โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 – ตอนที่ 214

Provider : Muntra

 

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.214 – ตั๋วผ่านมิติ

 

ซึ่งในส่วนของอุปกรณ์รูนเลเวล E ยกตัวอย่างเช่นอุปกรณ์รูนสีม่วง ทุกๆชิ้นจะมีมูลค่าราวๆ 20 – 30 ล้านเหรียญ นอกจากนี้ยังต้องใช้เวลาหลอมกลั่นและตามหาวัตถุดิบค่อนข้างนาน 

 

เมื่อฝูงชนเริ่มคิดถึงข้อเสียเหล่านี้ ความกระตือรือร้นที่จะซื้อผลิตภัณฑ์วิทยาศาสตร์ต่างมิติก็เริ่มถดถอยลง

 

“โอ้ นั่นฟังดูเป็นข้อดีมากเลยนี่นา ถ้าอย่างงั้นผมก็ไม่มีปัญหาแล้ว ขอบคุณสำหรับข้อมูล!” ว่าจบ หลิงหวูยี่ก็นั่งลงและไม่เอ่ยคำถามใดเกี่ยวกับรูบิควิเศษอีกเลย

 

แต่ ณ ขณะนี้ แววตาที่ลุกเป็นไฟของผู้เข้าประมูลคนอื่นๆก็ลดฮวบลงแล้วเช่นกัน

 

พิธีกรประมูลเมื่อเห็นฉากนี้ ก็ต้องลอบถอนหายใจอย่างลับๆ ในสมองขบคิดว่าคงไม่ได้ค่าคอมมิชชั่นจากสินค้าชิ้นนี้เสียแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มหวันซ่งตระหนักดีถึงข้อเสียของรูบิควิเศษ ดังนั้นมันคงไม่สามารถขายได้ในราคาที่ดีนัก เลยเตรียมใจไว้ระดับหนึ่งแล้ว

 

“เริ่มการประมูล รูบิควิเศษได้ ราคาเริ่มต้นคือ 100 ล้านเหรียญ และต้องเสนอราคาเพิ่มไม่ต่ำกว่าครั้งละ 1 ล้าน เริ่มประมูลได้!”

 

ทว่ากลับไร้ซึ่งสรรพเสียงใดๆในห้องประมูล …

 

จนเวลาผ่านไปกว่า 3 วินาที ท่ามกลางฝูงชน ชายคนหนึ่งถึงเริ่มชูป้ายเสนอราคา

 

“ถือซะว่าซื้อเผื่อไว้ในอนาคตก็แล้วกัน!”

 

“รับทราบเจ้าค่ะ ท่านผู้ใหญ่คนนี้เสนอราคาประมู, 101 ล้านเหรียญ!”

 

จากนั้นบางคนก็เริ่มชูป้าย จนราคาถูกยกขึ้นเป็น 112 ล้านเหรียญ

 

“112 ล้านเหรียญ ครั้งที่หนึ่ง … ”

 

ในช่วงเวลานั้นเอง ฉินเฟิงเคลื่อนไหวในที่สุด

 

“120 ล้าน!”

 

ราคาพุ่งโดดไป 8 ล้านในครั้งเดียว เห็นได้ชัดถึงความตั้งใจที่จะเอาชนะของฉินเฟิง 

 

ชายอีกคนลังเล สุดท้ายเอ่ยปาก

 

“121 ล้าน!”

 

“130 ล้าน!”

 

ชายที่เสนอราคาสู้กัดฟันกล่าว “ 131 ล้าน! ถ้าคุณยังเสนอราคามากกว่านี้ ฉันจะไม่สู้แล้ว!”

 

ที่พูดแบบนี้ ไม่ใช่เพราะเขาไม่มีเงินหรือหวาดกลัวฉินเฟิง แต่เขาหวาดกลัวคนที่ให้การสนับสนุนฉินเฟิงอยู่เบื้องหลังต่างหาก 

 

ซึ่งการที่เขาจะคิดแบบนั้นมันก็ไม่แปลก เพราะท้ายที่สุดแล้ว ฉินเฟิงยังเด็กเกินไป แต่กลับสามารถทะยานขึ้นมาถึงเลเวล E ได้ ฉะนั้นฉินเฟิงย่อมไม่ใช่แค่คนรวยธรรมดาๆอย่างแน่นอน

 

ฉินเฟิงเผยอยิ้มเล็กน้อยและกล่าว “132 ล้าน”

 

ชายคนนั้นจ้องมองฉินเฟิง แต่ก็อย่างที่ลั่นวาจาไว้ เขายอมแพ้เสนอสู้ราคาประมูล

 

พิธีกรสาวประกาศทันที “ 132 ล้านครั้งที่หนึ่ง , ครั้งที่สอง และสาม! ปิดราคาประมูล!”

 

ราคาโดยรวม แม้จะไม่สูงมากนัก แต่อย่างน้อยก็สามารถขายได้ ตรงส่วนนี้ทำให้พิธีกรสาวรู้สึกดีขึ้นมาก เธอเผยรอยยิ้มแย้มสดใส และเริ่มดำเนินการประมูลต่อ

 

ทว่าคนในห้องประมูลแห่งนี้คงไม่ทราบ ว่าในช่วงชีวิตก่อนหน้า รูบิควิเศษชิ้นนี้ เคยถูกขายด้วยราคาที่น่าตกตะลึง มันมากถึง 2000 ล้านเหรียญ!

 

แต่เพียงเพราะการแทรกแซงของฉินเฟิงในครั้งนี้ ทำให้รูบิควิเศษตกอยู่ในมือของเขา

 

“ฉันขอโทษนะคงโบะ เอาไว้เจอกันหลังจากนี้ ฉันจะชดใช้ให้ด้วยอย่างอื่นแทนก็แล้วกัน!” ฉินเฟิงเผยยิ้มจางๆ 

 

‘คงโบะ’ ที่ว่า คือผู้ใช้วรยุทธโบราณที่สามารถค้นพบวิธีใหม่ในการงานรูบิควิเศษได้อย่างร้ายกาจ เดิมอีกฝ่ายเป็นผู้ใช้กระบวนท่าวรยุทธประเภทอาวุธลับ ทว่าวิชาอาวุธลับของเขา มันไม่อาจใช้สู้ได้อย่างใจต้องการ โดยเฉพาะกับผู้ใช้อบิลิตี้

 

ทั้งนี้เป็นเพราะว่าพลังสมาธิในการใช้ควบคุมวัตถุบินของผู้ใช้อบิลิตี้ มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทิศทางของอาวุธลับได้ตลอดเวลา

 

ดังนั้น เมื่อได้ยินเกี่ยวกับรูบิควิเศษชิ้นนี้ เขาจึงขอซื้อรูบิคต่อจากคนที่เคยประมูลมันไปทันที เป็นจำนวนเงินกว่า 2000 ล้านเหรียญ และนี่เองคือจุดเริ่มต้นของสมญา ‘พันมีดบิน’ ของเขา

 

ปัจจุบันคงโบะเป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณในเลเวล A 

 

และในชีวิตนี้ เมื่อฉินเฟิงคือคนประมูลรูบิควิเศษมาไว้ในครอบครอง เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่ขายต่อมัน

 

เพราะสำหรับผู้อื่น รูบิควิเศษเป็นสิ่งที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการสั่งทำอุปกรณ์ต่างๆได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่สำหรับฉินเฟิงที่สามารถก้าวขึ้นสู่เลเวล A แน่ๆในอนาคต นี่ถือเป็นการลดทอนเม็ดเงินที่ต้องเสียไปและปัญหาต่างๆที่อาจตามมาได้อย่างมหาศาล!

 

 

งานประมูลยังคงดำเนินต่อไป และด้วยการเปิดตัวของรูบิควิเศษ ทำให้สิ่งอื่นๆจากนี้ที่ตามมา ล้วนเป็นวัตถุดิบสัตว์ร้ายระดับราชันย์ทั้งสิ้น

 

ฉินเฟิงไม่นิ่งเฉยอีกต่อไป เขาสำแดงอำนาจทางการเงินอันมั่งคั่งของตน

 

“เขาสิงโตเพลิงเลเวล E ระดับราชันย์สัตว์ร้าย ราคาเริ่มประมูล : 80 ล้านเหรียญ … ”

 

ล่างเวทีประมูล ป้ายถูกชูขึ้นซ้ำๆ

 

“230 ล้านครั้งที่หนึ่ง , ครั้งที่สอง และสาม! ขอแสดงความยินดีกับมิสเตอร์ฉิน วัตถุดิบระดับราชันย์ชิ้นนี้เป็นของคุณ!”

 

“ชิ้นต่อไปคือแก่นอบิลิตี้ของช้างงายักษ์ …. 680 ล้านครั้งที่สาม ขอแสดงความยินดีกับมิสเตอร์ฉิน!”

 

“ …. 520 ล้านครั้งที่สาม ขอแสดงความยินดีกับมิสเตอร์ฉิน!”

 

“ … ขอแสดงความยินดีกับมิสเตอร์ฉิน! ”

 

ด้วยการลงสนามประมูลอย่างต่อเนื่อง ทำให้วัตถุดิบระดับราชันย์ส่วนใหญ่ถูกซื้อโดยเขา 

 

เวลานี้ฉินเฟิงนำเงินที่ได้มากว่า 6000 ล้านเหรียญที่ตนครอบครองมาใช้จนเกลี้ยง!

 

ยิ่งไปกว่านั้น เป็นเพราะเขาจ่ายเงินทันที เลยเป็นตัวบ่งบอกว่า ทรัพยากรทางการเงินของฉินเฟิงไม่ใช่เรื่องเสแสร้ง

 

โชคยังดีที่เขาไม่แก่งแย่งประมูลวัตถุดิบมากจนเกินไป มิฉะนั้นเกรงว่าเขาคงทำให้คนจำนวนมากต้องขุ่นเคือง

 

อย่างไรก็ตาม เวลานี้ วิสัยทัศน์ของใครบางคนได้ตกลงบนร่างของฉินเฟิงแล้ว

 

และคนเหล่านี้ ไม่ต้องสงสัยเลย ว่าทั้งหมดล้วนเป็นคนจากองค์กรมืด

 

พวกเขามาที่นี่ ส่วนหนึ่งเพราะต้องการเข้าร่วมประมูล และอีกส่วนหนึ่ง มาเพื่อหาเป้าหมายอย่างแกะอ้วน ปล้นมัน และเชือดทิ้ง

 

เวลานี้ ฉินเฟิงเห็นได้ชัดว่าเป็นแกะอ้วนในสายตาของพวกเขา

 

“ยังเด็กอยู่เลย ไม่อยากจะเชื่อว่าจะรวยมากถึงขนาดนี้ น่าทึ่งเกินไปแล้ว!”

 

“ถ้าลอบฆ่ามันได้ คงฟันกำไรครั้งใหญ่ได้แน่นอน!”

 

“ผู้หญิงข้างๆเขาสวยมาก อย่าฆ่าเธอนะ คนนี้ฉันขอ!”

 

คนจากองค์กรมืดเริ่มสนทนากันอย่างลับๆ แต่ก็ถูกน้ำเสียงน่าตื่นเต้นของพิธีกรสาวเบนความสนใจกลับมาอีกครั้ง

 

“ชิ้นต่อไป ที่จะแสดงออกมาในงานประมูลครั้งนี้ คือชิ้นสุดท้าย!”

 

จากนั้น พิธีกรก็หยิบแผ่นสีเงินออกมา 

 

ทุกสายตาต่างหยุดลงที่แผ่นนี้เป็นจุดเดียว ไม่เว้นกระทั่งไป๋หลีที่ไม่เคยใยดีสิ่งใด 

 

เนื่องจากมีรูนสีเงินลอยอยู่บนแผ่นหินชิ้นนี้ เพียงมองด้วยตาเปล่า ก็จะพบว่ามันคือรูนมิติ

 

อย่างไรก็ตาม นี่มิใช่อุปกรณ์รูนมิติอย่างแน่นอน มิฉะนั้นแล้ว ด้วยรูปลักษณ์ของมันคงดูเกะกะเกินไป!

 

“เกรงว่าหลายท่านคงเริ่มเดากันออกแล้ว ว่าเจ้าสิ่งนี้คืออะไร … ถูกต้อง! เจ้าสิ่งนี้คือช่องว่างมิติที่มีเสถียรภาพ! มันถูกปิดผนึกไว้ในแผ่นหินนี้ และเชื่อมต่อกับพื้นที่ๆอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพลังงานและทรัพยากรมากมาย! แต่การจะเข้าไปข้างใน มีเงื่อนไขว่าอย่างน้อยต้องอยู่ในเลเวล E!”

 

“แค่อธิบายอย่างเดียวคงไม่พอ พวกเรามาดูภาพที่ถูกบันทึกเอาไว้กันสักหน่อย!”

 

ว่าจบ บนจอขนาดใหญ่ก็เริ่มเล่นวิดีโอในมุมมองของโดรนทันที ฝูงชนในห้องประมูลเห็นถึงพืชพรรณเขียวชอุ่มและป่าไม้

 

ยิ่งไปกว่านั้น โดรนที่บินสำรวจเป็นเวลากว่า 10 นาที ยังแสดงให้เห็นถึงชายฝั่ง หลังจากที่รับชมในมุมสูง บ่งบอกได้ว่าพื้นที่ๆเชื่อมต่อกับแผ่นหินนี้คือเกาะจริงๆ

 

และบนเกาะ มีสัตว์ร้ายอยู่เป็นจำนวนมาก โดรนสามารถบันทึกได้กระทั่งนกหน้าตาประหลาด , บางสิ่งบางอย่างคล้ายกับไดโนเสาร์ดึกดำบรรพ์ ฯลฯ

 

ซึ่งเกาะที่แยกตัวออกมาแบบโดดเดี่ยวเช่นนี้ เมื่อสัตว์ร้ายถูกกวาดล้างจนหมดสิ้น และเริ่มทำการลงมือปลูกพืชบางชนิดด้วยตนเอง มันจะกลายเป็นพื้นที่มิติลับที่เหนือล้ำยิ่งกว่าสวนล่าใบไม้ผลิ!

 

ฝูงชนอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจลึก ในหัวใจเริ่มเต้นถี่ระรัว ยิ่งไปกว่านั้น บนเกาะแห่งนี้ ดูเหมือนว่าจะมีสมุนไพรวิญญาณที่โตเต็มวัยแล้วอยู่มากมาย มูลค่าของมันไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

 

“สินค้าประมูลในครั้งนี้ คือตั๋วสำหรับเข้าช่องว่างมิติตามวิดีโอที่บันทึกเอาไว้ และอุปกรณ์รูนมิติบันทึกพิกัด สำหรับเดินทางกลับสู่เมืองไห่ ทางเราจะให้ประมูลตั๋วเพียง 10 ใบเท่านั้น และราคาขายตั๋วใบที่สอง จะเริ่มจากราคาประมูลที่ขายได้ของตั๋วใบแรก ”

 

“เอาล่ะ ตั๋วใบแรกเริ่มประมูลกันที่ 10 ล้าน : เชิญเสนอราคาประมูลได้!”

 

ฝูงชนเมื่อได้รับสัญญาณ ก็เริ่มชูป้ายอย่างบ้าคลั่งทันที โอกาสเช่นนี้ นับเป็นเรื่องยากที่จะพบเจอ

 

ทั้งหมดต่างแย่งชิงมัน เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง เสนอราคาให้ได้มันมา 

 

ราคาของตั๋วใบแรกทะยานขึ้นถึง 80 ล้านในพริบตา และสุดท้าย ก็ถูกประมูลได้ในราคา 100 ล้านเหรียญ ที่ได้ราคาเท่านี้เพราะคนส่วนใหญ่เริ่มไม่แน่ใจว่าตนจะสามารถเก็บเกี่ยวจนคุ้มกับเงินที่เสียไปหรือไม่

 

มีเฉพาะฉินเฟิงที่ยังดูสงบอยู่ เขาไม่ขยับเขยื้อนเลย ทำเพียงเฝ้ามองผู้คนเหล่านั้นตื่นเต้นอย่างใจเย็น

 

ตั๋วใบที่สองขายได้ในราคา 120 ล้าน

 

ใบนี้สาม …ใบที่สี่ … จนกระทั่งตั๋วทั้งหมดถูกขายออกไป

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】
Status: Ongoing
อ่านนิยายโคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】ภายในตัวอาคารที่ถูกเสริมแกร่งด้วยเหล็กกล้า พื้นโถงทางเดินราวกับกระจกใส ทั้งแพทย์และพยาบาลต่างเดินกันให้วุ่นไปตลอดเส้นทาง   ที่นี่คือสถาบันวิจัยเขตชานเมืองใหม่ของเมืองเฉิงหยาง   ณ หนึ่งในพื้นที่บริเวณของสถาบัน กลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวที่ทั้งตื่นเต้นระคนวิตกกังวล กำลังเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ   “กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง! หมายเลข 2318 ฉินเฟิง กรุณาไปเข้ารับการฉีดยากระตุ้นในแอเรียที่ 3 ด้วย!”   “ถึงตาของฉันแล้- โครม!”   วัยรุ่นชายผุดลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว จนเจ้าตัวเสียหลัก สะดุดขาตัวเองล้มคะมำลงกับพื้น   เพียงได้ยินเสียงกระแทก ทุกคนก็พอจะรับรู้ได้ว่าการล้มหน้าฟาดของอีกฝ่ายรุนแรงขนาดไหน   “อ๊า! ฉินเฟิง!” เห็นถึงฉากนี้ โจวฮ่าวก็กลายเป็นตื่นตระหนก เขาเร่งก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยเหลือสหายของตนอย่างร้อนรน   แล้วก็พบกับผลลัพธ์คาดไม่ถึง -ฉินเฟิงที่ล้มลงดันสลบไปซะอย่างงั้น!   “ชิบหายแล้ว ฉินเฟิง! นายคงไม่ได้หมดสติจริงๆหรอกใช่ไหม เล่นตลกอะไรในเวลาสำคัญแบบนี้เนี่ย? รีบตื่นขึ้นมาเร็วเข้า! ถึงเวลาฉีดยา ‘กระตุ้นพลัง’ ของนายแล้วนะ!”

Recommended Series

Comment

Options

not work with dark mode
Reset