แม่ครัวยอดเซียน – ตอนที่ 55.2 งานประมูล (1)

“หลิวหลี ตอนนี้เจ้าสามารถปรุงยาระดับ 6 ได้หรือไม่?” เอ๋าเลี่ยอดถามไม่ได้
“ถ้าใช้เพลิงอัคคีน่าจะได้อยู่ รู้สึกว่าในการแข่งขันควรเก็บเพลิงอัคคีไว้เป็นไม้ตายน่าจะดีกว่า ข้าจะลองใช้ไฟปกติปรุงดูก่อน ข้ารู้สึกว่าความสมบูรณ์แบบในการปรุงยาจากเพลิงอัคคี ไม่ใช่ความสมบูรณ์แบบที่แท้จริง ความสมบูรณ์แบบในการปรุงยาที่เกิดจากไฟธรรมดาจึงจะถือว่าเป็นความสมบูรณ์แบบที่แท้จริง” นี่เป็นหลักการที่หลิวหลียึดถือมาโดยตลอด ยาในแต่ละระดับใช้ไฟธรรมดาปรุงออกมาให้เป็นคุณภาพชั้นเลิศจึงจะเรียกว่าเป็นความสำเร็จที่แท้จริง
“หลิวหลี เจ้าคิดได้แบบนี้ก็ดี ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถครอบครองเพลิงอัคคีได้” หลิวหลีเริ่มโตแล้ว ไม่รู้ว่าเอ๋าเลี่ยคิดไปเองหรือเปล่า ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าหน้าอกของหลิวหลีเริ่มมีส่วนนูนขึ้นมาบ้าง
“มองอะไร ไม่เคยเห็นผู้หญิงโตช้าหรืออย่างไร” หลิวหลีมองตามสายตาของเอ๋าเลี่ยที่กำลังจ้องหน้าอกของตนอยู่จึงทั้งโมโหทั้งเขินอาย หรือจะเป็นเพราะเพลิงวิญญาณไม้เป็นเพลิงอัคคีที่เป็นตัวแทนของการกำเนิด นางดื่มนมมะละกอมาหลายปีหน้าอกของนางก็ไม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงใด ๆ หลังจากที่ดูดซึมเพลิงวิญญาณไม้ ในที่สุดหน้าอกของนางก็มีส่วนนูนขึ้นมาบ้าง ถ้ารู้แต่แรกว่าดูดซึมเพลิงวิญญาณไม้แล้วจะให้ผลเช่นนี้ ตอนแรกนางคงจะไม่มัวไปเดินเที่ยวเตร่ หลิวหลีน้ำตาซึมเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้
“หลิวหลี เจ้าเติบโตช้าเกินไป” ถึงแม้เอ๋าเลี่ยจะเป็นชายชราผู้ครองโสดมานับหมื่นปี แต่เขาก็รู้ว่ามังกรเพศเมียในเผ่ามังกรต่างก็เจริญเติบโตเร็วกว่าหลิวหลี
“แบบข้าเรียกว่าสะสมไว้มากแต่ปรากฏออกมาให้เห็นน้อยต่างหาก เข้าใจไหม ตอนแรกว่าจะทำเนื้อแห้งให้เจ้ากิน แต่ตอนนี้ไม่ทำแล้ว ไปทำแท่งกัดเล่นให้กับจื่อฉีดีกว่า” หลิวหลีหอมแก้มจื่อฉีเบาๆ เอ๋าเลี่ยรู้สึกแปลกๆเหมือนว่าหลิวหลีกำลังเลี้ยงจื่อฉีเหมือนเลี้ยงลูก
หลังจากพูดคุยกันเสร็จ หลิวหลีก็นั่งปรุงยาอยู่ในมิติเทพเจ้ามังกรอย่างตั้งใจ เมื่อเหนื่อยก็แวะเยี่ยมแม่ของนางที่อยู่ข้างๆ ถึงแม้รู้ว่าจะไม่มีประโยชน์อันใดแต่หลิวหลีก็มักจะนวดแขนนวดขาให้กับหลงซินเยว่ข้าง นวดทั้งตัวบ้าง แล้วก็เล่าเรื่องความยากลำบากที่ตัวเองพบเจอ หรือมีเรื่องตื่นเต้นอะไรบ้าง
เอ๋าเลี่ยรู้สึกว่าการที่หลิวหลีทำเช่นนี้ไม่มีประโยชน์ สิ่งเดียวพอจะเป็นประโยชน์ในสายตาเขาคือ หลังจากหลิวหลีนวดเสร็จก็จะใช้พลังเซียนไปหล่อเลี้ยงเส้นลมปราณของแม่นาง สงสัยหลิวหลีจะขาดความรักจึงนำความอบอุ่นทั้งหมดส่งต่อให้กับแม่ที่หลับใหลราวกับคนที่ไร้ชีวิต
หลิวหลีนั่งอยู่ที่หน้าเตาเหนือสามัญแต่ไม่ได้เริ่มปรุงยาในทันที นางรู้สึกว่าก่อนที่จะเริ่มปรุงยา นางจำเป็นจะต้องทำเค้กนึ่งเพื่อมาปลอบโยนจิตใจที่ได้รับบาดเจ็บก่อน เสียแรงมากขนาดนี้คงไม่ได้กลับคืนมาในระยะเวลาอันสั้นแน่ นางจำเป็นต้องกินของหวานบำรุงเสียหน่อย
เอ๋าเลี่ยมองดูหลิวหลีแยกไข่ขาวกับไข่แดงอย่างคล่องแคล่วด้วยความมึนงง ใส่น้ำตาล ร่อนแป้ง นี่นางกำลังทำของกินอยู่หรือ เมื่อครู่ยังกำลังจะปรุงยาด้วยความจริงจังเปลี่ยนอารมณ์เร็วเกินไปไหม กลิ่นหอมจากเค้กนึ่งโชยมา เอาเถอะเขาคิดว่ากินอะไรก่อนก็ไม่เลวเหมือนกัน จื่อฉีนั่งอมนิ้วตัวเองกลืนน้ำลายตลอดเวลา พี่สาวทำอะไรกลิ่นหอมจัง
เพียงไม่นาน เค้กนึ่งกลิ่นหอมฉุยก็ทำเสร็จ หลิวหลีหั่นมันเป็นชิ้นๆ แล้วหนึ่งคนกับอสูรสองตัวนั่งกินเค้กนึ่งกันอย่างมีความสุข อร่อยมากเหลือเกิน
เมื่อกินกันจนอิ่ม หลิวหลีก็รวบรวมสติ และเริ่มปรุงยาอย่างเป็นขั้นตอน ผลลัพธ์ที่ได้นั้นน่าพึงพอใจมาก นางมองผลงานแต่ละขวดอย่างชื่นใจ นางรู้สึกว่าเอาไปให้งานประมูลทั้งหมดเลยน่าจะดีกว่า
งานประมูล ณ เมืองต้าเย่ หลิวหลีสวมชุมคลุมสีดำ นำยามาเรียงเป็นแถว ๆ เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญในด้านการปรุงยาของงานประมูลมาตรวจสอบ
“สหาย เจ้าเป็นคนปรุงยาพวกนี้หมดเลยหรือ” ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรุงยาของงานประมูลตื่นเต้น มันเป็นยาคุณภาพระดับสูงทั้งหมด ฝีมือในการปรุงยาของคนผู้นี้มีความชำนาญยิ่งนัก
“หาใช่ของข้าไม่ ข้าเป็นเพียงแค่ศิษย์เท่านั้น ของพวกนี้เป็นของที่อาจารย์ทั้งสามท่านของข้าเป็นคนปรุงขึ้นมา” หลิวหลีโยนให้กับอาจารย์ คนโง่เท่านั้นที่จะยอมรับว่าเป็นคนทำเอง มันอันตรายเข้าใจไหม
“ยาขวดนี้ปรุงโดยเพลิงอัคคีหรือ” ช่างน่าตื่นเต้นจริงๆ คิดไม่ถึงว่าจะได้เห็นยาที่ปรุงจากเพลิงอัคคี
“ใช่ พวกเจ้าก็ลองตีราคาประมูลดูแล้วกัน” นางสนใจแค่หินวิญญาณเท่านั้น!
“สหายช่างเป็นคนที่ใจถึงจริงๆ ข้าจะช่วยให้ท่านได้ราคาประมูลอย่างงามเลยล่ะ” พอเห็นว่าหลิวหลีเป็นคนที่ใจถึง คนของงานประมูลก็ไม่พูดอ้อมค้อม
“ท่าพ่อ ข้าเพิ่งได้รับจดหมายมาว่าในงานประมูลจะมียาระดับ 6 เข้าร่วมประมูลเป็นจำนวนมาก” สุ่ยหลิงกวงพูดกับพ่อ
“จะต้องประมูลมาให้ได้” สุ่ยเจิ้นปัวพูดขึ้น ตอนนี้ปัญหาคาใจของเขาถูกคลี่คลายแล้ว พลังบำเพ็ญของเขาอยู่ในช่วงปราณก่อนกำเนิดระยะปลายเป็นที่เรียบร้อย
เรื่องแบบเดียวกันนี้เกิดขึ้นในหลายสกุล หลิวหลีเดินอยู่ข้างทางได้ยินข่าวต่างๆ จึงอดไม่ได้ที่จะถามเอ๋าเลี่ย
“อาเลี่ย นี่แค่ยาระดับ 6 เองไม่ใช่หรือ ทำทุกคนถึงมีปฏิกิริยาเกินไปขนาดนี้” หลิวหลีใช้ได้เพียงแค่คำว่าเกินไปมาบรรยายสถานการณ์ในตอนนี้
“หลิวหลี ยาคุณภาพระดับกลางกับระดับล่างก็เป็นที่ต้องการมาก อีกทั้งเจ้าคงไม่รู้ตัวว่าเจ้ากำหนดมาตรฐานของตัวเองไว้สูงขนาดไหนรู้ไหม” เอ๋าเลี่ยอดพูดไม่ได้ ยาคุณภาพระดับกลางกับระดับล่างเป็นความน่าอาย คุณภาพระดับสูงก็พอดูได้เล็กน้อย คุณภาพชั้นเลิศจึงจะพยักหน้า
หลิวหลีไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองมีมาตรฐานที่สูงนัก อย่างไรเสียไม่ว่าจะเป็นคุณภาพระดับไหนนางก็ไม่กิน คนที่ครอบครองเพลิงอัคคีอย่างนางบอกได้เลยว่าไม่มีพิษตัวไหนกล้าเข้าใกล้ สามารถทำลายค่ายกลมารได้ทั้งปวง
“คงอย่างนั้น ใครให้อาจารย์ของข้าเป็นนักปรุงยาระดับ 9 ล่ะ” หลิวหลีแบมือออกทั้งสองข้าง เอ่อ อาจารย์เป็นถึงนักปรุงยาระดับ 9 แล้วนางจะแย่กว่าได้อย่างไรกัน
“หลิวหลี ในโลกการบำเพ็ญมีนักปรุงยาระดับ 9 อยู่เพียงแค่ 3 คนเท่านั้น เจ้าคงไม่รู้ว่าพรสวรรค์ของเจ้าทำให้คนต้องเหงื่อตกมากขนาดไหน” อายุ 23 ปี เป็นนักปรุงยาระดับ 6
“อาเลี่ย เจ้าก็ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าข้าอยู่ในมิติผลาญทรัพย์นั้นตั้งกี่วัน” ควรรู้ไว้ด้วยว่าอยู่ในนั้น 1 วันมีค่าเทียบเท่ากับ 1 ปีเลยนะ ของพวกนี้ใช้เวลากี่ปีเชียว เขาไม่พูดอะไรต่อ คนที่นังหนูเอาตัวเองไปเปรียบเทียบด้วยนั้นสูงส่งเกินไป ทำไมนางถึงไม่ดูว่าเสวียนหั่วอายุตั้งกี่พันปีแล้ว อีกทั้งพรสวรรค์ที่แสนโหดของตน จะมีใครบ้างที่อายุ 20 ต้นๆก็บรรลุช่วงอมตะแล้ว
ในงานประมูลเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ทุกคนจะใส่ชุดคลุมสีดำและอำพรางพลังบำเพ็ญเพียร หลิวหลีนั่งอยู่ตรงกลาง ใช้คำพูดของเอ๋าเลี่ยที่ว่าไม่แน่ว่าอาจจะได้ของดีๆกลับไป
อีกไม่ช้างานประมูลก็จะเริ่มขึ้น ยาของหลิวหลีเป็นของประมูลนอกเหนือจากนั้น ซึ่งจะปรากฏขึ้นในช่วงท้ายของงาน หากว่านางชอบอะไรก็สามารถหักจากหินวิญญาณที่ได้จากการประมูลยาของนางได้เลย
“ยันต์ระดับ 3 ยันต์สลาตัน ไม่น่าสนใจ” หลิวหลีหมอบลงบนโต๊ะด้วยท่าทีขี้เกียจ ทำให้ผู้บำเพ็ญข้างๆถึงกับต้องเหล่ตามอง ทุกคนต่างมาหาของล้ำค่า ทำไมคนผู้นี้ถึงดูไม่สนใจอะไรเลย
“อาเลี่ย งานประมูลทำไมมันน่าเบื่อขนาดนี้” หลิวหลีส่งเสียงคุยกับเอ๋าเลี่ย
“หลิวหลี ของดีมักจะอยู่หลังๆ” เริ่มแรกเป็นเพียงอาหารเรียกน้ำย่อยเท่านั้น
“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น” หลิวหลีไม่รู้สึกสนใจอะไร มองดูยันต์สลาตันที่ปิดราคาประมูลไปที่ 5,000 หินวิญญาณ
“นี่เป็นแผนที่ของแดนลี้ลับ ได้ยินมาว่าภายในนั้นมีสมบัติไม่น้อย เพียงแต่เป็นแผนที่ที่ไม่สมบูรณ์ เริ่มราคาประมูลที่ 6,000 หินวิญญาณ” ผู้ควบคุมการประมูลหญิงพูดขึ้น
“6,000” หลิวหลีตาสว่างขึ้นมา ของชิ้นนี้ถือว่าไม่เลว
ทุกคนใช้สายตามองหลิวหลีราวเห็นคนโง่ ของที่ประมูลกันมาเป็น 10 ครั้งก็ยังไม่เคยได้กำลังจะถูกคนชิงตัดหน้าไป
หลิวหลีหยิบแผนที่ออกมาแล้วโยนเข้าไปในมิติเทพเจ้ามังกรอย่างไม่แยแส อย่างไรเสียมิตินั้นก็ไม่สามารถกินของสิ่งนี้ไม่ได้
“การประมูลในครั้งนี้สิ้นสุดลงแต่เพียงเท่านี้ แต่ว่ายังมีการประมูลยาที่เพิ่มเข้ามาอีกรายการหนึ่ง กลุ่มละ 10 ขวด ขวดละ 10 เม็ด ทั้งหมด 10 กลุ่ม ลูกค้าที่สนใจสามารถเข้าร่วมการประมูลได้” หญิงสาวในงานประมูลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน คนจำนวนไม่น้อยมาเพื่อของสิ่งนี้
“กลุ่มที่ 1 กลุ่มสมานแผล ยาฟื้นฟูร่างกายคุณภาพระดับสูง 5 ขวดกับยาไหลเวียนโลหิตคุณภาพระดับสูง 5 ขวด เริ่มประมูลที่ราคา 3,000”
กลุ่มสมานแผลนี้ถูกผู้บำเพ็ญท่านหนึ่งประมูลไปด้วยหินวิญญาณจำนวน 18,000 ชิ้น  หลิวหลีลูบอกบริเวณตำแหน่งหัวใจ การปรุงยาเป็นหนทางสู่ความร่ำรวยจริง ๆ
“กลุ่มที่ 2 กลุ่มเพิ่มความเร็ว ยาล่าวายุคุณภาพระดับสูง 5 ขวดกับยาระเบิดพลังคุณภาพระดับสูง 5 ขวด เริ่มประมูลที่ราคา 5,000”
“เดี๋ยวก่อน ยาทั้งหมดเป็นยาคุณภาพระดับสูงทั้งหมดเลยหรือ” มีคนสงสัยถามขึ้น
“ขออภัย ลืมแจ้งไปว่าหกกลุ่มแรกเป็นยาคุณภาพระดับสูง สามกลุ่มหลังเป็นยาคุณภาพชั้นเลิศ กลุ่มสุดท้ายเป็นยาคุณภาพชั้นเลิศที่ทำมาจากเพลิงอัคคี มีเพียง 10 เม็ดเท่านั้น” หญิงสาวในงานประมูลแสดงท่าทีที่เข้าใจขึ้นมา ด้านล่างเกิดเสียงดังเซ็งแซ่ ยาคุณภาพชั้นเลิศที่ปรุงจากเพลิงอัคคีหรือ
……………………………….

แม่ครัวยอดเซียน

แม่ครัวยอดเซียน

นิยายโรแมนติก-ย้อนยุค-ฝึกเซียนที่นางเอกทำอาหารเก่งมาก อ่านไปหิวไปแน่นอน! นางย้อนเวลามาอยู่ในร่างของ ‘หลี่หลิวหลี’ ลูกนอกสมรสของตระกูลเศรษฐี และมีชะตาแห่งเซียน! หลังจากจากเข้าสู่วิถีแห่งการฝึกตนเพื่อเป็นเซียน นางก็ได้หินเหล็กชิ้นหนึ่งมาโดยบังเอิญ จึงต้องตามรวบรวมเพลิงอัคคีทั้ง 9 เพื่อสร้างมิติของตนเอง แถมงูตัวสีแดงที่เก็บกลับมายังเป็นถึงสัตว์ศักดิ์สิทธิ์อย่างมังกรโลหิต! เท่านั้นยังไม่พอ เด็กน้อยที่เก็บ(?)ได้ดันเป็นชายหนุ่มรูปงามอันดับหนึ่งแห่งโลกเซียน!! เส้นทางการเป็นเซียนของหลิวหลีช่างดูรุ่งโรจน์และราบรื่น ทว่า… นางใฝ่ฝันมาตั้งแต่ชาติที่แล้วว่าอยากเป็นแม่ครัว ดังนั้น นางจึงไม่แยแสว่าที่แห่งนี้คือโลกแห่งเซียน ฝึกตนแล้วอย่างไร? บำเพ็ญเพียรแล้วอย่างไร? เป็นเซียนแล้วเป็นแม่ครัวด้วยไม่ได้รึ? แม้จะต้องบำเพ็ญเพียรวิถีเซียน แต่วิถีแม่ครัวนางก็จะไม่ละทิ้งเด็ดขาด!

Options

not work with dark mode
Reset