ตอนที่ 60 ถอดชุดกระโปรงของเจ้าออกซะ
สาวใช้เดินย้อนกลับมา จากนั้นนางก็พูดอย่างมั่นใจ “เจ้า! ถอดชุดกระโปรงของเจ้าออกซะ”
ว่าอย่างไรนะ ?
เจียงป่าวชิงเกือบจะสงสัยว่าหูของตัวเองมีปัญหาหรือไม่เสียแล้ว นางรู้มาตลอดว่าว่าระบบลำดับชั้นเช่นนี้น่ารังเกียจมาก แต่ก็ไม่คิดว่าจะน่าสะอิดสะเอียนได้ถึงเพียงนี้
จะให้นางถอดกระโปรงในที่ที่มีผู้คนมากมายเช่นนี้เนี่ยน่ะรึ ?
เจียงป่าวชิงมองสาวใช้คนนั้นเล็กน้อย จากนั้นก็หมุนตัวและเดินจากไป
สาวใช้คนนั้นโมโหทันที นางตะโกนขึ้นมาเสียงดัง “ช้าก่อน เจ้าจะไปไหน ?! หูหนวกหรือไง ? ไม่ได้ยินที่ข้าบอกรึ ? ข้าสั่งให้เจ้าถอดชุดกระโปรงนั้นออก ฉือฝู ฉือโช่ ไปจับนางไว้ อย่าให้นางหนีไปได้!”
ข้ารับใช้ที่รูปร่างสูงใหญ่สองนายวิ่งมาขวางทางเจียงป่าวชิงเอาไว้ เจียงป่าวชิงไม่เคยคิดมาก่อนว่าการที่ใส่ชุดกระโปรงสวยงามออกนอกบ้านเช่นนี้จะทำให้เจอกับเรื่องบ้า ๆ แบบนี้ได้
นางหยุดฝีเท้าลง
เสียงลำพองใจของสาวใช้ก็ดังมาจากทางด้านหลัง “เจ้ายังจะคิดหนีอีกรึ ?! ให้เจ้าถอดชุดกระโปรงแล้วมันจะทำไมนักหนา ?! คุณหนูของข้าชอบชุดกระโปรงของคนชั้นต่ำอย่างเจ้าจึงอยากนำกลับไปให้คนทำเสื้อผ้าพิจารณาดูสักหน่อยก็เท่านั้น และนี่ถือได้ว่าเป็นวาสนาของคนชั้นต่ำอย่างเจ้า!”
เจียงป่าวชิงหมุนตัวกลับไป: “วาสนาอย่างนั้นรึ ? หึ! กลางวันแสก ๆ มาก็สั่งให้คนอื่นถอดกระโปรงเช่นนี้ ยังมีกฎหมายบ้านเมืองอยู่หรือเปล่า ?”
สาวใช้คนนั้นราวกับได้ยินเรื่องน่าขันทำนองนั้น นางหัวเราะออกมา แม้แต่พระคลังเคลื่อนที่ที่อยู่ข้างหลังนางก็ยังยกยิ้มมุมปากด้วยความหยิ่งผยองเช่นกัน
“คนบ้านนอกคอกนาเยี่ยงเจ้าที่แม้แต่คุณหนูของข้ายังไม่รู้จักด้วยซ้ำ ยังกล้ามาพูดเรื่องกฎหมายบ้านเมืองกับข้าอีกรึ ?” สาวใช้ยิ้มอย่างจองหอง “ข้าจะบอกเจ้าให้เอาบุญ เจ้าอย่าตกใจจนฉี่รดกางเกงล่ะ คุณหนูของข้าเป็นลูกของขุนนางในอำเภอแห่งนี้ นางไม่จำเป็นต้องกลัวผู้ใดทั้งนั้น!”
อ้อ… อืม… เจียงป่าวชิงเข้าใจได้ในทันที ที่แท้หญิงคนนี้ก็มีพ่อเป็นใหญ่ที่นี่ และเป็นถึงขุนนางในอำเภอ
ดูจากการที่บุตรสาวของขุนนางในอำเภอกล้ากำเริบเสิบสานบนถนนได้ขนาดนี้ เห็นทีว่าที่อำเภอฉือเจียคงจะไม่มีกฎหมายบ้านเมืองอะไรเลย และต่อไป นางก็จะไม่ถามคำถามนี้อีกแล้ว
รอยยิ้มของเจียงป่าวชิงยังคงเจิดจรัส จากนั้นดวงตาที่สดใสก็มองไปรอบตัวพระคลังเคลื่อนที่ของขุนนางในอำเภอและกลับมาหยุดที่บนร่างของสาวใช้ สุดท้าย นางก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะราวกับไข่มุกเม็ดใหญ่และเม็ดเล็กที่ตกลงบนแผ่นหินของถนนสายนี้อย่างไรอย่างนั้น
“ไอ้หยา! ที่แท้พี่สาวคนนี้เป็นสาวใช้ ส่วนคนที่อยู่ข้างหลังนั้นเป็นคุณหนู ข้าเห็นพี่น่าเกรงขามขนาดนั้นก็คิดว่าเป็นลูกสาวของขุนนางในอำเภอเสียอีก”
พอพูดออกไปแบบนี้ สีหน้าของพระคลังเคลื่อนที่ก็ดำคร่ำเครียดทันที
สีหน้าของสาวใช้ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน นางรีบพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว “คนชั้นต่ำอย่างเจ้าพูดจาเหลวไหลอะไรน่ะห๊ะ! คุณหนูของข้า…”
เพียงแต่นางยังพูดไม่ทันจบคำ พระคลังเคลื่อนที่ที่อยู่ด้านหลังก็ได้พูดขัดจังหวะขึ้นมาเสียก่อน
“พอแล้ว ชิวเย่!”
เห็นได้ชัดว่าบุตรสาวของท่านขุนนางอำเภอกำลังไม่พอใจมาก นางไม่ได้สั่งให้สาวใช้พูดต่อ แต่นางกลับเป็นฝ่ายพยักหน้าให้เจียงป่าวชิงเอง ซึ่งท่าทางของนางนั้นเย่อหยิ่งมาก “เจ้าเข้าไปในร้านค้าริมถนนและถอดชุดกระโปรงออกมาให้ข้า ไม่อย่างนั้น อย่าหาว่าข้ารังแกเจ้า!”
อ้อ… พัฒนาขึ้นมาหน่อยที่จะให้ไปถอดกระโปรงในร้านค้าริมถนนแบบนั้น เจียงป่าวชิงรู้สึกอยากขำอยู่พอสมควร
คนเรานี่ก็เหลือเกิน ชอบสิ่งของอะไรก็จะเอาให้ได้ตรงนั้น มาคิด ๆ ดูแล้วลักษณะท่าทางของท่านขุนนางอำเภอท่านนั้นคงจะสามารถมองเห็นได้จากในท่าทางของลูกข้าราชการท่านนี้เสียแล้วสิ
เจียงป่าวชิงตบหน้าตัวเองเล็กน้อย จากนั้นก็ถามขึ้นอย่างฉงนสงสัย “เห็นทีว่าพี่สาวคนนี้คงจะใส่กระโปรงของข้าไม่ได้นะเจ้าคะ”
พระคลังเคลื่อนที่ที่เป็นลูกสาวของตระกูลฉืออายุมากกว่าเจียงป่าวชิงสองสามปี นางน่าจะกินดีอยู่ดี ได้รับสารอาหารที่เพียงพอมาตั้งแต่เด็ก ๆ ถึงแม้ว่านางจะไม่ได้อ้วน แต่ดูเหมือนนางจะแข็งแรงอยู่พอสมควร และมีโครงกระดูกที่ค่อนข้างใหญ่พอตัว
บุตรสาวตระกูลฉือไม่คิดว่าหลังจากที่คนชั้นต่ำคนนี้รู้สถานะของนางแล้ว จะยังกล้ายั่วยุนางครั้งแล้วครั้งเล่า นางโกรธขึ้นมาทันที “เจ้ากล้ามาก!”
ชิวเย่ผู้เป็นสาวใช้รีบเดินเข้าไปหานาง “คุณหนูใจเย็น ๆ ก่อนนะเจ้าคะ ไอ้คนชั้นต่ำคนนี้มีจิตใจที่ชั่วร้ายมาก ถึงได้จงใจยั่วโมโหคุณหนูเช่นนี้ จากที่ข้าน้อยดูแล้ว เราสั่งให้ฉือฝูกับฉือโช่ลากไอ้คนชั้นต่ำคนนี้กลับไปและโยนนางเข้าไปในคุกดีกว่าเจ้าค่ะ”
เจียงป่าวชิงมองหน้าคุณหนูตระกูลฉือ ก่อนจะพูดขึ้นยิ้ม ๆ “อันที่จริงคนที่บอกว่าพี่สาวจะใส่ไม่ได้ก็คือพี่สาวใช้คนนี้เจ้าค่ะ”
บุตรสาวตระกูลฉือตบหน้าชิวเย่ทันที
ชิวเย่ถูกตบจนโซเซ นางจับหน้าตัวเองและคุกเข่าลงตรงหน้าคุณหนูของนางพลางร้องไห้อย่างขมขื่นใจ “คุณหนูเจ้าขา คุณหนูอย่าหลงกลแผนยุแยงตะแคงรั่วของหญิงเลวคนนี้เด็ดขาดนะเจ้าคะ ข้าน้อยทำเพื่อคุณหนูนะ”
ชิวเย่โกรธแค้นเจียงป่าวชิงอยู่ในใจ ตั้งแต่นางรับใช้ฉือเชียนเชียนมา นางไม่เคยได้รับความไม่เป็นธรรมเช่นนี้มาก่อนเลย และไม่เคยต้องรู้สึกอับอายต่อหน้าผู้คนมากมายบนท้องถนนเช่นนี้ด้วย
เมื่อก่อน ตอนที่นางเดินออกไปข้างนอก พวกพ่อค้าเหล่านั้นเห็นนาง มีหรือที่พวกเขาจะไม่เรียกนางว่า ‘น้องชิวเย่’ ด้วยท่าทางเคารพ ? ทว่าตอนนี้กลับต้องมาอับอายขายขี้หน้าผู้คนมากมาย แล้วต่อไปนางจะได้รับความเคารพจากพวกพ่อค้าเหล่านั้นอีกได้อย่างไร
ชิวเย่กัดฟันจนฟันของนางเกือบหักอยู่แล้ว
ฉือเชียนเชียนมองเจียงป่าวชิงด้วยใบหน้าหมองหม่น “คนชั้นต่ำอย่างเจ้านี่ลิ้นเฉียบแหลมเหมือนกันนี่ ข้าจะรอดูว่าถึงตอนที่เจ้าถูกตัดลิ้นแล้ว เจ้าจะยังพูดได้เช่นนี้อีกหรือเปล่า!”
พูดจบ นางก็โบกมือให้ข้ารับใช้ที่รูปร่างสูงใหญ่สองคนนั้นเพื่อสั่งให้พวกเขาไปจับเจียงป่าวชิงไว้
ร่างเล็กๆของเจียงป่าวชิงขยับอย่างว่องไว นางรีบพุ่งไปตรงหน้าฉือเชียนเชียนก่อน และรีบพูดคำพูดประโยคหนึ่งต่อหน้านางอย่างรวดเร็ว
ฉือเชียนเชียนราวกับถูกทุบศีรษะด้วยหินก้อนใหญ่ที่ตกลงมาจากบนฟ้าอย่างไรอย่างนั้น จากนั้นนางก็มองเจียงป่าวชิงอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
ตอนนี้ข้ารับใช้สองคน ฉือฝูกับฉือโช่ก็เข้ามาจับกุมเจียงป่าวชิงเรียบร้อยแล้ว แต่ทว่าเจียงป่าวชิงกลับปล่อยให้ข้ารับใช้สองคนจับแขนของนางไว้ทั้งอย่างนั้น
นัยน์ตาของชิวเย่ฉายแววสบายอกสบายใจออกมาให้เห็นทันที ขณะที่ข้ารับใช้สองคนมองฉือเชียนเชียนเล็กน้อยเป็นเชิงถามว่าจะเอาอย่างไรต่อไป “คุณหนูขอรับ ?”
แต่ฉือเชียนเชียนกลับยังคงรู้สึกลังเลใจอยู่ในขณะนี้
เมื่อสักครู่เจียงป่าวชิงทำเพียงพูดเบา ๆ ข้างหูของฉือเชียนเชียน “ช่วงนี้ประจำเดือนของคุณหนูค่อนข้างผิดปกติใช่ไหมเจ้าคะ ? ข้ามีวิธีแก้ไขนะ”
เมื่อฉือเชียนเชียนได้ยินดังนั้นนางก็ตกตะลึงไปทันที เพราะมีเพียงชิวเย่ที่เป็นสาวใช้ข้างกายนางเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา การมาของประจำเดือนของนางค่อนข้างผิดปกติ อย่างแรกคือปริมาณน้อย และเดือนที่แล้วก็ไม่มาจนถึงตอนนี้
เนื่องจากช่วงไม่กี่ปีมานี้ ท่านพ่อของนางหลงผู้หญิงสารเลวคนหนึ่งหัวปักหัวปำ หลังจากที่ท่านแม่ของนางเสียไป ท่านพ่อของนางก็ได้มอบสิทธิ์ในการดูแลบ้านให้กับนางผู้หญิงสารเลวคนนั้นโดยตรง และฉือเชียนเชียนไม่อยากให้ผู้หญิงสารเลวคนนั้นรู้ว่านางประจำเดือนมาไม่ปกติ ไม่อย่างนั้น ผู้หญิงสารเลวคนนั้นก็จะเผยแพร่เรื่องที่น่าอับอายเช่นนี้ไปทั่วด้วยการแสร้งทำเป็นว่าเป็นห่วงนาง
เช่นเดียวกับเรื่องที่นางนอนกรนตอนกลางคืน หลังจากที่หญิงสารเลวคนนั้นรู้เรื่องนี้ก็แสร้งทำเป็นพูดว่าอันที่จริงการนอนกรนเป็นโรคชนิดหนึ่งที่ทำให้คนเราสามารถตายได้ง่ายมาก นอกจากนี้ หญิงสารเลวคนนั้นยังไปขอคำปรึกษาจากหมอแทนนางอย่างโจ่งแจ้ง ทำจนตอนนี้ไม่มีใครในอำเภอฉือเจียที่ไม่รู้ว่าฉือเชียนเชียนกรนเหมือนฟ้าร้องในตอนกลางคืน!
และตอนนี้นางยังมาถูกเด็กผู้หญิงที่ผอมแห้งรู้เรื่องโรคที่ไม่อาจเปิดเผยได้อีก
ฉือเชียนเชียนรู้สึกอยากฆ่าคน ทว่าเมื่อนึกถึงคำพูดที่ว่า ‘ข้ามีวิธีแก้ไขนะ’ ของเด็กผู้หญิงตรงหน้าแล้ว ความรู้สึกที่อยากฆ่าคนของฉือเชียนเชียนก็ถูกระงับไว้ทันที
เมื่อเห็นสีหน้าที่ดูเหมือนมีความมั่นใจของเจียงป่าวชิง ฉือเชียนเชียนก็ลังเลใจครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายนางก็ตัดสินใจว่าจะลองเสี่ยงดูสักตั้ง
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ฉือเชียนเชียนกับเจียงป่าวชิงก็มาอยู่ในห้องรับรองพิเศษที่โรงน้ำชา
ชิวเย่แทบจะกัดฟันตัวเองจนแตกละเอียดอยู่แล้ว นางอยากเตือนคุณหนูของนางว่าอย่าหลงกลคำพูดของเด็กชั้นต่ำคนนี้ แต่แก้มที่ยังคงปวดอยู่จาง ๆ กลับเตือนนางว่าช่วงนี้หนีบหางไว้และเป็นคนก่อนจะดีกว่า
ฉือเชียนเชียนสั่งให้ชิวเย่กับข้ารับใช้สองนายออกไปเฝ้าประตูห้องรับรองด้านนอกเอาไว้
ตอนนี้ภายในห้องรับรองเดี่ยวแห่งนี้เหลือเพียงฉือเชียนเชียนที่เย่อหยิ่ง กับเจียงป่าวชิงที่กำลังทำหน้าตาใสซื่อบริสุทธิ์
ฉือเชียนเชียนหรี่ตาลง จากนั้นนางก็พูดอย่างออกคำสั่ง “เอาล่ะ ตอนนี้ไม่มีใครแล้ว เจ้าบอกข้ามาให้ชัดเจนว่าเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าประจำเดือนของข้ามาไม่ปกติ”