีๆ งั้นสิ…”
“หยุด พอเลย! ฉันเตรียมไม้เด็ดไว้เผด็จศึกแล้ว!” จู่ๆ ชายหนุ่มก็พูดหนักแน่น พร้อมตบหน้าขาตัวเองดังป๊าบ
ขณะเดียวกัน หลิงม่อก็กำลังพูดอย่างจี้ถูกจุดสำคัญว่า “หากเป็น ‘ความมุ่งมั่น’ ไม่มีทางสื่อสารกับฉันได้แน่นอน ดังนั้นแกคงเป็น ‘ความคิด’ที่เกิดในชั่วขณะหนึ่งมากกว่า”
หลิงม่อคิดว่าการสร้างโลกมายาก็เหมือนกับการฝัน เพียงแต่คนที่กำลังฝันนั้นมีพลังจิตแกร่งมากพอที่จะทำให้ผู้อื่นได้รับผลกระทบจากความฝันของตัวเอง ในขณะที่ตัวเองนั้นอยู่นอกโลกแห่งความฝัน
ยิ่งมีพลังสูง โลกแห่งความฝันนี้ก็จะยิ่งสมจริง ผลกระทบที่ได้รับก็จะยิ่งรุนแรงขึ้นเช่นกัน
ทว่าสถานการณ์ของผู้สร้างโลกแห่งความฝันกับผู้ถูกดึงเข้าสู่โลกแห่งความฝันนั้นไม่ได้ดำเนินไปพร้อมกัน โลกแห่งความฝันที่ผู้อื่นเห็นอาจถูกสร้างเสร็จก่อน โดยที่ตอนนี้ความคิดของผู้สร้างโลกแห่งความฝันกลับไม่ได้อยู่ในโลกแห่งความฝันครั้งนี้แล้ว แต่ในอีกด้าน ผู้สร้างโลกแห่งความฝันนั้นสามารถปรากฏตัวทุกที่ในโลกแห่งความฝันด้วยรูปร่างแบบไหนก็ได้ และเขาก็สามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างในโลกแห่งความฝันได้ เพื่อสร้างผลกระทบต่อผู้ถูกดึงเข้ามา
ร่างมายาพยาบาลสาวก็เช่นกัน เพราะการปรากฏตัวของมันไม่สมเหตุสมผลแต่แรกอยู่แล้ว
ตามนิสัยเดิมของผู้สร้างโลกมายาคนนี้ ตอนแรกพยาบาลตรงหน้าเขาน่าจะเป็น “วิญญาณหลอน” ถึงจะถูก…
เรื่องเล่าคนไข้ตายเพราะถุงฉี่แตกนี่ เป็นเรื่องด้นสดกันเห็นๆ…
“ต้องตกลงไปท่าไหนถึงได้ทำให้กระเพาะปัสสาวะแตกได้กัน…” หลิงม่ออดคิดไม่ได้ “แต่ที่จู่ๆ อีกฝ่ายก็หันมาพุ่งเป้าความสนใจมาที่ฉันอย่างนี้ ก็แสดงว่าเขาก็ตั้งใจจะถ่วงเวลาผู้บุกรุกอีกคนเหมือนกันงั้นหรอ…หรือว่า จับตัวได้แล้วกันแน่?”
“ไม่หรอก ถ้าจับได้แล้ว คงไม่ถ่วงเวลาฉันต่ออย่างนี้แน่…”
คิดมาถึงตรงนี้ หลิงม่อก็คลายใจลงเล็กน้อย สีหน้าที่มองหน้าพยาบาลสาวจึงสงบนิ่งลงไม่น้อย “ไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร ฉันแค่อยากบอกว่า…”
เสียงพูดยังไม่ทันจบ ทันใดนั้น หลิงม่อก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสเยือกเย็นที่พุ่งเข้ามาจากด้านหลัง จึงรีบหันกลับไปมอง
ขณะเดียวกันพยาบาลสาวเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา และพุ่งเข้าไปหาหลิงม่ออย่างรวดเร็ว
“โลกมายาใช้ไม่ได้ผล แต่ยังไงที่นี่ก็เต็มไปด้วยพลังจิตของฉัน นายไม่รู้เรื่องนี้หรือไง?”
พยาบาลหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ร่างกายของมันบิดเบี้ยว ส่วนหัวขยายใหญ่ขึ้นทันที ริมฝีปากสีแดงอ้ากว้าง ราวกับต้องการจะกลืนกินหลิงม่อลงไปทั้งเป็น
และสิ่งที่หลิงม่อหันกลับไปเห็น คือกำแพงที่กำลังพุ่งเข้ามาด้วยความเร็ว
“โจมตีทางจิตงั้นหรอ?” หลิงม่อรู้ทันที
ร้ายกาจมากจริงๆ ด้วย!
นอกจากโลกมายาที่สมจริงแล้ว ยังมีพลังโจมตีทางจิตอีกด้วย…
ทันทีที่มีคนหลงเข้ามาในโลกมายา หากถูกเขาโจมตีติดต่อกันไม่กี่ครั้ง ถึงแม้จะไม่กลายเป็นคนสติเลอะเลือนก็คงจะหมดความสามารถในการขัดขืนไปเลย พอถึงตอนนั้นเมื่อโลกมายาหายไป เขาก็จะสามารถใช้มีดแทงคนคนนั้นให้ตายได้ง่ายๆ
“วางใจ ฉันแค่จะทำให้นายนอนพักซักหน่อย ฉันยังมีเรื่องต้องจัดการ เสร็จเรื่องแล้วพวกเราค่อยมาเล่นกันต่ออีกหน่อย…”
เสียงหัวเราะของพยาบาลสาวได้กลายเป็นเสียงผู้ชายไปแล้ว และฟังออกเลยว่า เขากำลังย่ามใจสุดๆ…
“ชิท ที่แท้ก็เป็นพวกโรคจิต…”
เสียงสบถของหลิงม่อ ทำเอาเงาร่างของอีกฝ่ายเกือบสลายหายไป
“เขาเรียกว่ากลยุทธ์ต่างหาก!”
ปากกว้างๆ ของพยาบาลสาวงับลงไปทันที ขณะเดียวกันกำแพงด้านหลังก็กำลังพุ่งเข้ามาหาหลิงม่ออย่างรวดเร็ว
ในช่วงเวลาวิกฤต ทันใดนั้น หลิงม่อกลับกระโดดถอยหลัง และไปยืนอยู่อีกด้านหนึ่งของห้องผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว
เมื่อเขากระโดดออกจากวงโจมตี พยาบาลสาวก็กระแทกชนเข้ากับกำแพงที่พุ่งเข้ามาอย่างจัง…
“มันตายรึยัง?” อวี๋ซือหรานถามอย่างตื่นเต้น
“แน่นอนว่ายัง พวกนั้นเป็นพลังจิตของเขาเองทั้งนั้น อย่างมากก็แค่สูญเสียพลังจิตไปเท่านั้นแหละ เพียงแต่ไม่คิดว่าจู่ๆ เขาจะเกิดเป็นบ้าขึ้นมากะทันหัน ฉันยังพูดไม่จบเลย” หลิงม่อบอก
“นายจะพูดอะไร?” เฮยซือถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
“จะบอกว่าความจริงแล้วฉันแค่ผ่านมา…ขอเดินดูรอบๆ ก็จะไปแล้ว” หลิงม่อบอก
“ฉันไม่เชื่อหรอก…อีกอย่างพวกเขาเป็นคนของนิพพานทั้งนั้น อย่าบอกนะว่านายไม่มีความคิดที่อยากจะกำราบศัตรูเลยซักนิดน่ะ?” เสียงหัวเราะของเฮยซือแฝงไปด้วยเลศนัย
หลิงม่อมุมปากกระตุกยิกๆ “ดูสถานการณ์ก่อนแล้วกัน…พวกเขามีคนมากกว่า แต่ดูเหมือนในโลกมายาจะไม่มีใครซ่อนตัวอยู่ ฉันรู้สึกว่ามันต่างจากที่ฉันคิดไว้เล็กน้อย”
“มันจะเป็นยังไงได้อีกล่ะ…เดี๋ยวนะ สองคนนั้นกลับมาแล้ว!” จุ่ๆ เฮยซือก็ตะโกนขึ้นมา จากนั้นก็เงียบหายไป
หลิงม่อรู้ว่าเธอไปถ่วงเวลาสองคนนั้นแล้ว จึงเริ่มเคลื่อนไหวเร็วขึ้นด้วย
ตอนนี้เขากลับมาอยู่บนทางเดินแล้ว เมื่อเขายืนอย่างมั่นคงก็แผ่หนวดสัมผัสทางจิตออกไปทันที
การใช้พลังจิตสำรวจตอนนี้อาจดูเป็นการฉวยโอกาสเล็กน้อย เพราะอีกฝ่ายเพิ่งเผาผลาญพลังจิตจำนวนมากไป และไม่คาดคิดว่าเขาจะเลือกใช้พลังจิตสำรวจในเวลาอย่างนี้…
หนวดสัมผัสที่เขาแผ่ออกไปในตอนแรกเพียงแสดงเจตนาทำนองว่า “ฉันจะจู่โจมทางจิต” เท่านั้น แต่เขากลับไม่เคยเผยพลังจิตสำรวจให้อีกฝ่ายรู้เลยซักครั้ง
ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะเตรียมป้องกันตัวอยู่เสมอ แต่ในเวลาอย่างนี้เขากลับไม่มีพลังจิตมากพอ
“เจอแล้ว!”
ไม่นานดวงแสงแห่งจิตที่มีลักษณะพิเศษก็ถูกพบเจอ หลิงม่อเผยรอยยิ้มแห่งความยินดีออกมาทันที
ถึงแม้เป็นไปได้มากว่าสวี่ซูหานอยู่ที่นี่ แต่หลิงม่อเองก็ไม่ใช่ไม่เคยคิดว่าตัวเองอาจ “บุกเข้ามาในถ้ำศัตรู แต่กลับพบว่าเปิดประตูผิดบาน”…
ดูจากคลื่นดวงจิต ตอนนี้สวี่ซูหานน่าจะอาการไม่ดี
ทว่าความเร็วในการเคลื่อนไหวของเธอสูงมาก นี่อาจเป็นสาเหตุที่ถึงอีกฝ่ายจะขังเธอไว้ในนี้ได้ แต่กลับไม่สามารถจับตัวเธอได้ซักทีก็ได้
อีกอย่างดูจากท่าทีที่ไม่ได้เร่งรีบอะไรของอีกฝ่าย คิดว่าคงกำลังรอให้สวี่ซูหานหมดแรง หรือไม่ก็คลุ้มคลั่งจนอกแตกตายไปเอง…
“น่าเสียดายที่เธอเป็นซอมบี้ ต่อให้รอยังไงเธอก็ไม่มีวันหมดแรงหรอก…แต่ไม่ได้เจอกันแค่แป๊บเดียว ทำไมเธอถึงได้เร็วขึ้นกว่าเดิมแล้วล่ะ…” หลิงม่อคิดอย่างตะลึงเล็กน้อย
ฉวยโอกาสที่อีกฝ่ายยังไม่ทันตั้งตัว หลิงม่อเร่งความเร็วพุ่งเข้าไปหาดวงแสงแห่งจิตดวงนั้นทันที
และตอนนี้ ดวงตาของเขาก็มองเห็นสิ่งของข้างทางมากมายไหลผ่านไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว…
ทันใดนั้น มีศพศพหนึ่งร่วงลงมาจากบนเพดาน ขณะเดียวกันก็มีแขนข้างหนึ่งพุ่งออกมาจากประตูห้องข้างทางดัง “สวบ” แล้วยังมีศีรษะของ “วิญญาณหลอน” ผุดขึ้นมาจากพื้นด้วย…
ขณะที่หลิงม่อย่ำหัวของ “วิญญาณหลอน” เจ้าวิญญาณหัวล้านนั่นก็ร้อง “อ๊าก”
“โธ่เว้ย เจ้าหมอนี่ตอบสนองเร็วมาก!” ชายหนุ่มยืดศีรษะตรง ท่าสูบบุหรี่ของเขาชะงักไปทันที
“เดี๋ยวก่อน เขากำลังสำรวจที่นี่! เขาหลอกฉัน!”
ชายหนุ่มอึ้งไปทันที บอกว่า “ไม่ใช่แล้ว หมอนี่ไม่มีทางเป็นคนของนิพพานแน่ๆ!คนของนิพพานอย่างมากก็แค่ยื่นเท้าเข้ามาแทรก ไม่มีทางมาไม้แข็งอย่างนี้”
เด็กสาวคนนั้นรีบลุกพรวด “ไม่ใช่คนของนิพพาน ถ้าอย่างนั้น…หืม? หรือว่าเขาเป็นพวกเดียวกับยัยผู้หญิงบ้าคนนั้น!”
“น่าจะ…” คิดมาถึงตรงนี้ สีหน้าของชายหนุ่มก็ยิ่งตึงเครียดขึ้น
เมื่อเขาหันหน้าไป ในห้องกลับไร้ซึ่งเงาคนแล้ว เหลือเพียงประตูห้องที่ถูกเปิดทิ้งไว้…
“เฮ้ย ที่ผ่านมาไม่เคยเข้าไปในโลกมายาของฉันเลยไม่ใช่หรอ?” ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเอง
………..
“ไม่คิดจะขวางแล้วหรอ?” ระหว่างที่กำลังวิ่งพุ่งไปหาสวี่ซูหาน หลิงม่อก็อดคิดขึ้นมาไม่ได้
ทว่าไม่นานเขาก็พบว่า เหมือนอีกฝ่ายได้ปล่อยหมัดเด็ดที่เหนือความคาดหมายออกมาแล้ว…
“โครม!”
เมื่อเสียงโครมครามดังขึ้น หลิงม่อก็ได้แต่เบิ่งตามองเด็กสาวคนหนึ่งซึ่งกำลังพุ่งตัวออกมาจากกำแพงด้านข้างที่แหวกออก …
—————————————————————————–