โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.262 – ฉินเฟิงยังมีชีวิตอยู่!?
สิบวันต่อมา
นอกเมืองไห่ บนเกาะพิทักษ์
แนวปะการังของปราการศิลาดำเสียหายย่อยยับ เต็มไปด้วยร่องรอยการต่อสู้ราวกับผ่านสงครามมานับร้อยปี
ฉินเฟิงตวัดคมมีดเดียวสังหารนายพลสัตว์ร้าย กำจัดมันออกไป
จากนั้นก็ใช้ฝนแห่งความตายแพร่เชื้อใส่ เปลี่ยนมันให้กลายเป็นซากศพเน่าเปื่อย แทรกซึมพลังสมาธิเข้าควบคุม สุดท้ายสั่งระเบิดกะโหลก
ติ๊ด! ติ๊ด! ติ๊ด!
จู่ๆอุปกรณ์สื่อสารของฉินเฟิงก็สั่น
ฉินเฟิงกวาดตามองมัน และพบว่าสายที่โทรมาคือโจวฮ่าว
ฉินเฟิงกับไป๋หลีหันไปพยักหน้าให้กัน และเดินเข้าไปภายในปราการศิลาดำ
เนื่องจากกำแพงปราการถูกทำลาย ส่งผลให้คลื่นซัดลึกเข้ามาถึงที่นี่เช่นกัน มันท่วมขังไปด้วยน้ำเค็ม แต่ก็ยังดีกว่าภายนอก เพราะฉินเฟิงไม่อาจให้ใครเห็นสภาพบนหาดได้ ดังนั้นตัดสินใจเข้ามาด้านในปราการศิลาดำ
“มีอะไรงั้นหรอ?” ฉินเฟิงเปิดอุปกรณ์สื่อสาร หน้าของโจวฮ่าวปรากฏขึ้น
“วู้! ที่แท้ก็ยังสบายดี ฉันดีใจนะที่นายไม่เป็นอะไร ไอ้พวกบ้าเมืองไห่ มันดันแพร่ข่าวลือไม่เข้าท่าซะได้ น่าโมโหชะมัด!” โจวฮ่าวเมื่อเห็นฉินเฟิงปลอดภัยดี แม้อีกฝ่ายจะหัวยุ่งและผิวเปลี่ยนเป็นสีแทนเล็กน้อย แต่ไม่บาดเจ็บก็ถือว่าโอเค
สีหน้าของฉินเฟิงหม่นลง กล่าวเสียงจม “ไอ้พวกเมืองไห่มันบอกว่าอะไร?”
โจวฮ่าวโกรธอย่างเห็นได้ชัด อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “พวกเขาบอกว่านายหายตัวไปนานกว่าสิบวัน ข่าวคราวก็ไม่ได้รับ บางทีอาจจะตายในทะเลไปแล้ว เลยส่งข้อความแสดงความเสียใจมายังสถานชุมชนเฟิงหลีของพวกเรา นี่มันเรื่องตลกสิ้นดี ไม่ใช่ว่าเมื่อสามวันก่อนนายเพิ่งติดต่อกับซูซิงฝูหรอกหรอ? แล้วไอ้เรื่องหายตัวไปกว่า 10 วันนี่มันข่าวบ้าอะไร!”
ฉินเฟิงหัวเราะเบาๆ เพราะสำหรับชาวเมืองไห่ เขาหายตัวไปนานกว่า 10 วันจริงๆนั่นแหละ!
“เอาล่ะ ฉันเข้าใจแล้ว ว่าแต่ไม่มีใครในเฟิงหลีคิดก่อการอะไรใช่ไหม?” ฉินเฟิงเอ่ยถาม
“ยังไม่มีใครกล้าหรอก!” โจวฮ่าวตอบ
เพราะในเฟิงหลียังมีหลิงหวูยี่ และนางพญามดทองของโจวฮ่าว ที่ยิ่งนานก็ยิ่งสำแดงพลังของมันออกมา ซึ่งตัวตนเลเวล E ไม่สามารถเอาชนะเลเวล F ระดับราชันย์ได้เพียงลำพัง ดังนั้นหากคิดก่อการ จำเป็นต้องอาศัยความกล้าและจำนวนที่มากพอ
ฉินเฟิงพยักหน้าด้วยความพอใจ “ไม่ต้องกังวลไป ฉันกำลังจะกลับแล้ว คงต้องเสนอหน้าซะหน่อย ไม่อย่างงั้น … คนบางคนอาจจะคิดว่าฉันตายไปแล้วจริงๆ”
“เออ ไปโผล่ให้พวกมันเห็น ให้พวกมันรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าฉาดใหญ่ จะได้ไม่พูดอะไรไร้สาระอีก!”
เวลานี้ การแพร่ข่าวเรื่องการเสียชีวิตของฉินเฟิง ไม่เท่ากับเป็นการแจ้งให้คนอื่นๆทราบ ว่าสถานชุมชนเฟิงหลีได้กลายเป็นเนื้อหวานฉ่ำที่ไม่มีเจ้าของหรอกหรือ?
“วางใจเถอะ ใครที่มันกล้ามียุ่มย่ามกับเฟิงหลี ฉันจะไม่ปล่อยพวกมันไป”
ฉินเฟิงอธิบายบางสิ่งบางอย่างเพิ่มเติมแก่โจวฮ่าว ก่อนจะวางสาย
ทางเฟิงหลีได้รับการติดต่อจากฉินเฟิง พวกเขาก็โล่งใจ ทีนี้ก็เหลือแค่คนฝั่งเมืองไห่เท่านั้นที่คิดสร้างปัญหา
ปัจจุบัน ฉินเฟิงไม่ตั้งใจที่จะอยู่บนเกาะอีกต่อไป!
ช่วงเวลาสิบวัน นับจากเริ่มต้น คลื่นยักษ์พัดพากองทัพสัตว์ทะเลมาถี่มาก มันซัดใส่เกาะพิทักษ์ในทุกๆ 3 ชั่วโมง การต่อสู้อันดุเดือดนี้ทำเอาฉินเฟิงไม่ได้หลับได้นอนเป็นเวลากว่า 3 วัน 3 คืนเต็มๆ
แต่ต่อมา ความถี่ของคลื่นก็ค่อยๆแผ่วลง เปลี่ยนจากทุกๆ 3 ชม. ไปเป็นทุกๆ 5 ชม. , ถัดไปเป็นทุกๆ 7 ชม. จนถึงปัจจุบันจะมาทุก 10 ชม.ต่อครั้ง
ระหว่างช่วงเวลาสิบวัน ฉินเฟิงเผชิญหน้ากับสัตว์ทะเลนับไม่ถ้วน แต่เกือบทั้งหมดต่างตกเป็นพลังงานให้เขาดูดกลืน ส่งผลให้ตอนนี้ความแข็งแกร่งของเขาได้ก้าวมาถึงเลเวล E7 เป็นที่เรียบร้อย และอีกไม่ไกลก็จะตัดผ่านเข้าสู่ E8
ด้วยการยกระดับที่รวดเร็วถึงขนาดนี้ มันมากเกินกว่าระดับสัตว์ประหลาดไปแล้ว เกรงว่าพูดให้ใครฟังก็คงจะไม่เชื่อ!
มากล่าวถึงเรื่องตัวสำคัญๆที่เขาสังหารได้ในครั้งนี้กันดีกว่า
บนเกาะพิทักษ์ ฉินเฟิงพบการดำรงอยู่ระดับราชันย์สัตว์ร้ายกว่า 13 ตัว แต่มี 2 ตัวที่ฉลาดหลักแหลม สามารถหลบหนีเขาไปได้ ฉินเฟิงเลยกำจัดได้เพียง 11 ตัวเท่านั้น
แต่จำนวนเท่านี้ก็ถือว่าเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่!
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาล่วงเลยผ่านไป สัตว์ร้ายที่มากับคลื่นก็ยิ่งน้อยลง น้อยลงเรื่อยๆ คลื่นยักษ์ก็ใกล้จะหมดลงแล้วเช่นกัน
“บางทีภารกิจปราบปรามกองทัพสัตว์ทะเลคราวนี้ ฝั่งหาดเมืองไห่คงเงียบเหงาไม่น้อย เพราะพวกมันเกือบทั้งหมดมากองกันอยู่ทางฝั่งฉัน”
ฉินเฟิงเย้ยหยัน
เนื่องจากการสกัดกั้นของฉินเฟิง แม้จะมีสัตว์ร้ายเลเวล G และ F บางส่วนเล็ดลอดไปกับคลื่นสึนามิ แต่มันน้อยมาก หากอ้างอิงจากปีก่อนๆ ถือว่าเทียบกันไม่ได้
แม้กระแสกองทัพสัตว์ร้ายจะอ่อนโทรมลง แต่ฉินเฟิงก็ยังไม่ได้รับข่าวอะไรจากเมืองไห่เลย แน่นอน นั่นคงเป็นเพราะพวกเขาสรุปว่าฉินเฟิงได้ตายไปตั้งแต่สึนามิลูกแรกแล้ว
อันที่จริง หยางปิงเองก็ส่งข้อความมาตรวจสอบเหมือนกัน แต่ฉินเฟิงไม่ได้ตอบกลับ
ดังนั้นตอนนี้ มันถึงเวลาแล้วที่ฉินเฟิงจะแกล้งหยางปิงให้ต้องตกใจเล่น!
ฉินเฟิงปลดปล่อยเพลิงโลกันต์ เผาผลาญซากศพเน่าเปื่อยทั้งหมดที่อยู่เหนือผืนทะเล เกาะพิทักษ์กลับมาสะอาดเอี่ยมอีกครั้ง
หากคนที่ไม่เคยอยู่บนเกาะนี้มาก่อนได้เห็น พวกเขาคงไม่มีทางรู้ได้เลย ว่าที่ผ่านมาเมื่อครู่มันเกิดอะไรขึ้น!
ฉินเฟิงเปิดอุปกรณ์สื่อสาร ส่งข้อความหาหยางปิง
“ผู้บัญชาการหยาง กระแสกองทัพสัตว์น่าจะจบลงแล้ว ช่วยส่งคนมารับผมหน่อย!”
อีกด้านหนึ่ง
หยางปิงกำลังสนทนาและจิบไวน์ด้วยความผ่อนคลายอยู่ภายในเมืองไห่
เนื่องจากกระแสกองทัพสัตว์ร้ายปีนี้ไม่น่ากังวลใจ ทั้งยังไม่มีสัตว์ร้ายตัวใหญ่โจมตีชายฝั่ง ทุกอย่างเลยเป็นไปอย่างราบรื่น
แต่หลังจากที่หยางปิงก้มหน้าลงมองอุปกรณ์สื่อสาร ดวงตาของพลันเบิกกว้าง แก้วไวน์ในมือร่วงตกลง
“ก๊ากฮ่าฮ่า สหายหยาง เป็นอะไรไป หมดแรงข้าวต้มหรือไง ฝีมือสองสาวสาวที่นายควงไปเมื่อวานนี้ล่ะสิใช่ไหม” ผู้ใช้พลังเลเวล E ล้อเลียนเขา
อย่างไรก็ตาม สีหน้าของหยางปิงกลับยังคงจริงจัง จ้องค้างอยู่บนอุปกรณ์สื่อสาร ชนิดที่ว่าหากถลนตาผ่านเข้าไปยังปลายทางที่ส่งมาได้ เขาคงทำไปแล้ว
“สหายหยาง เป็นอะไรไป?” คนข้างๆผลักเขา
หยางปิงสะท้าน ในที่สุดได้สติกลับคืน สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“ฉินเฟิง … ฉินเฟิงยังไม่ตาย!”
ชายข้างๆตะลึงไปเล็กน้อย คล้ายได้ยินไม่ชัดที่หยางปิงกล่าว หรืออาจจะเป็นเพราะชื่อที่ถูกลืมไปแล้วนี้ ทำให้เขาเกิดความไม่สบายใจขึ้น
ไม่นาน ชายคนนั้นก็เบิกตากว้างเช่นกัน
“คนที่นายหมายถึง คือฉินเฟิงแห่งสถานชุมชนเฟิงหลีใช่ไหม?”
หยางปิงพยักหน้า
“ต้องรีบรายงานบอส!”
หยางปิงเริ่มตื่นตระหนก คลิกบนอุปกรณ์สื่อสาร โทรหาหวังจื่อเฉา และรายงานเรื่องราวคร่าวๆออกไป
หวังจื่อเฉาเงียบงันไปครู่หนึ่ง ผลลัพธิดังกล่าว ยากที่จะยอมรับ
เขาขบฟันแน่นและกล่าว “ไปรับตัวมันมา แล้วตรวจสอบด้วยว่าเกิดอะไรขึ้น!”
รับรู้ได้ถึงความขมฝาดในปาก แต่ทำอะไรไม่ได้ หยางปิงจำใจตอบตกลง
ในเมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ หยางปิงทำได้เพียงพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสเท่านั้น!
แม้หยางปิงจะกระทำเรื่องเลวทรามอย่างเห็นได้ชัด อย่างการละทิ้งฉินเฟิงไว้บนเกาะ ทั้งยังติดตั้งระเบิด และแพร่กระจายผงหอมวังวนสมุทร —แต่ในข้อความที่เขาตอบฉินเฟิงกลับไป กลับโกหกหน้าตาย แสดงออกถึงความเป็นห่วงเป็นใย
พอฉินเฟิงเอ่ยถามถึงเรื่องผงหอม เขาก็แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง
หยางปิงเก่งมากเรื่องการแสดง ดังนั้นตอบฉะฉานทุกคำถามของฉินเฟิง
แต่หลังจากสอบถามข้อมูลจากฉินเฟิงกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว เขาก็ยังไม่ออกไป
“รีบมารับซักที ไม่อย่างนั้น คลื่นลูกต่อไปจะมาแล้วนะ!” ฉินเฟิงตอบกลับ
เนื่องจากทางชายฝั่งเมืองไห่แทบไม่พบคลื่นยักษ์ อีกทั้งสัตว์ทะเลที่ติดมาก็ล้วนอ่อนแอ ดังนั้นเขาไม่เข้าใจว่าประโยคนี้ของฉินเฟิงเป็นเรื่องร้ายแรงแค่ไหน เพียงคิดว่าฉินเฟิงกระตุ้นให้เขารีบไปรับ
“ตกลง ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้ ทางชายฝั่งมีผู้เสียชีวิตกว่า 9 คน ฉันก็ได้แต่คอยเฝ้าแต่อธิฐานให้ผู้ว่าการฉินสามารถรอดชีวิตกลับมา ในวันแรกฉันมีธุระด่วนต้องไปจัดการจริงๆ โปรดอย่าตำหนิฉันเลย … ”
เมื่อกล่าวถึงจุดนี้ พลันปรากฏร่องรอยของเจตนาสังหาร กระพริบไหวในแววตาของหยางปิง
หลังจากนั้นสองชั่วโมง หยางปิงก็เดินทางมาถึงเกาะพิทักษ์ เพียงมองจากระยะไกล เขาไม่อยากจะเชื่อเลย ว่านี่คือสถานที่เดียวกันกับที่ตนเคยมาเยือนเมื่อสิบวันก่อน!