โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 – ตอนที่ 219

Provider : Muntra

 

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.219 – หนีเอาชีวิตรอด

 

แม้ความสามารถของจระเข้มังกรเหล่านี้จะอยู่ที่ระดับทหารสัตว์ร้าย แต่หากเทียบกับสัตว์ร้ายระดับนายพลทั่วๆไปแล้ว มันแข็งแกร่งยิ่งกว่าซะอีก!

 

ทว่าเทคนิคมังกรไฟของฉินเฟิง กระทั่งราชันย์สัตว์ร้ายยังสามารถสังหารได้ ดังนั้นแค่ระดับทหารสัตว์ร้ายแบบพวกมันคงไม่ต้องกล่าวถึง

 

ฝูงจระเข้มังกรบัดนี้ไม่ต่างอะไรกับไก่ที่ถูกหมาไล่ตะเพิด โดนกัดเพียงครั้งก็มิอาจทานทน จบชีวิตลงในคราวเดียว

 

ฉินเฟิงล่าสังหารอย่างไร้ปราณี พลังงานจากจระเข้มังกรถูกดูดซับอย่างต่อเนื่องหลังจากพวกมันตายลง

 

และเนื่องจากพลังงานหลั่งไหลเข้ามาตลอดเวลา ส่งผลให้ความแข็งแกร่งทางกายภาพของฉินเฟิงสามารถตัดผ่านไปได้อีกระดับ!

 

จากเลเวล E ก้าวขึ้นสู่เลเวล E1 !

 

พละกำลังของเขาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า! ทั้งความรุนแรงในแต่ละครั้งที่ตวัดมีดยังทะยานสูงขึ้น จากแต่เดิมทำได้เพียงตัดหัวจระเข้ บัดนี้สามารถตัดผ่าแยกทั้งร่างของมันเป็นสองซีกได้ในฉับเดียว!

 

เมื่อการต่อสู้ดำเนินมาถึงจุดนี้ คาดว่าคงได้ข้อสรุปแล้ว

 

มีฉินเฟิงคอยเป็นปราการด่านหน้า คนอื่นๆก็สามารถสอดประสาน ทำหน้าที่ตนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังรู้ใจกันมากขึ้น

 

หลิงหวูยี่ปล่อยสารพิษออกมา วางยาจระเข้มังกรให้มันเชื่องช้าลง , กัดกร่อนอวัยวะภายใน เพื่อให้ฉินเฟิงโจมตีได้ง่ายขึ้น และส่งพวกมันตกลงสู่ความตาย

 

ฮั่นเจียนไม่น้อยหน้า อาศัยจังหวะที่จระเข้มังกรฉวยโอกาสลอบโจมตีฉินเฟิง ฟาดค้อนดาวตกเข้าใส่ และเนื่องจากพวกมันบาดเจ็บจากพิษอยู่ก่อนแล้ว ทำให้เขาสามารถสังหารมันได้ถึงสองตัว

 

แต่คนที่สนุกที่สุด คงไม่พ้นชิหลง

 

ปัง!

 

ปืนไรเฟิลคำรามเสียงต่ำ ปรากฏรูขนาดเท่ากำปั้นใจกลางหน้าผากจระเข้มังกร ทะลุลึกไปถึงสมอง ตายชนิดมิอาจตายลงได้อีก

 

ปัง!

 

ปัง!

 

ปัง!

 

เสียงลั่นไกสี่นัดติดต่อกัน หนึ่งนัดหนึ่งชีวิต แม้ใบหน้าของชิหลงจะมีเหงื่อออกเล็กน้อย แต่บอกตรงๆเวลานี้เขารู้สึกตื่นเต้นมาก

 

เพราะพวกเขาสามารถกำจัดจระเข้มังกรที่ปิดล้อมตนมากกว่า 20 ตัวได้ภายในไม่กี่ลมหายใจ!

 

“เก็บสินสงครามกัน แล้วเตรียมตัวออกเดินทางต่อ” ฉินเฟิงสูดหายใจลึก พลังสมาธิกลับคืนสู่สภาวะปกติ เรียกรูนกลับคืน

 

“รับทราบ!” หลิงหวูยี่หยิบอาวุธของเขาออกมา และเดินไปตัดหนังของสัตว์ร้ายตัวใหญ่อย่างรวดเร็ว

 

ฮั่นเจียนกับชิหลงไม่มีข้อคัดค้านใดๆ ทั้งหมดเร่งเก็บกวาดสินสงคราม ปัจจุบัน พวกเขาได้ยอมรับฉินเฟิงในฐานะผู้นำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

ช่วงเวลานี้ พวกเขาล่าถอยลึกเข้ามาใจบริเวณใจกลางเกาะ ดังนั้นจระเข้มังกรไม่สามารถไล่ตามมาได้อีกสักพัก

 

ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ดี เพราะไม่เพียงช่วยให้พวกเขาได้พักหายใจ แต่ยังมีเวลาชำแหละสินสงคราม

 

ไม่นาน 24หนังจระเข้ก็ถูกแล่ออก ส่วนฟันของพวกมันไม่ค่อยคมเท่าใดนัก แต่ที่ทรงพลังจริงๆคือแรงกระชากกัดของพวกมัน –กระดูกขากรรไกรล่างแข็งแกร่งที่สุด!

 

เมื่อแล่ส่วนต่างๆจนเสร็จสิ้น ทั้งหมดก็หันกลับมามองพฤษาโลหิตอีกครั้ง ภายใต้อำนาจแผดเผาของพรมโลกันต์ของฉินเฟิง พฤษาโลหิตบัดนี้เลยมีสภาพไหม้เกรียมเป็นสีดำ พลังชีวิตลดฮวบ แต่ยังไม่ถึงตาย คงไว้ซึ่งร่อยรอยชีวิตจางๆ

 

ฉินเฟิงไม่ลังเล เดินไปตัดพฤษาโลหิต

 

พฤษาโลหิตส่งเสียงกรีดร้อง แต่ไม่อาจขัดขืนได้

 

ณ กลางลำต้นของพฤษาโลหิต มีหัวใจสีแดงทับทิมอยู่ ซึ่งมันสามารถนำไปบดจนละลายและใช้แปะลงบนบาดแผล เพื่อฟื้นฟูอาการบาดเจ็บได้

 

ฉินเฟิงก้าวไปข้างหน้า ใช้มีดกษัตริย์ครามตัดแนวขวาง โค่นพฤษาโลหิตทุกต้นที่ปิดทาง หลิงหวูยี่ไม่รอให้ฉินเฟิงสั่งว่าต้องทำอะไร เขาก้าวเดินตาม ชำแหละต้นไม้ที่ถูกโค่นลงเก็บกวาดสินสงครามทีละชิ้น ทีละชิ้น

 

ไม่นานเกินรอ พวกเขาก็สามารถทำลายอุปสรรคอย่างพฤษาโลหิตลงได้ 

 

บุกป่าฝ่าดง เดินเลาะไปตามทางที่คดเคี้ยว สักพักทั้งหมดก็หยุดฝีเท้าลงกลางทาง

 

“ฟู่ว .. ”

 

หลังจากดิ้นรนต่อสู้หลบหนีมาเป็นเวลานาน ทุกคนก็รู้สึกเหนื่อยล้าทั้งกายใจ

 

ฉินเฟิงระดมพลังสมาธิลงในแม่น้ำ ยกพวกมันขึ้นมาชำระล้างกลิ่นอายเลือดบนตัว เพราะมันเป็นการง่ายที่จะดึงดูดสัตว์ร้ายตัวอื่นๆเข้ามา

 

“บัดซบเอ๊ย! ทำไมถึงมีจระเข้มังกรอยู่ที่นี่ได้? เรื่องนี้ไม่เห็นบอกไว้ในงานประมูลเมื่อวานเลย!” ฮั่นเจียนกัดฟันกล่าว

 

“บางทีนั่นอาจเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม ทางกลุ่มหวันซ่งถึงไม่มีท่าทีลำบากใจหรือหวาดเกรงว่าจะได้ไม่คุ้มทุน เพราะคนที่ซื้อตั๋วและเข้ามาสำรวจที่นี่ เมื่อพบเจอกับฝูงสัตว์ร้ายที่ทรงพลัง คงไม่มีทางปักหลักได้ในระยะยาว สุดท้ายจำใจใช้ตัวเชื่อมมิติล่าถอยจากไป” ชิหลงถอนหายใจเช่นกัน

 

ในเวลานี้ หลิงหวูยี่ได้มอบวัตถุดิบที่ตนเก็บมาให้แก่ฉินเฟิง

 

ฮั่นเจียนและชิหลงมองไปที่มัน และนึกขึ้นได้ว่าสินสงครามยังไม่ได้รับการแบ่งปันเลย

 

“ฉินเฟิง การที่ทุกคนสามารถมาถึงที่นี่ได้ก็เพราะพวกเราร่วมแรงร่วมใจกัน ในฐานะตัวแทนของทีมแล้ว ถึงฉันจะอายุมากกว่า แต่ก็รู้สึกละอายใจกับความแข็งแกร่งของตัวเองจริงๆ ดังนั้นฉันขอมอบตำแหน่งหัวหน้าทีมให้กับคุณ”

 

ในเมื่อจัดตั้งทีมแล้ว จะต้องมีคนหนึ่งคอยออกคำสั่ง มิฉะนั้นทุกคนคงทำตามใจตนเอง ไม่อาจประสานงานกันได้ด้วยดี

 

“ฉันเองก็ไม่ขัดข้องในเรื่องนี้” ชิหลงกล่าวอย่างรวดเร็ว

 

ไป๋หลีกับหลิงหวูยี่เป็นธรรมดาที่จะไม่คัดค้าน

 

ฉินเฟิงเองก็ไม่ปฏิเสธ เอ่ยถามกลับไป “แล้วคุณสองคนมีความเห็นว่าควรจะแบ่งปันสินสงครามอย่างไรดี?”

 

ชิหลงครุ่นคิดหนัก ราวกับว่านี่คือการลงทุนครั้งใหญ่ สุดท้ายเอ่ยปากกล่าว “ถ้าในการต่อสู้ครั้งต่อๆไป เป็นเหมือนกับในครั้งนี้ เนื่องจากฉินเฟิงมีบทบาทสำคัญ ดังนั้นฉันจะขอรับไว้แค่ 10 %ก็พอ ” 

 

เพราะในการต่อสู้เมื่อครู่ ถ้าไม่มีฉินเฟิง พวกเขาคงไม่อาจรอดชีวิตมาได้!

 

ทางฮั่นเจียนก็ดูเหมือนจะไม่มีปัญหา พยักหน้าเห็นด้วย

 

“ไม่ต้องถึงขนาดนั้น เอาเป็นว่าทุกคนจะได้รับส่วนแบ่งตามผลงาน ในเมื่อไป๋หลีจะไม่ร่วมต่อสู้ ดังนั้นเธอก็จะไม่ได้อะไร ส่วนใครที่ทำผลงานได้ดี ก็จะได้ผลตอบแทนดีตามไปด้วย ตกลงไหม?”

 

“ตกลง!” ฮั่นเจียนรับคำทันที

 

“แต่แบบนั้น มันดูจะไม่เป็นธรรมกับมิสไป๋ … ” ชิหลงเคยเห็นความแข็งแกร่งของไป๋หลีมาแล้ว ดังนั้นเมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายไม่ได้รับรางวัล มันเลยทำให้เขารู้สึกกังวลนิดหน่อย เกรงว่าไป๋หลีอาจจะไม่พอใจ

 

มุมปากของไป๋หลียกสูงขึ้นเล็กน้อย แสดงท่าทีเหยียดหยัน เห็นได้ชัดว่าวัตถุดิบระดับทหารสัตว์ร้ายเหล่านี้ ไม่อยู่ในสายตาเธอ

 

“ถือซะว่าส่วนแบ่งของเธอรวมอยู่ในของผมก็แล้วกัน แน่นอนว่าในช่วงเวลาวิกฤต เธอจะลงมือเอง!”

 

รูปแบบวิวัฒนาการความแข็งแกร่งของไป๋หลีน่ะแตกต่างกับคนอื่นๆ การมีส่วนร่วมในการต่อสู้ไม่ได้ส่งผลประโยชน์ใดๆต่อไป๋หลี ดังนั้นฉินเฟิงเลยเป็นฝ่ายออกไปสู้อยู่เสมอๆ

 

ฮั่นเจียนไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งของไป๋หลี เขาเลยคิดว่าฉินเฟิงกำลังเอาใจแฟนตัวน้อยของเขามากเกินไป!

 

สินสงครามถูกแบ่งปัน ฮั่นเจียน , ชิหลง , หลิงหวูยี่ได้จระเข้มังกรไปคนละ 2 ตัวครึ่ง

 

สำหรับคนจากองค์กรมืด ฉินเฟิงสังหารเพียงลำพัง ฉะนั้นไม่มีการแบ่งปันสินสงครามใดๆ 

 

ในเวลานั้นเอง ใต้แม่น้ำใกล้ๆกับตำแหน่งของพวกเขา จู่ๆก็มีงูยักษ์เลื้อยขึ้นมาอย่างเงียบๆ มันกลบซ่อนตัวตนได้อย่างมิดชิด

 

กว่าจะรู้ตัวกัน งูยักษ์ก็พุ่งออกมาจากเบื้องหลังของไป๋หลีแล้ว! ปากอ้ากว้างบ่งบอกชัดว่ามันต้องการเขมือบทั้งตัวเธอลงท้องในคำเดียว

 

เหตุการณ์มันกระทันหันเกินไป ทุกคนยังไม่มีเวลาทันได้ตอบสนอง

 

คิ้วของฉินเฟิงเขม็งเกร็ง โฉบคว้ามีดกษัตริย์คราม แต่ก่อนจะทันได้ลงมือ–

 

—พรวด!

 

หัวงูยักษ์พลันถูกสะบั้น ร่วงกลิ้งลงกับพื้น

 

แม้มันจะเป็นสัตว์ร้ายเลเวล F8 แต่การที่สามารถลอบเร้นมาจนประชิดตัวได้ถึงขนาดนี้ บ่งบอกชัดเจนว่าบนเกาะ ไม่ว่าสถานที่ใดก็ไม่ปลอดภัย!

 

มองไปยังเลือดสีแดงสดที่ทะลักออกมาจากหัวงู ทั้งหมดไม่สามารถจินตนาการได้เลย ว่าสิ่งมีชีวิตที่น่าหวาดกลัวตนใดจะปรากฏขึ้นอีกต่อจากนี้

 

ฉินเฟิงขมวดคิ้ว ปลดปล่อยการรับรู้ และคำนวณในหัวใจ ก่อนเอ่ยปากกล่าว “พวกมันกำลังมาแล้ว เราต้องล่าถอยกันทันที เป้าหมายคือทิศเหนือ!”

 

ทุกคนเร่งเก็บข้าวของเตรียมเดินทางต่อทันที

 

แน่นอน ว่าพวกเขาหายไปไม่ถึงอึดใจ สถานที่แห่งนี้ก็ถูกฝูงจระเข้มังกรที่ไล่ตามมาทีหลังเข้ายึดครองทันที ภายในแววตากระหายเลือดของพวกมัน มองไปตามทิศทางที่ฉินเฟิงและคนอื่นๆจากไป

 

กรอบแกรบ …

 

ขณะเดียวกันท่ามกลางป่าทึบ คล้ายจะมีเสียงแปลกๆบางอย่างดังขึ้น ราวกับว่ามีนักล่าอีกกลุ่มหนึ่งกำลังซ่อนตัว คอยเฝ้ามองพวกฉินเฟิงอยู่ในเงามืด และพร้อมฉวยโอกาสลอบโจมตีพวกเขาได้ตลอดเวลาที่เผลอ

 

สิบนาทีต่อมา พวกฉินเฟิงก็ถูกไล่ตามทันอีกครั้ง การต่อสู้นองเลือดอีกระลอกปะทุขึ้นอีกคราว

 

แต่เวลานี้พวกเขาก็สามารถหลุดพ้นจากอาณาเขตชายฝั่งได้แล้วโดยสมบูรณ์

 

“พวกคนที่หุนหันเข้ามาในตอนแรก ถ้าเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดีแบบนี้ คนที่มีตัวเชื่อมต่อพิกัดสำหรับเดินทางกลับ คงหนีไปแล้วแน่ๆ!” หน้าผากของฮั่นเจียนยับย่น เพราะเห็นได้ชัดว่าสถานการณ์ในปัจจุบัน มันย่ำแย่มากๆ

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】
Status: Ongoing
อ่านนิยายโคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】ภายในตัวอาคารที่ถูกเสริมแกร่งด้วยเหล็กกล้า พื้นโถงทางเดินราวกับกระจกใส ทั้งแพทย์และพยาบาลต่างเดินกันให้วุ่นไปตลอดเส้นทาง   ที่นี่คือสถาบันวิจัยเขตชานเมืองใหม่ของเมืองเฉิงหยาง   ณ หนึ่งในพื้นที่บริเวณของสถาบัน กลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวที่ทั้งตื่นเต้นระคนวิตกกังวล กำลังเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ   “กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง! หมายเลข 2318 ฉินเฟิง กรุณาไปเข้ารับการฉีดยากระตุ้นในแอเรียที่ 3 ด้วย!”   “ถึงตาของฉันแล้- โครม!”   วัยรุ่นชายผุดลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว จนเจ้าตัวเสียหลัก สะดุดขาตัวเองล้มคะมำลงกับพื้น   เพียงได้ยินเสียงกระแทก ทุกคนก็พอจะรับรู้ได้ว่าการล้มหน้าฟาดของอีกฝ่ายรุนแรงขนาดไหน   “อ๊า! ฉินเฟิง!” เห็นถึงฉากนี้ โจวฮ่าวก็กลายเป็นตื่นตระหนก เขาเร่งก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยเหลือสหายของตนอย่างร้อนรน   แล้วก็พบกับผลลัพธ์คาดไม่ถึง -ฉินเฟิงที่ล้มลงดันสลบไปซะอย่างงั้น!   “ชิบหายแล้ว ฉินเฟิง! นายคงไม่ได้หมดสติจริงๆหรอกใช่ไหม เล่นตลกอะไรในเวลาสำคัญแบบนี้เนี่ย? รีบตื่นขึ้นมาเร็วเข้า! ถึงเวลาฉีดยา ‘กระตุ้นพลัง’ ของนายแล้วนะ!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset