เจียงเหลียนฮัวกับเฉียนถูฟูปรึกษาหารือกัน ลูกของตัวเองถูกดูถูกเหยียดหยามขนาดนี้ พวกเขาจะปล่อยให้มันผ่านไปแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด
ในมุมมองของพวกเขา ตัวการที่ทำผิดไม่ใช่ลูกของตัวเองที่คิดวิธีเลยเถิดแบบนี้ แต่เป็นเจียงป่าวชิงต่างหาก
เฉียนถูฟูเรียกพวกพี่น้องของตระกูลเฉียนมาที่ชีหลี่โวเพื่อเตรียมไปทวงความยุติธรรมให้กับลูกตัวเองที่บ้านของเจียงป่าวชิง
เดิมทีเฉียนถูฟูตั้งใจจะเรียกคนของบ้านตระกูลเจียงด้วยเช่นกัน แต่เจียงเหลียนฮัวกลับเบะปาก “พอเถอะ เมื่อสองวันก่อนพี่สะใภ้ข้ายังโทษลูกเราที่ดึงลูกของนางลงน้ำอยู่เลย นางพูดได้น่าเกลียดมาก ประมาณว่าไม่ว่าลูกของเราจะเล่นพิเรนทร์อะไรก็ไม่ต้องมาดึงลูกสาวกับลูกชายของนางเข้าไปเกี่ยว ข้าเห็นว่าบนใบหน้าของเจียงเอ้อยามีรอยฝ่ามือแดง คาดว่านางคงถูกพี่สะใภ้ข้าตบสั่งสอนแล้วล่ะ”
เฉียนถูฟูถ่มน้ำลายลงพื้นและพูดด้วยเสียงสุดหยาบคาย “มาถึงขนาดนี้ เจ้ายังเอาเนื้อไปให้บ้านแม่เจ้าทุกวันปีใหม่อยู่อีกนะ!”
“พี่สะใภ้ข้าเป็นแบบนั้นแหละ เราไม่สนใจนางน่ะดีแล้ว” เจียงเหลียนฮัวชี้ไปที่เส้นทางภูเขาข้างหน้า “นี่… เลี้ยวจากตรงนั้นก็เป็นบ้านของไอ้เท้าเล็กนั่นแล้ว ถึงตอนนั้นเราจะพังข้าวของบ้านนางให้เละ ข้าจะจับไอ้เท้าเล็กนั่นมัดแล้วโยนเข้าไปในห้อง สุดท้ายก็ยัดพวกขอทานสองสามคนเข้าไปทำเรื่องชั่ว ๆ กับนางให้สมใจ!” เจียงเหลียนฮัวแค่นเสียงเย็นชา
พวกพี่น้องของเฉียนถูฟูพากันส่งเสียงหัวเราะ “ฮ่า ๆ ๆ ไม่เห็นต้องยุ่งยากขนาดนั้นเลย พวกพี่สองสามคนสามารถทำแทนได้”
เจียงเหลียนฮัวยิ้มโหดเหี้ยม “ทำลายชื่อเสียงของลูกสาวกับลูกชายข้า ข้าก็จะให้คนมาทำลายร่างกายมันบ้าง! เป็นใครถึงได้กล้ารังแกลูกข้า!”
คนกลุ่มหนึ่งเดินไปตามเส้นทางบนภูเขา ทะลุป่าและมาถึงบ้านของเจียงป่าวชิง
ประตูบ้านของเจียงป่าวชิงปิดอย่างแน่นหนา ในบ้านเงียบเชียบไร้สุ้มเสียง เฉียนถูฟูถือมีดคมที่ใช้เชือดหมูในยามปกติไว้ในมือและชั่งน้ำหนักมันด้วยมือ “ฮืมมมม คงไม่ใช่ว่าไม่อยู่บ้านหรอกนะ”
น้ำเสียงของเจียงเหลียนฮัวค่อนข้างเฉียบคม “เจ้าจะสนใจทำไมว่านางอยู่บ้านหรือเปล่า พังข้าวของก็สิ้นเรื่อง”
ชายหุ่นล่ำของตระกูลเฉียนล้วนมาพร้อมเครื่องมือ บางคนถือจอบ บางคนถือไม้พลอง บางคนถือพลั่ว ไม่มีใครมามือเปล่าเลย ที่พวกเขามาในครั้งนี้ก็เพราะมาหนุนหลังให้ครอบครัวของเฉียนถูฟู พอได้ยินภรรยาของเฉียนถูฟูบอกว่าพังข้าวของ พวกเขาก็ไม่พูดอะไร พากันถ่มน้ำลายลงพื้นและโบกจอบกับพลั่วเข้าใส่ประตูบ้านของเจียงป่าวชิงทันที
ทว่า… ตอนที่กงจี้ใช้ให้คนสร้างบ้านเจียงป่าวชิงใหม่ เกณฑ์คือภายนอกต้องดูเหมือนธรรมดา แต่ต้องใช้วัสดุที่ดี แข็งแรงทนทาน
ประตูบ้านของเจียงป่าวชิงดูเหมือนประตูไม้ธรรมดาที่ถูกลมและฝนทำลาย แต่จริง ๆ แล้วมันกลับแข็งแรงมาก พวกชายหุ่นล่ำข้างนอกต้องทุบมันอยู่สักพักใหญ่ถึงจะทุบจนมันล้มลงได้สำเร็จ
เฉียนถูฟูอดไม่ได้ที่จะบ่น “ไอ้ประตูบ้านี่หนิ แข็งแรงซะจริง!”
ตามมาด้วยเสียงใครบางคนพูดเสนอมาจากด้านข้าง “เดี๋ยวตอนกลับเราลากบานประตูสองบานนี้กลับไปด้วยแล้วกัน”
คนกลุ่มหนึ่งพากันเข้ามาในบ้าน เจียงเหลียนฮัวไม่รอช้า พูดขึ้นเสียงแหลม “ไอ้เท้าเล็กเจียงป่าวชิง ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้นะ! ถ้าเจ้าไม่ออกมา ข้าจะเผาบ้านของเจ้าซะ!”
แอ๊ด!
เสียงประตูห้องเปิดออก เผยให้เห็นเจียงป่าวชิงเดินออกมาจากข้างใน
ตอนนี้เมื่อเจียงเหลียนฮัวเห็นเจียงป่าวชิง นางก็นึกถึงข่าวลือและความไม่เป็นธรรมที่เซียงเซียงลูกสาวสุดที่รักของนางได้รับ ความโกรธเป็นฟืนเป็นไฟพลันปะทุ ประกอบกับแรงอาฆาตอยากฆ่าเจียงป่าวชิงให้ตายเสียเดี๋ยวนั้น
นางจ้องเจียงป่าวชิงเขม็ง “แก! ไอ้คนเลวทรามต่ำช้าอย่างแกทำอะไรกับลูก ๆ ของข้า ?!”
สีหน้าของเจียงป่าวชิงสงบมาก ไม่มีความตื่นตระหนกเพราะคนพวกนี้ที่ถือวิสาสะพังประตูเข้ามาในบ้านเลย และนางยังสังเกตผู้คนที่ถือจอบและพลั่วด้วยสายตาสนใจอีกด้วย
“ข้าทำอะไรพวกเขารึ ?” เจียงป่าวชิงยิ้มเล็กยิ้มน้อย “รู้สึกว่าข้าจะไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”
เจียงเหลียนฮัวเห็นท่าทางไม่ทุกข์ร้อนของเจียงป่าวชิง ในหัวก็นึกถึงภาพลูกสาวที่กำลังล้างหน้าด้วยน้ำตาทุกวันที่บ้านจนดวงตาบวมเป็นลูกท้อเน่า ก็นึกอยากจับไอ้เท้าเล็กตรงหน้าโยนเข้าไปในกลุ่มชายขอทานให้รู้แล้วรู้รอด เพื่อที่ไอ้เท้าเล็กนี่จะได้ถูกย่ำยีครั้งแล้วครั้งเล่า ให้สาสมกับความเลวทรามต่ำชั่วที่ทำกับพวกลูกของนางไว้
เจียงเหลียนฮัวกรีดร้องเสียงแหลม “เจ้ายังจะเสแสร้งอีกนะ! ถ้าไม่ใช่เจ้า ลูกสาวกับลูกชายข้าจะ… จะ…”
เจียงป่าวชิงหัวเราะเยาะ
เฉียนถูฟูหน้าบึ้ง เขาตะคอกอย่างหยาบคาย “เด็กผู้หญิงอย่างเจ้าช่างร้ายกาจจริง ๆ ลูกชายข้าแค่อยากใกล้ชิดเจ้านิดหน่อยเองไม่ใช่รึ ? อีกอย่าง เขาก็ยังไม่ได้ทำอะไรเจ้า แต่เจ้ากลับคิดร้ายและทำลายพวกเขาไปตลอดชีวิตเช่นนี้ วันนี้ข้าจะมาทวงความยุติธรรมให้กับลูกชายและลูกสาวของข้า!”
จู่ ๆ เจียงป่าวชิงที่สีหน้าราบเรียบมาตลอดก็ยิ้ม รอยยิ้มนี้เต็มไปด้วยการถากถาง นางเหลือบมองเฉียนถูฟูที่ถือมีดเชือดหมูอยู่ในมือ “ที่เขาไม่ได้ทำอะไรข้าเพราะข้าตื่นตัวอยู่เสมอ ลุงคิดว่าพวกลูก ๆ ของลุงจะรู้สึกผิดชอบชั่วดีและปล่อยข้าไปหรือไง ? ถ้าข้าไม่ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาและบ้วนน้ำชาที่ถูกเพิ่มยาอะไรก็ไม่รู้ลงไปในแขนเสื้อ เกรงว่าตอนนี้ข้าคงถูกลูกชายเลวทรามต่ำช้าของลุงย่ำยีแล้วล่ะ พวกเขาเป็นฝ่ายถูกทำร้ายเองทั้งที่ตั้งใจจะทำร้ายคนอื่นก่อน แต่ตอนนี้พวกท่านยังมีหน้ามาบอกว่าทวงความยุติธรรมอีก เหอะ!”
เจียงเหลียนฮัวเห็นเฉียนถูฟูหน้าแดงก่ำจึงออกแรงบิดแขนเฉียนถูฟู “เจ้าจะพูดไร้สาระกับนางทำไม ไอ้เด็กผู้หญิงคนนี้นี่ฝีปากแหลมคมนัก อีกเดี๋ยวเคาะฟันของนางให้หลุดจนหมดซะ แล้วดูซิว่านางจะพูดอะไรได้อีก!”
รอยยิ้มเยาะหยันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเจียงป่าวชิง
ทันใดนั้น มีคนวิ่งอย่างเหนื่อยหอบมาจากทางด้านหลัง ปากก็ตะโกนขึ้นเสียงดังไปด้วย “พวกเจ้าหยุดนะ!”
พวกเฉียนถูฟูชะงักไปเล็กน้อย พอหันกลับไปมองก็เห็นชายหนุ่มแข็งแรงวิ่งเข้ามาจากข้างนอก
อากาศในช่วงเข้าฤดูใบไม้ร่วงแบบนี้ แต่เขากลับวิ่งมาด้วยเนื้อตัวที่ชื้นไปด้วยเหงื่อ ใบหน้าของเขาก็แดงเป็นสีตับหมู เห็นได้ชัดว่าเขาวิ่งมาอย่างเร่งรีบแค่ไหน
สายตาเจียงเหลียนฮัวตวัดไปเห็นคนที่มาใหม่ นางส่งเสียงอุทาน “ชิ! ไอ้เท้าเล็ก มิน่าล่ะคนในหมู่บ้านถึงบอกว่าเจ้าสองคนเป็นชู้กัน ชายชู้ของเจ้ามาช่วยเจ้าแล้วหนิ”
ผู้มาใหม่คือซุนต้าหู
เจียงป่าวชิงมองซุนต้าหูที่กำลังเหนื่อยหอบด้วยสีหน้าซับซ้อน เขาพุ่งมาขวางอยู่ตรงหน้านางในขณะนี้
หลังจากที่เจียงป่าวชิงกับเจียงหยุนชานย้ายกลับมา ซุนต้าหูก็เหมือนหลบหน้านางอย่างไรอย่างนั้น เขามักจะชอบเอาฟืนมาให้ตอนที่นางไม่อยู่บ้าน ซึ่งทุกครั้งเจียงหยุนชานก็จะปฏิเสธเขาอยู่นานแต่ก็ปฏิเสธไม่สำเร็จทุกครั้งไป
เจียงป่าวชิงเอ่ยถามเสียงเบา “พี่ต้าหู พี่มาได้ยังไง ?”
ซุนต้าหูไม่ได้หันกลับมา เขาขวางอยู่ตรงหน้านางอย่างแน่วแน่ และพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหอบเล็กน้อย “ข้าได้ยินคนในหมู่บ้านบอกว่าเห็นพวกคนของตระกูลเฉียนเดินถือจอบกับพลั่วมาที่นี่… ข้าจึง… ข้า…”
ซุนต้าหูยังพูดไม่ทันจบ เจียงเหลียนฮัวก็พูดแดกดันขัดจังหวะเสียก่อน “โย! ไอ้คนบังคับรถล่อกระจอกงอกง่อย เจ้ารักนังสารเลวนี่จริง ๆ รึ นางชำนาญเรื่องยั่วยวนผู้ชายมากเลยเชียว”
พูดมาถึงตรงนี้ เจียงเหลียนฮัวกัดฟันเล็กน้อย ถ้าไม่ใช่เพราะเจียงป่าวชิงยั่วลูกชายนาง ลูกชายกับลูกสาวของนางจะตกอยู่ในสภาพนี้รึ ?!
ความผิดพลาดนับพันล้วนเป็นความผิดของไอ้หญิงสารเลวคนนี้คนเดียว!
เจียงเหลียนฮัวกัดฟันพูด “พวกเจ้าจะมัวยืนงงกันอยู่ทำไม… ไปจัดการนางกับเขาสิ ไป๊!”
แผ่นหลังของซุนต้าหูยืดตรงขึ้นในทันที แต่เขายังคงขวางอยู่ตรงหน้าเจียงป่าวชิง ทำตัวเป็นกำแพงที่แน่นหนาให้นาง
เจียงป่าวชิงดึงเสื้อซุนต้าหูและเรียกเขาเบา ๆ “พี่ต้าหู…”
“หืม ?” ซุนต้าหูน้ำเสียงสั่นเล็กน้อยแต่เขากลับไม่ยอมถอยแม้แต่ก้าวเดียว “ป่าวชิง เจ้าไม่ต้องกล่อมข้า ผู้ชายตัวใหญ่อย่างพวกเขามาหาเรื่องเด็กผู้หญิงตัวเล็กอย่างเจ้า ต่อให้ข้าต้องตายข้าก็จะปกป้องเจ้า”
.
.
.