โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 – ตอนที่ 218

Provider : Muntra

 

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.218 – สวนหลังบ้านของสัตว์ร้าย

 

ฮั่นเจียนเคยเห็นอุปกรณ์รูนของฉินเฟิงมาก่อน เขาทราบดีว่าลักษณะของมันเป็นอย่างไร เมื่อเห็นถึงรูปลักษณ์ใหม่ ในสายตาก็อดทอประกายของความอิจฉาไม่ได้

 

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในปัจจุบันไม่อนุญาตให้เขาเสียเวลาชื่นชมอุปกรณ์รูนของฉินเฟิง

 

มีหลายกลุ่มตั้งแคมป์กันอยู่ที่ชายฝั่ง และจู่ๆพวกจระเข้มังกรก็บุกเข้ามา การต่อสู้จึงปะทุขึ้น ฝูงจระเข้มังกรอาละวาดคลั่ง ไล่ล่าไปทั่ว

 

แม้จะมีบางคนสามารถหลบหนีออกมาได้ไกลกว่า 100 เมตร แต่สำหรับจระเข้มังกร เพียงใช้ทางลัด และกระโดดไปไม่กี่ก้าวก็สามารถไล่ตามไปถึง —เกาะแห่งนี้เปรียบดั่งสวนหลังบ้านของพวกมัน! ไม่ว่าจะซอกมุมไหนก็ไม่อาจรอดพ้น!!

 

หนึ่งในคนที่ยังรอดคือผู้ใช้วรยุทธโบราณ เวลานี้เขาสับฝีเท้าเตลิดหนีอย่างบ้าคลั่ง โดยเบื้องหลังมีจระเข้มังกรไล่ตามกว่า 7 – 8 ตัวใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เร่งเร้ากำลังภายในทั้งหมดที่มี เพื่อให้ช่วยผลักดันตนให้เร็วขึ้นสักเล็กน้อยก็ยังดี

 

ไม่นาน เขาก็มองเห็นฉินเฟิงและคนอื่นๆ

 

“ชิบหายแล้วไง!” ชิหลงสบถด่าในใจ ยกปืนไรเฟิลในมือเล็งไปทางอีกฝ่าย ตั้งท่าเตรียมว่าหากผู้ใช้วรยุทธโบราณวิ่งมาทางนี้ เขาจะยิงสวนกลับไปทันที!

 

ยังไงก็ตาม ฝ่ายตรงข้ามก็เป็นผู้ใช้พลังเช่นกัน ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่ชิหลงจะสังหารภายในการโจมตีเดียว ชายคนนั้นเหมือนจะรู้ถึงเรื่องนี้เช่นกัน จึงตัดสินใจดึงดันวิ่งเข้าหา เพื่อใช้พวกเขาเป็นเหยื่อล่อ ไม่ก็ตกตายไปด้วยกัน!

 

“พวกเรารีบหนีจากที่นี่กันเร็ว!” ฮั่นเจียนตะโกนเตือน

 

ราวกับหูทวนลม ฉินเฟิงยังคงยืนหยัด เฝ้ารอให้สัตว์ร้ายจระเข้มังกรตรงเข้ามา

 

“คนจากองค์กรมืดสินะ ทำกันแบบนี้มันหาที่ตายชัดๆ!” ฉินเฟิงมองไปยังผู้ใช้วรยุทธโบราณด้วยความสนใจ เขาจดจำได้ว่านั่นคือหนึ่งในคนที่เข้าร่วมการประมูล

 

ฝั่งผู้ใช้วรยุทธโบราณเอง เมื่อเห็นว่าฉินเฟิงไม่เลือกที่จะหลบหนี ในหัวใจของก็คิดว่าอีกฝ่ายคงตั้งใจจะช่วยตนเอง

 

น่าเสียดาย ที่ฉินเฟิงไม่ใช่คนตอบสนองต่อความคับข้องใจด้วยคุณธรรม

 

“ลำแสงเปลวเพลิง!”

 

ฉินเฟิงยกมือซ้ายขึ้น ปลดปล่อยเส้นแสงสีแดงออกจากกรงเล็บเพลิงสีชาดของเขา

 

หากเป็นในอดีต ลำแสงเปลวเพลิงของฉินเฟิงจะปะทุออกมาเป็นม้วนแสงที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 1 นิ้ว แต่ปัจจุบัน มันมีความหนาเทียบเท่ากับแขนเล็กๆ!

 

เมื่อเปลวเพลิงระเบิดออกมาอย่างกระทันหัน มันเลยเป็นไปไม่ได้ที่ผู้ใช้วรยุทธโบราณจะหลบเลี่ยง

 

“กระบวนท่าวรยุทธ : แขนเหล็ก!”

 

สองแขนของชายคนนั้นปะทุโหมด้วยกำลังภายในที่ทรงพลัง ตามมือและแขนเริ่มดูหนาแน่นขึ้น

 

ลำแสงเปลวไฟพุ่งเข้ามา แต่ผู้ใช้วรยุทธโบราณคนนั้นยังเลือกก้าวต่อไปข้างหน้า คล้ายมั่นใจว่าตนจะสามารถต้านทานอบิลิตี้นี้ได้อย่างแน่นอน

 

แต่น่าเสียดาย ที่เขาต้องพบกับความผิดหวัง

 

เปรี้ยง!

 

อำนาจอันทรงพลังส่งเขาปลิวกระเด็นกลับหลัง ส่งเนื้อหวานฉ่ำลงสู่ปากจระเข้มังกรพอดิบพอดี

 

“อ๊ากกกก”ผู้ใช้วรยุทธโบราณเปล่งเสียงร้องโหยหวน

 

อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้พลังที่สามารถก้าวขึ้นมาถึงเลเวล E จะตายง่ายๆได้อย่างไร? กำลังภายในของเขาระเบิดออกมา กระทุ้งเข้าใส่เหงือกจระเข้ที่กำลังงับตน

 

ในเวลานี้ จระเข้มังกรตัวอื่นๆไม่ได้เข้ามารุมแย่งผู้ใช้วรยุทธโบราณเป็นอาหาร แต่เบนความสนใจไปยังฉินเฟิงแทน

 

ฉินเฟิงเองก็ไม่ยืนรออยู่เฉยๆให้พวกสัตว์ร้ายเข้ามาฆ่า ควงมีดกษัตริย์ครามในมือ ก้าวไปข้างหน้า

 

“มีดเปลวเพลิง!”

 

กระแสเปลวไฟพลันปะทุโหม รัศมีคมมีดพลันลุกไหม้กว่าสิบเมตร แลคล้ายกับเสาเพลิง

 

จระเข้มังกรตัวหน้าสุดถูกใบมีดที่ลุกไหม้ตัดผ่าน ผิวหนังหนาของมันเปิดออกทันที เผยให้เห็นเนื้อดิบที่ส่งกลิ่นฉุน

 

จระเข้มังกรที่เหลือเมื่อเห็นพวกพ้องถูกทำร้าย ทั้งหมดก็มุ่งเป้ามาที่ฉินเฟิง

 

“ระบำดอกไม้ไฟ!”

 

มีดเปลวเพลิงถูกรวบกลับคืน ทว่าแสงสะท้อนจากเปลวเพลิงที่ทรงพลังยิ่งกว่าถูกปลดปล่อยออกมาแทน กวาดเข้าใส่จระเข้นับสิบ ปลิวกระเด็นออกไป

 

มีดกษัตริย์ครามโบกสะบัด ใบมีดที่เป็นสีหมึกและสะท้อนแสงวาววับไปด้วยเกล็ด สะบั้นจากบนลงล่าง สับเข้ากลางลำคอของจระเข้มังกรอย่างโหดร้าย

 

พรวด!

 

หัวขนาดใหญ่กระเด็นไปกลางอากาศ

 

จระเข้มังกรตกตาย!

 

ไม่รอให้พักหายใจ ฉินเฟิงก็ถูกโถมโจมตีโดยจระเข้มังกรอีก2 – 3 ตัว

 

“คลื่นเปลวเพลิง!”

 

เปลวเพลิงขนาดมหึมาโถมออกจากรอบทิศทางของฉินเฟิง กลืนเอาสัตว์ร้ายที่อยู่รอบตัวเข้าไปตามกระแส 

 

ไม่ปล่อยให้ถูกคลื่นเปลวเพลิงโถมลอยไปไกล มีดกษัตริย์ครามที่ทรงอำนาจอย่างหาที่เปรียบมิได้พลันตวัดออก เฉือนตัดคอจระเข้มังกรอีกตัว

 

ทุกครั้งที่มีดกษัตริย์ครามฟันเข้าใส่ผิวหนังหนาของจระเข้มังกร จะก่อให้เกิดบาดแผลขนาดใหญ่ และเฉือนทะลุการป้องกันราวกับหั่นเต้าหู้

 

แน่นอน ว่าเหตุผลที่สามารถกระทำเช่นนั้นได้ เป็นเพราะมีดกษัตริย์ครามได้รับการปรับแต่งจนมาถึงในส่วนของเลเวล D แล้วนั่นเอง

 

เลือดกระเซ็นรดบนตัวฉินเฟิง แต่การเคลื่อนไหวของฉินเฟิงกลับเร็วขึ้น ว่องไวขึ้นเรื่อยๆ

 

ปัจจุบัน ฮั่นเจียนซึ่งพยายามจะหลบหนีก่อนหน้านี้ เมื่อเห็นฉินเฟิงต่อสู้อย่างดุเดือด มันเลยพลอยปลุกเร้าอารมณ์เขา กระตุ้นกำลังใจคิดต่อสู้

 

“ขอฉันร่วมวงด้วยคน!”

 

ในมือของฮั่นเจียนเผยโฉมอาวุธคู่ใจ และสิ่งที่คาดไม่ถึงก็คือ แม้ฮั่นเจียนจะดูเหมือนคนไม่มีเรี่ยวแรง แต่อาวุธในมือเขาดันเป็นค้อนดาวตกที่หนักอึ้ง!

 

ยามเหวี่ยงสะบัด ค้อนยักษ์จะส่งเสียงหวีดหวิว ยามทุบเข้าใส่หัวของจระเข้มังกร จะส่งเสียงพลั่ก! พิสดารแตกต่างจากเสียงอาวุธอื่นๆ

 

“ชักสนุกแล้วสิ!” ชิหลงกล่าวเสียงกระซิบ สองมือที่เคยกุมไรเฟิล สลับเปลี่ยนไปเป็นปืนพกสองกระบอกและ

 

ปังปังปังปังปัง!

 

กระสุนนับไม่ถ้วนถูกยิงออกไป ที่สำคัญก็คือมันมิใช่กระสุนธรรมดา แต่ยังแฝงกลิ่นอายเย็นเยียบเอาไว้ และทันทีที่พวกมันตกลงใต้เท้าของจระเข้มังกร พริบตานั้นอุณหภูมิลดฮวบ ก่อเกิดชั้นน้ำแข็งห่อหุ้ม หยุดการเคลื่อนไหวของฝูงสัตว์ร้ายเอาไว้

 

ด้วยการประสานงานของทั้งสอง ส่งผลให้ฉินเฟิงสามารถเชือดศัตรูได้ง่ายกว่าเดิมมาก

 

เพียงหนึ่งนาที จระเข้มังกรทั้งหมดก็จบชีวิตลง

 

ปัง!

 

ไม่ไกลออกไป จระเข้ตัวแรกที่ต่อสู้กับคนจากองค์กรมืดก็ล้มลง หัวของมันแหลกเป็นเสี่ยงๆ

 

“เทคนิคกระหายเลือด!” มือของชายคนนั้นพลันท่วมไปด้วยเลือด เป็นเลือดที่ถูกดูดซับออกมาจากจระเข้มังกร เพื่อช่วยฟื้นฟูอาการบาดเจ็บให้แก่ตนเอง ทว่ายามใช้งานมัน แววตาของเขาจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเลือดเช่นกัน

 

ทักษะกำลังภายในนี้ หากใช้งานมันบ่อยๆ คนๆนั้นจะกลายเป็นคลุ้มคลั่ง , บ้าดีเดือด , อารมณ์ก้าวร้าว และต้องการฆ่าสังหารผู้คนตลอดเวลา!

 

นี่คือเทคนิคอันทรงพลังที่ถูกวิจัยโดยองค์กรมืด มันให้ผลลัพธ์ที่ดี แต่ก็มีผลข้างเคียงสูงไม่แพ้กัน

 

เป็นทักษะชั่วร้าย!

 

แต่ไม่ว่ามันจะเป็นทักษะอะไร หากสามารถใช้งานได้ในเวลานี้ ก็นับว่าผลลัพธ์ของมันยอดเยี่ยม

 

การที่คนขององค์กรมืดรอดตายมาได้ นับว่าเขาโชคดีมากจริงๆ

 

หน้าท้องที่ถูกฟันอันแหลมคมกัดค่อยสมานเข้าหากัน เขาพยายามตะเกียกตะกายออกมาจากปากจระเข้มังกรอย่างยากลำบาก แต่สิ่งที่ต้อนรับเขาจากภายนอก กลับกลายเป็นมีดเล่มใหญ่!

 

ฉัวะ!

 

ชายคนนั้นถูกแบ่งเป็นสองส่วนทันที หัวของเขาร่วงตกลงกับพื้น

 

เป็นธรรมดาที่ฉินเฟิงจะไม่ยอมปล่อยฝ่ายตรงข้ามไป

 

ก๊าซซซ! ในสถานที่ห่างไกล จระเข้มังกรคล้ายจะได้ถึงกลิ่นสาบเลือด พวกมันทั้งหมดสับฝีเท้ามุ่งตรงมายังตำแหน่งของฉินเฟิง

 

“รีบไปกันเถอะ”

 

ฉินเฟิงกระชากศพของคนจากองค์กรมืดออกจากปากจระเข้ ปล่อยเปลวไฟแผดเผา และเก็บเอารูนมิติและอุปกรณ์รูนของอีกฝ่ายมา

 

สำหรับจระเข้มังกร พวกมันเป็นระดับทหารสัตว์ร้าย ดังนั้นไม่มีแก่นพลังงานอยู่ภายใน แต่ผิวหนังชั้นนอกมีค่ามาก ทว่าพวกเขาไม่มีเวลามากพอที่จะเก็บรวบรวม

 

อีกฝูงจระเข้มังกรไล่ตามล่า ฮั่นเจียนต้องการจะสู้อีก แต่ตอนนี้เมื่อเห็นปริมาณของพวกมันจากระยะไกล จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่ลุกไหม้ของเขาก็พลันมอดดับลง ส่งแรงที่เหลือลงมายังขา เร่งสาวเท้าหลบหนีไป

 

จระเข้มังกรวิ่งอย่างบ้าคลั่ง กระแทกต้นไม้รอบๆ เข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ

 

“ฮู่ว … ฮู่ว … ”

 

เสียงหายใจเฮือกใหญ่ดังขึ้นต่อเนื่อง กำลังภายในถูกเร่งเร้า ความเร็วของทั้งห้าว่องไวยิ่งกว่าเดิม

 

ทว่าเบื้องหน้ากลับต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่เลวร้ายยิ่งกว่า!

 

“ระวัง!” ฉินเฟิงร้องเตือน วินาทีต่อมา เปลวเพลิงพลันปะทุขึ้นจากมือซ้ายของเขา

 

“พรมโลกันต์!”

 

เพลิงโลกันต์ลุกพรึบเป็นวงกว้าง! ปกคลุมรอบต้นไม้ใหญ่ทันที

 

“จี๊ จี๊!”

 

พืชพรรณเบื้องหน้าส่งเสียงกรีดร้องอย่างกระทันหัน พวกมันกระทั่งหลั่งเลือดออกมาเช่นเดียวกับมนุษย์

 

“นั่นพฤษาโลหิต!”

 

ต้นไม้หลายต้นประกบติดกัน ปิดกั้นเส้นทางของพวกเขา ในขณะที่เบื้องหลัง เต็มไปด้วยฝูงจระเข้มังกร

 

“น่ารำคาญ!”

 

ฉินเฟิงหมดความอดทน หมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับฝูงจระเข้มังกร

 

พริบตานั้นเอง รูนไฟบนมือซ้ายเขาพรั่งพรูออกมา แปรเปลี่ยนรูปร่างเป็นมังกรยักษ์

 

“ทักษะมังกรไฟ!”

 

มังกรที่ลุกไหม้ถูกเรียกตัวออกมา

 

“ฆ่าพวกมันซะ!”

 

มังกรไฟส่งเสียงหอน โถมเข้ากลืนบรรดาสัตว์ร้ายที่วิ่งเข้าหา

 

ด้วยอำนาจอันยิ่งใหญ่ของมังกรไฟ ต่อให้อีกฝ่ายจะมีชื่อมังกรพ่วงท้ายด้วยเช่นกัน แต่ก็ไม่วายถูกกวาดกระแทกกระเด็นไปทุกทิศทาง

 

“พวกแกทุกตัวจงมอบชีวิตให้ฉัน!”

 

ฉินเฟิงราวกับเทพเจ้าเปลวเพลิงจุติลงมา บัดนี้ไม่มีใครสามารถหยุดเขาเอาไว้ได้อีกแล้ว!

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】
Status: Ongoing
อ่านนิยายโคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】ภายในตัวอาคารที่ถูกเสริมแกร่งด้วยเหล็กกล้า พื้นโถงทางเดินราวกับกระจกใส ทั้งแพทย์และพยาบาลต่างเดินกันให้วุ่นไปตลอดเส้นทาง   ที่นี่คือสถาบันวิจัยเขตชานเมืองใหม่ของเมืองเฉิงหยาง   ณ หนึ่งในพื้นที่บริเวณของสถาบัน กลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวที่ทั้งตื่นเต้นระคนวิตกกังวล กำลังเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ   “กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง! หมายเลข 2318 ฉินเฟิง กรุณาไปเข้ารับการฉีดยากระตุ้นในแอเรียที่ 3 ด้วย!”   “ถึงตาของฉันแล้- โครม!”   วัยรุ่นชายผุดลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว จนเจ้าตัวเสียหลัก สะดุดขาตัวเองล้มคะมำลงกับพื้น   เพียงได้ยินเสียงกระแทก ทุกคนก็พอจะรับรู้ได้ว่าการล้มหน้าฟาดของอีกฝ่ายรุนแรงขนาดไหน   “อ๊า! ฉินเฟิง!” เห็นถึงฉากนี้ โจวฮ่าวก็กลายเป็นตื่นตระหนก เขาเร่งก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยเหลือสหายของตนอย่างร้อนรน   แล้วก็พบกับผลลัพธ์คาดไม่ถึง -ฉินเฟิงที่ล้มลงดันสลบไปซะอย่างงั้น!   “ชิบหายแล้ว ฉินเฟิง! นายคงไม่ได้หมดสติจริงๆหรอกใช่ไหม เล่นตลกอะไรในเวลาสำคัญแบบนี้เนี่ย? รีบตื่นขึ้นมาเร็วเข้า! ถึงเวลาฉีดยา ‘กระตุ้นพลัง’ ของนายแล้วนะ!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset