ในตอนที่เพิ่งเข้ามา ซุนต้าหูยังคงงุนงงอยู่เล็กน้อย ส่วนซุนต้าตงนั้น ลูกตาของเขาหมุนมองไปรอบ ๆ ไม่รู้ว่าเขากำลังมองอะไรหรือกำลังคิดแผนการเลวร้ายอะไรอีก
ทว่าเมื่อซุนต้าหูกับซุนต้าตงเห็นเจียงป่าวชิงในอึดใจต่อมา สีหน้าทั้งสองคนพลันเปลี่ยนแปรไป
ซุนต้าหูรู้สึกตื่นตระหนกจนลิ้นของเขาแทบจะผูกกันเป็นปม เขาก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว แต่โซ่ตรวนที่กระทบกันจนเกิดเป็นเสียงมันย้ำเตือนเขาว่าตอนนี้เขาคือนักโทษคนหนึ่ง สีหน้าเขาพลันแปรเปลี่ยน ความหม่นหมองปรากฏขึ้นมาในดวงตาเศร้า ทว่าเขายังพยายามยิ้มให้เจียงป่าวชิงอย่างฝืน ๆ “ป่าวชิง ที่นี่คือคุก เจ้ามาได้ยังไงรึ ?”
ซุนต้าตงที่อยู่ข้าง ๆ พูดด้วยความดีใจอย่างออกนอกหน้าที่เห็นผู้อื่นเป็นทุกข์ “จะมาได้ยังไงอีกล่ะ คงจะถูกจับตัวเข้ามาล่ะสิท่า ข้าดูออกตั้งนานแล้วว่าเจียงป่าวชิงไม่ใช่คนดีอะไรกับเขาหรอก…”
“หุบปากเจ้าไปเถอะ” เจียงป่าวชิงขัดจังหวะซุนต้าตงด้วยเสียงเย็นชาเต็มที่ เพราะก่อนหน้านี้ที่ปรึกษากาวได้บอกไว้แล้วว่าตามข้อกำหนด เวลาในการเยี่ยมนักโทษจะมีจำกัด เข้าออกคุกต้องจดบันทึกเป็นเอกสารหนังสือ และต้องลงเวลาให้ชัดเจน ถึงตอนตรวจเจอปัญหาจะได้รายงานได้ง่าย และที่ปรึกษากาวก็เคยชินกับการไม่เต็มใจใช้เล่ห์เพทุบายหลอกลวงคนด้วยเช่นกัน ไม่อย่างนั้น เขาคงไม่มีผลงานใด ๆ ภายใต้การทำหน้าที่เป็นลูกน้องของขุนนางอำเภอฉือมาหลายปีแบบนั้นหรอก
เจียงป่าวชิงเองก็ไม่อยากทำให้ที่ปรึกษากาวลำบากใจ นางแค่อยากรีบถามซุนต้าหูภายใต้ประจักษ์พยานอย่างที่ปรึกษากาวก็เท่านั้นเอง
เจียงป่าวชิงมองซุนต้าหู “พี่ต้าหูเจ้าคะ ข้าไม่เป็นไรเลย ข้าตั้งใจมาดูพี่นะ พี่ ตกลงว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับพี่กันแน่ ?”
ซุนต้าหูยังไม่ได้พูดอะไร ซุนต้าตงที่อยู่ด้านข้างก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นอย่างลำพองใจเสียก่อน “พอได้แล้ว เจ้าไม่ต้องถามเพราะพี่ต้าหูตั้งใจจะยอมรับโทษแล้ว”
เจียงป่าวชิงขมวดคิ้ว “ยอมรับโทษอะไร ? พี่ต้าหูไม่ได้ทำสักหน่อย ?” นางหันไปมองซุนต้าหูด้วยแววตาฉงนระคนคาดคั้น “พี่ต้าหู ตกลงว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ? พี่บอกข้ามาสิ”
ซุนต้าหูหลบสายตาเจียงป่าวชิงด้วยสีหน้าเจ็บปวด
“ไอ้โย! เจียงป่าวชิง เจ้ายังจะถามอะไรอีก ข้าก็บอกแล้วไงว่าพี่ต้าหูยอมรับโทษแล้ว ที่ข้าเองก็มีเอกสารรายละเอียดที่พี่ต้าหูประทับลายนิ้วมือเอาไว้ก่อนหน้านี้ ทั้งพยานทั้งหลักฐานครบหมด ตัวนักโทษเองก็ตั้งจะใจยอมรับโทษแล้วและคดีนี้จะจบลงในไม่ช้า ข้าแค่ถูกเขาหลอกให้ลุ่มหลงเพื่อไปทำเรื่องไม่ดีให้เขาก็เท่านั้น อย่างมากก็แค่ถูกตีไม่กี่ไม้กระดานกับปรับเงินอีกสักหน่อยเป็นอันจบ”
ซุนต้าตงลำพองใจมาก ใบหน้าของคนร้ายตัวจริงนี้ทำให้เจียงป่าวชิงรู้สึกขยะแขยงอย่างที่สุด
เจียงป่าวชิงไม่สนใจเขา นางเดินขึ้นไปด้านหน้า สายตามองซุนต้าหูอย่างตั้งใจ “พี่ต้าหู ข้ารู้ว่าพี่ไม่ใช่คนแบบนั้น พี่ขยันหมั่นเพียรและซื่อสัตย์กับคนอื่นมาเสมอ ที่สำคัญพี่ไม่เคยทำอะไรละเมิดคุณธรรม ศีลธรรม และกฎวินัย ที่ซุนต้าตงพูด ข้าไม่เชื่อแม้แต่คำเดียวเพราะข้าต้องการฟังพี่พูดด้วยตัวเอง!”
สีหน้าเจ็บปวดปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของซุนต้าหูอย่างต่อเนื่อง ริมฝีปากของเขาขาวซีดและสั่นระริก แต่สายตาของเขาเอาแต่หลุบต่ำ ไม่กล้าสบตาเจียงป่าวชิงตรง ๆ
เขานึกถึงคำพูดตอนที่ซุนต้าตงแอบคุกเข่าลงตรงหน้าเขาเมื่อตอนอยู่ในคุกก่อนหน้านี้ “พี่หู พี่ไม่มีพ่อแม่ ไม่มีเมียไม่มีลูกสาว ไม่ต้องห่วงข้างหลัง แต่ข้า… ข้ายังมีท่านแม่และพี่อย่าลืมว่าท่านปฏิบัติกับพี่ยังไงเมื่อตอนที่พี่ยังเด็ก พี่ลืมหมดแล้วรึ ? และพี่ก็เห็นอยู่ว่าข้าเพิ่งแต่งเมีย เมียข้ามีลูกติดไม่พอ ในท้องของนางยังมีลูกของข้าอีกคน ข้าเกิดความกดดันว่าต้องเลี้ยงคนทั้งหมดนี้ให้รอด ไม่อย่างนั้นข้าคงไม่หลงทางและเดินทางสายนี้หรอก พี่หู ข้าขอร้องพี่นะ ขอร้องให้พี่ช่วยรับโทษแทนข้าเถอะ ไม่อย่างนั้นจะไม่ใช่แค่ชีวิตข้าที่ต้องจบลง แม่ข้า เมียข้า ลูกที่ยังไม่เกิดของข้า แม้กระทั่งลูกติดที่เมียข้าพามา ทุกคนที่ข้าพูดไปจะต้องหมดอนาคตไปพร้อมกับข้าด้วยเช่นกัน! พี่หู ข้ารู้ว่าพี่จิตใจดีที่สุด พี่ช่วยครอบครัวของเราด้วยเถอะนะ ข้าขอร้องล่ะ…”
ซุนต้าตงร้องไห้ ปากก็พร่ำสัญญากับเขาว่าเขาจะเป็นคนดีหลังจากที่เขาถูกปล่อยตัวจากคุก ทั้งยังพูดซ้ำ ๆ ว่าจะไม่หลงทางทำสิ่งที่ผิดกฎหมายแบบนี้อีก
……
ขณะนี้ ซุนต้าหูมองเจียงป่าวชิงที่อยู่ตรงหน้า สีหน้าของนางสงบและแววตาเคร่งขรึมไม่เหมือนเด็กวัยสิบสามกำลังมองเขานิ่ง ๆ นัยน์ตาของนางเต็มไปด้วยความไว้ใจในตัวเขา
ซุนต้าหูหันหน้าไปทางอื่นด้วยสีหน้าเจ็บปวด “ป่าวชิง เจ้า… เจ้าอย่าถามอีกเลย เป็นข้าเอง”
ซุนต้าตงที่อยู่ด้านข้างรีบพูดออกมาด้วยความดีใจ “ฮ่า! ไงล่ะเจียงป่าวชิง เจ้าได้ยินหรือยัง ? พี่ต้าหูยอมรับด้วยตัวเองว่าเขาทำ ท่านที่ปรึกษา ท่านที่ปรึกษาก็ได้ยินเหมือนกันใช่ไหมขอรับ ? ท่านรีบไปบอกท่านขุนนางอำเภอเร็วเข้าเถอะว่าข้าเป็นผู้บริสุทธิ์ ข้าถูกปรักปรำ”
ที่ปรึกษากาวเป็นคนหัวโบราณและตรงไปตรงมา แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นคนโง่เง่า สถานการณ์ในตอนนี้ใครดูก็รู้ว่ามีลับลมคมในมาก ที่ปรึกษากาวส่งเสียงออกมาทางจมูกอย่างเย็นชาด้วยสีหน้าคาดไม่ถึง “นี่เจ้า! เจ้าเห็นศาลาว่าการเป็นสถานที่แบบไหนกัน ?! เรื่องที่เกี่ยวข้องกับคดีจะต้องนำไปตัดสินกันในห้องตัดสินความผิดเท่านั้น! ทุกสิ่งที่พูดเป็นการส่วนตัวไม่สามารถใช้เป็นพยานในห้องตัดสินความผิดได้”
ซุนต้าตงถูกที่ปรึกษากาวตำหนิอย่างรุนแรงแต่เขากลับไม่โกรธ เพราะตอนนี้ เขาคิดว่าเขาสามารถพูดได้ว่าตัวเอง ‘เอาชีวิตรอดจากความตาย’ ได้แล้ว ในใจของเขาเต็มไปด้วยความดีใจ เขาพูดอย่างต่อเนื่อง “ใช่ ๆ ๆ สิ่งที่ท่านสั่งสอนนั้นถูกต้องทุกอย่าง แล้วเราจะเปิดห้องตัดสินความผิดกันเมื่อไหร่ล่ะ ?”
ที่ปรึกษากาวเอ่ยเสียงเข้ม “ตอนที่ขุนนางอำเภอเบิกตัวพวกเจ้า เจ้าก็รู้เองนั่นแหละ”
เจียงป่าวชิงไม่สนใจซุนต้าตง สายตาคมกริบเลื่อนไปมองซุนต้าหูนิ่ง ๆ “พี่ต้าหูเจ้าคะ พี่คิดดีแล้วใช่ไหมที่จะรับโทษแทนไอ้กากเดนอย่างซุนต้าตงบ้านี่ ? เขาหลอกให้พี่ขายรถล่อ หลอกเอาเงินคุณนายแม่หม้าย แล้วยังหลอกคนอื่นอีกตั้งมากมายซึ่งข้าเองก็ไม่รู้ แต่ถึงตอนนั้น โทษพวกนี้จะกดอยู่บนหัวพี่ทีละอย่าง… พี่จะต้องแบกชื่อเสียงในทางที่ไม่ดีและรับเอาโทษทั้งหมดไว้อยู่บนหลังแทนไอ้คนชั่วนี่ พี่จะถูกผู้คนมากมายนินทาและทอดทิ้ง ใจพี่ยอมหรือไง ? พี่ต้าหู พี่อย่าหลบ พี่มองข้าแล้วบอกข้าสิว่าพี่ยินยอมหรือเปล่า ?”
เจียงป่าวชิงตัดสินใจแล้วว่าถ้าหากว่าซุนต้าหูพูดคำว่า ยินยอม ออกมาจริง ๆ นางก็จะปล่อยเขาไป
ในเมื่อเขาเลือกโดยที่ตัวเขาคิดอย่างรอบคอบ แล้วนางจะเข้าไปก้าวก่ายทำไมอีก ? เป็นผู้ใหญ่ก็ควรรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองเลือกเองสิ
ซุนต้าหูตัวสั่น เขาถูกเจียงป่าวชิงซักถามจนรู้สึกเจ็บเหมือนมีคนเอาค้อนมาทุบหัวใจและปอดของเขาจนแหลกละเอียด
หากถามว่าเขายินยอมไหม ? แน่นอนว่าเขาไม่ยินยอม! แต่ถ้าเขาไม่ยอมรับโทษแทนซุนต้าตง ครอบครัวของซุนต้าตงจะใช้ชีวิตในอนาคตกันอย่างไร ?
แทนที่จะให้คนตั้งมากมายมารับความทุกข์ สู้เขาแบกรับเรื่องราวคนเดียวเสียดีกว่า…
แม้ในใจเขาจะพูดกล่อมตัวเองไปแบบนี้ แต่ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ไม่สามารถพูดคำว่า ‘ยินยอม’ ออกไปได้ เขามองเจียงป่าวชิงที่บากหน้ามาหาเขา มายืนอยู่ใต้คุกที่มืดมิดที่สุดแห่งนี้ แสงไฟมืดสลัว ทว่าดวงตาคู่งามของนางกลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นจนดูสว่างไสวราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า นางกำลังมองเขานิ่ง ๆ อยู่อย่างนั้น
เมื่อเผชิญหน้ากับดวงตาคู่นี้ ซุนต้าหูก็ไม่สามารถพูดคำว่า ‘ข้ายินยอม’ ออกมาได้จริง ๆ
เจียงป่าวชิงเห็นซุนต้าหูเจ็บปวดถึงเพียงนี้ ทว่านางกลับยิ้ม
ซุนต้าตงเองเมื่อเห็นว่าซุนต้าหูมีท่าทีลังเล เขาก็ร้อนรน “พี่หู นี่พี่หมายความว่ายังไง ? พี่คิดจะเปลี่ยนใจอย่างนั้นรึ ? …ไม่ได้นะพี่ พี่หู! พี่ลืมที่เราคุยกันก่อนหน้านี้ไปแล้วรึ ?” ซุนต้าตงหันไปมองเจียงป่าวชิงและกัดฟันแน่น “เจ้า! เพราะเจ้าคนเดียวไอ้ปัญญาอ่อน เจ้าจะพูดเรื่องพวกนั้นกับพี่หูของข้าทำไมวะ ?!” พูดเสร็จ เขาบันดาลโทสะ ขยับกายรุดเข้าไปจะตบเจียงป่าวชิง
พูดตามหลักแล้ว หากว่ามีผู้คุมนักโทษเฝ้าดูอยู่ ซุนต้าตงควรลงมือทำร้ายเจียงป่าวชิงไม่สำเร็จ แต่ผู้คุมนักโทษในคุก ณ ตอนนี้มีประสบการณ์ไม่เพียงพอ อีกทั้งซุนต้าตงขยับกายในตอนที่พวกผู้คุมไม่ทันระวังพอดี จึงทำให้เขาพุ่งเข้าไปหาเจียงป่าวชิงได้
ทว่าไม่เป็นไร เพราะเจียงป่าวชิงเองก็ไม่ใช่สัตว์กินพืชที่จะยอมถูกรังแก
นางเล็งตรงบริเวณหัวเข่าของซุนต้าตง ฉวยโอกาสตอนที่ไอ้คนเลวคนนี้พุ่งเข้ามาเพื่อย่อตัวให้เตี้ยลงแล้วถีบหัวเข่าของเขาอย่างแรง จากนั้นก็กลิ้งตัวหลีกไปด้านข้างทันที
อึดใจต่อมา เสียงร้องอย่างน่าเวทนาของซุนต้าตงก็ดังกังวานไปทั่วคุก
.