โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.338 – แผนการเก็บกวาด
วิดีโอของไป๋หลีมันน่าทึ่งก็จริง แต่ท่าทีของเธอเย็นชาเกินไป คล้ายไม่คิดสนใจผู้คน เป็นการยากที่จะสนทนากับเธอ
ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ไป๋หลีเป็นคู่ของฉินเฟิง เขาไปไหนเธอก็ไปด้วย เลยเป็นธรรมดาที่เฉินเซี่ยงจะคิดว่า หากเขาสามารถบรรลุข้อตกลงกับฉินเฟิง ก็เท่ากับว่าไป๋หลียอมตอบตกลงเช่นกัน
“พี่เฉิน ผมเข้าใจว่าคุณหมายถึงอะไร คุณต้องการให้ผมลงมือ กำจัดแม่พันธุ์หนอนใช่ไหม?” ฉินเฟิงกล่าว
หากเป็นเรื่องนี้ ต่อให้เป็นฉินเฟิง ก็ยังไม่อาจรับประกันว่าตนจะสามารถกำจัดแม่พันธุ์หนอนได้
ในบรรดาราชันย์สัตว์ร้ายแห่งทะเลทราย ความแข็งแกร่งของแม่พันธุ์หนอนถือเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงที่สุด
ไอ้ตัวอย่างเช่นมดกัดช้างน่ะมันมี แต่กรณีนี้เป็นข้อยกเว้นจริงๆ
เฉินเซี่ยงส่ายมือปฏิเสธอย่างรวดเร็ว “ไม่หรอก นั่นอันตรายเกินไป! ถึงนายจะสามารถฆ่าราชินีกิ้งก่าทรายได้ แต่ฉันไม่กล้าปล่อยนายไปคนเดียวแน่ๆ การเผชิญหน้าในครั้งนี้ ทุกคนต้องร่วมแรงร่วมใจกัน สังหารแม่พันธุ์หนอน! ”
ฉินเฟิงพยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นคงช่วยได้เยอะ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ สีหน้าจริงจังของเฉินเซี่ยงก็เริ่มผ่อนคลายลง
“หมายความว่าคุณตกลงที่จะเข้าร่วมพันธมิตรของพวกเราแล้วใช่ไหม?”
คราวนี้ฉินเฟิงกลับส่ายหัว “ในเมื่อมันพ่วงท้ายว่าอิสระ งั้นทำไมพวกเราต้องตกลงสัญญากันด้วย? เป็นพันธมิตรกันอยู่แล้ว แล้วต้องเข้าร่วมพันธมิตรอีกมันไม่ดูซ้ำซ้อนหรอ คิดซะว่าผมให้ความร่วมมือ หรือเป็นเพื่อนร่วมทีมชั่วคราว แบบนี้จะสบายใจกว่า”
ฉินเฟิงไม่ต้องการข้องแวะกับหยานฟางในขณะนี้ จึงตัดสินใจยับยั้งความสัมพันธ์เอาไว้ชั่วคราว
จริงอยู่ที่ความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้ามไม่อ่อนแอ แต่ก็ใช่ว่าจะตึงมือฉินเฟิง
อย่างไรก็ตาม คนผู้นี้ ในอนาคตคือคนขององค์กรมืด นี่คือความจริงที่ถูกตัดสินแล้ว
ฉินเฟิงกันไว้ก่อนดีกว่าแก้
“แต่ว่า … ”
เฉินเซี่ยงตั้งใจจะเอ่ยต่อ แต่ฉินเฟิงยิ้มบาง กล่าวตัดหน้าเขา “ผมเป็นคนรักอิสระ และการร่วมมือกันในครั้งนี้ เป็นเพราะผมต้องการช่วยเหลือพี่เฉิน เพื่อตอบแทนคุณสำหรับเหตุการณ์ในตึกประมูล”
หากไม่ใช่เพราะเห็นแก่หน้าของเฉินเซี่ยง ฉินเฟิงไม่มีทางยอมเหยียบลงบนโคลนสกปรกนี้เด็ดขาด
แต่ยังไงซะ นี่คือเรื่องเกี่ยวกับการล้อมจับ ‘แม่พันธุ์’ ไม่ว่าจะเป็นแม่พันธุ์แมงมุมขาเหล็กระดับราชันย์ หรือนางพญามดทอง ขนาดพวกมันอยู่ในเลเวล F ยังยากที่จะต่อกร ฉะนั้นไม่ต้องกล่าวถึงแม่พันธุ์หนอนในเลเวล D
“ก็ได้ๆ ฉันยอมแล้ว แต่แค่ไปทำความรู้จักกับคนอื่นๆ มันคงไม่มากเกินไปใช่ไหม ยังไงพวกเราก็ต้องร่วมกันสู้ในอนาคต” เฉินเซี่ยงกล่าว
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหา”
ฉินเฟิงพยักหน้า
“โอเค งั้นมาเถอะ”
ฉินเซี่ยงลุกขึ้น สวมชุดคลุมอาบน้ำข้างๆ แล้วเดินนำฉินเฟิงไปที่เลานจ์ของคลับแห่งนี้
ภายในเลานจ์ มีคนกลุ่มหนึ่งนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ผู้ใช้พลังเหล่านี้ไม่เพียงอยู่ในสภาพชุดคลุมอาบน้ำ แต่ยังมีสาวๆในชุดบิกินี่ห้อมล้อมอยู่รอบๆ
ทันทีที่ฉินเฟิงกับเฉินเซี่ยงเดินเข้ามา สายตาของฝูงชน เป็นธรรมดาที่จะเบนไปตกลงบนพวกเขา
“ฉินเฟิง ฉันขอแนะนำให้ได้รู้จัก นี่คือลูกพี่ของพันธมิตรอิสระ หยานฟาง!”
“ยินดีที่ได้รู้จัก”
“ยินดีที่ได้รู้จัก”
ทักสองเชคแฮนด์ทักทาย ในดวงตาของแต่ละฝ่าย ต่างเปล่งประกายวาววับ
“พวกเราเข้าใจความหมายของมิสเตอร์ฉินดี ผู้แข็งแกร่ง มักจะไม่อยากถูกชักนำโดยผู้อื่น แน่นอน พันธมิตรอิสระของพวกเราก็ไม่คิดผูกมัด ความร่วมมือในครั้งนี้ ถือซะว่าเป็นในรูปแบบเพื่อนร่วมทีมชั่วคราวก็แล้วกัน อย่าคิดมากไปเลย” หยานฟางกล่าวช่วยผ่อนคลายบรรยากาศ
ฉินเฟิงพยักหน้า “ตกลงตามนั้น”
“เชิญมิสเตอร์ฉินนั่งก่อนเถอะ”
“มิสเตอร์ฉินต้องการบริการจากสาวงามรึเปล่า?”
“มิสเตอร์ฉินยังต้องการสาวงามอีกหรือ? แค่แฟนของเขาก็งดงามมากเกินพอแล้ว!”
แต่ละคนเปิดบทสนทนา กล่าวหยอกล้อฉินเฟิง
หน้าผากของฉินเฟิงเริ่มขดเป็นริ้ว เขาไม่ชอบที่คนเหล่านี้ใช้ไป๋หลีไปเทียบกับพวกผู้หญิงขายบริการให้กับผู้ใช้พลัง
มันไม่เหมาะสม
“ไม่จำเป็น เชิญสนุกกันเองเถอะ”
ฉินเฟิงปฏิเสธ หย่อนตัวลงนั่งคนเดียวบนโซฟา
ท่าทีของเขา กลายเป็นเย็นชาเล็กน้อย
บางคนที่กำลังเอ่ยปากสะอึกไป รู้สึกอัดอัดเล็กน้อย ในหัวใจเริ่มรู้สึกไม่พอใจฉินเฟิง
ในความคิดของพวกเขา ฉินเฟิงหยิ่งยะโสเกินไป
หยานฟางกลายเป็นเคร่งขรึม ส่งสัญญาณให้ผู้หญิงเหล่านั้นออกไป
“มาคุยเรื่องแผนกัน ล่าสุดแนวโน้มการเคลื่อนไหวของหนอนทรายทองถี่ขึ้นเรื่อยๆ พวกเราลงมือเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี”
พอเข้าประเด็น สีหน้าของฉินเฟิงค่อยอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย อันที่จริงแล้วหยานฟางและคนอื่นๆก็ใช่ว่าจะไร้หลักการซะดีเดียว หนอนทรายทองถือเป็นภัยคุกคามมากจริงๆ เรื่องนี้ต้องแข่งกับเวลา
และสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ หยานฟางได้ค้นพบรังของแม่พันธุ์หนอนทรายทองแล้ว
ดังนั้น ปัญหาในเรื่องช่วงเวลา และสถานที่ล้วนถูกแก้ไข สิ่งที่ขาดหายไปก็คือสมาชิกที่แข็งแกร่ง!
หากมีฉินเฟิง พวกเขาเชื่อมั่นจริงๆ ว่าจะมีทุนมากพอต่อกรกับแม่พันธุ์หนอนทรายทองได้
ด้วยเหตุนี้ ปฏิบัติการล่าแม่พันธุ์ จึงถูกกำหนดขึ้น
“หนอนทรายทองมีมากกว่า 200,000 ตัว พวกเราต้องเก็บกวาดมันอย่างน้อย 10,000 ตัวต่อวัน ระยะเวลารวมเป็นครึ่งเดือน หลังจากนั้น ค่อยเริ่มปฏิบัติการปิดล้อมและปราบปรามแม่พันธุ์หนอนทรายทอง ฉันจะปรึกษาเรื่องนี้กับหูเหลียง ว่าภารกิจเร่งด่วนอื่นๆ หากไม่จำเป็นจริงๆ อย่าเรียกพวกเรา”
เฉินเซี่ยงขมวดคิ้วเป็นครั้งแรก “แต่นั่นทำกับว่า สมาชิกพันธมิตรของพวกเรา ในแต่ละวัน จะต้องฆ่าอย่างน้อยคนละ 100 ตัว ฉันกลัวว่ามันจะเหนื่อยเกินไป … 10,000 ตัวต่อวัน เป็นตัวเลขที่น่าหวาดกลัวจริงๆ”
เห็นได้ชัดว่าหยานฟางไม่คิดอย่างนั้น ดวงตาของเขา เบนไปตกลงบนร่างของฉินเฟิง
ฉินเฟิงยิ้มจาง “ฆ่าได้มากเท่าไหร่ก็เอาเท่านั้นเถอะ ส่วนที่เหลือ ให้เป็นหน้าที่ผมเอง!”
“ยอดเยี่ยม ฉันละชอบคนอย่างมิสเตอร์ฉินจริงๆ!” หยานฟางยิ้ม
ที่จริงแล้วแปดชั่วโมงของวันนี้ หนอนทรายทองที่ถูกสังหารลงโดยฉินเฟิง มีจำนวนมากถึง 4,000 ตัว แต่ฉินเฟิงไม่ได้กำจัดพวกมันทั้งหมด เขาไม่ต้องการที่จะฉีกหน้าเลเวล D คนอื่นๆ เปลี่ยนสถานการณ์ให้ตนต้องตกอยู่ในสภาพถูกคมมีดจี้ทั้งหน้าหลัง
แต่ตอนนี้ มันแตกต่างออกไป ยิ่งบรรลุภารกิจมากเท่าไหร่ รางวัลตอบแทนก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น!
“พรุ่งนี้เช้า 8 โมง ทุกคนไปรวมตัวกัน แล้วมุ่งหน้าสู่ทุ่งล่า! หวังว่าภารกิจนี้ จะช่วยให้พวกเราสามารถช่วยปกป้องเมืองชาตงเอาไว้ได้!” หยานฟางด้วยอารมณ์
จิตวิญญาณของฝูงชนที่รับฟังเริ่มลุกโชน
พวกเขามิใช่ผู้ใช้พลังที่ไม่คิดถึงอนาคต เลยเป็นธรรมดาที่ต้องการทำสิ่งยิ่งใหญ่
การเข้าร่วมปราบปรามราชันย์สัตว์ร้าย อะไรแบบนี้ มันจะไม่น่าตื่นเต้นได้อย่างไร?
แล้วอีกอย่าง หลังจากเสร็จสิ้นการปราบปราม ย่อมนำมาซึ่งความมั่งคั่งที่ใหญ่ยิ่งกว่า!
…
เช้าวันรุ่งขึ้น ฝูงฮอลศึกลอยลำขึ้นเหนือปราการชาตง
ทั้งๆที่ยังไม่มีการแจ้งเตือนใดๆ แต่ฮอลศึกมากมายกลับบินผ่านไป นี่ทำให้คนๆหนึ่งรู้สึกฉงน
เล่ยชางกำลังรับประทานอาหารเช้า พอได้ยินเสียง เขาก็ขมวดคิ้วทันที “เกิดอะไรขึ้น? มีภารกิจใหญ่อะไรรึเปล่า?”
ด้วยความแข็งแกร่งของเล่ยชาง เขาเลยสามารถรู้สึกได้ ว่าภายในฮอลศึกที่บินอยู่บนท้องฟ้า มีกันกี่คน
–ข้างบนนั่นมีผู้ใช้พลังเลเวล D มากกว่า 40 คน!
ลูกน้องของเล่ยชางก้าวมาข้างหน้า และกล่าว “เป็นกลุ่มของหยานฟาง เขายังไม่ละความตั้งใจที่จะกำจัดแม่พันธุ์หนอนทรายทอง และฉินเฟิงที่ซื้อแก่นอบิลิตี้จักรพรรดิสัตว์ร้ายไป ดูเหมือนจะร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ด้วย”
พอได้ยินชื่อของฉินเฟิง คิ้วของเล่ยชางขมวดเข้าหากันยิ่งกว่าเดิม
เหอะ!
เล่ยชางฮึดฮัดไม่พอใจ แววตากลายเป็นโหดเหี้ยม
ก่อนหน้านี้เขาจัดคนให้วางกับดักสังหารฉินเฟิง ไม่คาดหวังเลย ว่าฉินเฟิงดันทำภารกิจสำเร็จซะอย่างนั้น ทั้งยังสังหารราชินีกิ้งก่าทราย
กลายเป็นมีชื่อเสียงขึ้นมาแทน คิดทำโทษแต่ให้คุณ เล่ยชางจะไม่โกรธได้อย่างไร?
แค่นึกถึงมัน เล่ยชางก็รู้สึกเจ็บปวดหัวใจ
“ไอ้เด็กเปรต!”
เล่นชางยิ่งนึกยิ่งรู้สึกโกรธแค้น แม้อาการบาดเจ็บของเล่ยชางจากในตอนห้องประมูลส่วนตัวจะฟื้นฟูกลับมาได้เกินครึ่งแล้วก็ตาม แต่หากคิดออกสู้ยังคงเป็นปัญหาอยู่เล็กน้อย เรื่องนี้ชวนให้หงุดหงิดมากๆ
แม้ไม่จำเป็นต้องออกไปสู้เสี่ยงตาย แต่กระนั้น ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เล่ยชางไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรเลย การเก็บเกี่ยวของเขาต้องล่าช้าออกไป