แววแห่งความยินดีปรากฏบนใบหน้าของเจียงเหมยฮัว จะไม่ให้นางรู้สึกยินดีได้อย่างไรในเมื่อคนที่มีลูกไม่ได้ไม่ใช่นาง ทั้งหมดที่ผ่านมาไม่ใช่ความผิดของนางเลย
มันไม่ใช่ความผิดของนางเลยให้ตายเถอะ!
ทว่าสีหน้าของเมิ่งเถี่ยกลับเปลี่ยนกลายเป็นเขียวคล้ำเหมือนชื่อของเขา
“เป็นไปไม่ได้!” เมิ่งเถี่ยยืนกรานปฏิเสธเสียงแข็ง เขาตวาดเสียงดัง “จะเป็นโรคที่ออกมาจากท้องแม่ได้ยังไง ? เมื่อสิบปีก่อนชุ่ยหวนที่อยู่ในหมู่บ้านตงยังตั้งท้องเชื้อพันธุ์ของข้าอยู่เลย ตอนนี้ทำไมข้าถึงมีลูกไม่ได้แล้วเล่า!”
เมิ่งเถี่ยชี้หน้าด่าแม่เฒ่ากัว “หญิงแก่หลอกเอาเงินคนอื่นอย่างเจ้าคงถูกเจียงเหมยฮัวรับซื้อแล้วแน่ ๆ ใช่ไหม ?!”
หลีโผจื่อกับแม่เฒ่ากัวไม่ลงรอยกันมานานนมเนแล้ว ตอนนี้หลีโผจื่อเองเกิดพลิกลิ้น พูดคล้อยตามเมิ่งเถี่ยไปซะอย่างนั้น “ใช่ อีกอย่าง ดูก็รู้แล้วว่าลูกเขยของข้าเป็นคนเต็มเปี่ยมไปด้วยกำลังวังชา ทำไมเขาถึงจะมีลูกไม่ได้ ?”
นางปรายตามองเจียงเหมยฮัวแล้วพูดขึ้นเสียงดัง “เหมยฮัว เจ้าอย่าให้ไอ้สารเลวนั่นพาเสียคนสิ คิดวิธีชั่ว ๆ เช่นนี้ได้นี่ก็เลวนัก ที่เจ้ามีลูกไม่ได้เพราะดวงของเจ้านั่นแหละไม่ดี เรื่องแบบนี้แค่สะสมบุญก็ได้แล้วไม่ใช่รึไง ? การเสแสร้งของแม่เฒ่ากัวกับเจ้าทำลายชื่อเสียงของสามีเจ้าเอง เจ้าไม่ลองคิดบ้างว่ามันจะมีประโยชน์อะไรสำหรับเจ้า เหอะ! เจ้าเด็กบ้า! เจ้าช่างไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควรเลยจริง ๆ”
เจียงเหมยฮัวมองแม่ตัวเองอย่างยากที่จะเชื่อ
นี่แม่… นี่แม่ของนางหรือนี่…?
เห็น ๆ กันอยู่ว่าที่มีลูกไม่ได้ไม่ใช่ความผิดของนาง แต่แม่ของนางกลับสาดน้ำสกปรกใส่ศีรษะนางเต็ม ๆ โดยที่ไม่สนใจสภาพความเป็นจริงอะไรเลย
นี่ยังเป็นแม่แท้ ๆ ของนางอยู่ไหม ?!
แม่เฒ่ากัวได้ยินคำพูดของเมิ่งเถี่ยกับหลีโผจื่อ นางฟึดฟัดไม่พอใจทันที แม้นางจะเรียนรู้วิชาการรักษาโรคมาอย่างผิวเผิน แต่เรื่องเกี่ยวกับการท้องไส้หรือการมีลูกคลอดลูกนั้นนางเชี่ยวชาญมาก นางจะดูจะคลำผิดไปได้อย่างไร
อีกอย่าง ร่างกายของเมิ่งเถี่ย การป่วยของเขาก็ไม่ใช่โรคแก้ยากอะไร คนที่เคยเรียนรู้เกี่ยวกับด้านนี้มาก่อน แค่เริ่มคลำดูเพียงนิดเดียวก็รู้ได้แล้ว
“ถุย!” แม่เฒ่ากัวถ่มน้ำลายลงพื้น “อะไรกัน ? มันคุ้มที่ข้าถึงกับต้องสร้างคำโกหกเพื่อใส่ร้ายเจ้าเชียวรึ ?! ถ้าไม่เชื่อเจ้าก็ไปให้หมอในอำเภอตรวจดูเองสิ ข้ารอดูเลยว่าพวกเจ้าจะพล่ามอะไรได้อีก เหอะ! ตอนนี้ไม่เชื่อก็ช่างพวกเจ้าเถอะ ข้าน่ะตรวจโรคให้ผู้คนในภูเขาแห่งนี้มาหลายสิบปีแล้ว มีแต่บ้านเจ้านี่แหละที่เยอะไม่เข้าเรื่อง”
ท่าทีเด็ดเดี่ยวของแม่เฒ่ากัวทำให้ใจของเมิ่งเถี่ยกับหลีโผจื่อเต้นระรัว
“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้แน่! ข้าเคยทำให้ชุ่ยหวนท้องได้ แล้วทำไมข้าจะทำให้ผู้หญิงท้องอีกไม่ได้” เมิ่งเถี่ยหน้าแดงก่ำ ปากพูดแก้ต่างให้ตัวเองอย่างไม่หยุดหย่อน
แม่เฒ่ากัวขมวดคิ้วมุ่น นางครุ่นคิดอยู่สักพัก “หืม เจ้ากำลังพูดถึงชุ่ยหวน ลูกสาวของครอบครัวแซ่โจที่อยู่ข้างร่องน้ำเสียของหมู่บ้านตงใช่ไหม ?”
เมิ่งเถี่ยเห็นแม่เฒ่ากัวมีภาพความทรงจำเกี่ยวกับนางจึงรีบพูดขึ้นทันที “ใช่ นางนั่นแหละ ตอนนั้นนางตั้งท้องเชื้อพันธุ์ของข้าแต่ไม่กล้าบอกคนที่บ้าน นางแอบซื้อยาทำแท้งเป็นการส่วนตัวแล้วก็ตายเพราะเสียเลือดมากเกินไป”
แม่เฒ่ากัวจงใจขากเสลดแล้วถ่มน้ำลายใส่เท้าของเมิ่งเถี่ยอย่างแรง “ขาก ถุ๊ย! เจ้ายังมีหน้ามาพูดถึงนางอีกเรอะ ชุ่ยหวนตั้งท้องลูกของเจ้า แต่ตอนที่นางแท้งลูกกลับปาเข้าไปเดือนที่ห้า เดิมทีจำนวนเดือนก็เยอะอยู่แล้ว กลับมากินยาที่มีฤทธิ์รุนแรงแบบนั้นอีก ไม่ตายเพราะเสียเลือดมากเกินไปก็แปลกแล้วโว้ย!”
เมิ่งเถี่ยสูญเสียพี่ชายสี่คน ตั้งแต่เล็กเขาจึงเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่คนในบ้านตามใจและใช้เงินจำนวนมากเพื่อเลี้ยงดูเขาให้มีชีวิตรอดต่อไป เขาไม่เคยถูกใครด่าประจานทำนองนี้มาก่อน
เขากำลังจะโมโห แต่ตอนที่ได้ยินแม่เฒ่ากัวบอกว่า “แท้งลูกตอนห้าเดือน” เขาก็ตกตะลึงไปทันที และยังคงยืนกรานปฏิเสธต่อไป
“จะเป็นไปได้ยังไง ?! ข้ากับชุ่ยหวนรู้จักกันไม่ถึงห้าเดือน ตอนนั้นที่ตระกูลโจมาโวยวายที่บ้านข้า พวกเขาก็บอกว่าเด็กเพิ่งจะสามเดือนเอง ที่บ้านข้ายังชดใช้เป็นเงินสิบกว่าตำลึงอยู่เลย”
แม่เฒ่ากัวหัวเราะเยาะ “สามเดือนอย่างนั้นรึ ? ข้าคลำดูเองกับมือ ทำไมข้าจะไม่รู้ว่าเด็กมีอายุครรภ์เท่าไหร่ ?!” แม่เฒ่ากัวชะงักไปเล็กน้อย ทว่าเพียงครู่เดียวนางก็เผยสีหน้าเข้าใจออกมาให้เห็น “อ้อ ข้ารู้แล้ว เด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกของเจ้า ตระกูลโจกลัวว่าเจ้าจะรู้จากจำนวนเดือน พวกเขาจึงจงใจบอกว่าสามเดือนเพื่อต้องการหลอกเอาเงินจากเจ้าน่ะสิ! มิน่าล่ะ ตอนนั้นพวกเขาพูดกำชับข้าว่าเรื่องที่ชุ่ยหวนแท้งลูกนั้นไม่ใช่เรื่องน่ายินดีอะไร และสั่งไม่ให้ข้าพูดออกไป”
เมิ่งเถี่ยเหมือนถูกใครบางคนใช้ค้อนทุบศีรษะอย่างรุนแรง นี่เขาโง่เง่ามาตั้งนาน…
เจียงเหลียนฮัวที่อยู่ด้านข้างพูดพึมพำ “มิน่าล่ะ ข้าเคยได้ยินสามีพูดถึงเรื่องนี้อย่างคลุมเครืออยู่เหมือนกัน เขาบอกว่าชุ่ยหวนคนนั้นจะสนิทสนมกับคุณชายจากนอกภูเขาคนหนึ่ง แต่ต่อมานางกลับตั้งท้องลูกของเมิ่งเถี่ย ทุกคนจึงคิดว่าเรื่องของนางกับคุณชายคนนั้นเป็นแค่ข่าวลือ” พูดเสร็จ นางก็มองเจียงป่าวชิงอย่างมีความหมายแฝง
จังหวะการหายใจของเมิ่งเถี่ยค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นเร็วขึ้น เส้นเอ็นบนหน้าผากของเขานูนออกมาแล้ว ดวงตาของเขาก็แดงก่ำเช่นกัน
“หญิงเลว! เจ้ามันเลว! เจ้ามันเลวววว!” เขาตวาดเสียงดัง
ที่แท้เมิ่งเถี่ยกลายเป็นตัวตลกให้ชาวบ้านเล่าเรื่องขำขันตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาเพียงแค่สนิทกับหญิงมั่วโลกีย์คนหนึ่งก็เท่านั้น ทั้งยังชดใช้เป็นเงินสิบกว่าตำลึงอีกด้วย
“ไม่ได้! ข้าต้องไปหาตระกูลโจ กล้ามากที่ทำเหมือนว่าข้าเป็นไอ้โง่และหลอกมาได้ตั้งหลายปี” ดวงตาของเมิ่งเถี่ยเหมือนต้องการจะฆ่าคนให้ตายคามือ
เมิ่งเถี่ยพุ่งออกไปแล้วและไม่มีใครห้ามเขาไว้ได้ ต้องปล่อยเขาไปทั้งอย่างนั้น
ลานบ้านตกอยู่ในความเงียบงัน
เป็นแม่เฒ่ากัวที่ทำลายความเงียบนี้ นางอ้าปากหาวขึ้นมาเสียงดัง “ฮ้าวววว! ไม่มีธุระอะไรที่ข้าต้องจัดการแล้วใช่ไหม ? ข้าแก่แล้ว พูดมากก็รู้สึกกระหายน้ำมาก ถ้าอย่างนั้นข้าขอตัวกลับก่อนแล้วกัน”
และนางก็กลับไปโดยที่ไม่เก็บเงินค่าตรวจอาการ
หลังจากที่แม่เฒ่ากัวกลับไป ในที่สุดเจียงเหมยฮัวก็รวบรวมความกล้า มองไปที่แม่ของนางอย่างมีความหวัง “ท่านแม่ ในเมื่อเมิ่งเถี่ยมีปัญหา เช่นนั้นข้าจะหย่ากับเขา…”
“อะไร ? เจ้าคิดบ้าอะไรของเจ้า ?” หลีโผจื่อโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “ทำเรื่องนี้ให้กลายเป็นเรื่องใหญ่แล้วมันจะส่งผลดีอะไรกับคนในบ้าน ?! สร้างปัญหาไม่พอ นี่เจ้ายังคิดจะหย่ากับเมิ่งเถี่ยอีก หรือว่าเจ้าคิดว่าเรื่องยุ่งยากที่คนในบ้านสร้างไว้มันยังไม่พออีก ฮะ ?!”
เจียงเหมยฮัวเหมือนถูกใครบางคนตบหน้าฉาดใหญ่ ความรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อยเล่นงานนางเสียแล้ว
ตามคำกล่าวเหล่านี้ของคนในบ้านนาง มันเป็นความผิดของนางที่นางมีลูกไม่ได้และสมควรถูกสามีทุบตี แม้ตอนนี้พิสูจน์ได้แล้วว่าที่มีลูกไม่ได้นั้นเป็นปัญหาของเมิ่งเถี่ย ไม่ใช่นาง นางจึงต้องการหย่าแต่กลับกลายเป็นว่านางสร้างปัญหาใหญ่ คิดว่าเรื่องขำขันที่คนในบ้านสร้างไว้มันยังไม่พอซะอย่างนั้น
เจียงเหลียนฮัวเดินเข้าไปจับมือเจียงเหมยฮัวด้วยท่าทางอ่อนโยนก่อนจะพูดกล่อมน้องสาว “น้องเล็ก ข้าว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเจ้านะที่เมิ่งเถี่ยไม่สามารถมีลูกได้ในตอนนี้น่ะ”
“เรื่องดีอะไรกัน ?” เจียงเหมยฮัวมองเจียงเหลียนฮัวอย่างงุนงง
เจียงเหลียนฮัวพยักหน้า พลางพยายามพูดหลอกให้คล้อยตาม “ใช่ เจ้าลองคิดดูสิ เมื่อก่อนเขาคิดว่าปัญหาการมีลูกยากมันอยู่ที่เจ้า เขาถึงได้ลงไม้ลงมือกับเจ้ารุนแรงแบบนั้น ตอนนี้รู้แล้วว่าเป็นปัญหาของตัวเขาเอง เขาจะต้องรู้สึกขาดความมั่นใจและรู้สึกผิดต่อเจ้า แบบนี้ต่อไปเขาคงประคบประหงมเจ้าให้ดี ชีวิตของเจ้าก็จะดีขึ้นไม่ใช่รึ ? เจ้าฟังข้านะ ครอบครัวของเมิ่งเถี่ยไม่ได้ขาดแคลนเรื่องเงิน ถึงตอนนั้นค่อยหาหมอมารักษาเขาก็น่าจะแก้ปัญหาได้ ในเมื่อร่างกายเจ้าไม่มีปัญหา ถึงตอนนั้นถ้าหากว่าเจ้าสามารถตั้งท้องได้ เจ้าก็จะกลายเป็นคนที่สร้างสิ่งดี ๆ ชื่อเสียงดี ๆ ให้กับตระกูลเมิ่งของเขา ถ้าถึงตอนนั้น ครอบครัวของเขาก็จะเลื่อมใสเจ้ายังไงล่ะ”
“ใช่ ๆ ๆ” หลีโผจื่อรีบพยักหน้าเห็นด้วย นางพยายามทำสีหน้าให้ดูดีขึ้นมาหน่อย “ที่พี่สาวเจ้าพูดมีเหตุผลมาก เจ้าเด็กนี่เป็นคนยากจะคาดเดาได้ตั้งแต่เด็ก พูดไม่เก่งและพูดน้อย! ดูอย่างพี่สาวเจ้าสิ นางคิดได้อย่างทะลุปรุโปร่งมากกว่าเจ้าอีก และเจ้าก็ดูสิว่าพี่สาวเจ้ามีชีวิตดีแค่ไหน”
ดูเหมือนว่าเจียงเหมยฮัวจะลุ่มหลงกับภาพของสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตที่เจียงเหลียนฮัวกับหลีโผจื่อเป็นคนบรรยายให้ฟัง ใบหน้าของนางถึงเผยความลังเลใจออกมาให้เห็น
“จริงรึ ? ตะ… ต่อไปเมิ่งเถี่ยจะ… จะไม่ทุบตีข้าอีกแล้วอย่างนั้นรึ ?”
เจียงป่าวชิงที่ปิดปากเงียบอยู่เป็นเวลานานพูดขึ้นเสียงเบาแล้วในตอนนี้ “ตอนที่เป็นแม่สื่อให้ป้า พวกนางก็บอกไม่ใช่รึว่าเมิ่งเถี่ยทุบตีเมียทั้งสองคนจนตาย แต่เขารู้ว่าเขาทำผิดไป และจะกลับเนื้อกลับตัวเพื่อเป็นคนใหม่ แต่แล้วยังไง หลักฐานก็เห็น ๆ กันอยู่ ท่านป้าเหมยฮัว ท่านดูบาดแผลบนตัวตัวเองสิ นี่ท่านยังจะเชื่อคำพูดของพวกนางอีกรึ ?”