พริบตาเดียว เวลาได้ผ่านไปสองชั่วโมงแล้ว
แต่สำหรับเหล่าสมาชิกทีมทำลายล้าง มันช่างเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานเหลือเกิน…
“เงาร่างสีขาวนั้นกระโจนออกมาลอบโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถึงแม้ลอบโจมตีสำเร็จไม่กี่ครั้ง แต่หลายครั้งเข้าก็มีคนถูกลากตัวไป…ตลอดเส้นทาง พวกเราสูญเสียคนไปถึงสี่คนแล้ว” สมาชิกทีมคนหนึ่งที่ติดตามอยู่ข้างกายชายหนุ่ม ขมวดคิ้วพูดขึ้น
เขาหันไปมองเหล่าพรรคพวกที่ถอยมารวมกลุ่มกัน แต่สีหน้ากลับดูเหนื่อยล้า แล้วอดพูดขึ้นไม่ได้ว่า “รองหัวหน้าทีม ทำยังไงดี? ถ้าหากไล่ตามอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ ล่ะก็…”
ทำยังไงดี?
“ฉันก็อยากรู้เหมือนกันแหละโว้ย!”
ชายหนุ่มเกรี้ยวกราด และอารมณ์นี้ของเขาก็เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตามกาลเวลา
ตามต่อไป สัตว์กลายพันธุ์ตัวนั้นก็จะก่อกวนจากรอบทิศไปเรื่อยๆ แต่ถ้าหากไม่ตาม เขาก็ไม่อาจข่มกลั้นความโกรธแค้นนี้ไว้ได้
อีกอย่างสัตว์กลายพันธุ์ตัวนี้เคลื่อนไหวเร็วเกินไป และจากผลลัพธ์การใช้พลังจิตสำรวจของเขา บริเวณนี้อาจมีสัตว์กลายพันธุ์อยู่อีกหนึ่งตัว
ด้วยเหตุนี้ถึงแม้จะสามารถตรวจจับตำแหน่งได้ เขาก็ไม่กล้ามุ่งหน้าเข้าไปโจมตีทันที เพราะถึงอย่างไรภารกิจของพวกเขาก็ไม่ใช่การไล่ฆ่าสัตว์ประหลาด…
สัตว์กลายพันธุ์ทั่วไปไม่ว่าจะอาศัยการอำพรางตัวแบบไหน หลังจากโจมตีหลายครั้งก็จะต้องเผยช่องโหว่ให้เห็นบ้าง แต่เจ้าเงาร่างสีขาวที่ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มหญ้านี้กลับแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง มันไม่เพียงเลือกจังหวะโอกาสได้ดี แต่ยังอ่านจุดประสงค์ของพวกเขาออกด้วย และเพราะลักษณะเด่นนี้ ที่เป็นตัวกดดันทำให้เหล่าสมาชิกทีมทำลายล้างจำต้องละทิ้งความคิดที่จะสังหารมัน และหันมาตั้งรับแทน
โชคดีที่ในทีมมีหลายคนกระจายตัวออกไปอยู่รอบนอกแล้ว และหนึ่งในนั้นก็มีผู้หญิงที่ชื่อไคลี่รวมอยู่ด้วย
พวกเขาแต่ละคนล้วนมีความสามารถ จึงพอต้านทานสัตว์กลายพันธุ์ตัวนั้นไว้ได้ชั่วคราว
ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาคับข้องใจมากที่สุด ก็คือโชคชะตา! เขามั่นใจว่าพวกหลิงม่ออยู่ข้างหน้าพวกเขาไม่ไกลแน่นอน แต่เจ้าสัตว์กลายพันธุ์ตัวนี้กลับปล่อยคนกลุ่มหน้า แล้วหันมาหมายหัวคนมาทีหลังอย่างพวกเขาแทน!
“ไม่…อาจไม่ใช่โชคชะตาก็ได้ ไม่แน่ว่าเรื่องนี้อาจเกี่ยวข้องกับความลับบนตัวหมอนั่น! ถ้าไม่ใช่เพราะอย่างนี้ พวกเขาจะหนีรอดไปได้ยังไง!” ชายหนุ่มกัดฟันกรอดคิดในใจ จากนั้นก็ทำหน้าครุ่นคิด “ไม่น่าล่ะผู้บัญชาการหวังถึงได้ให้ความสำคัญขนาดนี้ แล้วยังเจาะจงเลือกสถานที่เป็นตำบลเล็กๆ ที่ไม่มีซอมบี้แห่งนั้นเป็นพิเศษ เพราะความจริงมันเป็นการจำกัดความสามารถของหมอนั่นครั้งใหญ่นี่เอง! ไม่ได้การ ต้องจับตัวเจ้าบ้านั่นให้ได้ ถึงจะไม่ใช่เพื่อผู้บัญชาการหวัง ฉันก็ต้องเค้นความลับออกมาจากปากเขาให้ได้! มีพลังพิเศษของฉันอยู่ หมอนั่นไม่มีทางปิดบังได้แน่! ที่เขารอดมาได้จนถึงตอนนี้ และสร้างความเดือดร้อนมากมายให้พวกเราทั้งที่กำลังหนี ทั้งหมดล้วนอาศัยความลับนั้น…ถ้าหากฉันได้มันมาด้วย ก็คงไม่ต้องหวาดกลัวซอมบี้อีกต่อไป…”
ชายหนุ่มเพิ่งจะตื่นเต้นได้ไม่กี่วินาที แต่แล้วก็ทำท่าคอตก
ยังจับคนไม่ได้ คิดเรื่องพวกนี้ไปจะมีประโยชน์อะไร!
“ต้องคิดหาวิธี…”
“ตามต่อไป! แต่คิดหาทางย้อนกลับไปบนถนนก่อน อยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้ว” ชายหนุ่มกำหมัดแน่น แล้วตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว
ในระหว่างไล่ล่า ในที่สุดพวกเขาก็เคลื่อนทัพถอย ถึงแม้จะเป็นการถอยไปตั้งหลัก แต่ความจริง การทำอย่างนี้ก็เท่ากับว่าละทิ้งความตั้งใจที่จะจับตัวพวกหลิงม่อทันทีนั่นเอง…
“ไล่ตามไปติดๆ ไม่ได้ ขอเพียงหลีกเลี่ยงอันตรายเหล่านี้ก่อน ข้อได้เปรียบของฝ่ายเราก็จะยังอยู่” ชายหนุ่มคิดในใจ
การต้องควบคุมความปรารถนาในใจภายใต้สถานการณ์อย่างนี้ ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับชายหนุ่ม…
ยิ่งทีมที่เขาอยู่มีสภาพอนาถเท่าไหร่ ความคาดหวังในใจเขาก็ยิ่งสูง…
“อย่างนี้ดีแล้วล่ะ…” สมาชิกทีมคนนั้นถอนหายใจโล่งอก
ไม่ใช่ว่าเขามองไม่เห็นความอัดอั้นตันใจของรองหัวหน้าทีมท่านนี้ แต่เทียบการต้องถูกลากตัวไป เขายอมเห็นหน้าบึ้งๆ เพิ่มขึ้นอีกหน่อยจะเป็นไรไป…
“นี่ก็คือแผนที่แสดงตำแหน่งใช่ไหม…”
ไกลออกไป หลิงม่อหลับตาแล้วพึมพำกับตัวเอง จากนั้นก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้น
อยู่ห่างกันพันกว่าเมตรในป่ารกทึบ หลิงม่อสัมผัสถึงตัวตนพวกเขาได้เพียงรางๆ แต่เมื่อมีภาพฉายจินตนาการของเฮยซือ ทุกการเคลื่อนไหวของพวกชายหนุ่มจึงไม่อาจเล็ดลอดสายตาของหลิงม่อไปได้
ถึงแม้เขาจะอ่อนกว่าชายหนุ่มด้านพลังจิตสำรวจ แต่กลับมีกลยุทธ์ที่เหนือความคาดหมายอยู่ในกำมือ…
เมื่อคาดไม่ถึง ย่อมไร้การป้องกัน ในขณะที่สิ่งที่หลิงม่อตั้งตาคอย ก็คือโอกาสโต้กลับที่ดีที่สุด
อาศัยการลอบโจมตีทำให้พลังพวกเขาอ่อนลง และกัดกร่อนความอดทนพวกเขา นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งในแผนการของหลิงม่อเท่านั้น
สิ่งที่เขาต้องการทำจริงๆ ก็คือ…การโต้กลับ!
……….
“สวบ!”
เมื่อเสียงแหวกอากาศเบาๆ ดังมา พุ่มหญ้าพลันสั่นไหวเป็นระลอกคลื่น
“มาอีกแล้ว!”
สมาชิกทีมคนหนึ่งเพิ่งตะโกนร้อง ทันใดนั้นเสียง “ฉึก” ก็ดังมาจากอีกด้านหนึ่ง
ชายหนุ่มเพิ่งหันไป ก้ถูกหยดเลือดมากมายสาดกระเซ็นใส่ใบหน้าเต็มๆ
ขณะเดียวกัน สมาชิกทีมคนหนึ่งซึ่งอยู่รอบนอกสุดร้องตะโกนด้วยตกใจ แต่เมื่อทุกคนมองไป เขากลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเสียแล้ว
มีเพียงไคลี่คนเดียวที่ยกปืนขึ้นเล็งอย่างรวดเร็ว และรัวกระสุนใส่ทิศที่เสียงกรีดร้องหายไปสิบกว่านัด
หลายวินาทีผ่านไป ทันใดนั้น เงาดำกลุ่มหนึ่งถูกขว้างออกมาจากพุ่มหญ้า และร่วงลงบนพื้นข้างกายพวกเขาอย่างแรง
สมาชิกทีมคนหนึ่งก้าวถอยหลังด้วยความตกใจ แต่หลังจากเห็นว่าเงากลุ่มนั้นไม่เคลื่อนไหว เขาจึงชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ และจุดไฟดัง “แช็ก”
“เหวอออ!”
เมื่อเปลวไฟส่องสว่าง ใบหน้าที่ยังคงไว้ซึ่งความสิ้นหวังและหวาดผวาก็ได้ปรากฏสู่สายตาทุกคน ทั่วร่างกายเขาเต็มไปด้วยรูกระสุน ซึ่งเลือดยังคงไหลออกมาไม่หยุด ยิ่งไปกว่านั้น ร่างกายเขายังกระตุกสั่นเบาๆ อยู่
ไคลี่ค่อยๆ ลดปืนลง และขมวดคิ้วเบาๆ
คนอื่นๆ ต่างหันไปมองเธอเป็นตาเดียว พร้อมกับเผยสีหน้าหวาดกลัว ผสมแววตาเคืองขุ่น…
ทว่าสิ่งที่ทำให้ทุกคนหวาดผวายิ่งกว่า กลับเป็นศพอีกศพหนึ่ง…
ผู้ตายไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นสมาชิกคนที่ติดตามชายหนุ่มเมื่อกี้…หลังจากที่ตระหนักได้ถึงจุดนี้ สีหน้าของชายหนุ่มก็ยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเดิม
ทั้งสองอยู่ห่างกันไม่ถึงหนึ่งเมตร ถ้าหากเป้าหมายไม่ใช่สมาชิกคนนั้น แต่เป็นเขาล่ะก็…
“หลบได้ แต่จะได้รับบาดเจ็บ! ไม่…ไม่แน่ว่าอาจหลบไม่พ้นด้วยซ้ำ…” ชายหนุ่มคิดขณะที่ร่างกายเย็นสะท้านไปทั้งตัว
อย่างน้อยกว่าเขาจะรู้ตัว สมาชิกคนนั้นก็ถูกยิงไปแล้ว
ต้องบอกก่อนว่าในวินาทีที่เกิดเหตุการณ์ผิดปกติ ทุกคนล้วนอยู่ในสภาวะเตรียมตั้งรับอย่างเต็มกำลัง แต่อีกฝ่ายกลับยังคงสามารถเล่นงานเป้าหมายจนถึงแก่ชีวิตได้อย่างแม่นยำ…
นี่มันความสามารถในการตัดสินใจที่แม่นยำขนาดไหนกันแน่!
“เป็นกระสุนปืนไรเฟิล” สมาชิกคนหนึ่งนั่งลงตรวจสอบศพ แล้วบอก
“นี่มัน…บังเอิญงั้นหรอ?” มีคนพึมพำขึ้นมา สายตาเขาสะท้อนความหวาดกลัวอย่างสุดขีด
“ร่วมมือกับสัตว์กลายพันธุ์ เรื่องแบบนี้…”
สมาชิกทีมที่เหลือต่างพากันนิ่งเงียบกันหมด ไม่ว่าอีกฝ่ายจะทำได้ด้วยวิธีไหน แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ได้กระตุกต่อมความกลัวจากก้นบึ้งหัวใจพวกเขาจนสำเร็จ
“ถ้าหากพวกเราไม่ตามเข้ามาตั้งแต่แรก…” สมาชิกทีมคนหนึ่งพูดขึ้น แต่กลับถูกสายตาแหลมคมของชายหนุ่มทิ่มแทงทันที
สมาชิกคนนั้นใจเต้น “ตึกตัก” ทว่าเมื่อเขาหันหน้าไปทางอื่น กลับเห็นว่าคนอื่นๆ ต่างก็กำลังมีสีหน้าคล้ายกัน
ชายหนุ่มกัดฟันกรอด เพลิงโทสะลุกท่วมจิตใจ
“ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว…ไม่ นี่มันยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัว! ไม่เพียงทำให้พวกเราตื่นตระหนกและหวาดกลัว แต่ยังทำให้สมาชิกส่วนมากเกิดความคิดอยากถอย…” เขาก้มหน้ามองศพข้างเท้า แล้วคิดว่า “ถึงแม้ไม่รู้ว่าพวกมันทำอย่างนี้ได้ยังไง แต่อยู่ท่ามกลางป่ารกทึบอย่างนี้ การมองเห็นของพวกมันก็น่าจะถูกบดบังเหมือนกันถึงจะถูก แต่ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ พวกมันแค่ไม่สามารถแยกแยะเป้าหมายได้อย่างชัดเจน แต่กลับยังคงสามารถเล็งเป้าได้ในขั้นพื้นฐาน…”
“ยังมีศพนี้อีก…” ชายหนุ่มหันไปมองศพของสมาชิกที่ถูกไคลี่ยิงจนตายแล้วโยนกลับมา ร่างกายของสมาชิกคนนี้นอกจากรอยกระสุนก็มองไม่เห็นบาดแผลภายนอกอื่นอีก แต่ไม่ว่าอย่างไร ด้วยนิสัยของสัตว์กลายพันธุ์ มันไม่น่าจะโยนเหยื่อกลับมาอย่างนี้…
ทว่าไม่นานชายหนุ่มก็เลิกสนใจปัญหานี้ไปอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ผิดปกติ แต่สุดท้ายก็ทำได้เพียงสรุปว่าเป็นเพราะสัตว์กลายพันธุ์ตัวนี้มีระดับสติปัญญาสูงเท่านั้น…วิธีการของมันกับหลิงม่อมีจุดที่คล้ายกันอย่างน่าประหลาด นั่นก็คือ…กระตุ้นความหวาดกลัวของพวกเขา
สถานการณ์ตอนนี้ จะตามก็ไม่ใช่ ถอยก็ไม่เชิง…
“เขาไม่ได้เข้ามาซ่อนตัวในนี้ เพื่อที่จะหนี…” ชายหนุ่มพึมพำเสียงเบา
“พวกเราไปกันเถอะ” อยู่ๆ ไคลี่ก็พูดขึ้น
พอเห็นคนอื่นๆ ต่างมองมา เธอก็หัวเราะบอกว่า “จุดประสงค์ของอีกฝ่ายชัดเจนขนาดนี้แล้ว ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปพวกเราก็ต้องตกเป็นฝ่ายถูกกระทำตลอดไป ไม่ว่าจะระวังอีกแค่ไหน ก็หลีกเลี่ยงการถูกโจมตีไม่ได้อยู่ดี แถมแต่ละคนก็จะตกอยู่ในภวังค์หวาดผวา มัวแต่พะวงว่าคนที่จะถูกโจมตีเป็นลำดับต่อไปจะเป็นตัวเองหรือไม่…รสชาติที่ต้องรอคอยถูกฆ่าทีละคนๆ อย่างนี้ เดาว่าทุกคนคงไม่ใครชอบหรอกใช่ไหม?”
“ดังนั้น ให้แบ่งคนบางส่วนอยู่ที่นี่ต่อไป ขณะเดียวกันก็เลือกคนไม่กี่คนมุ่งหน้าไปไล่ล่า…แผนการทำสงครามด้วยอุบายโยนเหยื่อล่ออย่างนี้ เหมาะสมกับสถานการณ์ของพวกเราในตอนนี้ที่สุดแล้วไม่ใช่หรอ?”
—————————————————————————–