ตอนที่ 105 ไสหัวออกไปจากบ้านข้าซะ !
เสียงของเจียงเฉินเต็มไปด้วยจิตสังหารที่เย็นชาทำให้ร่างของหวู่เฟยหยู่สั่นเล็กน้อย
เขาเป็นผู้ฝึกสัตว์อสูรที่ต้องอาศัยการควบคุมสัตว์อสูรในการต่อสู้กับคนอื่น เขาไม่ได้พึ่งความแข็งแกร่งจากตัวเอง เขานั้นอยู่เพียงระดับรวมปรารเท่านั้น
ตอนนี้แม้แต่งูหลามเมฆดำของเขาก็ยังถูกเจียงเฉินฆ่าตายด้วยหมัดเดียว ดังนั้นเขาจะเป็นคู่ต่อสู้ของเจียงเฉินได้ยังไง ?
“ดี ดีมาก!”
“ไอ่หนู ในหลิงหยุนวู่ฟู่แห่งนี้เจ้าเป็นคนแรกที่กล้าทำให้ข้าอับอายต่อหน้าคนอื่น !”
“รอก่อนเถอะ เรื่องของเราไม่จบแค่นี้แน่ !”
หลังจากที่ใบหน้าของหวู่เฟยหยูเปลี่ยนไปชั่วขณะหนึ่ง ในที่สุดเขาก็หันไปพูดกับเจียงเฉินอย่างหยาบคายก่อนจะหันหลังเดินจากไป
“โห่ อะไรกัน… ชายคนนั้นสุดยอดไปเลยไม่ใช่รึไง เขาสามารถไล่หลงเฟยหยูได้จริงๆด้วย !”
“ใช่ เจ้าเด็กนั้นยอดเยี่ยมจริงๆ เพียงแค่ความแข็งแกร่งจากร่างกายของเขา เขาก็สามารถฆ่างูเหลือมเมฆดำได้ด้วยหมัดเดียวแล้ว ข้าเกรงว่าความแข็งแกร่งของเขาคงไม่ด้อยไปกว่าหวู่เฟยหลงแน่นอน ?”
“ในหลิงหยุนวู่ฟู่แห่งนี้ เมื่อใดกันที่มีตัวตนที่ทรงพลังเช่นนี้ปรากฏขึ้นมา”
หลังจากที่หวู่เฟยหยูจากไป เจียงเฉินก็เดินเข้าไปในลานบ้านของเขาพร้อมกับสัตว์อสูรเพลิงท่ามกลางสายตาที่ประหลาดใจของผู้คน
ตอนนี้เอง เหมิงชิงซูเองก็เดินตามเขาเข้าไปในลานบ้านเช่นกัน
“นั่น…ถ้าข้าจำไม่ผิด คนเมื่อกี้คือเหมิงชิงซู หญิงงามอัจฉริยะในรายชื่ออันดับหลิงหยุนของเราไม่ใช่รึ !”
“จิจิจิ! ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าเด็กคนนั้นคือใคร เขาน่าจะเป็นเจียงเฉิน คนที่รับเหมิงชิงซูเป็นสาวใช้ไม่ใช่รึไง ?”
“กลับกลายเป็นว่าคือเขานั่นเอง ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงได้เจ๋งขนาดนั้น”
เมื่อเห็นสถานการณ์ตรงหน้า ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา
เมื่อเจียงเฉินกลับมาที่ลานบ้าน เขาก็ใช้วิชารักษาของผู้ฝึกสัตว์อสูรเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของสัตว์อสูรเพลิง
จากนั้นเขาก็บอกสัตว์อสูรเพลิงอย่างจริงจังว่าอย่าไปไหนคนเดียวอีก
ลูกสัตว์อสูรเพลิงระดับ 6 นั้นไม่เพียงแต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ผู้ฝึกสัตว์อสูรจำนวนนับไม่ถ้วนฝันถึงเท่านั้น
แม้แต่นักรบธรรมดาบางคนที่โลภมากก็ยังต้องการ
เพียงวันแรกที่เจียงเฉินเข้าไปในวังชั้นใน เขาก็ได้สานต่อตำนานที่ทำไว้ในวังชั้นนอกต่อทันที
เขาสามารถตระหนักถึงเจตจำนงแห้งกระบี่ได้ที่หอสัญลักษณ์กระบี่และยังเอาชนะหลินยู่ที่อยู่อันดับสามในรายชื่ออันดับหลิงหยุนได้อีก พ่อมาตอนนี้เขาก็ต่อยได้ต่อยงูเหลือมเมฆดำของหวู่เฟยหยูตายไป
เรื่องราวที่น่าเหลือเชื่อเหล่านี้ต่างก็เลื่องลือไปทั่ววังชั้นในของหลิงหยุนวู่ฟู่ทันที
สิ่งนี้ทำให้ชื่อเสียงและเกียรติศักดิ์ของเขาในหลิงหยุนวู่ฟู่เทียบได้กับหวู่เฟยหลงผู้ที่เป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งและกลายเป็นตัวตนในตำนานอีกคนหนึ่งไปโดยปริยาย
แต่ทว่า……
หลังจากวันแรกที่เจียงเฉินได้สร้างตำนานมากมายขึ้นที่วังชั้นในแล้ว เขาก็ได้เงียบหายไปอยู่พักหนึ่ง
เจียงเฉินนั้นอยู่ในบ้านของตัวเองและเอาแต่ฝึกซ้อมอยู่เป็นเวลาหลายวัน
ด้วยค่าประสบการณ์ที่ได้จากระบบฝึกฝนร้อยเท่านั้น แม้ว่าเขาจะไม่ได้กินเม็ดยาใดๆ
ค่าประสบการณ์เหล่านั้นก็ยังนับได้ว่าล้นเหลือ ซึ่งนี่ก็ทำให้เขาสามารถทะลวงเข้าสู่ขั้นแรกระดับก่อกำเนิดได้สำเร็จ!
หลังจากทะลวงผ่านเข้าสู่ขั้นแรกของระดับก่อกำเนิดมาได้ เจียงเฉินก็กำลังจะออกไปสูดอากาศ แต่ทว่าตอนนี้เอง เขาก็ได้ยินเสียงๆหนึ่งดังมาจากลานบ้าน
เจียงเฉินลุกขึ้นยืนและเดินไปที่ประตู
หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อเจียงเฉินเปิดประตูมาถึงลานบ้าน
เขาก็พบเข้าชายหนุ่มร่างผอมคนหนึ่งที่ดูอายุประมาณ 20 ปี ชายหนุ่มคนนี้ยืนอยู่กลางลานบ้านอย่างภาคภูมิ
และข้างๆเขาก็มีเด็กหนุ่มยืนอยู่…
สองคนนั้นเป็นเด็กรับใช้ของหลินหยุนวู่ฟู่ที่ถูกจัดการให้มาดูแลชีวิตประจำวันและทำอาหารให้กับเจียงเฉิน ซึ่งตอนนี้สภาพของพวกเขาดูเหมือนว่าจะเพิ่งถูกทุบตีมา พวกเขาดูยับเยินไม่น้อยเลย
เมื่อเห็นฉากนี้ เจียงเฉินก็อดไม่ได้ที่จะหรี่ตาลงด้วยความโกรธทันที
เขาก้าวเดินออกไปที่ลานบ้านอย่างไม่ลังเล
ในเวลาเดียวกัน เสียงที่เย็นยะเยียบของเขาก็ดังไปทั่วบริเวณบ้าน
ตอนนี้แปลถึงตอนที่ 400 แล้วนะครับ หากต้องการอ่านอย่างไม่ขาดตอนสามารถติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ที่ https://www.facebook.com/ReadGOS/
เพียงตอนละ 1 บาท เท่านั้น สามารถลดค่าเข้ากลุ่มได้โดยหักลบตามจำนวนตอนที่อ่าน เช่น ท่านอ่านถึงตอนที่ 108 แล้วก็สามารถเข้ากลุ่ม 3 ได้ด้วยราคา 42บาทเท่านั้น !
“ข้าไม่สนว่าเจ้าเป็นใคร จงไสหัวออกไปซะ และอย่าได้คิดมาเดินเล่นในบ้านของข้าอีก !“