โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 – ตอนที่ 19

Ch.19 – เธอตื่นแล้ว

Translator : Muntra / Author

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.19 – เธอตื่นแล้ว

 

อันที่จริง งูชายแดนไม่ใช่สัตว์กลายพันธ์ที่สามารถสังหารได้ง่ายดายนัก มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งพอสมควร ทว่าแกร่งแค่ไหน ก็มิอาจหลบเลี่ยงศรอันแม่นยำจากหน้าไม้ของฉินเฟิงไปได้

 

“วิซ! วิซ! วิซ!”

 

ฉินเฟิงลั่นไกหน้าไม้ ศรแหลมพุ่งออกไป ปะทะเข้ากับหัวงูที่ใกล้เข้ามาโดยตรง ส่งมันลงไปดิ้นกับพื้น

 

งูชายแดนตอนแรกสะบัดตัวอย่างไม่ยินยอม แต่ไม่ช้า เรี่ยวแรงของมันก็เริ่มเหือดหายไปอย่างรวดเร็ว

 

ฉินเฟิงทำตามรูปแบบเดิม ไล่สังหารอีกสองตัวด้วยวิธีการเดียวกัน

 

เสี่ยวจิงเฝ้ามองการเคลื่อนไหวของฉินเฟิง รู้สึกว่าได้หัวใจกำลังสั่นไหว บังเกิดความชื่นชมในตัวเขา

 

ฉินเฟิงดึงมีดสั้นออกจากรองเท้าบูท และโยนให้แก่เสี่ยวจิง

 

“มีดสั้นนี้สำหรับเธอ หลังจากนี้ไป เธอจะต้องเป็นคนชำแหละพวกมัน เก็บรวบรวมวัตถุดิบ เหมือนที่ฉันทำเมื่อกี้นี้!”

 

“อา!” เสี่ยวจิงโยนแท่งเหล็กในมือทิ้งไปตามสัญชาตญาณ คว้ารับมีดสั้นอย่างร้อนรน เดินมาหยุดอยู่หน้าสามงู ลดมือลง ค่อยๆลากใบมีดไปมา เริ่มทำการเก็บรวบรวมวัตดุดิบทั้งหมด

 

แน่นอน ว่าแม้เธอจะไม่สามารถสังหารงูชายแดนได้ แต่หากเป็นเรื่องหั่นแยกส่วนคล้ายกับการทำอาหาร เธอนับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ

 

“เจ้าพวกนี้มันก็เป็นแค่อาหาร! เป็นแค่อาหาร!” เสี่ยวจิงปลอบใจตัวเอง และลงมืออย่างไม่ลังเล

 

ฉินเฟิงมองเธอ เมื่อเห็นว่าเป็นไปด้วยดี ก็พยักหน้าด้วยความพอใจ ส่วนตนก็เบนสมาธิไปรับมือกับอันตรายที่กำลังใกล้เข้ามาอย่างจริงจัง

 

“แอ๊!”

 

เสี่ยวไป๋ร้องเตือนอีกครั้ง

 

“ฟ่อ …. ”

 

งูชายแดนเลื้อยปรากฏกายขึ้นอีกคราว คู่ดวงตาของมันตั้งตรง ฉาบไปด้วยกลิ่นอายสังหาร ยิ่งตรงจุดนี้มีการนองเลือดเกิดขึ้น ก็ยิ่งกระตุ้นพวกมัน หลังจากที่มองเห็นฉินเฟิง มันก็ชูคอทันที ฉกเข้าใส่เขา

 

แต่ฉินเฟิงดูเหมือนจะไวกว่า ขยับมือยิงหน้าไม้ออกไป ส่งงูตัวนั้นร่วงจูบกับพื้นทันที

 

อย่างไรก็ตาม ลูกศรของฉินเฟิงพกมาไม่มากนัก มันมีแค่ 30 ดอกเท่านั้น

 

ทว่างูชายแดนกลับเลื้อยเข้ามามากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายฉินเฟิงมิอาจสังหารพวกมันโดยอาศัยหน้าไม้เพียงลำพังได้

 

“ตอนนี้เอายังไงดี? ฉินเฟิง ฉันว่าพวกเรากลับกันก่อนไหม?” เสี่ยวจิงแม้จะร้อนเงิน แต่หลังจากที่เก็บรวบรวมวัตดุดิบมาได้มากมาย เธอก็รู้สึกว่าการเก็บเกี่ยววันนี้น่าจะพอแล้ว

 

ฉินเฟิงไม่ตอบ แต่โยนหน้าไม้ในมือตนออกไป

 

ณ เวลานี้ ปรากฏงูชายแดนแปดตัวขึ้นในสายตาของเขา

 

ปราณของฉินเฟิงไหลเข้าไปในตันเถียน หลังจากผ่านการฝึกฝนสมาธิมาหลายวัน กำลังภายในของเขาก็จะได้ถูกนำมาใช้งานแล้ว!

 

สำหรับ «ทักษะลับกลืนดารา» เขาได้ฝึกฝนทักษะนี้ ทีละขั้นตอน ดูดกลืนปราณจากฟ้าดิน กระทั่งตอนฝึกก็ยังมีพลังกลืนกินไวเทียบเท่ากับพลังระดับ A และหากเป็นการใช้กับสิ่งมีชีวิตจริงๆ ต้องรวดเร็วยิ่งกว่าแน่นอน

แต่แค่นั้น ก็เพียงพอแล้ว

 

ฉินเฟิงเกร็งมือ สะบัดไปเบื้องหน้าทันใด

 

“ฝ่ามือกลืนดารา!”

 

ทักษะลับกลืนดารา คือการใช้ฝ่ามือ ดูดซับกำลังภายในจากร่างของศัตรูโดยตรง

 

ไม่เพียงเท่านั้น ทักษะกลืนดาราแท้จริงแล้วมิเพียงมีแค่แรงดูด หากแต่มันยังส่งแรงผลักที่ตรงกันข้ามไปพร้อมๆกัน ก่อให้เกิดแรงกระแทกอันหนักหน่วง

ด้วยสองพลังที่แม้ตรงข้าม แต่ก็เป็นหนึ่งเดียวกันนี้ แน่นอนว่าย่อมมากพอที่จะกดดันอีกฝ่ายลงสู่ความตาย

 

ฉินเฟิงกวาดฝ่ามือของเขาไปทางงูทั้งแปดตัวเบื้องหน้า ดูดพวกมันทั้งหมดขึ้นจากพื้นดิน ในเวลาต่อมา ‘โผล๊ะ!’ ร่างงูชายแดนก็ตัวแตกจากแรงผลัก ระเบิดกลางอากาศโดยตรง

 

เลือดสาดกระจายไปทั่ว
เสี่ยวจิงตกตะลึงไปอย่างสมบูรณ์

 

พลังงานจากศพของงูชายแดนถูกดูดกลืนเข้าฉินเฟิง พละกำลังและความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

ไม่เพียงแค่นั้น แต่ฉินเฟิงยังรู้สึกว่ากำลังภายในของเขาเอง ก็เริ่มฟื้นฟูขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน

 

“เป็นอย่างที่คิดจริงๆด้วย! พลังพิเศษดูดกลืนของฉัน สามารถใช้ร่วมกันกับทักษะลับกลืนดาราได้เป็นอย่างดี!” ฉินเฟิงได้ข้อสรุปแล้ว

 

แต่หลังจากนั้นเอง ท้องฟ้าก็เริ่มมืดลง และบริเวณโดยรอบก็ไม่มีงูชายแดนบุกเข้ามาโจมตีอีกต่อไป

 

“เก็บของๆเธอซะ พวกเราจะกลับกันแล้ว!”

 

ฉินเฟิงรู้ดี ว่าในรัศมี 1 กิโลเมตร งูชายแดนได้ถูกล้างบางจนสิ้น

 

สีหน้าของเสี่ยวจิงเปล่งปลั่งสดใส เธอพยักหน้า เริ่มเก็บของอย่างว่าง่าย

 

ในวันนี้ พวกเธอสังหารงูชายแดนไปทั้งสิ้น43 ตัว หนังหนาของมันถูกยัดจนเต็มถุงโดยฉินเฟิง ในขณะที่กระเป๋าสะพายหลังเต็มไปด้วยดีงูกับเขี้ยวงู

 

สำหรับเนื้อของมัน ฉินเฟิงไม่ได้มีความตั้งใจจะนำกลับไป

 

“เอ้า! นี่คือส่วนแบ่งของเธอ” ฉินเฟิงนำวัตดุดิบของงูชายแดนสามตัว มอบให้แก่เสี่ยวจิง

 

เสี่ยวจิงตกใจ แต่ก็มิได้ปฏิเสธ เธอเอ่ยถาม “ของพวกนี้ … สามารถแลกเปลี่ยนได้เป็นเงินเท่าไหร่?”

 

ฉินเฟิงคำนวณในใจ ตอบกลับไป “ประมาณ 10000 เหรียญ!”

 

ดวงตากลมมนของเสี่ยวจิงเบิกกว้างทันที

 

เพราะในอีกความหมายนึงก็คือ หากเธอติดตามฉินเฟิง และทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆอีกเป็นเวลา 8 วัน เธอก็จะได้รับเงิน 80000 มาปลดเปลื้องอิสระภาพให้แก่ตนเอง

 

“พรุ่งนี้นายจะมาอีกไหม?” เสี่ยวจิงรู้สึกอายเล็กน้อย แต่ก็ยังถามด้วยใบหน้าแดงซ่าน

“แน่นอนอยู่แล้ว แต่ส่วนของวันนี้ พวกเราจะกลับไปนอนที่เต็นท์ในพื้นที่เพาะปลูก มิฉะนั้นหากต้องไปกลับทุกวัน มันจะเสียเวลามากเกินไป มาเถอะ!”

 

ฉินเฟิงกำลังจะแบกหนังงูบนหลัง แต่เจ้าตัวน้อยที่อยู่ในกระเป๋าสะพายกลับดิ้นไปมา เสี่ยวไป๋โผล่หัวออกมาทันที มันพยายามเบียดตัวออกมาจากท่ามกลางวัตถุดิบที่อัดแน่นเป็นปลากระป๋อง

 

“แอ๊!” เสี่ยวไป๋มุดออกมาอย่างไม่พอใจ และวิ่งไต่ไปนั่งบนไหล่ของฉินเฟิง

 

ในช่วงเวลานั้น ฉินเฟิงสังเกตเห็นว่าฟันขาวของเสี่ยวไป๋เริ่มงอกแล้ว

 

“ก็ได้ๆ แต่อย่าลืมล่ะว่าต้องกลับเข้าไปข้างใน อย่าให้คนอื่นเห็น”

 

“แอ๊!”

ฉินเฟิงเริ่มเดินต่อ

 

เสี่ยวจิงเหลียวกลับไปมองฉากต่อสู้นองเลือดเบื้องหลัง ร้องตะโกนถามอีกครั้ง

 

“ฉินเฟิง แล้วเนื้องูพวกนี้ล่ะ? นายไม่เอาไปด้วยหรอ?”

 

“ไม่ มันหนักเกินไป!”
พวกเขามีกันแค่สองคนเท่านั้น แต่กลับสร้างผลลัพธ์ได้มากพอๆกับคนที่มาเป็นทีม จึงมีส่วนต่างของวัตถุดิบที่เยอะเกินไป แม้แต่ฉินเฟิงก็ไม่อาจนำกลับไปได้

เสี่ยวจิงมองดูเนื้องูเหล่านั้น ‘โถ่! นั่นมันกองเงินระยิบระยับเลยนะ!’

 

ในปัจจุบัน ที่ชุมชน เนื้อคุณภาพสูงเช่นนี้มิใช่สิ่งที่คนชนชั้นล่างจะสามารถกินได้ เพียงหนึ่งกิโลกรัมอาจแลกมาได้ถึง 100 เหรียญ และงูชายแดนทั้งตัว สามารถแลกได้ถึง 2000 เหรียญเลยทีเดียว! ซึ่งนั่นคือรายได้ทั้งเดือนของพ่อแม่ของเสี่ยวจิง

 

เสี่ยวจิงกัดฟัน และเริ่มยัดเนื้องูชิ้นใหญ่เข้าไปในกระเป๋าเป้ใบเล็กๆของเธอ

 

เจ้าตัวกัดฟันอีกครั้ง และเริ่มแบกสองศพงูชายแดนไว้บนไหล่คนละข้าง โดยไม่คำนึงถึงเลือดและความสกปรก ก่อนจะเดินตามฉินเฟิงไป

 

ฉินเฟิงมิได้ห้ามปรามเสี่ยงจิง แต่ก็ไม่คิดช่วยเหลือ ปล่อยให้เธอแบกมันด้วยตัวเอง

 

ฉินเฟิงแน่นอนว่าเดินตัวปลิว ทุกย่างก้าวช่างปลอดโปร่งสบาย ตรงกันข้ามกับเสี่ยวจิง ที่ผ่านไปไม่ถึง 10 นาที ก็เริ่มหอบหายใจหนักหน่วง พละกำลังเหือดหายไปอย่างรวดเร็ว

 

อย่างไรก็ตาม เธอก็ไม่บ่นแม้ซักครึ่งคำ ที่ทำก็เพียงพยายามเดินต่อไป ไม่ร้องขอให้ฉินเฟิงช่วยเหลือใดๆ

 

เมื่อผ่านพ้นไป 15 นาที เสี่ยวจิงก็ปวดแปล่บที่กล้ามเนื้อ ในท้องของเธอว่างเปล่า เริ่มเกิดอาการหิวอีกครั้ง

 

“เดี๋ยวก่อน ช่วยรอแปปนึงนะ”

 

เห็นแค่เพียงเสี่ยวจิงที่อ้าปากกว้าง กัดลงไปบนเนื้องูสดๆ กลืนมันลงไป บังเกิดความอบอุ่นในกระเพาะอาหาร ร่างกายเริ่มมีพละกำลังอีกครั้ง

 

ฉินเฟิงมองเสี่ยวจิงด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย

 

ไม่คาดคิดเลย ว่าอีกฝ่ายจะสามารถปลุกพลังวรยุทธโบราณให้ตื่นขึ้นมาได้แล้วอย่างกระทันหัน

 

หลังจากฉีดยากระตุ้นลงไป นอกเหนือไปจากโอกาสที่จะสามารถปลุกพลังพิเศษให้กลายเป็นผู้ใช้อบิลิตี้ได้แล้ว ตัวยายังมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นร่างกายและจิตวิญญาณ เพิ่มพูนพละกำลังและความเร็ว รวมไปถึงพลังอื่นๆในภายนอก

การตื่นขึ้นของพลังรูปแบบนี้ มีโอกาสสูงกว่าการตื่นขึ้นของอบิลิตี้ แต่ก็ยังถือว่าหาได้ยากยิ่ง มีโอกาสเกิดขึ้นเพียงหนึ่งในสิบเท่านั้น

ฉินเฟิงรู้จักกับเสี่ยวจิงเพียงผิวเผิน เขาไม่ได้สนิทกับเธอ แต่พอมาคิดดูดีๆ การที่เสี่ยวจิงได้มาติดตาม พึ่งพิงเขา ก็เป็นอะไรที่ไม่คาดคิดมาก่อนจริงๆ

 

“กินมันเข้าไปอีกสิ .. ถือมันเอาไว้ดีๆเดี๋ยวฉันช่วย” ฉินเฟิงดึงมีดสั้นออกมา ช่วยเฉือนเนื้อของมัน หั่นเป็นชิ้นให้เสี่ยวจิงกินสะดวกๆ

 

“ฉันรู้สึกเหมือนว่าตัวเองจะแข็งแกร่งกว่าเดิมมากเลย!” เสี่ยวจิงงงงวยเล็กน้อย แต่ก็ยังฟังคำของฉินเฟิง ทนฝืนกินรสชาติคลื่นไส้ของเนื้องูไม่สุก กลืนมันลงไป -ในกระเพาะอาหารของเธอคล้ายกับเป็นหลุมลึก คอยดูดซับพลังงานเหล่านั้นเข้าไปอย่างต่อเนื่อง

 

“พลังของเธอตื่นขึ้นแล้ว!” ฉินเฟิงเผยรอยยิ้มจางๆออกมา

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】
Status: Ongoing
อ่านนิยายโคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】ภายในตัวอาคารที่ถูกเสริมแกร่งด้วยเหล็กกล้า พื้นโถงทางเดินราวกับกระจกใส ทั้งแพทย์และพยาบาลต่างเดินกันให้วุ่นไปตลอดเส้นทาง   ที่นี่คือสถาบันวิจัยเขตชานเมืองใหม่ของเมืองเฉิงหยาง   ณ หนึ่งในพื้นที่บริเวณของสถาบัน กลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวที่ทั้งตื่นเต้นระคนวิตกกังวล กำลังเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ   “กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง! หมายเลข 2318 ฉินเฟิง กรุณาไปเข้ารับการฉีดยากระตุ้นในแอเรียที่ 3 ด้วย!”   “ถึงตาของฉันแล้- โครม!”   วัยรุ่นชายผุดลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว จนเจ้าตัวเสียหลัก สะดุดขาตัวเองล้มคะมำลงกับพื้น   เพียงได้ยินเสียงกระแทก ทุกคนก็พอจะรับรู้ได้ว่าการล้มหน้าฟาดของอีกฝ่ายรุนแรงขนาดไหน   “อ๊า! ฉินเฟิง!” เห็นถึงฉากนี้ โจวฮ่าวก็กลายเป็นตื่นตระหนก เขาเร่งก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยเหลือสหายของตนอย่างร้อนรน   แล้วก็พบกับผลลัพธ์คาดไม่ถึง -ฉินเฟิงที่ล้มลงดันสลบไปซะอย่างงั้น!   “ชิบหายแล้ว ฉินเฟิง! นายคงไม่ได้หมดสติจริงๆหรอกใช่ไหม เล่นตลกอะไรในเวลาสำคัญแบบนี้เนี่ย? รีบตื่นขึ้นมาเร็วเข้า! ถึงเวลาฉีดยา ‘กระตุ้นพลัง’ ของนายแล้วนะ!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset