แม่ครัวยอดเซียน – ตอนที่ 294

หลานหลิงและจื่อถงได้ยินคำพูดของหลิวหลีแล้วอยากจะเอาปีบคลุมหัว พวกนางคิดมาตลอดว่าอีกฝ่ายเป็นแค่คนธรรมดา ใครจะไปรู้ว่าเป็นยอดฝีมือตัวจริง ผู้หยั่งรู้ฝาแฝด พูดให้ไพเราะก็คือมีผู้หยั่งรู้สองคน พูดให้ไม่น่าฟังก็คือ ความสามารถของหนึ่งคนไม่เพียงพอจึงต้องมีสองคน

“หลิวหลี ข้าขอความเมตตาเจ้า มู่ลี่ติดตามข้ามานาน เจ้าช่วยข้าดูทีว่าอนาคตของนางจะเป็นเช่นไร” เล่อถงพูดและทอดสายตามองมู่ลี่ที่กำลังตกตะลึง

“ชายาของจักรพรรดิ” หลิวหลีจ้องมู่ลี่อยู่นานก็พูดออกมาสองคำ

“มู่ลี่ เจ้าคงได้ยินแล้ว” เล่อถงพูด

“เจ้าค่ะ ขอบคุณราชาเซียนหลิวหลี” มู่ลี่ไม่เคยคิดเลยสักนิดว่าตนเองจะได้เป็นชายาของจักรพรรดิ ส่วนจะเป็นที่ไหนนั้นก็ช่าง นางพอใจกับผลลัพธ์นี้มาก

“พวกเจ้าออกไปได้” เล่อถงสั่ง

“หลิวหลี เจ้ามองอยู่นานเช่นนี้ ไม่รู้สึกแปลกๆอะไรเลยหรือ?” เล่อถงถามด้วยความสงสัย เขารู้สึกว่าการที่เขาถามหลิวหลีเช่นนี้ หลิวหลีกลับตอบกลับมาราวคุยเรื่องสัพเพเหระ ไม่มีอะไรเสียหาย เป็นอย่างนี้ไปได้อย่างไร

“แปลกอะไร” หลิวหลีขมวดคิ้ว นางรู้สึกสบายดีจะตายไป มีอะไรแปลกหรือ

“พระเจ้า หลิวหลี เมื่อครู่เจ้าพูดไม่หมดใช่หรือไม่” เล่อถงเข้าใจทันทีจึงถามอีกครั้ง ในเมื่อนังหนูก็ไม่ได้มีท่าทีอะไร

“อืม หมดหวังเรื่องบรรลุ แต่ก็จบลงด้วยดี” หลิวหลีพูดในสิ่งที่ไม่ได้พูดออกมา ไม่จำเป็นต้องบอกเจ้าตัว ไม่อาจบรรลุก็คงเพราะหมดหวังกับการบำเพ็ญเพียรในตอนนั้น

“จบด้วยดีหรือใช้ได้ทีเดียว เด็กนี่นับว่ายังพอใช้ได้ ถือว่าดีกว่าหลิวอิ๋งมาก ดูให้นางสักนิดก็คงได้” เล่อถงอธิบาย

“อย่างไรก็ได้” หลิวหลีรู้สึกไม่เป็นไรจริงๆ

“เช่นนั้น พวกเจ้าตัดสินใจจะไปที่ไหนต่อ ยังมีเวลาอีกสักพักกว่าจะถึงวันหายนะ” เล่อถงพูดพลางมองดูสีของท้องฟ้า

“สำหรับพวกข้าแล้ว จะไปที่ไหนก็ไม่สำคัญ เพราะพลังบำเพ็ญเพียรเพิ่งจะเพิ่มขึ้น ในช่วงนี้คงจะบรรลุขั้นไม่ได้แล้ว” หลิวหลีบอกว่าอาจจะไปท่องเที่ยว เพราะอย่างไรเสียก็คงไม่บรรลุขั้นพลังได้ในระยะเวลาอันสั้นนี้แน่

“จริงด้วย ส่วนเรื่องจะเป็นใครนั้น ในใจของหลิวหลีคงจะรู้ดี แต่ไม่พูดเท่านั้น” เล่อถงกล่าว

“ก็จริง ข้ารู้ว่าต้นเหตุอยู่ตรงไหน แต่ข้ากลับพูดไม่ได้ พูดไปก็ไม่มีคนเชื่อ” หลิวหลีพยักหน้า แค่ไม่มีใครเชื่อพวกเขา ต่อให้เล่อถงเซียนหยั่งรู้ดวงชะตาท่านนี้บอก จักรพรรดิแต่ละดินแดนก็คงจะไม่เชื่อกันทั้งหมด

อีกด้านหนึ่ง เด็กทั้งสามกลับมายังที่พัก

“มู่ลี่” จื่อถงเปิดปาก แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไร

“จื่อถง หลานหลิง แม้ว่าข้าจะไม่สามารถกลายเป็นผู้หยั่งรู้ได้ แต่อนาคตของข้าก็ไม่แย่นัก เจ้าก็ได้ยินแล้ว ชะตาของข้าคือเป็นชายาขององค์จักรพรรดิ” มู่ลี่กล่างพลางฝืนยิ้ม

“จริงๆแล้วพวกเราก็เหมือนกัน แม้ว่าข้ากับจื่อถงจะได้เป็นเซียนหยั่งรู้ฝาแฝด เจ้าก็รู้ดีว่าเป็นเพราะพวกข้าไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่เพียงคนเดียวได้ พูดง่ายๆก็คือ พวกเราล้วนเป็นล้มเหลว รวมถึงหลิวอิ๋งที่เพิ่งจากไปด้วย พวกเราทั้งหมด” หลานหลิงรู้สึกเศร้า ไม่แปลกที่ราชาเซียนหลิวหลีท่านนั้นจะรังเกียจพวกนาง ความสามารถของพวกนางนับว่าด้อยจริงๆ

“ก็จริง แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เรื่องที่พวกเจ้ากลายเป็นเซียนหยั่งรู้ดวงชะตาก็เป็นเรื่องที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ ต่อไปหากข้าต้องการความช่วยเหลือจากพวกเจ้าก็ห้ามปฏิเสธนะ” มู่ลี่พูดด้วยใบหน้าเรียบเฉย

“ได้ แต่พวกเราก็จะดูว่ามันเป็นเรื่องอะไร” จื่อถงพยักหน้า ออกตัวว่าจะไม่ช่วยโดยหน้ามืดตามัว

“จื่อถง เจ้าเข้มงวดเสียจริง คิดไม่ถึงว่าจะไม่ติดหลุมพรางของข้า” มู่ลี่จงใจทำหน้าเรียบเฉย

“ข้าก็แค่ว่าไปตามเนื้อผ้า แม้ว่าพวกเราจะสนิทสนมกันแต่จะถูไถไม่ได้ พวกเจ้าก็เห็นสภาพที่ไม่มั่นคงของเซียนหยั่งรู้ดวงชะตานั่นแล้ว พลังของข้ากับหลานหลิงสองคนถึงจะเทียบเท่าเซียนหยั่งรู้ได้ แถมไม่รู้อีกว่าต่อไปจะเป็นอย่างไรบ้าง?” จื่อถงพูดอย่างเคร่งเครียด ทำเอามู่ลี่กังวลจนตีหน้านิ่งต่อไปไม่ไหว ก็จริงจักรพรรดิเซียนเล่อถงไม่สามารถคงร่างผู้ใหญ่ไว้ได้นาน ร่างกายไม่มั่นคงอย่างมาก

“ขอโทษนะจื่อถง ข้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” มู่ลี่กล่าวขอโทษ พอพูดไปแล้วจริงๆการได้เป็นเซียนหยั่งรู้ดวงชะตาก็ไม่ใช่เรื่องดีขนาดนั้น

“ข้าไม่ได้โทษเจ้า มู่ลี่ ก็แค่ว่ากันไปตามเนื้อผ้า” จื่อถงพูดพลางส่ายหน้า หลานหลิงที่อยู่ข้างๆก็สับสนเช่นกัน มันก็จริงที่ตั้งแต่จำความได้เป้าหมายของพวกนางก็คือเป็นเซียนหยั่งรู้ดวงชะตา แต่เมื่อถึงวันที่ตัดสินจริงๆกลับไม่มีความมั่นใจเช่นนั้น ถึงขนาดสับสนจนไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป

บทสนทนาของทั้งสามคนเข้าสู่ทางตัน แต่บรรยากาศของอีกฝั่งหนึ่งก็ดีทีเดียว

“แปลว่าหลิวหลีตั้งใจจะกลับดินแดนอสูรเทพหรือนี่ ดีเหมือนกัน เฟิ่งอิงเสวี่ยตั้งครรภ์แล้ว ถือว่าเป็นปัญหาจริงๆ” เล่อถงพยักหน้า ถึงมังกรหงส์ปรองดองจะไม่ได้หมายถึงคู่รักมังกรและหงส์คู่นั้นก็จริง แต่ก็ไม่อาจมองข้ามประโยชน์ของพวกเขาได้

“จริงด้วย คำพูดก่อนนี้ของข้าทำให้อิงเสวี่ยคิดมาก ถึงข้าจะชักจูงจนดีขึ้นแต่ก็ยังน่าเป็นห่วงอยู่” หลิวหลีเป็นห่วงสหายที่ตั้งครรภ์เป็นคนแรกของนางมาก อย่างไรเสียอีกฝ่ายก็ถือว่ามีลูกเป็นคนแรกในบรรดาพวกเขา ทุกคนคาดหวังในเด็กคนแรกนี้อย่างมาก รอคอยการมาของเขา

“ถูกต้อง อสูรเทพตั้งครรภ์ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอสูรเทพขั้นสูงยิ่งยากขึ้นไปอีก หลิวหลีกลับไปดูพวกเขาก็ดีเหมือนกัน” เล่อถงไม่รู้สึกว่าการกลับไปของหลิวหลีที่ไม่เคยมีลูกมาก่อนจะช่วยอะไรได้ แต่กลับคิดว่าการกลับไปของนางถือเป็นเรื่องที่สมควรแล้ว

หนานกงเวิ่นเทียนนั่งฟังบทสนทนาของทั้งสองอยู่เงียบๆ เป็นเพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรแทรกเข้าไป อีกทั้งสายตาของเขาไม่เคยละออกจากหลิวหลีเลยแม้แต่น้อย

“อืม สงสัยเรื่องชีวิตที่เกิดใหม่มากจริงๆ” ที่จริงแล้วหลิวหลีไม่บอกว่าความคิดไร้สาระของตนในตอนนั้นแท้จริงแล้วมีมูลอยู่บ้าง แม้ว่าในทางสรีระศาสตร์จะบอกว่าเด็กจะได้รับพันธุกรรมจากพ่อมามากกว่าเล็กน้อย ในใจหลิวหลีกำลังคาดหวังให้คลอดออกมาเป็นมังกรน้อย แม้ปากนางจะบอกไปว่าต่อให้คลอดออกมาเป็นอะไรก็ช่าง แต่นางก็ยังคาดหวังให้เป็นมังกรน้อย นางผู้ชื่นชอบมังกรย่อมต้องหวังให้หลานเป็นมังกร

“ใช่ ชีวิตใหม่ทำให้คนรู้สึกคุ้มค่าที่จะรอคอย” เล่อถงบอกว่าตนเองก็รอคอยการมาถึงของชีวิตใหม่นี้เช่นกัน เรื่องแบบนี้ดูเหมือนว่าพอเริ่มพูดคุยแล้วก็ไม่มีที่สิ้นสุด ทั้งสองคนมีมุมมองเฉพาะของตนในเรื่องชีวิตใหม่นี้ ทำให้พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ความคิดของหนานกงเวิ่นเทียนพลันลอยขึ้นมาว่าหากพวกเขามีลูกที่หน้าตาเหมือนฮูหยินของตนคงจะดีทีเดียว แล้วเมื่อนึกถึงปัญหาเรื่องที่พวกเขาแต่งงานกันเร็วแต่ยังไม่มีลูกสักที อืม อย่างไรเสียในระยะเวลาอันสั้นนี้พลังบำเพ็ญเพียรก็คงเพิ่มไม่เท่าไหร่ จัดการปัญหาเรื่องลูกก่อนน่าจะดีกว่า ตอนนี้คุณสมบัติร่างกายของเขาก้าวกระโดดมากขึ้น ไม่แน่ว่าหากพยายามมากๆเข้าอาจจะมีลูกก็เป็นได้ ลูกที่หน้าตาเหมือนกับฮูหยินของเขา

“น้องหญิง พวกเราไปกันเถอะ” ต้องรีบกลับไปทำลูก จะมาเสียเวลาอยู่ที่นี่ไม่ได้

“เอ่อ ได้ เช่นนั้นเล่อถง พวกข้าขอตัวลา ขอบคุณมาก” หลิวหลีที่กำลังพูดคุยกับเล่อถงอย่างสนุกสนาน แต่จู่ๆสามีของนางเอ่ยปาก เช่นนั้นก็ควรบอกลาได้แล้ว ถึงแม้จะไม่เข้าใจเหตุผลที่สามีของนางอยากกลับอย่างกะทันหันเช่นนี้

“ได้ พวกเจ้าเดินทางปลอดภัยล่ะ” เล่อถงก็ตกใจเช่นกัน เหตุใดประโยคแรกที่พูดออกมาคำแรกก็เป็นคำบอกลา

หลังจากทั้งสองจากไป มู่ลี่ก็มาบอกลาเช่นกัน เล่อถงไม่พูดอะไร แม้ว่าเขาจะเป็นถึงเซียนหยั่งรู้ แต่ก็ไม่อาจเข้าไปแทรกแซงโชคชะตาได้มากนัก ทำได้เพียงบอกมู่ลี่ให้ดูแลตนเองให้ดี

แม่ครัวยอดเซียน

แม่ครัวยอดเซียน

Status: Ongoing
นิยายโรแมนติก-ย้อนยุค-ฝึกเซียนที่นางเอกทำอาหารเก่งมาก อ่านไปหิวไปแน่นอน! นางย้อนเวลามาอยู่ในร่างของ ‘หลี่หลิวหลี’ ลูกนอกสมรสของตระกูลเศรษฐี และมีชะตาแห่งเซียน! หลังจากจากเข้าสู่วิถีแห่งการฝึกตนเพื่อเป็นเซียน นางก็ได้หินเหล็กชิ้นหนึ่งมาโดยบังเอิญ จึงต้องตามรวบรวมเพลิงอัคคีทั้ง 9 เพื่อสร้างมิติของตนเอง แถมงูตัวสีแดงที่เก็บกลับมายังเป็นถึงสัตว์ศักดิ์สิทธิ์อย่างมังกรโลหิต! เท่านั้นยังไม่พอ เด็กน้อยที่เก็บ(?)ได้ดันเป็นชายหนุ่มรูปงามอันดับหนึ่งแห่งโลกเซียน!! เส้นทางการเป็นเซียนของหลิวหลีช่างดูรุ่งโรจน์และราบรื่น ทว่า… นางใฝ่ฝันมาตั้งแต่ชาติที่แล้วว่าอยากเป็นแม่ครัว ดังนั้น นางจึงไม่แยแสว่าที่แห่งนี้คือโลกแห่งเซียน ฝึกตนแล้วอย่างไร? บำเพ็ญเพียรแล้วอย่างไร? เป็นเซียนแล้วเป็นแม่ครัวด้วยไม่ได้รึ? แม้จะต้องบำเพ็ญเพียรวิถีเซียน แต่วิถีแม่ครัวนางก็จะไม่ละทิ้งเด็ดขาด!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset