ตอนที่ 142 เจ้าจะไม่มีโอกาสได้ขยับแม้แต่น้อย!
เจียงเฉินสูดลมหายใจเย็นเยียบแผ่วเบาขณะเดียวกันทุกคนรอบๆจัตุรัสก็หันสายตามาบรรจบที่เขาทันที
“ดูนั่น นั่นพี่ใหญ่เจียงเฉินนี่นา !”
“พี่เจียงเฉิน ในที่สุดเขาก็ปรากฏตัวขึ้น”
“ฮ่าฮ่า… เมื่อศิษย์พี่เจียงเฉินออกโรงเองแล้ว ข้าเองก็อยากจะรู้นักว่านักเรียนจากวังชางเหล่ยจะหยิ่งผยองได้อีกเพียงใด!”
เมื่อเห็นร่างของเจียงเฉินปรากฏตัวขึ้น นักเรียนของวังหลิงหยุนหลายคนก็อดไม่ได้ที่จะแสดงออกด้วยสายตาที่ตื่นเต้น
“เจียงเฉิน ในที่สุดเจ้าก็โผล่หัวออกมาซะที ข้าจึกว่าเจ้าจะกลายเป็นเต่าหัวหดไปแล้วซะอีก ”
เมื่อเห็นเจียงเฉินกำลังเดินช้า ๆ เข้ามาที่ใจกลางจัตุรัส แสงเย็นก็ส่องประกายในดวงตาของเหล่ยชิงและสีหน้าดูถูกเยาะเย้ยก็ช่วยไม่ได้ที่จะปรากฏบนใบหน้าของเขา
“ข้าก็นึกว่าใครกันที่มาสร้างปัญหาให้กับวังหลิงหยุนของข้า ที่แท้ก็พวกคนขี้แพ้นั่นเอง “
เจียงเฉินก็เหลือบมองเหล่ยชิงและกล่าวเบาๆ: ” เจ้าใช่ไหมที่ทำร้ายนักเรียนจากวังหลิงหลุนของข้า ?”
“ก็แค่ขยะ พวกเขาไม่แม้แต่จะทำให้ข้าคันและรู้สึกท้าทายเลยสักนิด สมควรแล้วที่ถูกข้าทุบตี ”
“เจียงเฉิน จุดประสงค์ที่พวกเรามายังวังหลิงหยุนวันนี้ก็คือเจ้า ”
“ข้าบอกไว้ตั้งแต่ตอนที่ภูเขาเมฆอัศนีแล้วว่าอีกไม่ช้าก็เร็วข้าจะมาเยือนที่วังหลิงหยุนแห่งนี้และจัดการเจ้าด้วยตัวเอง ”
เหล่ยชิงจ้องไปที่เจียงเฉินอย่างเย็นชาและสีหน้าของเขาก็กลายเป็นดุร้าย
ตอนที่อยู่บนภูเขาเมฆอัศนีนั้น เจียงเฉินไม่เพียงแต่เอาชนะเขาได้อย่างสมบูรณ์ในด้านอาคมเท่านั้น แต่ยังกล้าฆ่านักเรียนของวังชางเหล่ยต่อหน้าเขาอีกต่างหาก
นี่รับได้ว่าเป็นความอัปยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับเหล่ยชิงผู้ที่หยิ่งผยองมาตลอดเลยก็ว่าได้!
ด้วยเหตุนี้เอง หลังจากที่เหล่ยชิงได้ทะลวงเข้าสู่ระดับก่อกำเนิดแล้ว เขาก็บุกมาที่วังหลิงหยุนโดยตรงทันที
เขาต้องการล้างความอัปยศที่เขาได้รับจากเจียงเฉินและตอบแทนคืนกลับไปอีก10เท่า
“จัดการข้ารึ ? เจ้าทำได้รึไง ”
“ตอนที่อยู่บนภูเขาเมฆอัศนีข้านั้นสามารถเอาชนะเจ้าได้ ตอนนี้ข้าก็ยังสามารถเอาชนะเจ้า !”
“แต่ก่อนที่ข้าจะจัดการกับเจ้า ข้าต้องการที่จะระบายควาฒโกรธเคืองให้กับเหล่าพี่น้องนักเรียนจากหวังหลิงหยุนเสียก่อน”
เมื่อเสียงเย็นชาของเจียงเฉินลดลง ร่างของเขาก็หายไปในพริบตา
ในไม่ช้า…
เสียงกระแทกก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นชุด
ข้างหลังเหล่ยชิง นักเรียนจากวังชางเหล่ยทุกคนก็กลายเป็นเหมือนกับว่าวที่สายป่านขาด พวกเขาลอยกระเด็นออกไปหลายร้อยเมตรอย่างอนาถ
“ฮ้าาาาาาาาาาา!!!”
“ฮ่าฮ่า…ตอนนี้คนพวกก็ไม่ได้เจ๋งเท่าไหร่นี่นา พวกเขาไม่อาจรับมือพี่เจียงเฉินได้เลยสักนิด ”
“อย่างที่คาดไว้ ศิษย์พี่เจียงเฉิน เขาช่าง… ช่างเป็นที่พึงพาของพวกเราจริงๆ”
เมื่อเห็นเจียงเฉินส่งนักเรียนจากวังชางเหล่ยด้านหลังเหล่ยชิงกระเด็นไปทีละคนอย่างง่ายดายและรวดเร็ว
นักเรียนทุกคนในวังหลิงหยุนก็หัวเราะออกมาด้วยความตื่นเต้น
“เจียงเฉิน เจ้าทำเกินไปแล้ว!”
เมื่อเห็นเจียงเฉินอีกครั้ง เจียงเฉินก็ได้ลงมือกับนักเรียนจากวังชางเหล่ยที่อยู่ข้างหลังเขาไปแล้ว
นี่ทำให้การแสดงออกของเหล่ยชิงกลายเป็นมืดมนทันที
“ทำไม เจ้าเป็นฝ่ายรังแกนักเรียนจากวังหลิงหยุนของข้าได้ฝ่ายเดียวรึไง ? ข้าไม่มีสิทธิ์ลงมือกับนักเรียกจากวังชางเหล่ยว่างั้น ?”
เจียงเฉินขดริมฝีปากของเขาและพูดอย่างเฉยเมย: “ข้าก็แค่ใช้วิธีบำบัดร่างกายให้พวกเขาก็เท่านั้นเอง”
“เจียงเฉิน เจ้ารนหาที่นัก!”
“เนินนานหลายปีที่ผ่านมา ข้ายอมรับเลยว่าเจ้าเป็นแรกที่สามารถยั่วยุข้าได้สำเร็จ ”
เหล่ยชิง ยิ้มอย่างโกรธเคือง: “ข้าจะทำให้เจ้ารู้เองว่าหากมายั่วยุข้า เหล่ยชิง แล้วจะมีจุดจบยังไง!”
“เหมือนอย่างที่เจ้าเอาแต่พูดพล่ามไร้สาระหน่ะรึ ?”
เจียงเฉินมองไปที่เหล่ยชิงอย่างหมดความอดทน เสียงเย็นชาของเขาดังก้องในทันที
“อยากจัดการข้างั้นรึ?”
“ถ้าเจ้าอยากจัดการข้านักก็ลงมือเถอะ”
“มิฉะนั้น… หากข้าลงมือแล้ว เจ้าจะไม่มีโอกาสได้ขยับแม้แต่น้อย! “
ตอนที่ 141 นอกจากข้าไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์รังแกพวกเขา
“ผิดปกติ ! ศิษย์พี่เจียงเฉินไม่ใช่คนแล้ว!”
“พรสวรรค์ในการปรุงยาของเขาเองก็ถึงระดับที่เหนือคาดแล้วเช่นกัน !”
“มันไม่ใช่แค่แค่ผิดปกติแล้ว ! แม้แต่อัจฉริยะของตระกูลตันก็ยังถูกรังแกอย่างทารุณกรรมราวกับเป็นขยะซะงั้น !”
ช่วงเวลานี้เอง… …
นักเรียนเกือบทั้งหมดของวังหลิงหยุนต่างก็มองมาที่เจียงเฉินด้วยความชื่นชม
เมื่อเขาได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ ของเจียงเฉินและเสียงที่ดูแปลกประหลาดใจของเหล่านักเรียนวังหลิงหยุนรอบๆ
ใบหน้าที่หล่อเหลาของตัเสี่ยวหมิงก็กลายเป็นแดงขึ้นทันทีและเขารู้สึกราวกับว่าต้องการเอาหน้าแทรกลงไปที่แผ่นดินร
แต่ไม่ว่าใบหน้าของเขาจะอยู่ที่ใด เขาก็ยังคงอยู่ที่นี่ ท่ามกลางสายตาที่จ้องมองมานับไม่ถ้วน
หลังจากเอาชนะหวู่เฟยหลงและแก้ไขปัญหาตันเสี่ยวหมิงให้ซูหลิงเซียงได้แล้ว
เจียงเฉินที่ไม่ค่อยได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขนักในวังหลิงหยุนก็เริ่มมีเวลาผ่อนคลาย
อย่างไรก็ตาม……
วันที่สงบสุขเช่นนั้นกลับคงอยู่ได้ไม่นาน
วันนี้เอง ในขณะที่เจียงเฉินกำลังนั่งสมาธิอยู่ในห้อง ทันใดนั้นกระแสลมที่ทรงพลังก็ตกลงมาที่ลานบ้านของเขา
“นี่เป็นกลิ่นอายของผู้อาวุโสวังชั้นใน หยานชางหมิง หนิ ? เขามาทำอะไรที่นี่กัน?”
เจียงเฉินพึมพำกับตัวเองแล้วลุกขึ้นยืน จากนั้นก็ออกจากห้องไป
หลังจากออกจากห้อง เจียงเฉินก็พบกับหยานชางหมิงที่ยืนอยู่ที่ลานบ้าน
“ผู้อาวุโสหยาน ท่านมาที่นี่ด้วยเหตุอันใดรึ ?”
เจียงเฉินมองไปที่ หยานชางหมิงด้วยสายตาที่แปลกใจ
“ข้ามีเรื่องมาขอให้เจ้าทำ”
“นักเรียนหลายคนจากวังชางเหล่ยนั้นได้มาท้าทายนักเรียนของวังหลิงหยุนเราที่ลานประลองของวัง และตอนนี้นักเรียนที่งหมดของวังหลิงหยุนก็กำลังถูกทุบตีไปทีละคน ”
หยานชางหมิงกล่าวด้วยท่าทางที่ไม่น่าดู
เพราะความหยิ่งผยองและการดูดถูกจากเรียนวังชางเหล่ยมีหรือที่พวกเขาจากวังหลิงหยุนจะยอมเสียหน้า
เจียงเฉินมองด้วยความประหลาดใจและพูดว่า: “หวู่เฟยหลงกับหลินยู่ก็พ่ายแพ้เหมือนกันรึ ?”
“เจ้ายังมีหน้ามาพูดอีกเรอะ”
“หลังจากที่หลินยู่แพ้ให้กับเจ้า เขาก็ออกจากวังหลิงหยุนไปแล้วและไม่ได้กลับมาอีกเลย ”
“ส่วนหวู่เฟยหลงเองก็ถูกใครแถวนี้ทุบตีมาเมื่อสองวันก่อน ตอนนี้ยังรักษาตัวอยู่เลย”
หยานชางหมิงพูดด้วยสีหน้าหงุดหงิด “ตอนนี้วังหลิงหยุนของเราเหลือเจ้าเพียงคนเดียวแล้วที่จะสามารถจัดการกับเด็กพวกนั้นได้ อีกอย่างมีเด็กจากวังชางเหล่ยกล่าวท้าทายชื่อของเจ้าอีกด้วย !”
เมื่อได้ยินคำพูดของหยานชางหมิง เจียงเฉินก็อดไม่ได้ที่จะหรี่ตาลง
เด็กนักเรียนจากวังชางเหล่ยเพียงคนเดียวที่เขารู้จักก็คือ เหล่ยชิง ที่เขาเคยพบเจอเมื่อตอนไปยังภูเขาเมฆอัศนี
เป็นไปได้ไหมว่าชายคนนั้นจะมาที่วังหลิงหยุน ?
“ก็ได้ ข้าจะไปเจอกับพวกเขาเอง!”
เมื่อเขาถูกกล่าวชื่อท้าทายแล้ว มีหรือเจียงเฉินจะปล่อยให้คนอื่นมองว่าเขาเป็นเต่าหัวหด
อย่างไรก็ตาม ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ เขาเองก็กำลังรู้สึกร่างกายคันมือเช่นกัน หากได้ขยับกล้ามเนื้อกับกระดูกซะบ้างก็คงจะดี
หลังจากนั้นไม่นาน
เจียงเฉินก็มาถึงลานประลองของวัง
ทันทีเสียงเยาะเย้ยดูถูกก็ดังขึ้นในหูของเขาโดยตรง
“ฮี่ฮี่… นักเรียนของวังหลิงหยุนตกต่ำลงเรื่อยๆจริงๆ ”
“ใช่ พี่ใหญ่เหล่ยชิงคนเดียวก็สามารถเอาชนะอัจฉริยะทั้งหมดในรายชื่ออันดับของวังหลิงหยุนได้แล้ว ”
“พี่ใหญ่เหล่ยชิงทะลวงผ่านเข้าสู่ระดับก่อกำเนิดแล้ว ฉะนั้นในวังหลิงหยุนแห่งนี้สมควรไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้อย่างแน่นอน !“
เจียงเฉินเดินตามเสียงเหล่านี้และมองไป จากนั้นเขาก็เห็นนักเรียนโหลหนึ่งจากวังชางเหล่ยยืนอยู่ตรงกลางจัตุรัส
ชายหนุ่มร่างสูงที่ยืนอยู่หน้าสุดคือเหล่ยชิงที่เขาเคยเจอเมื่อตอนที่อยู่ภูเขาเมฆอัศนี
ข้างหน้าเหล่ยชิงมีนักรเยีนของวังหลิงหยุนห้าถึงหกคนกำลังตกอยู่ในสภาพทุกข์ทรมานอยู่ และเห็นได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขาได้รับบาดเจ็บจากฝีมือของเหล่ยชิง
เมื่อเจียงเฉินเห็นฉากนี้ ดวงตาของเขาก็หรี่ลง และเสียงอันเย็นชาของเขาที่แผ่วเบาดัก็งก้องอยู่ในจัตุรัสโดยตรง
“หึ นักเรียกจากวังชางเหล่ยเพียงไม่กี่คนกลับช่างเหิมเกริมนักที่กล้ามาสร้างปัญหาให้กับวังหลิงหยุนของข้า !”
“นอกจากข้าแล้ว ! ไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์มารังแกคนของวังหลิงหยุนเด็ดขาด !“
ตอนนี้แปลถึงตอนที่ 850 แล้วนะครับ หากต้องการอ่านอย่างไม่ขาดตอนสามารถติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ที่ https://www.facebook.com/ReadGOS/
เพียงตอนละ 1 บาท เท่านั้น สามารถลดค่าเข้ากลุ่มได้โดยหักลบตามจำนวนตอนที่อ่าน เช่น ท่านอ่านถึงตอนที่ 145แล้วก็สามารถเข้ากลุ่ม 3 ได้ด้วยราคา 5 บาทเท่านั้น !